How do lungs work? - Emma Bryce

มหัศจรรย์ของปอด - เอมม่า ไบรซ์ (Emma Bryce)

Translator: Pongsakorn Puavaranukroh Reviewer: Pakawat Wongwaiyut

Many of us have hundreds of things on our minds at any moment,

พวกเราหลายคนมีเรื่องร้อยแปด ให้ต้องคิดอยู่ตลอดเวลา

often struggling to keep track of everything we need to do.

แถมยังต้องพยายามจดจ่อ ในทุกเรื่องสำคัญที่ต้องทำ

But fortunately,

แต่โชคดีที่

there's one important thing we don't have to worry about remembering:

มีเรื่องสำคัญอันนึง ที่เราไม่ต้องกลัวว่าจะลืมทำ

breathing.

การหายใจ

When you breathe, you transport oxygen to the body's cells to keep them working

เมื่อคุณหายใจ คุณได้นำออกซิเจน เข้าสู่เซลล์ในร่างกายเพื่อให้มันทำงานได้

and clear your system of the carbon dioxide

และนำคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากระบบ

that this work generates.

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น

Breathing, in other words, keeps the body alive.

การหายใจ จะพูดในอีกแบบ มันทำให้ร่างกายยังคงมีชีวิต

So, how do we accomplish this crucial and complex task

แล้วเราทำงานที่สำคัญและ ซับซ้อนนี้ให้ลุล่วงได้อย่างไร

without even thinking about it?

โดยที่ไม่แม้แต่จะต้องไปคิดถึงมัน?

The answer lies in our body's respiratory system.

คำตอบนั้นอยู่ที่ ระบบการหายใจของร่างกายเรา

Like any machinery, it consists of specialized components,

เหมือนเครื่องจักรทั่วไป มันประกอบไปด้วยหน่วยเฉพาะต่างๆ

and requires a trigger to start functioning.

และยังต้องมีสวิตซ์ สำหรับเริ่มต้นการทำงาน

Here, the components are the structures and tissues making up the lungs,

นี่คือ โครงสร้างเนื้อเยื่อต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นเป็นปอด

as well as the various other respiratory organs connected to them.

รวมทั้งอวัยวะช่วยในการหายใจอื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับมัน

And to get this machine moving, we need the autonomic nervous system,

การจะให้ระบบนี้ทำงาน จำเป็นต้องมีระบบประสาทอัตโนมัติ

our brain's unconscious control center for the vital functions.

ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมการหน้าที่สำคัญ ที่เกิดขึ้นในระดับนอกอำนาจจิตใจ

As the body prepares to take in oxygen-rich air,

ขณะที่ร่างกายเตรียมพร้อมจะสูด เอาอากาศที่เต็มไปด้วยออกซิเจน

this system sends a signal to the muscles around your lungs,

ระบบนี้จะส่งสัญญาณ ไปยังกล้ามเนื้อรอบๆ ปอด

flattening the diaphragm

ทำให้กระบังลมคลายตัวหย่อนลง

and contracting the intercostal muscles between your ribs

และกล้ามเนื้อระหว่างซึ่โครง (intercostal muscle) เกิดการหดตัว

to create more space for the lungs to expand.

เพื่อเพิ่มที่ว่างสำหรับการขยายตัวของปอด

Air then wooshes into your nose and mouth,

จากนั้นอากาศก็จะไหลเข้าทางจมูกและปาก

through your trachea,

ไปยังหลอดลม (trachea)

and into the bronchi that split at the trachea's base,

ต่อไปยังแขนงหลอดลม (bronchi) ที่แยกออกเป็น 2 ส่วนตรงปลายหลอดลม

with one entering each lung.

ที่แต่ละอันแยกเข้าสู่ปอดแต่ละข้าง

Like tree branches, these small tubes divide into thousands of tinier passages

หลอดลมเล็กๆ แตกแขนงแยกย่อย เล็กลงไปเรื่อยๆ เหมือนกิ่งต้นไม้

called bronchioles.

เรียกว่า หลอดลมฝอย (bronchiole)

It's tempting to think of the lungs as huge balloons,

มันชวนคิดไปว่า ปอดนั้นก็เหมือนกับลูกโป่งใหญ่ๆ

but instead of being hollow, they're actually spongy inside,

แต่แทนที่จะกลวงๆ จริงๆแล้วภายในมันคล้ายกับฟองน้ำ

with the bronchioles running throughout the parenchyma tissue.

ที่มีหลอดลมฝอยแทรกอยู่ทั่วไปในเนื้อปอด

At the end of each bronchiole is a little air sack called an alveolus,

ที่ปลายหลอดลมฝอยแต่ละอัน จะมีถุงลมปอด (alveolus)

wrapped in capillaries full of red blood cells

ที่ถูกล้อมรอบด้วยหลอดเลือดฝอย ที่เต็มไปด้วยเม็ดเลือดแดง

containing special proteins called hemoglobin.

ที่ภายในมีโปรตีนพิเศษ ชื่อว่า ฮีโมโกลบิน (hemoglobin)

The air you've breathed in fills these sacks,

อากาศที่คุณได้หายใจเข้าไป จะเข้ามาจนเต็มถุงลมปอดเหล่านี้

causing the lungs to inflate.

ทำให้ปอดขยายตัว

Here is where the vital exchange occurs.

นี่เอง ที่การแลกเปลี่ยนสำคัญได้เกิดขึ้น

At this point, the capillaries are packed with carbon dioxide,

ณ จุดนี้ หลอดเลือดฝอย จะเต็มไปด้วยคาร์บอนไดออกไซด์

and the air sacks are full of oxygen.

ส่วนในถุงลมปอดจะเต็มไปด้วยออกซิเจน

But due to the basic process of diffusion,

ซึ่งตามหลักการแพร่ (diffusion) ของสสาร

the molecules of each gas want to move to a place

โมเลกุลของก๊าซแต่ละชนิดต้องเคลื่อนที่ไปยัง

where there's a lower concentration of their kind.

จุดที่มีความเข้มข้นของก๊าซนั้นๆน้อยกว่า

So as oxygen crosses over to the capillaries,

ดังนั้น ออกซิเจนจะข้ามไปยังหลอดเลือดฝอย

the hemoglobin grabs it up,

ถูกฮีโมโกลบินจับเอาไว้

while the carbon dioxide is unloaded into the lungs.

ขณะที่ คาร์บอนไดออกไซด์ จะถูกคายเข้าสู่ปอด

The oxygen-rich hemoglobin is then transported throughout the body

ฮีโมโกลบินที่เต็มไปด้วยออกซิเจน ก็จะถูกส่งไปทั่วร่างกาย

via the bloodstream.

ผ่านกระแสเลือด

But what do our lungs do with all that carbon dioxide?

แล้วปอดของเราทำอย่างไรกับ คาร์บอนไดออกไซด์เหล่านั้น

Exhale it, of course.

หายใจเอามันออกไปแน่นอน

The autonomic nervous system kicks in again,

ถึงตาของระบบประสาทอัตโนมัติ ที่จะทำงานอีกครั้ง

causing the diaphragm to ball up,

ทำให้กระบังลมหดตัวดันขึ้นไป

and the intercostal muscles to relax,

และกล้ามเนื้อระหว่างซี่โครงคลายตัว

making the chest cavities smaller and forcing the lungs to compress.

ทำให้ปริมาตรช่องอกเล็กลง จนปอดทั้งสองข้างหดตัวลง

The carbon dioxide-rich air is expelled, and the cycle begins again.

คาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากจะถูกขับออก และวงจรการหายใจก็จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง

So that's how these spongy organs keep our bodies efficiently supplied with air.

นี่ก็คือขั้นตอนการทำงานของปอด ที่ทำให้ร่างกายเรามีออกซิเจนอย่างเพียงพอ

Lungs inhale and exhale between 15 and 25 times a minute,

ปอดหายใจเข้าและออก ประมาณ 15-25 ครั้ง/นาที

which amounts to an incredible 10,000 liters of air each day.

ซึ่งเป็นอากาศปริมาณถึง 10,000 ลิตรในแต่ละวัน

That's a lot of work, but don't sweat it.

นั่นดูเป็นงานที่หนัก แต่อย่าพึ่งกังวลไป

Your lungs and your autonomic nervous system

ทั้งปอดและระบบประสาทอัตโนมัติของคุณ

have got it covered.

เอาอยู่ ไม่ต้องห่วง