The science of falling in love - Shannon Odell

Translator: Chatchanok Chalothonpises Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

Love is often described as heartwarming, heart-wrenching and even heartbreaking.

ความรักมักถูกนิยามว่าเป็นความอบอุ่นใจ บีบหัวใจ และช้ำใจ

So, what does the brain have to do with it?

แล้วสมองมาเกี่ยวข้องอะไรกับความรัก

Everything!

ทุกอย่าง!

The journey from first spark to last tear is guided by a symphony

การเดินทางจากการปิ๊งปั๊งสู่น้ำตาหยดสุดท้าย ถูกนำโดยการบรรเลง

of neurochemicals and brain systems.

ของสารเคมี ในระบบประสาทและสมอง

5 มีนาคม คุณเผลอเรียกฉันว่าบี (ผึ้ง)

หวังว่าจะเป็นผึ้ง (เพิ่ง) จะรู้ว่ารัก

รวมพลังทีม!!! ว้าว! ยินดีด้วย!!

ฝันดีนะ, บี!! โอ้ยพิมพ์ผิด หมายถึงลี*

ฮ่าฮ่า ฉันชอบนะ

ฝันดี!

20 มีนาคม คุณจับมือฉันดึงขึ้นไป

จนฉันลืมไปเลยว่าจะร่วงหล่น

As you begin to fall for someone,

ขณะที่คุณตกหลุมรักใครสักคน

you may find yourself excessively daydreaming about them

คุณมักพบว่าตัวเองฝันกลางวันถึงเขามากเกินไป

and wanting to spend more and more time together.

และต้องการใช้เวลามากมายด้วยกัน

This first stage of love is what psychologists call infatuation,

ขั้นแรกของความรัก คือสิ่งที่นักจิตวิทยาเรียกว่าความหลงใหล

or passionate love.

หรือความรักใคร่เสน่หา

Your new relationship can feel almost intoxicating,

ความสัมพันธ์ใหม่นี้ ทำให้รู้สึกลุ่มหลงมัวเมา

and when it comes to the brain, that’s not far from the truth.

และเมื่อมาถึงสมอง ความจริงก็เริ่มปรากฏ

Infatuated individuals show increased activation in the ventral tegmental area.

คนที่ลุ่มหลงในรักจะแสดงการทำงานของสมอง บริเวณเวนทรัลเทกเมนทัล

The VTA is the reward-processing and motivation hub of the brain,

สมองส่วนนี้เกี่ยวกับระบบให้รางวัล และเป็นศูนย์กลางแรงจูงใจของสมอง

firing when you do things like eat a sweet treat, quench your thirst,

มันจะทำงานเมื่อคุณกินของหวาน ดื่มน้ำดับกระหาย

or in more extreme cases, take drugs of abuse.

หรือในกรณีที่รุนแรงกว่านั้น คือการเสพยาเสพติด

Activation releases the “feel good” neurotransmitter dopamine,

สมองจะปล่อย “ความรู้สึกดี” ผ่านสารสื่อประสาทโดปามีน

teaching your brain to repeat behaviors in anticipation

สอนให้สมองของคุณทำพฤติกรรมซ้ำ ๆ

of receiving the same initial reward.

เพื่อให้ได้รับรางวัลเหมือนเดิม

This increased VTA activity is the reason love's not only euphoric,

การทำงานเพิ่มขึ้นของสมองส่วนนี้ ทำให้ความรักไม่ใช่แค่ความอิ่มอกอิ่มใจ

but also draws you towards your new partner.

แต่ยังดึงให้คุณ มองหาคู่ครอง

At this first stage, it may be hard to see any faults in your new perfect partner.

ขั้นแรกนี้ ยากจะเห็นข้อบกพร่องของคู่ครอง อันสมบูรณ์แบบของคุณ

This haze is thanks to love’s influence

ต้องขอบคุณอิทธิพลของความรัก กับหมอกที่บดบัง

on higher cortical brain regions.

บริเวณเปลือกสมองส่วนบน

Some newly infatuated individuals show decreased activity

คนที่ตกหลุมรักใหม่ ๆ มักมีกิจกรรมในสมองส่วนคุมการนึกคิด

in the brain’s cognitive center, the prefrontal cortex.

หรือสมองส่วนหน้าลดลง

As activation of this region allows us to engage in critical thought

เพราะการทำงานของสมองส่วนนี้ ทำให้เราคิดอย่างมีวิจารณญาณ

and pass judgment,

และผ่านการตัดสินใจ

it’s not surprising we tend to see new relationships

จึงไม่แปลกที่เรามองทุกอย่าง ในความสัมพันธ์ช่วงแรก

through rose-colored glasses.

เป็นสีชมพู

While this first stage of love can be

แม้ความรักขั้นแรก

an intense rollercoaster of emotions and brain activity,

ทำให้อารมณ์และการทำงานของสมอง เหมือนเล่นรถไฟเหาะ

it typically only lasts a few months,

แต่มันจะคงอยู่เพียงไม่กี่เดือน

making way for the more long-lasting stage of love,

นำไปสู่อีกขั้นของความรักที่ยั่งยืนกว่า

known as attachment, or compassionate love.

เรียกว่าความผูกพัน หรือความรักแบบคู่คิด

10 มิถุนายน คุณอาจไม่ใช่เสียงสูงที่สุดในเพลง

As your relationship develops,

เมื่อความสัมพันธ์พัฒนาไป

you may feel more relaxed and committed to your partner

คุณจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้น และผูกมัดกับคู่ของคุณ

thanks in large part to two hormones: oxytocin and vasopressin.

ต้องขอบคุณฮอร์โมน 2 ตัวใหญ่ๆ ออกซิโทซิน และวาโซเพรสซิน

Known as pair-bonding hormones,

รู้จักกันในชื่อฮอร์โมนสานสัมพันธ์

they signal trust, feelings of social support and attachment.

พวกมันจะส่งสัญญาณความเชื่อใจ กับความรู้สึกสนับสนุนและผูกพัน

In this way, romantic love is not unlike other forms of love,

ทำให้ความรักโรแมนติก ไม่เหมือนกับความรักแบบอื่น ๆ

as these hormones also help bond families and friendships.

เพราะมีฮอร์โมนเหล่านี้ ช่วยเชื่อมความเป็นครอบครัวและมิตรภาพ

Further, oxytocin can inhibit the release of stress hormones,

นอกจากนี้ ออกซิโทซินยังยับยั้ง การปล่อยฮอร์โมนความเครียด

which is why spending time with a loved one can feel so relaxing.

ทำให้เวลาเราใช้เวลากับคนที่รัก ถึงรู้สึกผ่อนคลาย

As early love's suspension of judgment fades,

ความรักมักระงับการตัดสินถูกผิดให้จางหาย

it can be replaced by a more honest understanding and deeper connection.

เพราะมันถูกแทนที่ด้วยความซื่อสัตย์ เชื่อใจ และความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้น

Alternatively, as your rose-colored glasses begin to lose their tint,

อีกด้าน ความรักที่เคยทำให้โลกเป็นสีชมพู ก็เริ่มทำให้คุณตาบอด

problems in your relationship may become more evident.

ปัญหาในความสัมพันธ์ของคุณ ก็เริ่มชัดเจนขึ้น

29 ตุลาคม เธอร้องไห้จนตาแดง

หรือเป็นเพราะไฟ?

No matter the reason a relationship ends,

ไม่ว่าความสัมพันธ์นั้นจะจบลงด้วยเหตุผลใด

we can blame the pain that accompanies heartbreak on the brain.

เราโทษความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น เพราะอกหักกับสมองได้

The distress of a breakup activates the insular cortex,

ความทุกข์จากการเลิกราเกิดขึ้น เพราะสมองส่วนอินซูลาร์ คอร์เท็กซ์

a region that processes pain—

บริเวณที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด

both physical, like spraining your ankle,

ทั้งทางร่างกาย เช่น เวลาข้อเท้าแพลง

as well as social, like the feelings of rejection.

และทางสังคม เช่น เวลาที่โดนปฏิเสธ

As days pass, you may find yourself once again daydreaming about

เมื่อวันผ่านไป คุณอาจพบว่าตัวเอง มักฝันกลางวันถึงเรื่องนั้น

or craving contact with your lost partner.

หรือปรารถนาจะคุยกับคู่ของคุณที่จากไป

The drive to reach out may feel overwhelming,

แรงขับก็เป็นเพราะคุณรู้สึกท่วมท้น

like an extreme hunger or thirst.

เหมือนเวลาที่หิวข้าวหรือหิวน้ำมาก ๆ

When looking at photos of a former partner,

เมื่อมองภาพถ่ายของแฟนเก่า

heartbroken individuals again show increased activity in the VTA,

คนที่อกหักมักแสดงการทำงานของสมอง ส่วนเวนทรัลเทกเมนทัลมากขึ้น

the motivation and reward center that drove feelings of longing

ศูนย์กลางสมองของแรงขับและรางวัล ทำให้คุณรู้สึกโหยหา

during the initial stages of the relationship.

เช่นเดียวกับในช่วงแรกของความสัมพันธ์

This emotional whirlwind also likely activates your body’s alarm system,

อารมณ์ที่โหมเหมือนพายุนี้คล้ายกับ การเปิดระบบเตือนภัยของร่างกาย

the stress axis, leaving you feeling shaken and restless.

ความเครียดทำให้คุณรู้สึก ไม่มั่นคงและกระสับกระส่าย

As time goes on,

และเมื่อเวลาผ่านไป

higher cortical regions which oversee reasoning and impulse control,

สมองคอร์ทีคัลส่วนบน ที่ควบคุมเหตุผลและแรงกระตุ้น

can pump the brakes on this distress and craving signaling.

จะเหยียบเบรกคุมความเครียด และสัญญาณความปรารถนา

Given that these regions are still maturing

ทำให้สมองบริเวณนี้ยังคงเติบโต

and making connections through adolescence,

และส่งต่อไปยังช่วงแรกรุ่น

it's no wonder that first heartbreak can feel particularly agonizing.

เลยไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมอกหักแรก ๆ เราถึงเจ็บปวดมากเป็นพิเศษ

6 พฤศจิกายน - ทำความสะอาดห้อง 7 พฤศจิกายน - นอน

8 พฤศจิกายน - เรียน

Activities like exercise, spending time with friends,

กิจกรรมอย่างการออกกำลังกาย ใช้เวลาอยู่กับเพื่อน ๆ

or even listening to your favorite song

หรือแม้กระทั่งฟังเพลงที่ชอบ

can tame this heartbreak stress response,

ช่วยให้ตอบสนองกับความเครียด จากการอกหักได้ดีขึ้น

while also triggering the release of feel good neurotransmitter dopamine.

ขณะเดียวกันก็กระตุ้นการปล่อย สารสื่อประสาทอย่างโดปามีนให้รู้สึกดี

And given time and the support,

การให้เวลาและประคับประคองตัวเอง

most can heal and learn from even the most devastating heartbreak.

ช่วยเยียวยาและทำให้คุณเรียนรู้ จากอาการอกหักแสนสาหัสได้ที่ดีที่สุด

31 ธันวาคม ถึงเวลาของแผนการใหม่