How many universes are there? - Chris Anderson

มีจักรวาลจำนวนเท่าใด?

(Music)

Translator: Arichai Tipayaratkul Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

[ดนตรี]

มีจักรวาลจำนวนเท่าใด?

Sometimes when I'm on a long plane flight,

ในบางคราวที่ผมโดยสารเที่ยวบินระยะไกล

I gaze out at all those mountains and deserts

ผมจ้องมองออกไปยังเทือกเขาและทะเลทราย

and try to get my head around how vast our Earth is.

และพยายามทำความเข้าใจว่า โลกของเรานั้นกว้างใหญ่เพียงใด

And then I remember that there's an object we see every day

และแล้วผมก็จำได้ว่ามีสิ่งหนึ่งที่เราเห็นกันทุกวัน

that would literally fit one million Earths inside it.

ที่สามารถใส่โลกหนึ่งล้านใบไว้ภายในได้

The sun seems impossibly big,

ดวงอาทิตย์ดูมีขนาดใหญ่โตอย่างเหลือเชื่อ

but in the great scheme of things, it's a pinprick,

แต่ในความมโหฬารของสรรพสิ่ง มันเปรียบได้เพียงปลายเข็ม

one of about 400 billion stars in the Milky Way galaxy,

เป็นดาวดวงหนึ่งในท่ามกลางดาวสี่แสนล้านดวง ในดาราจักรทางช้างเผือก

which you can see on a clear night

ที่คุณมองเห็นได้ในคืนท้องฟ้าแจ่มใส เหมือนหมอกขาวจางๆ พาดผ่านท้องฟ้า

as a pale, white mist stretched across the sky.

And it gets worse.

และที่แย่กว่านั้น

There are maybe 100 billion galaxies detectable by our telescopes,

อาจมีถึงหนึ่งแสนล้านดาราจักร ที่เราตรวจพบโดยกล้องโทรทรรศน์

so if each star was the size of a single grain of sand,

ดังนั้น ถ้าดาวแต่ละดวงมีขนาดเท่าเม็ดทราย

just the Milky Way has enough stars to fill

เพียงแค่ทางช้างเผือกก็มีดาวเพียงพอเติมเต็ม

a 30 foot by 30 foot stretch of beach three feet deep with sand.

หาดทรายขนาด 30ฟุต x 30ฟุต ลึก 3ฟุต

And the entire Earth doesn't have enough beaches

และโลกทั้งใบไม่มีหาดทรายเพียงพอ

to represent the stars in the overall universe.

เพื่อแสดงแทนดาวทุกดวงในจักรวาล

Such a beach would continue for literally hundreds of millions of miles.

หาดทรายเช่นว่านั้นคงทอดยาวออกไปนับร้อยๆ ล้านไมล์

Holy Stephen Hawking, that is a lot of stars.

สตีเฟ่น ฮอว์คิง ผู้ยิ่งใหญ่ นั่นเป็นดั่งดาวที่มากมายทีเดียว

But he and other physicists now believe in

แต่สตีเฟน ฮอว์คิง และนักฟิสิกส์อื่นๆ ต่างเชื่อใน

a reality that is unimaginably bigger still.

ความจริงว่ายังมีสิ่งใหญ่กว่าที่ไม่อาจจินตนาการได้

I mean, first of all, the 100 billion galaxies within range of our telescopes

ก่อนอื่น ผมหมายถึงบรรดาแสนล้านดาราจักร ที่สามารถมองเห็นผ่านกล้องโทรทรรศน์

are probably a minuscule fraction of the total.

อาจเป็นเพียงเศษเสี้ยวที่เล็กมากของดาราจักรทั้งหมด

Space itself is expanding

อวกาศยังคงขยายตัวออกไป

ด้วยอัตราเร่ง ส่วนใหญ่ของกลุ่มดาราจักรอันใหญ่โตมโหฬาร

at an accelerating pace. The vast majority of the galaxies

are separating from us so fast

กำลังแยกออกไปจากเราอย่างรวดเร็ว

that light from them may never reach us.

ทำให้แสงจากดวงดาวเหล่านั้นอาจส่องมาไม่ถึงเรา

Still, our physical reality here on Earth

แม้กระนั้น หลักการฟิสิกส์ที่เป็นจริงบนโลก

is intimately connected to those distant, invisible galaxies.

ได้เชื่อมต่ออย่างใกล้ชิดกับดาราจักรซึ่ง อยู่ห่างไกลจนมองไม่เห็นเหล่านั้น

We can think of them as part of our universe.

เราสามารถคิดว่ามันเป็นดังส่วนหนึ่งของจักรวาลของเรา

They make up a single, giant edifice,

สิ่งทั้งปวงเหล่านั้นประกอบกันเข้า ประหนึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดยักษ์

obeying the same physical laws and all made from the same types of atoms, electrons,

เป็นไปตามกฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์เดียวกัน และทั้งหมดนั้นสร้างขึ้นจากอะตอม อิเล็กตรอน

protons, quarks, neutrinos that make up you and me.

โปรตอน ควาร์ก นิวตริโน ชนิดเดียวกันกับที่ใช้สร้างเป็นตัวคุณและตัวผม

However, recent theories in physics,

อย่างไรก็ดี ทฤษฎีทางฟิสิกส์ที่ค้นพบไม่นานมานี้

including one called string theory,

มีอยู่อันหนึ่งที่เรียกว่าทฤษฎีสตริง

are now telling us there could be countless other universes,

กำลังบอกเราว่ายังมีจักรวาลอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน

built on different types of particles,

ที่สร้างขึ้นด้วยอนุภาคชนิดต่างๆ

with different properties, obeying different laws.

ด้วยคุณสมบัติต่างๆ กัน ด้วยกฏเกณฑ์ที่ต่างกัน

Most of these universes could never support life,

ส่วนใหญ่ของจักรวาลเหล่านี้ล้วนไม่เอื้อต่อการดำรงชีวิต

and might flash in and out of existence in a nanosecond,

และอาจเกิดขึ้นและดับไปในชั่วนาโนวินาที

but nonetheless, combined

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เมื่อรวมกันเข้า

they make up a vast multiverse of possible universes.

มันสร้างอภิมหาจักรวาลขึ้นมา

in up to 11 dimensions, featuring wonders beyond our wildest imagination.

ได้ถึงใน 11 มิติ มีรูปพรรณสัณฐานเกินขอบเขตแห่งจินตนาการของเรา

And the leading version of string theory

และทฤษฎีสตริงฉบับก้าวล้ำนำหน้า

predicts a multiverse made of up to 10 to the 500 universes.

ทำนายว่าในหนึ่งพหุภพนั้น สร้างขึ้นด้วยจักรวาล จำนวน 10 ถึง 500 จักรวาล

That's a one followed by 500 zeroes,

นั่นหมายถึงหนึ่งตามด้วยศูนย์อีก 500 ตัว

a number so vast that if every atom in our observable universe

ช่างเป็นจำนวนมหาศาล โดยถ้าทุกอะตอมในจักรวาลที่เราสังเกตเห็นได้นั้น

had its own universe

มีจักรวาลของมันเอง

and all of the atoms in all of those universes

และอะตอมทั้งหมด ในจักรวาลเหล่านั้นทั้งหมด

each had their own universe,

แต่ละอะตอมมีจักรวาลของพวกมันเอง

and you repeated that for two more cycles,

และคุณนับซ้ำอีกสองรอบ

you'd still be at a tiny fraction of the total --

คุณก็ยังคงอยู่ที่เศษเสี้ยวเล็กๆ ของทั้งหมดที่มี

namely, one trillion trillion trillion trillion trillion trillion trillion trillion trillion trillion trillion trillion trillion trillion trillionth.

กล่าวคือ ที่หนึ่ง แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน แสนล้าน

But even that number is minuscule compared to

แม้แต่จำนวนนั้นยังเล็กจิ๋วเมื่อเทียบกับ

another number: infinity.

อีกจำนวนหนึ่ง นั่นคือ จำนวนอนันต์

Some physicists think the space-time continuum

นักฟิสิกส์บางคนคิดว่าความต่อเนื่องของกาล-อวกาศ

is literally infinite, and that it contains an infinite number

ไม่มีที่สิ้นสุด และมันมีจำนวนอนันต์

of so-called pocket universes with varying properties.

ของสิ่งที่มักเรียกกันว่า จักรวาลฉบับกระเป๋า (pocket universes) ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย

How's your brain doing?

สมองคุณเป็นอย่างไรบ้างครับ ตอนนี้

But quantum theory adds a whole new wrinkle.

แต่ทฤษฎีควอนตัมเพิ่มปัญหาใหม่ทั้งหมดขึ้นมา

I mean, the theory's been proven true beyond all doubt,

ผมหมายความว่า ทฤษฎีนี้ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจริง โดยปราศจากความสงสัยใดๆ

but interpreting it is baffling.

แต่การแปลความหมายของมันทำให้ไม่เข้าใจ

And some physicists think you can only un-baffle it

และนักฟิสิกส์บางคนคิดว่าคุณสามารถทำความเข้าใจมันได้

if you imagine that huge numbers of parallel universes

เพียงถ้าคุณจินตนาการถึงจักรวาลคู่ขนานจำนวนมหึมา

are being spawned every moment,

ที่กำลังถูกสร้างขึ้นอยู่ทุกขณะ

and many of these universes would actually be very like the world we're in,

และจักรวาลเหล่านี้จำนวนมาก โดยแท้จริงแล้ว จะเหมือนกับโลกที่เราอยู่เอามากๆ

would include multiple copies of you.

โดยจะรวมสำเนาของตัวคุณเองเอาไว้มากมาย

In one such universe, you'd graduate with honors and marry the person of your dreams.

ในจักรวาลหนึ่งเช่นว่านั้น คุณจะจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยม และแต่งงานกับคนในฝันของคุณ

In another, not so much.

ในอีกแห่งหนึ่ง ไม่มากนัก

There are still some scientists who would say, hogwash.

ยังมีนักวิทยาศาสตร์บางคนที่จะพูดว่า เป็นเรื่องไร้สาระ

The only meaningful answer to the question of how many universes there are is one,

คำตอบเดียวที่มีความหมายต่อคำถามถึงจำนวนจักรวาลทีมี ก็คือ หนึ่ง

only one universe.

เพียงหนึ่งจักรวาล

And a few philosophers and mystics

นักปรัชญาและผู้ศรัทธาพระเจ้าเพียงไม่กี่คน

might argue that even our own universe is an illusion.

อาจโต้แย้งว่าแม้แต่จักรวาลของเราเองก็เป็นเพียงภาพลวงตา

So, as you can see,

ดังนั้น อย่างที่คุณเห็น

right now there is no agreement on this question,

ขณะนี้ยังไม่มีการเห็นพ้องต้องกันต่อคำถามนี้

not even close.

ยังห่างไกลข้อสรุป

All we know is, the answer is somewhere between zero and infinity.

ทั้งหมดที่เรารู้คือ คำตอบอยู่ที่ไหนสัก แห่งระหว่าง ศูนย์ และ ความไม่มีที่สิ้นสุด

Well, I guess we know one other thing:

ผมเดาว่าเรายังรู้อีกสิ่งหนึ่ง

This is a pretty cool time to be studying physics.

นี่เป็นเวลาอันเหมาะเจาะที่จะศึกษาวิชาฟิสิกส์

We just might be undergoing

เราเพียงอาจกำลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์

the biggest paradigm shift in knowledge that humanity has ever seen.

ในการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ในความรู้ที่คนทั่วไปเพิ่งเคยพบเห็น