4 things all great listeners know

Translator: Nichanan Jongyoosuk Reviewer: Supakij Patthanapitoon

It's easy to tell when someone's not paying attention,

เราดูออกได้ง่าย ๆ ว่าใครไม่ตั้งใจฟัง

but it can be surprisingly tricky to know what truly excellent listening looks like.

แต่การดูว่าผู้ฟังที่ดีเป็นอย่างไรนั้น ทำได้ยากกว่าที่คิด

Behavioral scientists have found that good listening

นักพฤติกรรมศาสตร์พบว่าการเป็นผู้ฟังที่ดี

is one of the most important things we can do to improve our relationships,

คือหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราทำได้ เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ก้าวหน้า

develop our worldview, and potentially even change people's minds.

พัฒนามุมมองต่อโลกของเรา และแม้แต่เปลี่ยนใจคนได้

So, what can we do to become better listeners?

ถ้าอย่างนั้น เราจะเป็นผู้ฟังที่ดีขึ้นได้อย่างไร

At its core, listening in a one-on-one conversation is about taking an interest

หลักของการสนทนาแบบซึ่งหน้า คือการสนใจอีกฝ่าย

in another person and making them feel understood.

และทำให้พวกเขารู้สึกว่าเราเข้าใจ สิ่งที่พวกเขาสื่อ

There’s no universally agreed upon definition of high-quality listening,

การฟังที่ดีไม่มีนิยามที่กำหนดขึ้น เป็นหลักสากล

but some recurring features include attentiveness, conveying understanding,

แต่ก็มีการกระทำที่พบได้บ่อย เช่น การให้ความสนใจ การสื่อว่าเข้าใจ

and showing a positive intention towards the speaker.

และการแสดงเจตนาดีต่อผู้พูด

This doesn’t mean you can simply go through the motions—

นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณจะทำท่าทางไปเรื่อยได้

researchers have found that merely smiling and nodding

นักวิจัยพบว่า เพียงการยิ้มและพยักหน้า

at set intervals doesn’t quite work.

ระหว่างการฟังนั้นไม่ได้ผลเท่าไหร่

However, there is something slightly performative about listening

อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่แสดงออกถึงการรับฟังได้

in that it’s important to show you’re doing it.

ซึ่งก็คือการทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าคุณฟังอยู่

So, in addition to actively attending to a speaker’s words,

ดังนั้น นอกจากการสนใจคำพูดของคู่สนทนาแล้ว

good listeners also use questions and body language

ผู้ฟังที่ดีจะถามคำถาม และใช้ภาษากาย

that indicate their understanding and their desire to understand.

ที่สื่อถึงความเข้าใจ และความต้องการที่จะเข้าใจของตนด้วย

This might feel awkward at first,

ช่วงแรก ๆ อาจรู้สึกกระอักกระอ่วน

and what’s most effective might depend on your relationship with the speaker.

และสิ่งที่ได้ผลที่สุด อาจขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณและผู้พูด

But with time and practice you can internalize these basic behaviors.

แต่ด้วยเวลาและการฝึกฝน พฤติกรรมเหล่านี้ก็ติดตัวคุณไปได้

So let’s say a good friend wants to tell you about an issue

สมมติว่าเพื่อนคุณอยากเล่าปัญหา

they’re having with their partner.

ระหว่างเขากับคู่รักให้ฟัง

Before even starting your conversation,

ก่อนที่จะเริ่มบทสนทนา

remove any distractions in the environment.

ให้นำสิ่งรบกวนต่าง ๆ ออกไป

Turn off the TV, take off your headphones and put your phone away— far away.

ปิดโทรทัศน์ ถอดหูฟังออก และวางมือถือของคุณให้ไกล ไกลออกไป

One study showed that even the visible presence of a phone

งานวิจัยหนึ่งพบว่า แม้แต่การมองเห็นมือถือ

made conversations feel less intimate and fulfilling to those involved.

ก็ทำให้ผู้ร่วมสนทนา รู้สึกใกล้ชิดและเติมเต็มกันน้อยลง

Once the conversation begins,

เมื่อเริ่มสนทนา

one of the most important things you can do is also the most obvious—

หนึ่งในสิ่งสำคัญที่คุณทำได้ และต้องทำด้วย นั่นก็คือ

try not to interrupt.

พยายามอย่าขัดจังหวะ

This doesn’t mean you need to stay completely silent.

นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องนั่งเงียบ ๆ เท่านั้น

But if you do interject, look for natural pauses

แต่ถ้าคุณต้องการจะพูด ให้รอจังหวะที่อีกฝ่ายหยุดพัก

to ask open-ended questions that benefit the speaker,

แล้วถามคำถามปลายเปิด ที่เป็นประโยชน์ต่ออีกฝ่าย

not just your curiosity.

ไม่ใช่ถามจากความสงสัยเพียงอย่างเดียว

Questions like “What happened next?” or “How did that make you feel?”

คำถามเช่น “แล้วยังไงต่อ” หรือ “นั่นทำให้คุณรู้สึกยังไง”

confirm that you’re following the story while also helping the speaker

ยืนยันว่าคุณกำลังฟังเรื่องที่เกิดขึ้น และช่วยให้ผู้พูด

dive deeper into their own thoughts.

ได้ดำดิ่งลงไปในความคิดของตนเอง

Another great way to show your understanding is by summarizing

อีกวิธีชั้นยอดในการแสดงความเข้าใจ

what you just heard and asking if you’ve missed anything.

คือการสรุปถึงสิ่งที่ได้ฟัง และถามว่าคุณพลาดอะไรไปหรือไม่

Summaries like this show the speaker that you're truly trying to understand them

การสรุปเช่นนี้ทำให้ผู้พูดรู้ว่า คุณกำลังทำความเข้าใจอยู่จริง ๆ

rather than just waiting for your turn to talk.

ดีกว่ารอให้ถึงตาคุณพูด

Speaking of which, while a good conversation requires back and forth,

พูดถึงเรื่องนั้น แม้ว่าการสนทนาที่ดี จะต้องมีการโต้ตอบกัน

planning out your response while the speaker is talking

แต่การคิดว่าจะตอบอะไร ขณะที่อีกฝ่ายกำลังพูด

is a common way to miss what’s being said.

ก็ทำให้พลาดสิ่งที่อีกฝ่ายพูดได้ง่าย ๆ

So try to stay present and if you lose focus,

ดังนั้น พยายามตั้งใจฟัง และหากคุณเผลอคิดเรื่องอื่น

don't be shy about asking the speaker to repeat what you missed.

อย่าอายที่จะขอให้อีกฝ่าย พูดส่วนที่คุณพลาดไปอีกครั้ง

This might feel embarrassing,

มันอาจฟังดูน่าอาย

but asking for clarification actually shows that you’re committed

แต่การถามเพื่อความกระจ่าง แสดงให้เห็นว่าคุณสนใจ

to understanding.

ที่จะฟัง

Finally, don’t be afraid of silence.

สุดท้าย อย่ากลัวความเงียบ

It’s okay to ask for a moment to formulate your response

การขอเวลาเพื่อคิดคำตอบไม่ใช่เรื่องแย่

and taking a beat to think can help speakers reflect on their speech as well.

และการหยุดคิดยังช่วยให้ อีกฝ่ายได้ทบทวนสิ่งที่ตนพูดไปด้วย

These might seem like small changes, but together they make a big difference.

สิ่งเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่เมื่อรวมกัน ก็ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้

And when people feel heard, they report more satisfaction,

เมื่อรู้สึกว่ามีคนรับฟัง ผู้คนระบุว่ามีความพึงพอใจ

trust, and connection in their relationships.

ความเชื่อมั่น และการเชื่อมถึงกันมากขึ้น ในความสัมพันธ์ของตน

In the workplace, employees who feel heard generally experience less burnout,

ในที่ทำงาน พนักงานที่รู้สึกว่ามีคนรับฟัง โดยทั่วไปแล้ว มีภาวะหมดไฟน้อยลง

and perceive the managers who listened to them more favorably.

และมองผู้จัดการที่รับฟังตนในแง่ดีมากขึ้น

Unfortunately, while it might be easy to listen to some people,

แต่โชคไม่ดี ที่แม้การรับฟังคนบางคน อาจเป็นเรื่องง่าย

it can be hard to muster all this focus and attention

การรวบรวมสมาธิในการฟังกลับทำได้ยาก

if you disagree with or dislike the speaker.

หากคุณไม่เห็นด้วยหรือไม่ชอบผู้พูด

But these situations might actually benefit most from your efforts

แต่สถานการณ์เหล่านี้อาจเกิดผลดีที่สุด หากคุณพยายาม

to listen openly.

เปิดใจฟัง

The theory of psychological reactance suggests that trying to force someone

ทฤษฎีปฏิกิริยาทางจิต กล่าวว่า การบังคับใครบางคน

to change their mind makes them more likely to defend their point of view.

ให้เปลี่ยนความคิด ทำให้เขายึดมั่นในจุดยืนของตนมากกว่าเดิม

However, recent studies suggest that high-quality listening fosters

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยล่าสุดพบว่า การฟังที่ดีนั้นทำให้คนเปิดใจ

open-mindedness by creating a non-judgmental

โดยการสร้างพื้นที่ซึ่งไร้การตัดสิน

and psychologically safe environment.

และปลอดภัยทางจิตใจ

Of course, truly open-minded listening isn’t about changing people’s minds.

แน่นอนว่า การเปิดใจฟังอย่างแท้จริง ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนใจคน

Good listening is not the same as agreeing,

การฟังที่ดีไม่เหมือนกับการเห็นพ้องต้องกัน

and conversations don’t have to end with a happy resolution.

และบทสนทนาไม่จำเป็นต้องจบด้วยดีเสมอไป

But even during a disagreement,

แต่แม้ความเห็นจะไม่ตรงกัน

sometimes being heard is enough to start a deeper conversation.

เพียงการรับฟัง ก็นำไปสู่บทสนทนาที่ลึกซึ้งขึ้นได้