Charmian Gooch: My wish: To launch a new era of openness in business

Translator: Thipnapa Huansuriya Reviewer: Chatthip Chaichakan

I've come here today

ฉันมาที่นี่วันนี้

to talk to you about a problem.

เพื่อพูดกับคุณเกี่ยวกับปัญหาอย่างหนึ่ง

It's a very simple yet devastating problem,

ปัญหาง่ายๆ แต่สร้างความเสียหายร้ายแรง

one that spans the globe

แผ่ขยายไปทั่วโลก

and is affecting all of us.

และกระทบพวกเราทุกคน

The problem is

ปัญหานั้นคือ

anonymous companies.

บริษัทนิรนาม

It sounds like a really dry and technical thing,

ฟังดูเป็นศัพท์เทคนิคที่แห้งแล้งจริงๆ

doesn't it?

ใช่ไหมคะ?

But anonymous companies are making it difficult

แต่บริษัทนิรนามพวกนี้ กำลังทำให้มันยากขึ้น

and sometimes impossible

หรือเป็นไปไม่ได้เลย

to find out

ที่จะค้นหาว่า

the actual human beings responsible

มนุษย์ที่มีตัวตนคนไหนกัน ที่อยู่เบื้องหลัง

sometimes for really terrible crimes.

อาชญากรรมบางอย่างที่เลวร้ายสุดๆ

So, why am I here talking to all of you?

แล้วทำไมฉันต้องมาอยู่ที่นี่ พูดเรื่องนี้กับพวกคุณทุกคน?

Well, I guess I am a lifelong troublemaker

คือ ฉันว่าฉันคงเป็นนักสร้างปัญหาตลอดชีพ

and when my parents taught my twin brother and I

ตอนพ่อแม่ของฉันสอนฉันกับน้องชายฝาแฝด

to question authority,

ให้ตั้งคำถามกับผู้มีอำนาจ

I don't think they knew where it might lead.

ฉันว่าตอนนั้นพ่อกับแม่ไม่รู้หรอก ว่ามันจะเกิดอะไรตามมา

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And, they probably really regretted it

และท่านก็คงมานั่งเสียใจภายหลัง

during my stroppy teenage years when, predictably,

ช่วงที่ฉันเป็นวัยรุ่นช่างเถียง ซึ่งคุณคงเดาได้ว่า

I questioned their authority a lot.

ฉันตั้งคำถามกับอำนาจของท่านบ่อยมาก

And a lot of my school teachers

และคุณครูของฉันหลายๆ คน

didn't appreciate it much either.

ก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่เหมือนกัน

You see, since the age of about five

ตั้งแต่ห้าขวบเรื่อยมา

I've always asked the question, but why?

ฉันถามว่า "แต่...ทำไมล่ะ?" ตลอด

But why does the Earth go around the sun?

ทำไมโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์?

But why is blood red?

ทำไมเลือดสีแดง?

But why do I have to go to school?

ทำไมฉันต้องไปโรงเรียน?

But why do I have to respect the teachers

ทำไมฉันต้องเคารพครู

and authority?

และผู้มีอำนาจ?

And little did I realize

ฉันไม่รู้เลย

that this question would become the basis

ว่าคำถามนี้จะกลายเป็นพื้นฐาน

of everything I would do.

ของทุกอย่างที่ฉันทำในเวลาต่อมา

And so it was

ตอนที่ฉัน

in my twenties, a long time ago,

อายุยี่สิบกว่า นานมาแล้ว

that one rainy Sunday afternoon in North London

บ่ายวันอาทิตย์ที่ฝนตกวันหนึ่ง ในย่านนอร์ธ ลอนดอน

I was sitting with Simon Taylor

ฉันนั่งอยู่กับไซมอน เทย์เลอร์ (Simon Taylor)

and Patrick Alley

และแพทริค อัลลีย์ (Patrick Alley)

and we were busy stuffing envelopes

เรากำลังง่วนอยู่กับการเอาจดหมายใส่ซอง

for a mail out in the office of the campaign group

เพื่อเตรียมส่ง ในออฟฟิศของกลุ่มนักเคลื่อนไหว

where we worked at the time.

ที่เราทำงานอยู่ตอนนั้น

And as usual, we were talking about the world's problems.

เราคุยกันเรื่องปัญหาต่างๆ ในโลกเหมือนทุกครั้ง

And in particular, we were talking about

วันนั้นเราคุยกันเรื่อง

the civil war in Cambodia.

สงครามกลางเมืองในกัมพูชา

And we had talked about that many, many times before.

ซึ่งเราเคยคุยกันมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว

But then suddenly we stopped

แต่ทันใดนั้น เราก็หยุด

and looked at each other

แล้วมองหน้ากัน

and said, but why don't we try and change this?

และพูดขึ้นมาว่า ทำไมเราไม่ลองทำอะไรเพื่อเปลี่ยนมันล่ะ?

And from that slightly crazy question,

และจากคำถามที่ออกจะเพี้ยนๆ นั้น

over two decades

อีกสองทศวรรษ

and many campaigns later,

และอีกหลายโครงการรณรงค์ต่อจากนั้น

including alerting the world

ซึ่งรวมถึงการเตือนให้โลกรู้

to the problem of blood diamonds funding war,

ถึงปัญหาเพชรสีเลือด หรือการค้าเพชรเถื่อน เพื่อเป็นทุนทำสงคราม

from that crazy question,

จากคำถามบ้าๆ คำถามนั้น

Global Witness is now an 80-strong team

องค์กรโกลบอล วิทเนส (Global Witness) ได้เติบโตขึ้นเป็นทีมที่แข็งแกร่ง 80 ทีม

of campaigners, investigators, journalists and lawyers.

ซึ่งประกอบด้วยนักรณรงค์ นักข่าว นักสืบสวนสอบสวน ทนายความ

And we're all driven by the same belief,

และเราล้วนมีแรงผลักดันจากความเชื่อเดียวกัน

that change really is possible.

ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นได้

So, what exactly does Global Witness do?

เอาล่ะ แล้วตกลงองค์กร โกลบอล วิทเนสทำอะไร?

We investigate, we report,

เราสืบสวน เรารายงาน

to uncover the people really responsible

เราเปิดโปงคนที่อยู่เบื้องหลัง

for funding conflict --

และให้ทุนสนับสนุนความขัดแย้ง

for stealing millions from citizens around the world,

เพื่อขโมยทรัพย์สินมูลค่าหลายๆ ล้านจากพลเมืองทั่วโลก

also known as state looting,

อย่างที่เรียกว่า การปล้นสะดมโดยรัฐ

and for destroying the environment.

และเพื่อทำลายสิ่งแวดล้อม

And then we campaign hard to change the system itself.

จากนั้นเราก็รณรงค์อย่างหนัก เพื่อเปลี่ยนระบบเหล่านี้

And we're doing this because so many of the countries

เราทำอย่างนี้ เพราะมีประเทศจำนวนมาก

rich in natural resources

ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์

like oil or diamonds or timber

เช่น น้ำมัน เพชร หรือไม้

are home to some of the poorest

แต่กลับเต็มไปด้วยประชากรที่ยากจนที่สุด

and most dispossessed people on the planet.

และไร้ทรัพย์สินที่สุดในโลก

And much of this injustice

และความอยุติธรรมนี้

is made possible

ส่วนใหญ่แล้วเกิดขึ้นได้

by currently accepted business practices.

ก็เพราะวิถีปฏิบัติทางธุรกิจหลายๆ อย่าง ที่เป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบัน

And one of these is anonymous companies.

หนึ่งในนั้นก็คือบริษัทนิรนาม

Now we've come up against anonymous companies

ตอนนี้ เราจึงลุกขึ้นต่อต้านบริษัทนิรนาม

in lots of our investigations,

ในงานสืบสวนสอบสวนหลายชิ้นของเรา

like in the Democratic Republic of Congo,

เช่นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

where we exposed how secretive deals

เราได้เปิดโปงว่าข้อตกลงลับ

involving anonymous companies

ที่มีบริษัทนิรนามเข้ามาเกี่ยวข้อง

had deprived the citizens

ได้แย่งชิงทรัพยากรจากพลเมือง

of one of the poorest countries on the planet

ของหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก

of well over a billion dollars.

ไปมากกว่าพันล้านดอลลาร์ได้อย่างไร

That's twice the country's health and education budget combined.

นั่นคิดเป็นสองเท่าของงบประมาณด้านสาธารณสุข และการศึกษาของทั้งประเทศรวมกัน

Or in Liberia,

หรืออย่างในไลบีเรีย

where an international predatory logging company

ที่บริษัทค้าไม้จอมเอาเปรียบจากต่างชาติ

used front companies as it attempted to grab

เปิดบริษัทบังหน้า เพื่อพยายามยื้อแย่ง

a really huge chunk of Liberia's unique forests.

ไม้ในป่าผืนใหญ่อันมีเอกลักษณ์ของไลบีเรีย

Or political corruption in Sarawak, Malaysia,

หรือการคอรัปชั่นทางการเมืองในซาราวัก มาเลเซีย

which has led to the destruction of much of its forests.

ซึ่งนำไปสู่การทำลายป่าไม้จำนวนมากของประเทศ

Well, that uses anonymous companies too.

โดยใช้บริษัทนิรนามเช่นกัน

We secretly filmed some of the family

เราได้แอบถ่ายวิดีโอคนในครอบครัว

of the former chief minister and a lawyer

ของอดีตรัฐมนตรีระดับสูงและทนายความคนหนึ่ง

as they told our undercover investigator

ขณะที่เขาเล่าให้นักสืบของเราที่ปลอมตัวเข้าไปฟัง

exactly how these dubious deals are done

ว่าเขาทำข้อตกลงลับๆ พวกนี้กันอย่างไร

using such companies.

โดยใช้บริษัทนิรนามพวกนี้

And the awful thing is,

และที่แย่ก็คือ

there are so many other examples out there

ยังมีตัวอย่างแบบนี้อีกเยอะมาก

from all walks of life.

ในทุกสาขาอาชีพ

This truly is a scandal of epic proportions

นี่เป็นเรื่องอภิมหาเรื่องอื้อฉาว

hidden in plain sight.

ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา แต่เรามองกลับไม่เห็น

Whether it's the ruthless Mexican drugs cartel,

ไม่ว่าจะเป็นแก๊งค้ายาชาวเม็กซิกันที่โหดเหี้ยม

the Zetas,

ที่เรียกว่า เซตาส์

who use anonymous companies to launder profits

ซึ่งใช้บริษัทนิรนามเพื่อฟอกเงินกำไรที่ได้

while their drugs-related violence

ขณะที่ความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

is tearing communities apart across the Americas.

ที่พวกนี้ก่อขึ้น ก็กำลังทำลายชุมชนทั่วทั้งอเมริกา

Or the anonymous company,

หรืออย่างบริษัทนิรนาม

which bought up Americans' tax debts,

ที่เข้ามารับชำระหนี้ภาษีของคนอเมริกัน

piled on the legal fees

คิดค่าธรรมเนียมทางกฎหมายสูงลิ่ว

and then gave homeowners a choice:

แล้วยื่นข้อเสนอให้เจ้าของบ้านเลือก

Pay up or lose your home.

ว่าจะจ่าย หรือจะให้ยึดบ้าน

Imagine being threatened with losing your home

ลองจินตนาการว่า มีคนมาขู่ว่าจะยึดบ้านคุณ

sometimes over a debt of just a few hundred dollars,

บางทีก็เพียงเพราะหนี้แค่ไม่กี่ร้อยดอลลาร์

and not being able to find out

แล้วคุณไม่อาจรู้ได้ว่า

who you were really up against.

จริงๆ คุณกำลังเผชิญหน้าอยู่กับใคร

Now anonymous companies

บริษัทนิรนามพวกนี้

are great for sanctions busting too.

ยังใช้แก้เกมการถูกคว่ำบาตรได้ดีอีกด้วย

As the Iranian government found out

เช่นที่รัฐบาลอิหร่านพบว่า

when, through a series of front companies,

เมื่อใช้บริษัทหลายๆ บริษัทบังหน้า

it owned a building in the very heart of Manhattan,

อิหร่านก็สามารถเป็นเจ้าของอาคารแห่งหนึ่ง ใจกลางเกาะแมนฮัตตัน

on Fifth Avenue,

บนถนนฟิฟธ์ อเวนิว

despite American sanctions.

ทั้งๆ ที่ถูกคว่ำบาตรโดยอเมริกา

And Juicy Couture, home of of the velvet track suit,

และจูซซี่ กูตูร์ ต้นตำรับชุดวอร์มผ้ากำมะหยี่

and other companies were the unwitting,

และบริษัทอื่นๆ อีกหลายบริษัท

unknowing tenants there.

ก็เช่าตึกนี้อยู่โดยไม่รู้เรื่องนี้เลย

There are just so many examples,

มีตัวอย่างอีกเยอะมากๆ

the horesemeat scandal in Europe,

ข่าวอื้อฉาวเรื่องเนื้อม้าในยุโรป

the Italian mafia, they've used these companies

และมาเฟียในอิตาลี ล้วนใช้บริษัทนิรนามแบบนี้

for decades.

มาหลายทศวรรษแล้ว

The $100 million American Medicare fraud,

การยักยอกเงินร้อยล้านดอลลาร์ ในโครงการประกันสุขภาพเมดิแคร์ของอเมริกา

the supply of weapons to wars around the world

ที่มาของอาวุธในสงครามทั่วโลก

including those

รวมทั้งสงคราม

in Eastern Europe in the early '90s.

ในยุโรปตะวันออกตอนต้นยุค 90 ด้วย

Anonymous companies

เรายังพบอีกว่า

have even come to light

มีบริษัทนิรนามอยู่เบื้องหลัง

in the recent revolution in the Ukraine.

การปฏิวัติครั้งล่าสุดในยูเครน

But, for every case that we and others expose

แต่แม้เราและองค์กรอื่นๆ จะเปิดโปงกรณีเหล่านี้แล้ว

there are so many more that will remain hidden away

ก็ยังมีอีกมากมายหลายกรณีที่ยังถูกปกปิดอยู่

because of the current system.

เพราะระบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

And it's just a simple truth

นั่นเป็นความจริงที่เรียบง่าย

that some of the people responsible for outrageous crimes,

ว่าคนบางคนที่อยู่เบื้องหลังอาชกรรมที่เลวร้าย

for stealing from you and me

คนที่โกงคุณและฉัน

and millions of others,

และคนอีกเป็นล้าน

they are remaining faceless

ยังคงไม่ปรากฏหน้าตา

and they are escaping accountability

และหนีความรับผิดชอบ

and they're doing this with ease,

ไปได้ง่ายดาย

and they're doing it using legal structures.

โดยใช้โครงสร้างทางกฎหมาย

And really, that is unfair.

ซึ่งมันไม่ยุติธรรมจริงๆ นะคะ

Well, you might well ask,

ทีนี้ คุณอาจจะตั้งคำถามว่า

what exactly is an anonymous company,

บริษัทนิรนามคืออะไรกันแน่

and can I really set one up, and use it,

ฉันจะตั้งขึ้นมาสักบริษัทหนึ่ง และใช้มันทำอะไร

without anyone knowing who I am?

โดยไม่มีใครรู้ว่าฉันเป็นใครได้จริงๆ เหรอ?

Well, the answer is, yes you can.

ค่ะ คำตอบคือ ใช่ คุณทำได้

But if you're anything like me,

แต่ถ้าคุณเป็นคนแบบฉัน

you'll want to see some of that for yourself,

คุณจะอยากเห็นเองกับตา

so let me show you.

งั้นฉันจะบอกให้ว่าทำยังไง

Well first you need to work out

ขั้นแรกคุณต้องตัดสินใจ

where you want to set it up.

ว่าจะตั้งบริษัทที่ไหน

Now, at this point you might be imagining

คุณอาจจะจินตนาการถึง

one of those lovely tropical island tax havens

เกาะในเขตร้อนสักเกาะหนึ่ง ที่เป็นสวรรค์แห่งการหลบเลี่ยงภาษี

but here's the thing,

แต่จะบอกให้นะคะ

shockingly,

ที่น่าตกใจคือ

my own hometown, London,

บ้านเกิดของฉันเอง ในลอนดอน

and indeed the U.K.,

ในอังกฤษนี่ล่ะ

is one of the best places in the world

เป็นเมืองที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

to set up an anonymous company.

สำหรับตั้งบริษัทนิรนาม

And the other, even better,

และอีกที่หนึ่งที่ดียิ่งกว่า

I'm afraid that's America.

ฉันเกรงว่า คงเป็นอเมริกา

Do you know, in some states across America

คุณรู้ไหม ในบางรัฐของอเมริกา

you need less identification

หลักฐานแสดงตัวตนที่คุณต้องใช้

to open up a company

ในการเปิดบริษัท

than you do to get a library card,

ยังน้อยกว่าหลักฐานที่ใช้ทำบัตรห้องสมุดเสียอีก

like Delaware,

เช่น รัฐเดลาแวร์

which is one of the easiest places

ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ที่คุณสามารถ

in the world to set up an anonymous company.

ตั้งบริษัทนิรนามได้ง่ายที่สุดในโลก

Okay, so let's say it's America,

เอาล่ะ สมมุติว่าคุณเลือกอเมริกา

and let's say it's Delaware,

และเลือกรัฐเดลาแวร์

and now you can simply go online

ทีนี้ คุณก็แค่เปิดเว็บไซต์ออนไลน์

and find yourself a company service provider.

หาผู้ให้บริการเปิดบริษัทให้คุณ

These are the companies that can set your one up for you,

บริษัทพวกนี้สามารถตั้งบริษัทให้คุณได้

and remember, it's all legal, routine business practice.

เขาทำกันอย่างนี้เป็นปกติ อย่างถูกต้องตามกฎหมายนะคะ

So, here's one,

เอาล่ะ นี่บริษัทหนึ่ง

but there are plenty of others to choose from.

แต่ยังมีอีกมากมายหลายบริษัทให้คุณเลือก

And having made your choice,

พอเลือกได้แล้ว

you then pick what type of company you want

คุณก็เลือกว่าอยากตั้งบริษัทแบบไหน

and then fill in a contact, name and address.

แล้วก็กรอกสัญญา ชื่อ ที่อยู่

But don't worry,

แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ

it doesn't have to be your name.

คุณไม่ต้องใช้ชื่อตัวเองก็ได้

It can be your lawyer's

จะเป็นชื่อทนายความของคุณ

or your service provider's,

ชื่อคนที่ทำเรื่องเปิดบริษัทให้คุณ

and it's not for the public record anyway.

และข้อมูลส่วนนี้ก็ไม่ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะอยู่แล้ว

And then you add the owner of the company.

จากนั้นคุณก็ใส่ชื่อเจ้าของบริษัท

Now this is the key part,

ตรงนี้แหละที่สำคัญ

and again it doesn't have to be you,

คุณไม่ต้องใช้ชื่อตัวเองอีกเช่นกัน

because you can get creative,

คุณสร้างสรรค์ได้เต็มที่

because there is a whole universe out there of nominees

เพราะมีตัวแทน หรือนอมินี (nominees) หลากหลายประเภท

to choose from.

ให้คุณเลือก

And nominees are the people that you

นอมินี คือ คนที่คุณสามารถจ่ายเงินจ้าง

can legally pay to be your company's owner.

อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้เป็นเจ้าของบริษัทของคุณ

And if you don't want to involve anyone else,

ถ้าคุณไม่อยากให้มีคนอื่นมาเกี่ยวข้อง

it doesn't even have to be an actual human being.

คุณไม่ต้องใช้ชื่อคนจริงๆ เลยก็ได้

It could be another company.

คุณจะใช้ชื่อบริษัทอีกบริษัทหนึ่งก็ได้

And then finally,

แล้วสุดท้าย

give your company a name

คุณก็ตั้งชื่อบริษัท

add a few more details and make your payment.

เติมรายละเอียดอีกนิดหน่อย จ่ายเงิน

And then the service provider

แล้วผู้ให้บริการของคุณ

will take a few hours or more to process it.

ก็จะใช้เวลาจัดการต่อ อีกสองสามชั่วโมงหรือมากกว่านั้น

But there you are,

แต่แค่นี้แหละ

in 10 minutes of online shopping

ภายใน 10 นาที เหมือนกับว่าคุณเลือกซื้อของออนไลน์

you can create yourself an anonymous company.

คุณก็สร้างบริษัทนิรนามของคุณเองเสร็จแล้ว

And not only is it easy,

มันไม่ใช่แค่ง่ายสุดๆ

really, really easy and cheap,

และถูกสุดๆ

it's totally legal too.

แต่ยังถูกกฎหมายด้วย

But the fun doesn't have to end there,

แต่ความสนุกยังไม่จบแค่นี้

maybe you want to be even more anonymous.

คุณอาจจะอยากนิรนามมากกว่านี้อีก

Well, that's no problem either.

ไม่มีปัญหาเลย

You can simply keep adding layers,

คุณก็แค่เพิ่มชั้นการเป็นเจ้าของเข้าไป

companies owned by companies.

บริษัทที่มีเจ้าของเป็นอีกบริษัทหนึ่ง

You can have hundreds of layers

จะมีสักร้อยชั้นก็ได้

with hundreds of companies spread across

โดยสร้างบริษัทเป็นร้อยบริษัทกระจายไป

lots of different countries,

ในประเทศต่างๆ มากมาย

like a giant web,

เหมือนเครือข่ายใยแมงมุมยักษ์

each layer adds anonymity.

แต่ละชั้นก็เพิ่มระดับความเป็นนิรนามเข้าไปอีก

Each layer makes it more difficult

และทำให้มันยากขึ้น

for law enforcement and others

ที่ผู้บังคับใช้กฎหมายและคนอื่นๆ

to find out who the real owner is.

จะรู้ได้ว่าใครคือเจ้าของตัวจริง

But whose interests is this all serving?

แต่การทำแบบนี้จะเป็นประโยชน์กับใครล่ะ?

It might be in the interests of the company

อาจจะเพื่อผลประโยชน์ของบริษัท

or a particular individual,

หรือบุคคลสักคนหนึ่ง

but what about all of us, the public?

แล้วพวกเรา คนในสังคมโดยรวมล่ะ?

There hasn't even been a global conversation yet

ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้กันในระดับโลก

about whether it's okay

ว่ามันสมควรหรือไม่

to misuse companies in this way.

ที่จะใช้บริษัทเป็นเครื่องมือ เพื่อผลประโยชน์แบบนี้

And what does it all mean for us?

และมันมีความหมายต่อพวกเราอย่างไร

Well, an example that really haunts me

มีกรณีตัวอย่างอันหนึ่งที่หลอกหลอนฉันมาก

is one I came across recently.

ฉันเพิ่งรู้เรื่องไม่นานมานี้

And it's that of a horrific fire

เกี่ยวกับเหตุการณ์ไฟไหม้ที่น่ากลัวมาก

in a nightclub in Buenos Aires

ในไนท์คลับในกรุงบัวโนส ไอเรส

about a decade ago.

เมื่อสักสิบปีที่แล้ว

It was the night before New Year's Eve.

ในคืนก่อนวันส่งท้ายปีเก่า

Three thousand very happy revelers,

นักดื่มที่กำลังมีความสุขเต็มที่ 3000 คน

many of them teenagers,

หลายคนอายุไม่ถึง 20 ปี

were crammed into a space meant for 1,000.

เบียดเสียดกันอยู่ในพื้นที่สำหรับคนแค่ 1000 คน

And then tragedy struck,

และแล้วโศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้น

a fire broke out

เกิดไฟไหม้

plastic decorations were melting from the ceiling

ของตกแต่งที่เป็นพลาสติก ละลายลงมาจากเพดาน

and toxic smoke filled the club.

ควันพิษกระจายเต็มห้อง

So people tried to escape

ผู้คนพยายามหนี

only to find that some of the fire doors

เพียงเพื่อจะพบว่าประตูหนีไฟบางบาน

had been chained shut.

ถูกล่ามโซ่ล็อกไว้

Over 200 people died.

มีคนเสียชีวิตมากกว่าสองร้อยคน

Seven hundred were injured trying to get out.

อีกเจ็ดร้อยคนบาดเจ็บขณะพยายามหนีออกมา

And as the victims' families and the city and the country

ขณะที่ครอบครัวของเหยื่อ และคนทั้งเมือง และทั้งประเทศ

reeled in shock,

มึนงงด้วยความตกใจสุดขีด

investigators tried to find out who was responsible.

เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน ก็พยายามหาผู้รับผิดชอบ

And as they looked for the owners of the club,

เขาตามหาเจ้าของคลับ

they found instead anonymous companies,

แต่กลับพบแค่บริษัทนิรนาม

and confusion surrounded the identities of those

และความสับสนเกี่ยวกับตัวตน

involved with the companies.

ของคนที่เกี่ยวข้องกับบริษัท

Now ultimately, a range of people were charged

ในที่สุด ก็มีคนกลุ่มหนึ่งถูกจับ

and some went to jail.

และบางคนก็ติดคุก

But this was an awful tragedy,

แต่นี่เป็นโศกนาฏกรรมที่เลวร้าย

and it shouldn't have been so difficult

การค้นหาว่าใครต้องรับผิดชอบ

just to try and find out who was responsible

ต่อการเสียชีวิตของผู้คนเหล่านี้

for those deaths.

มันไม่ควรจะยากเย็นขนาดนี้

Because in an age

เพราะในยุคนี้

when there is so much information

มีข้อมูลมากมาย

out there in the open,

ที่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้

why should this crucial information

ทำไมข้อมูลสำคัญแบบนี้

about company ownership

ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของบริษัท

stay hidden away?

จึงต้องถูกปกปิด?

Why should tax evaders, corrupt government officials,

ทำไมคนที่หลบเลี่ยงภาษี เจ้าหน้าที่รัฐที่คอรัปชั่น

arms traders and more,

นักค้าอาวุธ และอื่นๆ

be able to hide their identities from us, the public?

จึงสามารถปกปิดตัวตนของเขา ไม่ให้เรา คนส่วนรวมในสังคมรู้ได้?

Why should this secrecy be such an accepted business practice?

ทำไมความลับแบบนี้จึงเป็นที่ยอมรับได้ ในวิถีปฏิบัติทางธุรกิจ

Anonymous companies

ตอนนี้ บริษัทนิรนาม

might be the norm right now

อาจเป็นบรรทัดฐานไปแล้ว

but it wasn't always this way.

แต่เมื่อก่อนมันไม่เคยเป็นอย่างนี้

Companies were created

บริษัทถูกสร้างขึ้น

to give people a chance to innovate

เพื่อเปิดโอกาสให้คนสร้างนวัตกรรม

and not have to put everything on the line.

โดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงสูงเกินไป

Companies were created to limit financial risk,

บริษัทถูกสร้างขึ้นเพื่อจำกัดความเสี่ยงทางการเงิน

they were never intended to be used as a moral shield.

ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นเกราะทางศีลธรรม

Companies were never intended to be anonymous,

ไม่ได้มีเจตนารมย์ให้อยู่ในสภาพนิรนาม

and they don't have to be.

และก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสภาพนิรนาม

And so I come to my wish.

ดังนั้น นี่คือพรที่ฉันปรารถนา

My wish is for us to know

ฉันหวัง ให้เราทุกคนได้รู้

who owns and controls companies

ว่าใครเป็นเจ้าของและควบคุมบริษัททั้งหลาย

so that they can no longer be used anonymously

เพื่อไม่ให้บริษัทเหล่านี้ถูกใช้อย่างลับๆ

against the public good.

ในทางที่ขัดต่อผลประโยชน์สาธารณะ

Together let's ignite world opinion,

เรามาร่วมมือกัน จุดประกายความคิดเห็นของคนทั่วโลก

change the law,

เปลี่ยนแปลงกฎหมาย

and launch a new era of openness in business.

และเปิดศักราชใหม่ของความเปิดเผย ตรงไปตรงมาในวงการธุรกิจ

So what might this look like?

แล้วมันจะมีหน้าตาอย่างไร?

Well, imagine if you could go online

ลองจินตนาการว่าคุณสามารถค้นหาออนไลน์

and look up the real owner of a company.

ว่าใครคือเจ้าของที่แท้จริงของบริษัทแห่งหนึ่ง

Imagine if this data were open and free,

จินตนาการว่าข้อมูลนี้เปิดเผยและฟรี

accessible across borders

คนจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้

for citizens and businesses

ไม่ว่าจะเป็นพลเมือง นักธุรกิจ

and law enforcement alike.

และผู้บังคับใช้กฎหมาย

Imagine what a game changer that would be.

จินตนาการว่ามันจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ขนาดไหน

So how are we going to do this?

เอาล่ะ แล้วเราจะต้องทำอย่างไร?

Well, there is only one way.

มีทางเดียวค่ะ

Together, we have to change the law globally

เราต้องร่วมมือกัน เพื่อเปลี่ยนกฎหมายทั่วโลก

to create public registries

เพื่อสร้างฐานข้อมูลทะเบียนสาธารณะ

which list the true owners of companies

ที่มีรายชื่อเจ้าของที่แท้จริงของบริษัททั้งหลาย

and can be accessed by all

ให้ทุกคนเข้าถึงได้

with no loopholes.

ไม่ให้มีช่องโหว่

And yes, this is ambitious,

ใช่ค่ะ นี่เป็นเป้าหมายที่ยากมาก

but there is momentum on this issue,

แต่ก็มีแรงผลักดันทางบวกในเรื่องนี้

and over the years I have seen

หลายปีที่ผ่านมา ฉันได้เห็น

the sheer power of momentum,

พลังของแรงผลักดันจากภาคส่วนต่างๆ

and it's just starting on this issue.

และมันกำลังก่อตัวในกรณีนี้

There is such an opportunity right now.

โอกาสนั้นกำลังมาถึง ณ ขณะนี้

And the TED community

และชุมชน TED

of creative and innovative thinkers and doers

ที่ประกอบด้วยนักคิดและนักปฏิบัติที่สร้างสรรค์

across all of society

จากทุกภาคส่วนของสังคม

could make the crucial difference.

ย่อมสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญได้

You really can make this change happen.

คุณทำให้การเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดขึ้นได้จริงๆ นะคะ

Now, a simple starting point

จุดเริ่มต้นง่ายๆ คือ

is the address behind me

ที่อยู่ข้างหลังฉันนี่

for a Facebook page that you can join now

คือที่หน้าเฟสบุคที่คุณสามารถเข้าร่วม

to support the campaign and spread the word.

เพื่อสนับสนุนโครงการรณรงค์นี้ เผยแพร่มันออกไป

It's going to be a springboard

นี่จะเป็นจุดเริ่มต้น

for our global campaigning.

ของโครงการรณรงค์ระดับโลกของเรา

And the techies among you,

และพวกคุณที่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี

you could really help us create a prototype

คุณจะช่วยได้มากๆ ด้วยการสร้างต้นแบบ

public registry

ของทะเบียนสาธารณะ

to demonstrate what a powerful tool this could be.

เพื่อสาธิตว่าเครื่องมือนี้มีพลังมากแค่ไหน

Campaign groups from around the world

กลุ่มนักรณรงค์จากทั่วโลก

have come together to work on this issue.

ได้มารวมตัวกันเพื่อจัดการกับปัญหานี้

The U.K. government is already on board;

รัฐบาลอังกฤษก็ร่วมมือกับเราแล้ว

it supports these public registries.

ด้วยการสนับสนุนการสร้างทะเบียนสาธารณะ

And just last week,

และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง

the European Parliament came on board

สภาสหภาพยุโรปก็ร่วมมือกับเรา

with a vote 600 to 30 in favor of public registries.

ด้วยคะแนนเสียง 600 ต่อ 30 สนับสนุนให้มีทะเบียนสาธารณะ

That is momentum.

นั่นแหละคือแรงผลักดันที่กำลังก่อตัวขึ้น

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

But it's early days.

แต่นี่เป็นแค่การเริ่มต้น

America still needs to come on board,

เรายังต้องการให้อเมริกาเข้าร่วมโครงการนี้

as do so many other countries.

รวมทั้งประเทศอื่นๆ อีกมากมายด้วย

And to succeed we will all together

เราจะประสบความสำเร็จได้ เราทุกคน

need to help and push our politicians,

จะต้องช่วยกันกระตุ้นนักการเมืองของเรา

because without that,

เพราะหากไม่ได้รับความร่วมมือ

real far-reaching, world-shifting change

การเปลี่ยนแปลงในวงกว้างที่จะพลิกโลก

just isn't going to happen.

ย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้

Because this isn't just about changing the law,

เพราะนี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย

this is about starting a conversation

แต่มันคือการเริ่มต้นบทสนทนา

about what it's okay for companies to do,

ว่าอะไรคือสิ่งที่บริษัททั้งหลายทำได้

and in what ways is it acceptable to use company structures.

และการใช้โครงสร้างบริษัท ในทางใดบ้างที่ถือว่ายอมรับได้

This isn't just a dry policy issue.

นี่ไม่ใช่แค่ประเด็นทางนโยบายที่แห้งแล้ง

This is a human issue

แต่มันเป็นประเด็นเกี่ยวกับมนุษย์

which affects us all.

ซึ่งกระทบพวกเราทุกคน

This is about being on the right side of history.

นี่เกี่ยวกับการเลือกอยู่ข้าง ที่ถูกต้องของประวัติศาสตร์

Global citizens, innovators, business leaders, individuals,

พลเมืองทั่วโลก นักสร้างนวัตกรรม ผู้นำทางธุรกิจ และคนทุกคน

we need you.

เราต้องการคุณ

Together, let's kickstart this global movement.

เรามาร่วมมือกัน เริ่มต้นการเคลื่อนไหวระดับโลกนี้ด้วยกัน

Let's just do it,

มาลงมือกันเถอะค่ะ

let's end anonymous companies.

มาช่วยกันกำจัดบริษัทนิรนามให้หมดไป

Thank you.

ขอบคุณค่ะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)