How blue jeans were invented | Moments of Vision 10 - Jessica Oreck

กางเกงยีนส์ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาได้อย่างไร | วินาทีแห่งวิสัยทัศน์ 10 - เจซซิก้า ออเร็ค (Jessica Oreck)

Translator: Tanyaluk Trivittayakan Reviewer: Vera Chicharito

In a Moment of Vision...

"ในวินาทีแห่งวิสัยทัศน์..."

It's the height of the Gold Rush, 1850s California.

ช่วงที่ยุคตื่นทองในแคลิฟอร์เนีย มาถึงจุดขีดสุดเมื่อทศวรรษที่ 1850

A young tailor named Jacob Davis notices that his gold-mining customers

ช่างตัดเสื้อหนุ่มนามว่า เจค็อบ เดวิส สังเกตว่าลูกค้าผู้เป็นนักแสวงทอง

are wearing through pants faster than they can patch them.

ใส่กางเกงแล้วขาด เร็วกว่าที่พวกเขาจะปะซ่อมให้ทันเสียอีก

In a moment of vision,

ในวินาทีแห่งวิสัยทัศน์นั้นเอง

Davis adds reinforcing metal rivets to his pant design,

เดวิสจึงเพิ่มหมุดย้ำโลหะ เข้าไปในกางเกงที่เขาออกแบบ

strategically placing them at points of strain,

โดยเลือกตอกลงไปที่จุดรวมตะเข็บ อย่างมีชั้นเชิง

like the corners of pockets and the base of the fly.

เช่น บริเวณกระเป๋ากางเกง และเป้ากางเกง

The enhanced trousers are soon in high demand.

กางเกงที่ถูกปรับแต่งขึ้นใหม่นี้ เป็นที่ต้องการอย่างสูงในใม่ช้า

In order to take out a patent on the highly successful riveted pant,

เพื่อที่จะจดสิทธิบัตรกางเกงตอกหมุดโลหะ ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

Davis needs a business partner.

เดวิสจำเป็นต้องมีหุ้นส่วนทางธุรกิจ

He approaches the supplier of his cloth,

เขาได้เชิญผู้ขายวัตถุดิบ (supplier) ของเสื้อผ้าเขา

a dry goods merchant by the name of Levi Strauss.

พ่อค้าขายสินค้าทั่วไปผู้มีนามว่า "ลีวาย สเตราส์ (Levi Strauss)"

Strauss and Davis begin manufacturing pants out of denim,

สเตราส์และเดวิส จึงเริ่มผลิตกางเกงจากผ้าเดนิม

and continue to modify the design to accommodate their customers.

และได้ปรับดีไซน์ให้ตรงกับความต้องการ ลูกค้าของพวกเขา

It is rumored that the removal of the crotch rivet

เป็นที่เล่าลือกันว่า เหตุที่มีการตัดหมุดย้ำโลหะที่เป้าออกไป

was due to a complaint from the miners

เป็นเพราะบรรดานักแสวงทองบ่นกันว่า

that squatting too near a campfire in their typical underwear-free fashion

การนั่งขัดสมาธิใกล้แคมป์ไฟ โดยใส่กางเกง แนบเนื้อสัมผัสตามสมัยนิยมในเวลานั้น

could be painful.

อาจทำให้เจ็บตัวเอาได้

Jeans continued to be modified and diversified over the years,

กางเกงยีนส์ยังคงถูกปรับแต่งเรื่อยมา และมีหลากหลายสไตล์ให้เลือก

eventually becoming an everyday fashion item

จนกระทั่งกลายมาเป็น ไอเท็มสุดล้ำในชีวิตประจำวัน

for both work and play by the 1960s.

เหมาะสำหรับทั้งสวมใส่ไปทำงาน และทำกิจกรรมช่วงยุคทศวรรษที่ 1960

Today, 96% of American consumers own at least one, if not many, pairs of jeans.

ปัจจุบัน 96% ของผู้บริโภคชาวอเมริกัน จะมียีนส์กันอย่างน้อย 1 ตัว หรือมากกว่านั้น