Maria Bezaitis: The surprising need for strangeness

125,500 views ・ 2013-05-14

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

00:00
Translator: Joseph Geni Reviewer: Morton Bast
0
0
7000
Translator: Chatthip Chaichakan Reviewer: Paravee Asava-Anan
00:12
"Don't talk to strangers."
1
12892
3288
"อย่าคุยกับคนแปลกหน้า"
00:16
You have heard that phrase uttered
2
16180
2039
คุณได้ยินประโยคนี้ที่บอกต่อๆกันมา
00:18
by your friends, family, schools and the media for decades.
3
18219
4313
โดยเพื่อนของคุณ ครอบครัว โรงเรียน และสื่อต่างๆ มาหลายสิบปี
00:22
It's a norm. It's a social norm.
4
22532
2912
มันเป็นบรรทัดฐาน มันเป็นบรรทัดฐานทางสังคม
00:25
But it's a special kind of social norm,
5
25444
2358
แต่มันเป็นบรรทัดฐานทางสังคมชนิดพิเศษ
00:27
because it's a social norm that wants to tell us
6
27802
2530
เพราะมันเป็นบรรทัดฐานทางสังคมที่ต้องการจะบอกเราว่า
00:30
who we can relate to and who we shouldn't relate to.
7
30332
4464
ใครที่เราต้องมีความสัมพันธ์ด้วย และใครที่เราไม่ควรมี
00:34
"Don't talk to strangers" says,
8
34796
2504
"อย่าคุยกับคนแปลกหน้า" เขาว่ากัน
00:37
"Stay from anyone who's not familiar to you.
9
37300
4176
"อยู่ให้ห่างจากใครก็ตามที่คุณไม่คุ้นเคย
00:41
Stick with the people you know.
10
41476
2415
เกาะติดกับคนที่คุณรู้จักไว้
00:43
Stick with people like you."
11
43891
2974
เกาะติดกับคนที่เหมือนคุณ"
00:46
How appealing is that?
12
46865
2352
น่าเชื่อจริงๆใช่มั้ยคะ
00:49
It's not really what we do, is it, when we're at our best?
13
49217
3225
(แต่) มันไม่ใช่สิ่งที่เราทำตอนที่เราทำอะไรสักอย่างได้ดีที่สุด ใช่ไหม
00:52
When we're at our best, we reach out to people
14
52442
2784
ตอนที่เราทำได้ดีที่สุด เรากลับเข้าถึงผู้คน
00:55
who are not like us,
15
55226
1618
ที่ไม่เหมือนเรา
00:56
because when we do that, we learn from people
16
56844
2867
เพราะเมื่อเราทำแบบนั้น เราเรียนรู้จากคนอื่น
00:59
who are not like us.
17
59711
2269
ที่ไม่เหมือนเรา
01:01
My phrase for this value of being with "not like us"
18
61980
4101
วลีของฉันสำหรับสิ่งนี้ คือการ "ไม่เหมือนพวกเรา"
01:06
is "strangeness,"
19
66081
1872
คือคำว่า "ความแปลกหน้า"
01:07
and my point is that in today's digitally intensive world,
20
67953
3900
และจุดสำคัญก็คือว่า ในโลกที่เต็มไปด้วยระบบดิจิตอลทุกวันนี้
01:11
strangers are quite frankly not the point.
21
71853
3366
เอาเข้าจริงๆคนแปลกหน้ากลับไม่ใช่สาระสำคัญ
01:15
The point that we should be worried about is,
22
75219
2183
สาระสำคัญที่เราควรจะกังวลก็คือ
01:17
how much strangeness are we getting?
23
77402
2887
ความแปลกหน้ามากแค่ไหนที่เรากำลังจะได้เจอ
01:20
Why strangeness? Because our social relations
24
80289
3006
ทำไมต้องพูดถึงความแปลกหน้า เพราะความสัมพันธ์ทางสังคมของเรา
01:23
are increasingly mediated by data,
25
83295
2794
ต้องอาศัยข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ
01:26
and data turns our social relations into digital relations,
26
86089
4557
และข้อมูลได้เปลี่ยนความสัมพันธ์ทางสังคมของเรา ไปเป็นความสัมพันธ์แบบดิจิตอล
01:30
and that means that our digital relations
27
90646
2349
และนั่นหมายความว่าความสัมพันธ์แบบดิจิตอลของเรา
01:32
now depend extraordinarily on technology
28
92995
3802
ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีมากเป็นพิเศษ
01:36
to bring to them a sense of robustness,
29
96797
2918
ในการที่จะนำมันไปสู่ความมั่นคง
01:39
a sense of discovery,
30
99715
1587
การค้นพบ
01:41
a sense of surprise and unpredictability.
31
101302
3270
ความประหลาดใจและการคาดการณ์ไม่ได้
01:44
Why not strangers?
32
104572
1767
ทำไมต้องคนแปลกหน้าล่ะ
01:46
Because strangers are part of a world
33
106339
2294
เพราะคนแปลกหน้าเป็นส่วนหนึ่งของโลก
01:48
of really rigid boundaries.
34
108633
2265
ที่เต็มไปด้วยเส้นแบ่งมากมาย
01:50
They belong to a world of people I know
35
110898
2952
พวกเขาตกอยู่ในโลกของผู้คนที่ฉันรู้จัก
01:53
versus people I don't know,
36
113850
2514
กับผู้คนที่ฉันไม่รู้จัก
01:56
and in the context of my digital relations,
37
116364
2479
และในบริบทของความสัมพันธ์แบบดิจิตอลของฉันนั้น
01:58
I'm already doing things with people I don't know.
38
118843
4021
ฉันได้ทำสิ่งต่างๆกับผู้คนที่ฉันไม่รู้จักไปเรียบร้อยแล้ว
02:02
The question isn't whether or not I know you.
39
122864
3218
คำถามไม่ใช่ว่าฉันรู้จักคุณหรือไม่
02:06
The question is, what can I do with you?
40
126082
2504
คำถามคือ ฉันจะทำอะไรร่วมกับคุณได้บ้าง
02:08
What can I learn with you?
41
128586
2609
ฉันเรียนรู้อะไรร่วมกับคุณได้บ้าง
02:11
What can we do together that benefits us both?
42
131195
4301
เราจะทำอะไรด้วยกันได้บ้างที่จะเป็นประโยชน์ต่อเราทั้งคู่
02:15
I spend a lot of time thinking about
43
135496
2362
ฉันใช้เวลามากมายคิดเกี่ยวกับว่า
02:17
how the social landscape is changing,
44
137858
2760
ภูมิทัศน์ทางสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
02:20
how new technologies create new constraints
45
140618
2472
เทคโนโลยีใหม่ๆได้สร้างข้อจำกัดใหม่
02:23
and new opportunities for people.
46
143090
2790
และโอกาสใหม่ให้กับผู้คนอย่างไรบ้าง
02:25
The most important changes facing us today
47
145880
2651
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดที่เรากำลังเผชิญอยู่วันนี้
02:28
have to do with data and what data is doing
48
148531
2806
ต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลและสิ่งที่ข้อมูลกำลังทำอยู่
02:31
to shape the kinds of digital relations
49
151337
2105
เพื่อสร้างความสัมพันธ์แบบดิจิตอล
02:33
that will be possible for us in the future.
50
153442
2464
ที่เป็นไปได้สำหรับพวกเราในอนาคต
02:35
The economies of the future depend on that.
51
155906
2233
ระบบเศรษฐกิจแห่งอนาคตขึ้นอยู่กับสิ่งนั้น
02:38
Our social lives in the future depend on that.
52
158139
2919
ชีวิตในสังคมของเราในอนาคตขึ้นอยู่กับสิ่งนั้น
02:41
The threat to worry about isn't strangers.
53
161058
3032
สิ่งคุกคามที่น่ากังวลไม่ใช่คนแปลกหน้า
02:44
The threat to worry about is whether or not
54
164090
2112
สิ่งคุกคามที่น่ากังวลคือ
02:46
we're getting our fair share of strangeness.
55
166202
2992
พวกเราจะจะได้พบเจอสัดส่วนความแปลกหน้า ที่เพียงพอหรือไม่ต่างหาก
02:49
Now, 20th-century psychologists and sociologists
56
169194
2592
ตอนนี้ นักจิตวิทยาและนักสังคมวิทยาแห่งศตวรรษที่ 20
02:51
were thinking about strangers,
57
171786
2153
กำลังคิดเรื่องคนแปลกหน้า
02:53
but they weren't thinking so dynamically about human relations,
58
173939
2737
แต่พวกเขาไม่ได้คิดเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เท่าไหร่นัก
02:56
and they were thinking about strangers
59
176676
1369
และพวกเขาคิดเรื่องคนแปลกหน้า
02:58
in the context of influencing practices.
60
178045
2954
ท่ามกลางบริบทของการกระทำที่มีอิทธิพล
03:00
Stanley Milgram from the '60s and '70s,
61
180999
2748
สแตนลีย์ มิลแกรม (Stanley Milgram) จากยุค 60 และ 70
03:03
the creator of the small-world experiments,
62
183747
1986
ผู้สร้างการทดลองโลกใบเล็ก
03:05
which became later popularized as six degrees of separation,
63
185733
2954
ที่ได้โด่งดังเป็นที่รู้จักในนาม หกระดับของการแบ่งแยก
03:08
made the point that any two arbitrarily selected people
64
188687
3512
เขาบอกว่า คนสองคนที่ถูกเลือกแบบสุ่ม
03:12
were likely connected from between five to seven intermediary steps.
65
192199
3722
มีแนวโน้มที่จะเชื่อมถึงกันได้ ด้วยขั้นตอนสื่อกลาง 5-7 ขั้น
03:15
His point was that strangers are out there.
66
195921
3030
ประเด็นของเขาก็คือ สำหรับคนแปลกหน้าที่อยู่ข้างนอกนั่น
03:18
We can reach them. There are paths
67
198951
1572
เราสามารถเข้าถึงพวกเขาได้ มันมีหนทางต่างๆ
03:20
that enable us to reach them.
68
200523
2686
ที่ทำให้เราเข้าถึงพวกเขาได้
03:23
Mark Granovetter, Stanford sociologist, in 1973
69
203209
3769
มาร์ก กราโนเวตเตอร์ (Mark Granovetter) นักสังคมวิทยาจากสแตนฟอร์ด
03:26
in his seminal essay "The Strength of Weak Ties,"
70
206978
2798
ในงานชิ้นสำคัญของเขาเมื่อปี 1973 บทความชื่อ "ความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์แบบหลวมๆ" (The Strength of Weak Ties)
03:29
made the point that these weak ties
71
209776
2826
ได้ระบุว่า ความสัมพันธ์แบบหลวมๆเหล่านี้
03:32
that are a part of our networks, these strangers,
72
212602
2487
เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายของพวกเรา คนแปลกหน้าเหล่านี้
03:35
are actually more effective at diffusing information to us
73
215089
2992
จริงๆแล้ว มีประสิทธิภาพ ในการกระจายข้อมูลให้กับเรามากกว่า
03:38
than are our strong ties, the people closest to us.
74
218081
4536
ความสัมพันธ์แบบสนิทชิดเชื้อของเรา ซึ่งก็คือคนที่ใกล้ชิดกับเราที่สุด เสียอีก
03:42
He makes an additional indictment of our strong ties
75
222617
3497
เขาได้ระบุเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบแนบแน่นของเรา
03:46
when he says that these people who are so close to us,
76
226114
2629
คนเหล่านี้ที่สนิทกับเราเหลือเกิน
03:48
these strong ties in our lives,
77
228743
1933
ความสัมพันธ์แนบแน่นเหล่านี้ในชีวิตเรา
03:50
actually have a homogenizing effect on us.
78
230676
3427
จริงๆแล้วมีผลลัพธ์เชิงหลอมรวมต่อเรา
03:54
They produce sameness.
79
234103
2835
พวกเขาสร้างความเหมือน
03:56
My colleagues and I at Intel have spent the last few years
80
236938
2839
เพื่อนร่วมงานของฉันและตัวฉันเองที่อินเทล ได้ใช้เวลาช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
03:59
looking at the ways in which digital platforms
81
239777
2616
ดูว่ามีทางไหนบ้างที่ช่องทางดิจิตอล (digital platforms)
04:02
are reshaping our everyday lives,
82
242393
1871
จะเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันของพวกเรา
04:04
what kinds of new routines are possible.
83
244264
2617
แบบแผนชีวิตใหม้แบบไหนที่เป็นไปได้
04:06
We've been looking specifically at the kinds
84
246881
1296
เราเฝ้าดูดิจิตอลแพลตฟอร์มต่างๆ
04:08
of digital platforms that have enabled us
85
248177
2711
ที่สามารถทำให้เรา
04:10
to take our possessions, those things that used to be
86
250888
3135
นำของๆเรา สิ่งเหล่านั้นที่เคย
04:14
very restricted to us and to our friends in our houses,
87
254023
3122
ถูกจำกัดอยู่กับพวกเราและเพื่อนของเราในบ้านของเรา
04:17
and to make them available to people we don't know.
88
257145
3822
และทำให้มันถูกเข้าถึงได้ โดยคนที่เราไม่รู้จัก
04:20
Whether it's our clothes, whether it's our cars,
89
260967
2723
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าของเรา รถของเรา
04:23
whether it's our bikes, whether it's our books or music,
90
263690
2623
จักรยานของเรา หนังสือหรือดนตรีของเรา
04:26
we are able to take our possessions now
91
266313
2993
ตอนนี้ เราสามารถเอาของต่างๆของเรา
04:29
and make them available to people we've never met.
92
269306
3431
มาทำให้มันถูกเข้าถึงได้โดยผู้ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน
04:32
And we concluded a very important insight,
93
272737
2811
แล้วพวกเราก็สรุปข้อคิดที่สำคัญมาก
04:35
which was that as people's relationships
94
275548
1788
ซึ่งก็คือว่า ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างคน
04:37
to the things in their lives change,
95
277336
2541
กับสิ่งของในชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไป
04:39
so do their relations with other people.
96
279877
3444
ดังนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขากับคนอื่นๆก็เช่นเดียวกัน
04:43
And yet recommendation system
97
283321
1408
แต่เจ้าระบบแนะนำ
04:44
after recommendation system continues to miss the boat.
98
284729
4275
ระบบแล้วระบบเล่าต่างก็พลาดไป
04:49
It continues to try to predict what I need
99
289004
2549
มันยังคงพยายามทำนายสิ่งที่ฉันต้องการ
04:51
based on some past characterization of who I am,
100
291553
3240
จากบุคลิกลักษณะในอดีตของฉัน
04:54
of what I've already done.
101
294793
2296
และสิ่งที่ฉันทำไปแล้ว
04:57
Security technology after security technology
102
297089
2504
เทคโนโลยีความปลอดภัย ซ้ำแล้วซ้ำอีก
04:59
continues to design data protection
103
299593
2176
ยังคงออกแบบการป้องกันข้อมูล
05:01
in terms of threats and attacks,
104
301769
2405
ในแง่ของภัยคุกคามและการโจมตี
05:04
keeping me locked into really rigid kinds of relations.
105
304174
3595
กักขังฉันไว้ให้อยู่ในความสัมพันธ์ที่รัดตรึงมากๆ
05:07
Categories like "friends" and "family"
106
307769
2496
การแบ่งประเภทอย่าง "เพื่อน" และ "ครอบครัว"
05:10
and "contacts" and "colleagues"
107
310265
2477
และ "ผู้ติดต่อ" และ "เพื่อนร่วมงาน"
05:12
don't tell me anything about my actual relations.
108
312742
3787
ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉันจริงๆ
05:16
A more effective way to think about my relations
109
316529
2244
วิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ในการคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉัน
05:18
might be in terms of closeness and distance,
110
318773
2692
อาจจะเป็นในเชิงความใกล้ชิดและความห่างไกล
05:21
where at any given point in time, with any single person,
111
321465
3820
ที่ซึ่ง ณ บางจุดบางเวลา กับใครสักคนหนึ่ง
05:25
I am both close and distant from that individual,
112
325285
3491
ฉันทั้งสนิทและเหินห่างกับคนๆนั้น
05:28
all as a function of what I need to do right now.
113
328776
4508
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ฉันต้องทำตอนนี้
05:33
People aren't close or distant.
114
333284
2638
ผู้คนไม่ได้สนิทสนมหรือเหินห่าง
05:35
People are always a combination of the two,
115
335922
3061
ผู้คนมีส่วนผสมของทั้งสองอย่างอยู่เสมอ
05:38
and that combination is constantly changing.
116
338983
3720
และส่วนผสมนั้นก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
05:42
What if technologies could intervene
117
342703
2440
ถ้าหากเทคโนโลยีสามารถเข้ามาก้าวก่าย
05:45
to disrupt the balance of certain kinds of relationships?
118
345143
3977
เพื่อทำลายสมดุลของความสัมพันธ์บางประเภทได้ล่ะ?
05:49
What if technologies could intervene
119
349120
1961
ถ้าหากเทคโนโลยีสามารถแทรกแซง
05:51
to help me find the person that I need right now?
120
351081
4411
เพื่อช่วยฉันในการหาใครสักคนที่ฉันต้องการเดี๋ยวนี้ได้ล่ะ
05:55
Strangeness is that calibration
121
355492
2424
ความแปลกหน้าคือ การวัดเชิงเปรียบเทียบ
05:57
of closeness and distance
122
357916
2219
ระหว่างความสนิทกับความห่าง
06:00
that enables me to find the people that I need right now,
123
360135
3903
ที่ทำให้ฉันได้เจอผู้คนที่ฉันต้องการเดี๋ยวนี้
06:04
that enables me to find the sources of intimacy,
124
364038
2990
ที่ทำให้ฉันได้เจอกับแหล่งของความชิดเชื้อ
06:07
of discovery, and of inspiration that I need right now.
125
367028
4648
ของการค้นพบ และของแรงบันดาลใจที่ฉันต้องการตอนนี้
06:11
Strangeness is not about meeting strangers.
126
371676
2309
ความแปลกหน้าไม่ใช่เรื่องของการพบคนแปลกหน้า
06:13
It simply makes the point that we need
127
373985
2195
ง่ายๆเลย มันเป็นเรื่องของการที่เราต้อง
06:16
to disrupt our zones of familiarity.
128
376180
3282
ทำลายพื้นที่ความคุ้นเคยของเรา
06:19
So jogging those zones of familiarity is one way to think about strangeness,
129
379462
3657
ดังนั้น การเขย่าพื้นที่ความคุ้นเคยเหล่านั้นเบาๆ เป็นหนทางหนึ่งในการคิดถึงความแปลกหน้า
06:23
and it's a problem faced not just by individuals today,
130
383119
2704
และมันเป็นปัญหาที่พบเจอ ไม่ใช่เฉพาะกับคนแต่ละคนทุกวันนี้
06:25
but also by organizations,
131
385823
2230
แต่รวมไปถึงองค์กรต่างๆด้วย
06:28
organizations that are trying to embrace massively new opportunities.
132
388053
4523
องค์กรที่พยายามแสวงหาโอกาสใหม่ๆมากมาย
06:32
Whether you're a political party
133
392576
2106
ไม่ว่าคุณจะเป็นพรรคการเมือง
06:34
insisting to your detriment on a very rigid notion
134
394682
2868
ยืนกรานต่อความเสียหายจากการแบ่งชัด
06:37
of who belongs and who does not,
135
397550
2388
ระหว่างใครพวกเรา ใครไม่ใช่
06:39
whether you're the government
136
399938
1493
ไม่ว่าคุณจะเป็นรัฐบาล
06:41
protecting social institutions like marriage
137
401431
2698
ที่กำลังปกป้องสถาบันทางสังคมอย่างการแต่งงาน
06:44
and restricting access of those institutions to the few,
138
404129
3893
และจำกัดการเข้าถึงของสถาบันเหล่านั้นให้แก่คนบางกลุ่ม
06:48
whether you're a teenager in her bedroom
139
408022
2408
ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวน้อยในห้องนอนของเธอ
06:50
who's trying to jostle her relations with her parents,
140
410430
3188
ที่กำลังกระทบกระทั่งกับพ่อแม่ของเธออยู่
06:53
strangeness is a way to think about how we pave the way
141
413618
3162
ความแปลกหน้าเป็นทางหนึ่งที่จะคิด
06:56
to new kinds of relations.
142
416780
2474
ว่าเราจะสร้างหนทางไปสู่ความสัมพันธ์แบบใหม่ได้อย่างไร
06:59
We have to change the norms.
143
419254
3358
เราต้องเปลี่ยนบรรทัดฐานทางสังคม
07:02
We have to change the norms in order to enable
144
422612
3030
เราต้องเปลี่ยนบรรทัดฐานเพื่อทำให้
07:05
new kinds of technologies
145
425642
1938
เทคโนโลยีรูปแบบใหม่
07:07
as a basis for new kinds of businesses.
146
427580
2789
ได้เป็นพื้นฐานของการทำธุรกิจแบบใหม่
07:10
What interesting questions lie ahead for us
147
430369
3733
แล้วคำถามที่น่าสนใจที่อยู่ตรงหน้าเรา
07:14
in this world of no strangers?
148
434102
2671
ในโลกที่ไม่มีคนแปลกหน้าคืออะไร
07:16
How might we think differently about our relations with people?
149
436773
3806
เราจะคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้คน ให้ต่างไปจากเดิมได้อย่างไร
07:20
How might we think differently about our relations
150
440579
3121
เราจะคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรากับ กลุ่มคนกระจัดกระจาย
07:23
with distributed groups of people?
151
443700
2092
ให้ต่างไปจากเดิมได้อย่างไร
07:25
How might we think differently about our relations with technologies,
152
445792
4441
เราจะคิดถึงความสัมพันธ์ของเรากับเทคโนโลยี
07:30
things that effectively become social participants
153
450233
3006
สิ่งที่ได้กลายมาเป็นผู้มีส่วนร่วมทางสังคมตามสิทธิของมัน
07:33
in their own right?
154
453239
2074
ให้แตกต่างไปจากเดิมได้อย่างไร
07:35
The range of digital relations is extraordinary.
155
455313
3813
ช่วงของความสัมพันธ์ทางดิจิตอลนั้นน่าทึ่งมาก
07:39
In the context of this broad range of digital relations,
156
459126
4557
ท่ามกลางบริบทของความสัมพันธ์ดิจิตอลนี้
07:43
safely seeking strangeness might very well be
157
463683
2974
การค้นหาความแปลกหน้าอย่างปลอดภัยอาจจะ
07:46
a new basis for that innovation.
158
466657
2271
เป็นพื้นฐานใหม่สำหรับนวัตกรรมก็เป็นได้
07:48
Thank you.
159
468928
1470
ขอบคุณค่ะ
07:50
(Applause)
160
470398
4893
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7