Where does gold come from? - David Lunney

Translator: SUPANUT JAISOM Reviewer: Pakawat Wongwaiyut

In medieval times,

ในช่วงยุคกลาง

alchemists tried to achieve the seemingly impossible.

นักเล่นแร่แปรธาตุพยายามทำใน สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้

They wanted to transform lowly lead into gleaming gold.

พวกเขาต้องการเปลี่ยนตะกั่วไร้ค่า ให้เป็นทองวาววับ

History portrays these people as aged eccentrics,

ประวัติศาสตร์ได้ชี้ให้เห็นว่าคนเหล่านี้ เป็นพวกประหลาด

but if only they'd known that their dreams were actually achievable.

แต่ถ้าเพียงพวกเขารู้ว่า ความฝันพวกเขาเป็นสิ่งที่ทำได้จริง

Indeed, today we can manufacture gold on Earth

อันที่จริง วันนี้เราสามารถผลิตทองบนโลกได้

thanks to modern inventions

ต้องขอบคุณสิ่งประดิษฐ์ยุคใหม่

that those medieval alchemists missed by a few centuries.

ซึ่งนักเล่นแร่แปรธาตุเหล่านั้น พลาดไปไม่กี่ศตวรรษ

But to understand how this precious metal

แต่การที่จะเข้าใจว่า ทำไมโลหะมีค่าเหล่านี้

became embedded in our planet to start with,

ถึงถูกฝังในโลกของเรา ก่อนอื่น

we have to gaze upwards at the stars.

เราต้องแหงนมองขึ้นไปยัง ดวงดาวบนท้องฟ้า

Gold is extraterrestrial.

ทองมาจากห้วงอวกาศ

Instead of arising from the planet's rocky crust,

แทนที่เกิดขึ้นจากพื้นผิวของโลก

it was actually cooked up in space

มันถูกประกอบขึ้นในอวกาศ

and is present on Earth because of cataclysmic stellar explosions

และมันอยู่บนโลกเนื่องจาก การระเบิดของดาวอย่างฉับพลัน

called supernovae.

ที่เรียกว่า ซุปเปอร์โนวา

Stars are mostly made up of hydrogen, the simplest and lightest element.

ดวงดาวนั้นสร้างจากไฮโดรเจนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นธาตุที่เบาและซับซ้อนน้อยที่สุด

The enormous gravitational pressure of so much material

แรงโน้มถ่วงมหาศาล ที่เกิดจากสสารจำนวนมากนี้

compresses and triggers nuclear fusion in the star's core.

ได้บีบอัดและทำให้เกิดนิวเคลียร์ฟิวชั่น ณ แกนกลางของดาว

This process releases energy from the hydrogen,

กระบวนการนี้ปล่อยพลังงานจากไฮโดรเจน

making the star shine.

มันทำให้ดาวส่องแสง

Over many millions of years,

หลายล้านปีผ่านไป

fusion transforms hydrogen into heavier elements:

ฟิวชั่นได้เปลี่ยนไฮโดรเจน ให้เป็นธาตุที่หนักขึ้น

helium, carbon, and oxygen,

ฮีเลี่ยม คาร์บอน และออกซิเจน

burning subsequent elements faster and faster to reach iron and nickel.

เผาผลาญธาตุที่เกิดทีหลังเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเหล็ก และนิกเกิล

However, at that point nuclear fusion no longer releases enough energy,

อย่างไรก็ตาม ตรงจุดนั้นนิวเคลียร์ฟิวชั่น จะไม่เหลือพลังงานให้ปล่อยเพียงพอ

and the pressure from the core peters out.

และแรงดันจากแกนกลางจะค่อยๆหมดไป

The outer layers collapse into the center,

เปลือกชั้นนอกจึงยุบตัวมายังใจกลาง

and bouncing back from this sudden injection of energy,

และเด้งกลับออกมา ตรงจุดการปล่อยพลังงานฉับพลันนี้

the star explodes forming a supernova.

ดาวจึงระเบิด ทำให้เกิดซุปเปอร์โนวา

The extreme pressure of a collapsing star is so high,

แรงดันมหาศาลจากการยุบตัวของดาว นั้นสูงมาก

that subatomic protons and electrons are forced together in the core,

ทำให้โปรตอนและอิเล็กตรอน ถูกรวมเข้าด้วยกันตรงแกนกลาง

forming neutrons.

เกิดเป็นนิวตรอน

Neutrons have no repelling electric charge

ซึ่งนิวตรอนนั้นไม่มีประจุไฟฟ้า

so they're easily captured by the iron group elements.

ดังนั้นพวกมันถูกจับได้ง่าย โดยกลุ่มธาตุเหล็ก

Multiple neutron captures enable the formation of heavier elements

นิวตรอนจำนวนมากถูกดักจับ เกิดการสร้างธาตุที่หนักขึ้น

that a star under normal circumstances can't form,

ซึ่งในสภาวการณ์ของดาวทั่วไป ไม่สามารถทำได้

from silver to gold,

จากเงิน ไปเป็นทอง

past lead and on to uranium.

จากตะกั่ว เป็นยูเรเนียม

In extreme contrast to the million year transformation of hydrogen to helium,

ในทางตรงกันข้าม กว่าไฮโดรเจน จะเปลี่ยนเป็นฮีเลียม ใช้เวลาร้อยล้านปี

the creation of the heaviest elements in a supernova

การสร้างธาตุที่หนักที่สุดในซุปเปอร์โนวา

takes place in only seconds.

กินเวลาแค่ช่วงวินาที

But what becomes of the gold after the explosion?

แต่อะไรที่เปลี่ยนเป็นทอง หลังจากการระเบิดกัน

The expanding supernova shockwave propels its elemental debris

คลื่นกระแทกจากกการระเบิด ได้ส่งเศษชิ้นส่วนของธาตุ

through the interstellar medium,

ในรูปแบบของกลุ่มแก๊ส

triggering a swirling dance of gas and dust

กระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของ ก๊าซและฝุ่นละออง

that condenses into new stars and planets.

ซึ่งจะรวมตัวไปเป็นดาวฤกษ์ และดาวเคราะห์ดวงใหม่

Earth's gold was likely delivered this way

ทองของโลกก็น่าจะถูกส่งมาด้วยวิธีนี้

before being kneaded into veins by geothermal activity.

ก่อนจะถูกบีบอัดเป็นสายแร่ โดยพลังความร้อนใต้พิภพ

Billions of years later, we now extract this precious product by mining it,

หลายพันล้านปีต่อมา เราก็สกัดเอามันขึ้นมา โดยการขุดเหมือง

an expensive process that's compounded by gold's rarity.

เป็นกระบวนการราคาแพง ซึ่งเหมาะสมกับความหายากของทอง

In fact, all of the gold that we've mined in history

อันที่จริง ทองที่เราเคยขุด มาทั้งหมดในประวัติศาสตร์

could be piled into just three Olympic-size swimming pools,

สามารถกองรวมกัน ได้เท่ากับขนาดสระว่ายน้ำโอลิมปิก 3 สระ

although this represents a lot of mass

แม้ว่านี่จะหมายถึงน้ำหนักมหาศาล

because gold is about 20 times denser than water.

เพราะทองหนาแน่นกว่าน้ำถึง 20 เท่า

So, can we produce more of this coveted commodity?

แล้ว เราสามารถผลิต เจ้าสิ่งมีค่านี้ได้หรือเปล่า

Actually, yes.

อันที่จริง ใช่

Using particle accelerators, we can mimic the complex nuclear reactions

ด้วยการใช้เครื่องเร่งอนุภาค เราเลียนแบบ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่ซับซ้อน

that create gold in stars.

ซึ่งมันสร้างทองในดวงดาว

But these machines can only construct gold atom by atom.

แต่เครื่องจักรเหล่านี้สามารถสร้าง ทองได้เฉพาะทีละอะตอม

So it would take almost the age of the universe to produce one gram

ดังนั้นมันจะใช้เวลาเกือบทั้งจักรวาล เพื่อจะผลิต 1 กรัม

at a cost vastly exceeding the current value of gold.

ด้วยต้นทุนเกินกว่ามูลค่าปัจจุบันของทอง

So that's not a very good solution.

มันจึงไม่ใช่วิธีแก้ไขที่ดี

But if we were to reach a hypothetical point

แต่ถ้าเราจะบรรลุ ในข้อสมมติฐาน

where we'd mined all of the Earth's buried gold,

ถึงสถานที่ ที่สามารถขุดทอง ที่ฝังอยู่ทั้งหมดในโลก

there are other places we could look.

มันมีที่อื่นอีกที่เราต้องมอง

The ocean holds an estimated 20 million tons of dissolved gold

มหาสมุทรมีทองละลายอยู่ประมาณ 20 ล้านตัน

but at extremely miniscule concentrations making its recovery too costly at present.

แต่ความเข้มข้นนั้นเจือจางมากๆ จึงทำให้ต้นทุนสูงเกินในปัจจุบัน

Perhaps one day, we'll see gold rushes to tap the mineral wealth

บางทีวันหนึ่ง เราอาจจะเห็นการตื่นทอง กับความมั่งคั่งทางแร่ธาตุ

of the other planets of our solar system.

บนดาวเคราะห์ดวงอื่นในระบบสุริยะ

And who knows?

และใครจะรู้

บางทีการเกิดซุปเปอร์โนวาในอนาคต อาจจะเกิดขึ้นใกล้พอ

Maybe some future supernova will occur close enough

to shower us with its treasure

ที่มันจะโปรยสมบัติล้ำค่าให้พวกเรา

and hopefully not eradicate all life on Earth in the process.

และหวังว่ามันจะไม่ทำลายชีวิต ทั้งหมดบนโลก ระหว่างเกิดกระบวนการ