How frustration can make us more creative | Tim Harford

327,439 views ・ 2016-02-02

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Thanyaporn Wanichwethin Reviewer: Teerachart Prasert
00:12
Late in January 1975,
0
12760
2616
ช่วงปลายเดือนมกราคม ค.ศ. 1975
00:15
a 17-year-old German girl called Vera Brandes
1
15400
4416
วัยรุ่นหญิงชาวเยอรมัน อายุ 17 ปี ชื่อว่า เวร่า บรานเดส (Vera Brandes)
00:19
walked out onto the stage of the Cologne Opera House.
2
19840
3640
เดินไปบนเวทีโอเปร่าเฮ้าส์ในเมืองโคโลญจน์
00:24
The auditorium was empty.
3
24240
2080
ที่นั่งคนฟังนั้นว่างเปล่า
00:27
It was lit only by the dim, green glow of the emergency exit sign.
4
27040
4600
มีแค่ไฟสีเขียวริบหรี่ จากป้ายทางออกฉุกเฉิน
00:32
This was the most exciting day of Vera's life.
5
32200
3936
วันนี้ เป็นวันที่น่าตื่นเต้นที่สุด ในชีวิตของเธอ
00:36
She was the youngest concert promoter in Germany,
6
36160
3016
เธอเป็นผู้จัดคอนเสิร์ต ที่อายุน้อยที่สุดในเยอรมัน
00:39
and she had persuaded the Cologne Opera House
7
39200
2416
และ เธอก็ได้โน้มน้าว ให้โคโลญน์โอเปร่าเฮ้าส์
00:41
to host a late-night concert of jazz
8
41640
3336
จัดคอนเสิร์ตแจ๊ซกลางดึก
00:45
from the American musician, Keith Jarrett.
9
45000
2800
กับนักดนตรีชาวอเมริกา คีธ จาร์เรทท์
00:48
1,400 people were coming.
10
48800
3016
ผู้ชม 1,400 คน กำลังจะเดินทางมา
00:51
And in just a few hours,
11
51840
1576
ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
00:53
Jarrett would walk out on the same stage,
12
53440
2416
จาร์เรทท์ จะเดินไปบนเวทีเดียวกันนี้
00:55
he'd sit down at the piano
13
55880
1336
แล้วนั่งลงที่เปียโน
00:57
and without rehearsal or sheet music,
14
57240
3816
และแม้ไม่มีการซ้อม หรือ แผ่นโน้ตเพลง
01:01
he would begin to play.
15
61080
1280
เขาจะเริ่มเล่นเพลง
01:04
But right now,
16
64320
1216
แต่ตอนนี้
01:05
Vera was introducing Keith to the piano in question,
17
65560
3576
เวร่า ได้นำ คีทธ์ ไปที่เปียโน
01:09
and it wasn't going well.
18
69160
1240
รูปการณ์เริ่มไม่ราบรื่น
01:11
Jarrett looked to the instrument a little warily,
19
71120
2656
จาร์เรทท์ มองเปียโนอย่างพินิจพิเคราะห์
01:13
played a few notes,
20
73800
1536
กดแป้นเปียโน 2-3 ตัว
01:15
walked around it,
21
75360
1215
เดินไปรอบ ๆ เปียโน
01:16
played a few more notes,
22
76599
1457
เล่นตัวโน้ตอีก 2-3 ตัว
01:18
muttered something to his producer.
23
78080
1696
บ่นพึมพำกับโปรดิวเซอร์ของเขา
01:19
Then the producer came over to Vera and said ...
24
79800
3320
แล้วโปรดิวเซอร์ก็มาหา เวร่า แล้วพูดว่า...
01:24
"If you don't get a new piano, Keith can't play."
25
84280
3560
"หากคุณไม่หาเปียโนตัวใหม่มา คีธ จะเล่นไม่ได้"
01:30
There'd been a mistake.
26
90000
1456
นี่เป็นความผิดพลาด
01:31
The opera house had provided the wrong instrument.
27
91480
2376
โอเปร่าเฮ้าส์ จัดหาเครื่องดนตรีที่ไม่ถูกต้อง
01:33
This one had this harsh, tinny upper register,
28
93880
2656
เปียโนตัวนี้ มีแป้นช่วงเสียงสูงที่แข็ง และ เล็ก
01:36
because all the felt had worn away.
29
96560
2280
เพราะค้อนเคาะโน้ตสึกหมดแล้ว
01:39
The black notes were sticking,
30
99640
3136
แป้นสีดำก็หนืด
01:42
the white notes were out of tune,
31
102800
1896
แป้นสีขาวก็เสียงเพี้ยน
01:44
the pedals didn't work
32
104720
1656
คันเหยียบก็ใช้งานไม่ได้
01:46
and the piano itself was just too small.
33
106400
2176
และ เปียโนเอง ก็ตัวเล็กเกินไป
01:48
It wouldn't create the volume
34
108600
1416
มันไม่สามารถสร้างพลังเสียง
01:50
that would fill a large space such as the Cologne Opera House.
35
110040
2920
ที่ดังพอ สำหรับสถานที่ ที่ใหญ่โต อย่างโคโลญน์โอเปร่าเฮ้าส์
01:54
So Keith Jarrett left.
36
114520
3040
คีธ จาร์เรทท์ เดินออกไป
01:58
He went and sat outside in his car,
37
118400
1840
เขาออกไปนั่งที่รถของเขา
02:01
leaving Vera Brandes
38
121040
1936
ปล่อยให้ เวร่า บรานเดส
02:03
to get on the phone to try to find a replacement piano.
39
123000
3640
ทำการโทรศัพท์ เพื่อหาเปียโนตัวใหม่
02:07
Now she got a piano tuner,
40
127680
1616
เธอได้คนปรับเสียงเปียโน
02:09
but she couldn't get a new piano.
41
129320
1600
แต่ ไม่สามารถหาเปียโนตัวใหม่ได้
02:12
And so she went outside
42
132160
2696
เธอเดินออกไป
02:14
and she stood there in the rain,
43
134880
1600
ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน
02:17
talking to Keith Jarrett,
44
137520
1200
เพื่อคุยกับ คีธ จาร์เรทท์
02:20
begging him not to cancel the concert.
45
140000
3080
ขอร้องไม่ให้เขายกเลิกคอนเสิร์ต
02:24
And he looked out of his car
46
144160
1416
เขาหันออกไปนอกรถ
02:25
at this bedraggled, rain-drenched German teenager,
47
145600
3680
มองวัยรุ่นสาวชาวเยอรมัน ที่เปรอะเปี้อน และ เปียกปอนไปด้วยฝน
02:30
took pity on her,
48
150280
1776
แล้วเกิดความสงสาร
02:32
and said,
49
152080
1200
เขาพูดว่า
02:33
"Never forget ... only for you."
50
153960
3200
"จำไว้นะ เพื่อเธอเท่านั้น"
02:39
And so a few hours later,
51
159120
1776
ดังนั้น ในอีก 2-3 ชั่วโมงต่อมา
02:40
Jarrett did indeed step out onto the stage of the opera house,
52
160920
3440
จาร์เรทท์ เดินออกไปยังเวทีในโอเปร่าเฮ้าส์
02:45
he sat down at the unplayable piano
53
165400
3160
เขานั่งลงที่เปียโนที่ไม่น่าจะเล่นได้
02:49
and began.
54
169600
1200
แล้วเริ่มเล่น
02:51
(Music)
55
171320
2320
(เสียงดนตรี)
03:04
Within moments it became clear that something magical was happening.
56
184720
5336
ในช่วงเวลาไม่นานนัก เห็นได้ชัดว่า มีบางสิ่งวิเศษเกิดขึ้น
03:10
Jarrett was avoiding those upper registers,
57
190080
2576
จาร์เรทท์ เลี่ยงที่จะใช้ช่วงโน้ตเสียงสูง
03:12
he was sticking to the middle tones of the keyboard,
58
192680
2616
เขาพยายามใช้แต่คีย์บอร์ดช่วงเสียงกลาง
03:15
which gave the piece a soothing, ambient quality.
59
195320
4616
ซึ่งทำให้เกิดบรรยากาศที่ปลอบประโลม
03:19
But also, because the piano was so quiet,
60
199960
2536
แต่ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเปียโนเสียงเบามาก
03:22
he had to set up these rumbling, repetitive riffs in the bass.
61
202520
4416
เขาต้องสร้างเสียงฮึม ซ้ำ ๆ ในช่วงเสียงเบส
03:26
And he stood up twisting, pounding down on the keys,
62
206960
5256
และ เขาก็ต้องยืนขึ้น บิดตัว และกระหนำดีดแป้นเปียโน
03:32
desperately trying to create enough volume to reach the people in the back row.
63
212240
5616
พยายามอย่างที่สุด ในการสร้างเสียงให้ดังพอ ให้คนที่นั่งแถวหลังได้ยิน
03:37
It's an electrifying performance.
64
217880
2016
มันเป็นการแสดงที่น่าตื่นเต้น
03:39
It somehow has this peaceful quality,
65
219920
2936
แต่ให้อารมณ์ที่สงบสุข
03:42
and at the same time it's full of energy,
66
222880
2056
แต่ในขณะเดียวกัน ก็เปี่ยมไปความกระตือรือร้น
03:44
it's dynamic.
67
224960
1200
มันมีพลัง
คนฟังรักมัน
03:47
And the audience loved it.
68
227200
1239
03:49
Audiences continue to love it
69
229560
1656
และคนฟังยังคงรักมันต่อไป
03:51
because the recording of the Köln Concert
70
231240
3096
เพราะว่าเทปบันทึกคอนเสิร์ตนี้
เป็นอัลบั้มเปียโนที่ขายดีที่สุด ในประวัติศาสตร์
03:54
is the best-selling piano album in history
71
234360
2496
03:56
and the best-selling solo jazz album in history.
72
236880
3600
และ เป็นอัลบั้มเดี่ยวแจ๊ซ ที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์
04:02
Keith Jarrett had been handed a mess.
73
242560
2760
คีธ จาร์เรทท์ ถูกหยิบยื่นความยุ่งเหยิงให้
04:06
He had embraced that mess, and it soared.
74
246280
3840
แต่เขานำมันมาใช้ ทำให้มันงดงาม
04:12
But let's think for a moment about Jarrett's initial instinct.
75
252520
4816
ลองคิดถึงสัญชาตญาณแรกของจาร์เรทท์
04:17
He didn't want to play.
76
257360
1576
เขาไม่อยากเล่น
04:18
Of course,
77
258960
1216
แน่นอน
04:20
I think any of us, in any remotely similar situation,
78
260200
2936
ผมคิดว่า ไม่ว่าใครที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน
04:23
would feel the same way, we'd have the same instinct.
79
263160
2576
คงรู้สึกเหมือนกัน เรามีสัญชาตญาณคล้าย ๆ กัน
04:25
We don't want to be asked to do good work with bad tools.
80
265760
3295
เราไม่อยากถูกขอร้องให้ทำสิ่งดี ๆ ด้วยเครื่องมือที่แย่ ๆ
04:29
We don't want to have to overcome unnecessary hurdles.
81
269079
3641
เราไม่อยากเผชิญกับความยากลำบากที่ไม่จำเป็น
04:34
But Jarrett's instinct was wrong,
82
274160
1760
แต่สัญชาตญาณของ จาร์เรทท์ นั้นผิด
ขอบคุณพระเจ้า ที่เขาเปลี่ยนใจ
04:37
and thank goodness he changed his mind.
83
277120
2040
04:39
And I think our instinct is also wrong.
84
279840
3800
ผมคิดว่า สัญชาตญาณของเราก็ผิด
04:44
I think we need to gain a bit more appreciation
85
284800
3416
ผมคิดว่า เราต้องขอบคุณ ข้อดีที่ไม่ได้คาดคิด
04:48
for the unexpected advantages of having to cope with a little mess.
86
288240
5040
ที่เกิดจากการ ต้องจัดการความยุ่งยากนิดหน่อย
04:55
So let me give you some examples
87
295560
2136
ผมจะยกตัวอย่างให้ซัก 2-3 อย่าง
04:57
from cognitive psychology,
88
297720
2456
จากจิตวิทยาการรู้คิด
05:00
from complexity science,
89
300200
1416
จากวิทยาศาสตร์เชิงซับซ้อน
05:01
from social psychology,
90
301640
1456
จากจิตวิทยาสังคม
05:03
and of course, rock 'n' roll.
91
303120
1640
และ แน่นอน... จากร็อคแอนด์โรล
05:05
So cognitive psychology first.
92
305680
2056
เรามาเริ่มจาก จิตวิทยาการรู้คิด
05:07
We've actually known for a while
93
307760
1816
เรารู้มาซักพักหนึ่งแล้วว่า
05:09
that certain kinds of difficulty,
94
309600
2336
ความยุ่งยากบางอย่าง
05:11
certain kinds of obstacle,
95
311960
1576
หรือ อุปสรรคบางอย่าง
05:13
can actually improve our performance.
96
313560
1762
สามารถทำให้ความสามารถของเราดีขึ้น
05:15
For example,
97
315346
1710
ยกตัวอย่างเช่น
05:17
the psychologist Daniel Oppenheimer,
98
317080
1736
นักจิตวิทยา แดเนียล ออพเพนไฮเมอร์ (Daniel Oppenheimer)
05:18
a few years ago,
99
318840
1216
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
05:20
teamed up with high school teachers.
100
320080
2056
ร่วมมือกับคุณครูโรงเรียนมัธยม
05:22
And he asked them to reformat the handouts
101
322160
2736
เขาขอให้ครูมัธยมเปลี่ยนรูปแบบ
05:24
that they were giving to some of their classes.
102
324920
2360
ของเอกสารที่ต้องแจกให้นักเรียน
05:28
So the regular handout would be formatted in something straightforward,
103
328200
3334
เอกสารปกติ จะมีรูปแบบที่เข้าใจง่าย
05:31
such as Helvetica or Times New Roman.
104
331558
2440
เช่น ใช้ตัวอักษรแบบ เฮลเวติกา หรือ ทามส์ นิว โรมัน
05:34
But half these classes were getting handouts that were formatted
105
334840
3016
แต่ ครึ่งหนึ่งของชั้นเรียน จะได้รับเอกสาร ที่ดูแน่น ๆ
05:37
in something sort of intense, like Haettenschweiler,
106
337880
3696
เช่น การใช้ตัวอักษรแบบ อาเทนชไวเลอร์
05:41
or something with a zesty bounce, like Comic Sans italicized.
107
341600
4016
หรือตัวอักษรสนุก ๆ เช่น โคมิค แซนส์ พิมพ์เอนขวา
05:45
Now, these are really ugly fonts,
108
345640
1816
ตัวอักษรพวกนี้อัปลักษณ์มาก
05:47
and they're difficult fonts to read.
109
347480
2176
แล้วก็ อ่านได้ยาก
05:49
But at the end of the semester,
110
349680
2096
แต่พอใกล้ปิดเทอม
05:51
students were given exams,
111
351800
2616
นักเรียนต้องทำข้อสอบ
05:54
and the students who'd been asked to read the more difficult fonts,
112
354440
3656
นักเรียนที่ต้องอ่านตัวอักษรที่อ่านยาก
05:58
had actually done better on their exams,
113
358120
2056
ทำคะแนนสอบได้ดีกว่า
ในหลาย ๆ วิชา
06:00
in a variety of subjects.
114
360200
1536
06:01
And the reason is,
115
361760
2016
เหตุผลก็เป็นเพราะ
06:03
the difficult font had slowed them down,
116
363800
2536
ตัวอักษรที่อ่านยาก ทำให้พวกเขาช้าลง
06:06
forced them to work a bit harder,
117
366360
2056
มันบังคับให้พวกเขาต้องพยายามมากขึ้น
06:08
to think a bit more about what they were reading,
118
368440
2576
เพื่อคิดมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่อ่านอยู่
เพื่อตีความมัน
06:11
to interpret it ...
119
371040
1240
06:13
and so they learned more.
120
373360
1200
พวกเขาจึงได้เรียนรู้มากขึ้น
06:16
Another example.
121
376320
1200
อีกตัวอย่างหนึ่ง
06:18
The psychologist Shelley Carson has been testing Harvard undergraduates
122
378760
5096
นักจิตวิทยา เชลลี่ คาร์สัน (Shelley Carson) ได้ทำการทดสอบนักศึกษาฮาร์วาร์ด
06:23
for the quality of their attentional filters.
123
383880
2976
เรื่องความสามารถ ในการคัดกรองความสนใจ
06:26
What do I mean by that?
124
386880
1376
แล้วมันแปลว่าอะไร
06:28
What I mean is, imagine you're in a restaurant,
125
388280
2216
ลองจินตนาการ คุณอยู่ในร้านอาหาร
06:30
you're having a conversation,
126
390520
1736
คุณกำลังคุยอยู่
06:32
there are all kinds of other conversations going on in the restaurant,
127
392280
3136
แต่ก็มีการพูดคุยอื่น ๆ ในร้านด้วย
06:35
you want to filter them out,
128
395440
1336
คุณต้องกรองมันออกไป
06:36
you want to focus on what's important to you.
129
396800
2136
คุณต้องโฟกัสสิ่งที่สำคัญ
06:38
Can you do that?
130
398960
1216
คุณทำได้ไหม
หากทำได้ คุณก็มีการคัดกรองความสนใจที่ดี
06:40
If you can, you have good, strong attentional filters.
131
400200
2976
06:43
But some people really struggle with that.
132
403200
2056
แต่คนบางคน ก็ทำได้ไม่ดีนัก
นักศึกษาบางคนของ คาร์สัน ก็ทำได้ไม่ดีนัก
06:45
Some of Carson's undergraduate subjects struggled with that.
133
405280
3736
06:49
They had weak filters, they had porous filters --
134
409040
2936
พวกเขา มีความสามารถในการคัดกรองต่ำ ตัวกรองของเขามีรูพรุนไปหมด
06:52
let a lot of external information in.
135
412000
3376
พวกเขาปล่อยให้ข้อมูลภายนอกเข้ามา
06:55
And so what that meant is they were constantly being interrupted
136
415400
3136
นั่นหมายความว่า พวกเขาจะถูกขัดจังหวะอยู่เสมอ ๆ
06:58
by the sights and the sounds of the world around them.
137
418560
2576
ด้วยภาพ และ เสียง จากโลกรอบ ๆ ตัวเขา
07:01
If there was a television on while they were doing their essays,
138
421160
3056
หากโทรทัศน์เปิดอยู่ ขณะที่เขาเขียนเรียงความ
เขาก็จะไม่สามารถกรองมันออกไปได้
07:04
they couldn't screen it out.
139
424240
1416
07:05
Now, you would think that that was a disadvantage ...
140
425680
2429
คุณคงคิดว่า นี้คือข้อเสียเปรียบ
07:09
but no.
141
429480
1216
แต่จริง ๆ แล้ว.... ไม่ใช่
07:10
When Carson looked at what these students had achieved,
142
430720
3976
เมื่อ คาร์สัน มองสิ่งที่นักศึกษาเหล่านี้ทำสำเร็จ
07:14
the ones with the weak filters
143
434720
1776
นักศึกษาที่มีความสามารถในการคัดกรองต่ำ
07:16
were vastly more likely
144
436520
2416
มีแนวโน้มเป็นอย่างมาก
07:18
to have some real creative milestone in their lives,
145
438960
2776
ที่จะมีเหตุการณ์สำคัญ เชิงความคิดสร้างสรรค์ในชีวิต
07:21
to have published their first novel,
146
441760
2336
เช่น จัดพิมพ์นวนิยายเล่มแรก
ออกอัลบั้มแรกของตัวเอง
07:24
to have released their first album.
147
444120
1680
07:27
These distractions were actually grists to their creative mill.
148
447200
3696
ความวอกแวกเหล่านี้ จริง ๆ แล้ว ปล่อยความคิดสร้างสรรค์ออกมาด้วย
07:30
They were able to think outside the box because their box was full of holes.
149
450920
3840
พวกเขาสามารถคิดนอกกรอบ เพราะกรอบของเขา เต็มไปด้วยรูพรุน
07:36
Let's talk about complexity science.
150
456200
1736
มาพูดถึงวิทยาศาสตร์เชิงซับซ้อนกัน
07:37
So how do you solve a really complex --
151
457960
1858
คุณจะแก้ปัญหาสิ่งที่ซับซ้อนมาก ๆ ยังไง
07:39
the world's full of complicated problems --
152
459842
2014
โลกเต็มไปด้วยปัญหาที่ซับซ้อน
07:41
how do you solve a really complicated problem?
153
461880
2176
คุณจะแก้ไขอันที่มันซับซ้อนยังไง
ตัวอย่างเช่น คุณพยายามจะสร้างเครื่่องบินไอพ่น
07:44
For example, you try to make a jet engine.
154
464080
2136
07:46
There are lots and lots of different variables,
155
466240
2216
มันมีตัวแปรที่หลากหลาย และ หลายตัวมาก ๆ
07:48
the operating temperature, the materials,
156
468480
1953
อุณหภูมิในการเดินเครื่อง วัสดุใช้สร้าง
07:50
all the different dimensions, the shape.
157
470457
2439
มิติต่าง ๆ รูปทรง
07:52
You can't solve that kind of problem all in one go,
158
472920
2536
คุณไม่สามารถ แก้ปัญหาทั้งหมดในครั้งเดียว
07:55
it's too hard.
159
475480
1216
มันยากเกินไป
07:56
So what do you do?
160
476720
1216
แล้ว เราทำยังไงล่ะ
07:57
Well, one thing you can do is try to solve it step-by-step.
161
477960
4936
จริง ๆ แล้ว สิ่งหนึ่งที่คุณทำได้ คือ แก้ปัญหาทีละอย่าง
08:02
So you have some kind of prototype
162
482920
1696
คุณมีต้นแบบตัวหนึ่ง
08:04
and you tweak it, you test it, you improve it.
163
484640
3416
แล้วคุณก็ปรับมัน ทดสอบ แล้วก็แก้ไข
08:08
You tweak it, you test it, you improve it.
164
488080
2800
คูณปรับมัน ทดสอบ แล้วก็แก้ไข
แนวคิดการปรับให้ดีขึ้นทีละนิดนี้ สุดท้ายแล้ว ก็จะได้เครื่องยนต์ที่ดี
08:12
Now, this idea of marginal gains will eventually get you a good jet engine.
165
492040
5496
08:17
And it's been quite widely implemented in the world.
166
497560
3296
แล้วมันก็ถูกใช้ ค่อนข้างแพร่หลายทั่วโลก
08:20
So you'll hear about it, for example, in high performance cycling,
167
500880
3496
คุณอาจจะเคยได้ยิน ยกตัวอย่างเช่น การขี่จักรยานแบบเน้นสมรรถภาพ
08:24
web designers will talk about trying to optimize their web pages,
168
504400
3296
นักออกแบบเว็บไซด์ มักอยากให้เว็บไซด์ใช้ได้ดีที่สุด
08:27
they're looking for these step-by-step gains.
169
507720
2296
พวกเขาก็ใช้หลักการปรับทีละขั้น ๆ
08:30
That's a good way to solve a complicated problem.
170
510040
2840
มันเป็นแนวทางที่ดีในการแก้ปัญหาที่ยุ่งยาก
08:34
But you know what would make it a better way?
171
514440
2440
แต่อะไรเป็นวิธีที่ดีกว่า
08:38
A dash of mess.
172
518600
1200
ใส่ความยุ่งเหยิงเข้าไป
08:41
You add randomness,
173
521320
2016
คุณเติมอะไรลงไปแบบสุ่ม ๆ
08:43
early on in the process,
174
523360
1376
ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ๆ
08:44
you make crazy moves,
175
524760
1496
คุณทำอะไรที่เพี้ยน ๆ
08:46
you try stupid things that shouldn't work,
176
526280
3375
คุณลองทำสิ่งที่ดูโง่ แล้วก็ไม่น่าจะได้ผล
08:49
and that will tend to make the problem-solving work better.
177
529679
3017
นั่นมีแนวโน้มจะทำให้ การแก้ปัญหาดีขึ้น
08:52
And the reason for that is
178
532720
1536
เหตุผลก็คือ
08:54
the trouble with the step-by-step process,
179
534280
2056
ปัญหาเกี่ยวกับการทำทีละขั้น
08:56
the marginal gains,
180
536360
1216
การปรับให้ดีขึ้นทีละนิด
08:57
is they can walk you gradually down a dead end.
181
537600
3536
คือ มันอาจจะพาเรา ทีละนิด ๆ ไปสู่ทางตัน
09:01
And if you start with the randomness, that becomes less likely,
182
541160
4216
แต่หากคุณเริ่มจากการสุ่ม มีแนวโน้มน้อยลงที่จะเจอทางตัน
09:05
and your problem-solving becomes more robust.
183
545400
2400
แล้วการแก้ปัญหาของคุณ ก็จะดูแข็งแกร่งขึ้น
09:10
Let's talk about social psychology.
184
550440
1680
มาพูดถึงจิตวิทยาสังคมดูบ้าง
09:12
So the psychologist Katherine Phillips, with some colleagues,
185
552720
3096
นักจิตวิทยา แคทเธอรีน ฟิลลิปส์ (Katherine Phillips) และเพื่อนร่วมงานของเธอ
09:15
recently gave murder mystery problems to some students,
186
555840
4056
เมื่อไม่นานมานี้ ให้โจทย์ปริศนาฆาตกรรมกับนักศึกษา
09:19
and these students were collected in groups of four
187
559920
2856
โดยนักศึกษาทำงานเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน
09:22
and they were given dossiers with information about a crime --
188
562800
3336
พวกเขาได้รับข้อมูลเป็นตั้ง ๆ เกี่ยวกับการฆาตกรรม
หลักฐาน ข้อแก้ตัว คำให้การของพยาน และ ผู้ต้องสงสัย 3 คน
09:26
alibis and evidence, witness statements and three suspects.
189
566160
3880
09:31
And the groups of four students were asked to figure out who did it,
190
571000
4176
นักเรียนแต่ละกลุ่มถูกขอร้อง ให้หาคำตอบ
ให้หาตัวฆาตรกร
09:35
who committed the crime.
191
575200
1200
09:37
And there were two treatments in this experiment.
192
577280
2400
การทดลองนี้ แบ่งกลุ่มเป็น 2 แบบ
09:40
In some cases these were four friends,
193
580760
3216
บางกลุ่ม ทุกคนจะเป็นเพื่อนกัน
09:44
they all knew each other well.
194
584000
1560
ทุกคนรู้จักกันดี
09:46
In other cases,
195
586160
1776
บางกลุ่ม
09:47
three friends and a stranger.
196
587960
1920
มีเพือนกัน 3 คน และ คนแปลกหน้าอีก 1
09:51
And you can see where I'm going with this.
197
591040
2056
เหมือนคุณจะรู้แล้วว่าผมจะพูดอะไร
09:53
Obviously I'm going to say
198
593120
1256
จริง ๆ แล้ว สิ่งที่ผมจะพูด
09:54
that the groups with the stranger solved the problem more effectively,
199
594400
3416
คือ กลุ่มที่มีคนแปลกหน้า แก้ปัญหาได้มีประสิทธิภาพมากกว่า
09:57
which is true, they did.
200
597840
1280
ซึ่ง ในความเป็นจริง ก็เป็นอย่างนั้น
09:59
Actually, they solved the problem quite a lot more effectively.
201
599800
3496
จริง ๆ แล้ว พวกเขาแก้ปัญหาได้มีประสิทธิภาพกว่ามาก
10:03
So the groups of four friends,
202
603320
2880
กลุ่มที่เป็นเพื่อนกัน 4 คน
มีโอกาสแค่ 50% ที่จะได้คำตอบที่ถูก
10:07
they only had a 50-50 chance of getting the answer right.
203
607120
2976
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ไม่ดีเลย
10:10
Which is actually not that great --
204
610120
1696
10:11
in multiple choice, for three answers? 50-50's not good.
205
611840
2936
ข้อสอบที่มีตัวเลือก 3 ตัว 50% คงไม่พอ
10:14
(Laughter)
206
614800
1176
(เสียงหัวเราะ)
10:16
The three friends and the stranger,
207
616000
1696
กลุ่มเพื่อน 3 คน กับ คนแปลกหน้าอีก 1
10:17
even though the stranger didn't have any extra information,
208
617720
2816
แม้คนแปลกหน้านั้น ไม่มีข้อมูลอะไรพิเศษ
10:20
even though it was just a case
209
620560
1536
แม้มันจะเป็นเพียงกรณีของ
10:22
of how that changed the conversation to accommodate that awkwardness,
210
622120
6296
การเปลี่ยนการสนทนา เพื่อไม่ให้เกิดความอึดอัด
10:28
the three friends and the stranger,
211
628440
1696
สำหรับเพื่อน 3 คน กับคนแปลกหน้า
10:30
they had a 75 percent chance of finding the right answer.
212
630160
2666
พวกเขามีโอกาส 75% ในการได้คำตอบที่ถูกต้อง
10:32
That's quite a big leap in performance.
213
632850
1726
เป็นผลงานที่ก้าวกระโดดมาก
10:34
But I think what's really interesting
214
634600
2336
แต่ผมคิดว่า สิ่งที่น่าสนใจมาก
10:36
is not just that the three friends and the stranger did a better job,
215
636960
3239
ไม่ใช่แค่ว่า พวกเขาทำได้ดีกว่ามาก
แต่ รวมถึง พวกเขารู้สึกยังไง
10:40
but how they felt about it.
216
640223
1440
10:42
So when Katherine Phillips interviewed the groups of four friends,
217
642400
4936
เมื่อ แคทเธอรีน สัมภาษณ์ กลุ่มที่เป็นเพื่อนกันทั้งหมด
10:47
they had a nice time,
218
647360
1856
พวกเขามีช่วงเวลาที่ดี
10:49
they also thought they'd done a good job.
219
649240
1960
พวกเขาคิดว่า ทำได้ดี
10:52
They were complacent.
220
652720
1200
พวกเขารู้สึกพอใจ
10:54
When she spoke to the three friends and the stranger,
221
654800
2496
เมื่อเธอได้คุย กับกลุ่มที่มีคนแปลกหน้า
10:57
they had not had a nice time --
222
657320
1496
พวกเขาไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดี
10:58
it's actually rather difficult, it's rather awkward ...
223
658840
2600
จริง ๆ แล้ว มันค่อนข้างยาก และ อึดอัด
11:02
and they were full of doubt.
224
662480
2240
แล้วก็เต็มไปด้วยข้อสงสัย
11:06
They didn't think they'd done a good job even though they had.
225
666200
2920
พวกคิดว่าทำได้ไม่ดี แม้จะทำได้ดี
11:10
And I think that really exemplifies
226
670080
1736
และ ผมคิดว่า นี่เป็นตัวอย่าง
11:11
the challenge that we're dealing with here.
227
671840
2240
ของความท้าทายที่เราเผชิญอยู่
11:14
Because, yeah --
228
674680
1816
เพราะว่า ...
11:16
the ugly font,
229
676520
1856
ตัวอักษรที่น่าเกลียด
11:18
the awkward stranger,
230
678400
1776
คนแปลกหน้า
11:20
the random move ...
231
680200
1320
การทำอะไรแบบสุุ่ม ๆ
11:22
these disruptions help us solve problems,
232
682280
3376
สิ่งรบกวนเหล่านี้ ช่วยเราแก้ปัญหา
11:25
they help us become more creative.
233
685680
2336
มันช่วยให้เรามีความคิดสร้างสรรค์
11:28
But we don't feel that they're helping us.
234
688040
2056
แม้เราจะรู้สึกว่า มันไม่ได้ช่วย
11:30
We feel that they're getting in the way ...
235
690120
2040
เราคิดว่า มันเป็นอุปสรรค
11:33
and so we resist.
236
693040
1200
เราจึงต่อต้านมัน
11:36
And that's why the last example is really important.
237
696000
2440
นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมตัวอย่างสุดท้ายถึงสำคัญ
11:39
So I want to talk about somebody
238
699360
2216
ผมอยากจะพูดถึงคนบางคน
11:41
from the background of the world of rock 'n' roll.
239
701600
4936
จากวงการร็อคแอนด์โรลล์
11:46
And you may know him, he's actually a TED-ster.
240
706560
2896
คุณอาจจะรู้จักเขา เขาเป็นแฟน TED ตัวยง
11:49
His name is Brian Eno.
241
709480
1376
เขาชื่อ ไบรอัน อีโน (Brian Eno)
11:50
He is an ambient composer -- rather brilliant.
242
710880
2816
เขาเป็ํนนักแต่งเพลงที่ค่อนข้างเก่ง
11:53
He's also a kind of catalyst
243
713720
2680
เขายังเป็นคล้าย ๆ ตัวเร่งปฎิกิริยา
11:57
behind some of the great rock 'n' roll albums of the last 40 years.
244
717160
4016
เบื้องหลังอัลบั้มร็อคแอนด์โรลล์เยี่ยม ๆ ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
12:01
He's worked with David Bowie on "Heroes,"
245
721200
3616
เขาทำงานร่วมกับ เดวิด โบวี่ (David Bowie) ในอัลบั้มฮีโรส์ (Heroes)
12:04
he worked with U2 on "Achtung Baby" and "The Joshua Tree,"
246
724840
3136
เขาทำงานกับยูทู (U2) ใน อ้าคทัง เบบี้ (Achtung Baby) และ เดอะ โจชัว ทรี (The Joshua Tree)
12:08
he's worked with DEVO,
247
728000
1536
เขาทำงานกับดีโว (DEVO)
12:09
he's worked with Coldplay, he's worked with everybody.
248
729560
2576
เขาทำงานกับ โคลด์เพลย์ (Coldplay) เขาทำงานกับทุกคน
12:12
And what does he do to make these great rock bands better?
249
732160
3920
แล้วเขาทำอะไร ให้วงร็อคพวกนี้ดีขึ้น
12:17
Well, he makes a mess.
250
737720
1240
เขาสร้างความยุ่งยาก
12:19
He disrupts their creative processes.
251
739840
1816
ก่อกวนกระบวนความคิดสร้างสรรค์ของวง
12:21
It's his role to be the awkward stranger.
252
741680
2096
บทบาทของเขา คือ คนแปลกหน้าที่น่าอึดอัด
12:23
It's his role to tell them
253
743800
1416
บทบาทของเขาคือ
บอกให้วงร็อคเหล่านั้น เล่นเปียโนที่เล่นไม่ได้
12:25
that they have to play the unplayable piano.
254
745240
3176
12:28
And one of the ways in which he creates this disruption
255
748440
2656
วิธีการหนึ่งที่เขาใช้ก่อกวน
12:31
is through this remarkable deck of cards --
256
751120
2960
คือ การใช้บัตรที่ไม่ธรรมดาปึกหนึ่ง
12:34
I have my signed copy here -- thank you, Brian.
257
754680
2560
ผมมีปึกที่มีลายเซ็นของเขาปึกนึงตรงนี้ ขอบคุณ ไบรอัน
12:38
They're called The Oblique Strategies,
258
758560
1856
เราเรียกสิ่งนี้ว่า กลยุทธ์บิดเบือน
12:40
he developed them with a friend of his.
259
760440
1858
เขากับเพื่อนของเขาคนหนึ่งพัฒนามันขึ้นมา
12:42
And when they're stuck in the studio,
260
762800
3040
เมื่อเขาเจอทางตันในสตูดิโอ
12:46
Brian Eno will reach for one of the cards.
261
766880
2296
ไบรอัน อีโนจะจับบัตรมาใบหนึ่ง
12:49
He'll draw one at random,
262
769200
1456
เขาสุ่มดึงมันออกมา
12:50
and he'll make the band follow the instructions on the card.
263
770680
4256
และให้วงดนตรีทำตามคำสั่งบนบัตร
12:54
So this one ...
264
774960
1320
เช่น อันนี้...
12:57
"Change instrument roles."
265
777040
1296
"เปลี่ยนเครื่องดนตรีกัน"
12:58
Yeah, everyone swap instruments -- Drummer on the piano --
266
778360
2715
ทุกคน ต้องสลับเครื่องดนตรีกัน คนตีกลองไปเล่นเปียโน
13:01
Brilliant, brilliant idea.
267
781099
1997
ความคิดนี้ยอดเยี่ยม ๆ มาก ๆ
13:03
"Look closely at the most embarrassing details. Amplify them."
268
783120
3680
"มองรายละเอียดที่น่าอายอย่างถี่ถ้วน แล้วทำให้มันเห็นชัดขึ้น"
13:08
"Make a sudden, destructive, unpredictable action. Incorporate."
269
788360
4720
"ลงมือทำอะไรที่กระทันหัน ทำลายล้าง และคาดเดาไม่ได้ จงรวมหัวกัน"
13:14
These cards are disruptive.
270
794960
1360
บัตรพวกนี้ เป็นตัวพลิกผันสถานการณ์
13:17
Now, they've proved their worth in album after album.
271
797080
3640
มันได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้ว อัลบั้มแล้ว อัลบั้มเล่า
13:21
The musicians hate them.
272
801880
2296
พวกนักดนตรีเกลียดมัน
13:24
(Laughter)
273
804200
1496
(เสียงหัวเราะ)
13:25
So Phil Collins was playing drums on an early Brian Eno album.
274
805720
3416
ฟิล คอลลินส์ (Phil Collins) ต้องเล่นกลอง ในช่วงแรก ๆ ที่ ไบรอัน อีโน เริ่มทำอัลบั้ม
13:29
He got so frustrated he started throwing beer cans across the studio.
275
809160
4000
ฟิล อารมรณ์เสียมาก ถึงกับขว้างกระป๋องเบียร์ในสตูดิโอ
13:34
Carlos Alomar, great rock guitarist,
276
814400
2376
คาร์ลอส อโลมาร์ (Carlos Alomar) นักกีต้าร์ร็อคที่เยี่ยมยอด
13:36
working with Eno on David Bowie's "Lodger" album,
277
816800
3776
ทำงานกับ อีโน ในอัลบั้ม ล้อดเจ้อร์ (Lodger) ของ เดวิด โบวี่
13:40
and at one point he turns to Brian and says,
278
820600
2576
ครั้งหนึ่ง เขาหันไปหาไบรอัน แล้วพูดว่า
13:43
"Brian, this experiment is stupid."
279
823200
3480
"ไบรอัน ผมว่าการทดลองอันนี้มันโง่มาก"
13:49
But the thing is it was a pretty good album,
280
829360
2760
แต่ว่า มันเป็นอัลบั้มที่ค่อนข้างดี
13:53
but also,
281
833120
1200
แต่
13:55
Carlos Alomar, 35 years later, now uses The Oblique Strategies.
282
835040
4816
35 ปีต่อมา คาร์ลอส อโลมาร์ หันมาใช้กลยุทธ์นี้ด้วย
13:59
And he tells his students to use The Oblique Strategies
283
839880
2736
เขาบอกกับนักเรียนของเขา ให้ใช้กลยุทธ์การบิดเบือนนี้
14:02
because he's realized something.
284
842640
1720
เพราะเขาตระหนักถึงบางสิ่ง
14:05
Just because you don't like it doesn't mean it isn't helping you.
285
845240
4640
การที่คุณไม่ชอบมัน ไม่ได้หมายความว่า มันจะช่วยคุณไม่ได้
14:12
The strategies actually weren't a deck of cards originally,
286
852000
2762
กลยุทธ์นี้จริง ๆ แล้ว ไม่ได้เป็นบัตรแบบนี้ในตอนแรก
14:14
they were just a list --
287
854786
1190
มันเป็นแค่ข้อความ
14:16
list on the recording studio wall.
288
856000
1816
ที่ติดไว้บนกำแพงของสตูดิโอเพลง
14:17
A checklist of things you might try if you got stuck.
289
857840
3800
เป็นรายการให้ลองทำ เวลาที่คิดอะไรไม่ออก
14:23
The list didn't work.
290
863280
1200
แต่มันไม่เวิร์ค
14:26
Know why?
291
866160
1200
เพราะอะไรล่ะ
14:29
Not messy enough.
292
869400
1200
มันยังยุ่งเหยิงไม่พอ
14:31
Your eye would go down the list
293
871680
2016
คุณจะกวาดตาไปบนข้อความเหล่านี้
14:33
and it would settle on whatever was the least disruptive,
294
873720
4056
แล้วหยุดตรงอันที่ทำให้คุณติดขัดน้อยที่สุด
14:37
the least troublesome,
295
877800
1200
อันที่จะทำให้เกิดปัญหาน้อยสุด
14:40
which of course misses the point entirely.
296
880480
3880
ซึ่งเป็นการผิดประเด็นมาก ๆ
14:46
And what Brian Eno came to realize was,
297
886160
2376
สิ่งที่ ไบรอัน อีโน ตระหนักคือ
14:48
yes, we need to run the stupid experiments,
298
888560
4496
ใช่ เราต้องทำการทดลองโง่ ๆ
14:53
we need to deal with the awkward strangers,
299
893080
2056
เราต้องรับมือกับคนแปลกหน้าที่น่าอึดอัด
14:55
we need to try to read the ugly fonts.
300
895160
2136
เราต้องอ่านอักษรที่น่าเกลียด
14:57
These things help us.
301
897320
1256
สิ่งพวกนี้ช่วยเรา
14:58
They help us solve problems,
302
898600
1376
มันช่วยเรา แก้ปัญหา
15:00
they help us be more creative.
303
900000
1896
มันช่วยเราให้มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
15:01
But also ...
304
901920
1200
แต่
15:04
we really need some persuasion if we're going to accept this.
305
904320
3200
เราก็ต้องมีแรงจูงใจด้วย ถ้าเราจะยอมรับมัน
15:08
So however we do it ...
306
908200
1240
เราต้องทำมัน
15:10
whether it's sheer willpower,
307
910400
2056
ไม่ว่าจะเป็นเพราะความตั้งใจ
15:12
whether it's the flip of a card
308
912480
2080
ไม่ว่าจะเป็นเพราะการเปิดบัตร
15:15
or whether it's a guilt trip from a German teenager,
309
915560
3200
หรือ เพราะความรู้สึกผิด ที่มีต่อวัยรุ่นชาวเยอรมันคนหนึ่ง
15:19
all of us, from time to time,
310
919680
2136
ในบางครั้ง พวกเราทุกคน
15:21
need to sit down and try and play the unplayable piano.
311
921840
4440
ต้องนั่งลง และ พยายามเล่นเปียโนที่ไม่น่าจะเล่นได้
15:27
Thank you.
312
927640
1216
ขอบคุณครับ
15:28
(Applause)
313
928880
1880
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7