Why you should make useless things | Simone Giertz

Translator: Paded Chotikunchon Reviewer: Danai Chatyingyongkun

Hello.

สวัสดีค่ะ

My name is Simone.

ฉันชื่อ ซีโมน

You know how people tell you if you get nervous when onstage,

คุณรู้ว่า ใคร ๆ จะบอกคุณอย่างไร ถ้าคุณเป็นกังวลเมื่ออยู่บนเวที

picture people in the audience naked?

นึกภาพคนในหมู่ผู้ฟังที่เปลือยกายหรือ

Like it's this thing that's supposed to make you feel better.

คล้าย ๆ กับสิ่งที่ควร จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น

But I was thinking --

แต่ฉันคิดดู

picturing all of you naked in 2018 feels kind of weird and wrong.

นึกภาพพวกคุณทั้งหมดเปลือยกายอยู่ ในปีค.ศ. 2018 นั้นออกจะแปลกและผิด

Like, we're working really hard on moving past stuff like that,

คือแบบ เราทำงานหนักจริง ๆ ที่จะการก้าวผ่านของแบบนั้น

so we need a new method of dealing with

ดังนั้นเราต้องมีวิธีการจัดการใหม่

if you get nervous onstage.

หากคุณรู้สึกกังวลบนเวที

And I realized that what I'd really like

และฉันตระหนัก ว่าจริง ๆ แล้วฉันชอบ

is that I can look at you as much as you're looking at me --

ที่ฉันสามารถมองพวกคุณได้ เท่ากับที่พวกคุณกำลังมองฉัน

just to even things out a little bit.

ทำให้เท่าเทียมกันขึ้นมาหน่อย

So if I had way more eyeballs,

ดังนั้น ถ้าฉันมีลูกตาเพิ่มขึ้นมาอีกเยอะ

then we'd all be really comfortable, right?

เราทุกคนจะ รู้สึกสบายใจขึ้นใช่ไหม

So in preparation for this talk, I made myself a shirt.

ดังนั้น ในการเตรียมตัวเพื่อการพูดคุยนี้ ฉันได้ตัดเสื้อเองนะ

(Rattling)

(เสียงขลุกขลิก)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

It's googly eyes.

นี่คือลูกตาปลอม

It took me 14 hours

ฉันใช้เวลา 14 ชั่วโมง

and 227 googly eyes to make this shirt.

และลูกตาปลอม 227 ชิ้นเพื่อให้ได้เสื้อตัวนี้

And being able to look at you as much as you're looking at me

และสามารถมองพวกคุณได้ เท่ากับที่พวกคุณกำลังมองหาที่ฉัน

is actually only half of the reason I made this.

นี่เป็นจริงเพียงครึ่งเดียว ของเหตุผลที่ฉันทำเสื้อตัวนี้

The other half is being able to do this.

อีกครึ่งหนึ่งคือจะได้ทำแบบนี้

(Googly eyes rattle)

(ดวงตากลิ้งสั่นรัว)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

So I do a lot of things like this.

คือ ฉันทำเรื่องทำนองนี้เยอะมาก

I see a problem and I invent some sort of solution to it.

ฉันเห็นปัญหาและฉันประดิษฐ์ วิธีการแก้ปัญหานั้น

For example, brushing your teeth.

ตัวอย่างเช่น การแปรงฟัน

Like, it's this thing we all have to do, it's kind of boring,

นี่เป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องทำ มันออกจะน่าเบื่อ

and nobody really likes it.

และไม่มีใครชอบจริง ๆ

If there were any seven-year-olds in the audience,

ถ้ามีเด็กอายุเจ็ดขวบในกลุ่มผู้ฟัง

they'd be like, "Yes!"

พวกเด็กคงจะ "ใช่!"

So what about if you had a machine that could do it for you?

แล้วถ้าคุณมี เครื่องที่สามารถให้คุณได้ล่ะ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

I call it ...

ฉันเรียกมันว่า ...

I call it "The Toothbrush Helmet."

ฉันเรียกมันว่า "หมวกนิรภัยแปรงสีฟัน"

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Robot arm buzzing)

(แขนหุ่นยนต์ครางพึมพำ)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

So my toothbrush helmet is recommended by zero out of 10 dentists,

หมวกนิรภัยแปรงสีฟันของฉัน ถูกแนะนำโดยศูนย์จากทันตแพทย์ 10 คน

and it definitely did not revolutionize the world of dentistry,

และแน่นอนว่า มันไม่ได้ ปฏิวัติวงการทันตกรรม

but it did completely change my life.

แต่มันก็ได้เปลี่ยนชีวิตของฉันอย่างสิ้นเชิง

Because I finished making this toothbrush helmet three years ago

เพราะฉันทำหมวกนิรภัยแปรงสีฟันนี้สำเร็จ เมื่อสามปีที่ผ่านมา

and after I finished making it,

และหลังจากที่ฉันทำเสร็จ

I went into my living room and I put up a camera,

ฉันเดินไปห้องนั่งเล่น และฉันตั้งกล้อง

and I filmed a seven-second clip of it working.

และฉันถ่ายคลิปการ ทำงานเจ็ดวินาที

And by now,

และถึงตอนนี้

this is a pretty standard modern-day fairy tale

นี่เป็นออกจะเป็นมาตรฐาน เทพนิยายสมัยใหม่

of girl posting on the internet,

ของหญิงสาวที่โพสต์บนอินเทอร์เน็ต

the internet takes the girl by storm,

อินเทอร์เน็ตถล่มผู้หญิงคนนี้

thousands of men voyage into the comment sections

ด้วยผู้ชายเป็นพันๆ คน ที่เดินทางมายังส่วนคอมเมนต์

to ask for her hand in marriage --

เพื่อขอเธอแต่งงาน

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

She ignores all of them, starts a YouTube channel

เธอเมินชายทั้งหมด เริ่มต้นช่อง YouTube

and keeps on building robots.

และยังคงสร้างหุ่นยนต์ต่อไป

Since then, I've carved out this little niche for myself on the internet

ตั้งแต่นั้นมา ฉันได้สร้างส่วนแบ่งเล็กๆ นี้ ให้กับตัวเองในโลกอินเทอร์เน็ต

as an inventor of useless machines,

ในฐานะนักประดิษฐ์เครื่องไร้ประโยชน์

because as we all know,

เพราะเราทุกคนรู้ว่า

the easiest way to be at the top of your field

วิธีที่ง่ายที่สุดในการเป็นที่หนึ่ง ในสายงานของคุณ

is to choose a very small field.

คือการเลือกสายงานที่เล็กมาก

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

So I run a YouTube channel about my machines,

ดังนั้น ฉันจึงเปิดช่อง YouTube เกี่ยวกับเครื่องจักรของฉัน

and I've done things like cutting hair with drones --

และฉันได้ทำสิ่งต่างๆ เช่น การตัดผมด้วยโดรน

(Drone buzzes)

(โดรนคราง)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Drone crashes)

(โดรนชน)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Drone buzzes)

(โดรนคราง)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

To a machine that helps me wake up in the morning --

ไปจนถึงเครื่องที่ช่วยให้ฉัน ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า

(Alarm)

(เสียงเตือน)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Video) Simone: Ow!

(วิดีโอ) ซีโมน: โอ้!

To this machine that helps me chop vegetables.

เครื่องนี้ ที่ช่วยฉันหั่นผัก

(Knives chop)

(มีดสับ)

I'm not an engineer.

ฉันไม่ใช่วิศวกร

I did not study engineering in school.

ฉันไม่ได้เรียนวิศวกรรมในวิทยาลัย

But I was a super ambitious student growing up.

แต่ฉันก็เป็นนักเรียนที่เติบโต และมีความทะเยอทะยานมาก

In middle school and high school, I had straight A's,

ในมัธยมต้นและมัธยมปลาย ฉันได้เกรด A ล้วน ๆ

and I graduated at the top of my year.

และฉันก็เรียนจบได้ที่หนึ่ง

On the flip side of that,

แต่อีกด้านหนึ่ง

I struggled with very severe performance anxiety.

ฉันต่อสู้กับอาการวิตกกังวลขั้นรุนแรง

Here's an email I sent to my brother around that time.

นี่คืออีเมลที่ฉันส่ง ถึงพี่ชายของฉันในช่วงเวลานั้น

"You won't understand how difficult it is for me to tell you,

"พี่ไม่เข้าใจว่ามันยากแค่ ไหนที่ฉันจะบอกให้พี่ฟัง

to confess this.

ที่จะสารภาพ

I'm so freaking embarrassed.

ฉันรู้สึกขายหน้าเป็นบ้า

I don't want people to think that I'm stupid.

ฉันไม่ต้องการให้คน คิดว่าฉันโง่

Now I'm starting to cry too.

ตอนนี้ ฉันก็เริ่มร้องไห้ด้วย

Damn."

ตายละ"

And no, I did not accidentally burn our parents' house down.

ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้เผลอเผาบ้าน พ่อแม่ของพวกเรา

The thing I'm writing about in the email and the thing I'm so upset about

สิ่งที่ฉันเขียนในอีเมล และสิ่งที่ฉันอารมณ์เสีย

is that I got a B on a math test.

คือฉันสอบคณิตได้เกรด B

So something obviously happened between here and here.

ดังนั้น บางอย่างเกิดขึ้นอย่างเห็น ได้ชัดในระหว่างนี้ และที่นี่

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

One of those things was puberty.

หนึ่งในสิ่งเหล่านั้นคือ วัยแรกรุ่น

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Beautiful time indeed.

ที่จริง เป็นช่วงเวลาที่สวยงาม

But moreover,

แต่ยิ่งไปกว่านั้น

I got interested in building robots,

ฉันมีความสนใจในการสร้างหุ่นยนต์

and I wanted to teach myself about hardware.

และฉันอยากเรียนรู้ด้วยตัวเอง เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์

But building things with hardware, especially if you're teaching yourself,

แต่การสร้างสิ่งต่างๆ ด้วยฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณเรียนด้วยตัวเอง

is something that's really difficult to do.

เป็นสิ่งที่จริง ๆ แล้ว ยากมาก

It has a high likelihood of failure

เป็นไปได้สูงที่จะล้มเหลว

and moreover,

และยิ่งกว่านั้น

it has a high likelihood of making you feel stupid.

มีความเป็นไปได้สูง ทำให้คุณรู้สึกโง่เง่า

And that was my biggest fear at the time.

และนั่นคือความกลัวที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดของฉันในตอนนั้น

So I came up with a setup that would guarantee success 100 percent of the time.

ดังนั้น ฉันจึงตั้งต้นด้วย อัตราความสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์

With my setup, it would be nearly impossible to fail.

ด้วยการตั้งต้นของฉัน แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะล้มเหลว

And that was that instead of trying to succeed,

นั่นก็คือ แทนที่จะทำให้สำเร็จ

I was going to try to build things that would fail.

ฉันกำลังจะพยายามสร้าง สิ่งที่จะล้มเหลว

And even though I didn't realize it at the time,

และถึงแม้ว่าฉันไม่ได้ ตระหนักถึงมันในเวลานั้น

building stupid things was actually quite smart,

การสร้างสิ่งที่โง่เขลา เป็นสิ่งที่ค่อนข้างเก๋จริง ๆ

because as I kept on learning about hardware,

เพราะเมื่อฉันเรียนรู้ เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ต่อไปเรื่อย ๆ

for the first time in my life,

เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉัน

I did not have to deal with my performance anxiety.

ฉันไม่ต้องจัดการกับ ความวิตกกังวลเรื่องผลงานของฉัน

And as soon as I removed all pressure and expectations from myself,

และทันทีที่ฉันเอาความกดดัน และความคาดหวังทั้งหมดออกไปจากตัวเอง

that pressure quickly got replaced by enthusiasm,

ความกดดันนั้นถูกแทนที่ด้วย ความกระตือรือร้นอย่างรวดเร็ว

and it allowed me to just play.

และมันทำให้ฉันเพียงแค่เล่นสนุก

So as an inventor,

ในฐานะนักประดิษฐ์

I'm interested in things that people struggle with.

ฉันสนใจในสิ่งต่าง ๆ ที่ผู้คนกำลังประสบปัญหา

It can be small things or big things or medium-sized things

อาจเป็นสิ่งเล็ก ๆ หรือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ หรือสิ่งของขนาดกลาง

and something like giving a TED talk presents this whole new set of problems

และบางอย่างเช่นที่ TED talk ได้แสดงให้เห็นถึงปัญหาใหม่ ๆ

that I can solve.

ที่ฉันสามารถแก้ได้

And identifying a problem is the first step in my process

และการระบุปัญหา ก็เป็นขั้นตอนแรก ในกระบวนการของฉัน

of building a useless machine.

ที่จะสร้างเครื่องไร้ประโยชน์

So before I came here,

ดังนั้น ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่

I sat down and I thought of some of the potential problems I might have

ฉันนั่งลงและฉันคิดถึงปัญหา บางอย่างที่อาจเกิดขึ้น ที่ฉันอาจ

in giving this talk.

หยิบยกมาพูดวันนี้

Forgetting what to say.

การลืมสิ่งที่จะพูด

That people won't laugh --

ผู้คนจะไม่หัวเราะ

that's you.

นั่นคือพวกคุณ

Or even worse,

หรือแย่ไปกว่านั้น

that you'll laugh at the wrong things --

คุณจะหัวเราะผิดที่

that was an OK part to laugh at,

นั่นคือส่วนหนึ่งที่ให้หัวเราะได้

thank you.

ขอบคุณค่ะ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Or that when I get nervous, my hands start shaking

หรือว่า เมื่อฉันกังวล มือของฉันเริ่มสั่น

and I'm really self-conscious about it.

และฉันเองก็รู้ตัวดีเกี่ยวกับเรื่องนี้

Or that my fly has been open this entire time

หรือว่าเป้ากางเกงของฉัน เปิดอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมา

and all of you noticed but I didn't,

และพวกคุณก็สังเกตเห็น แต่ฉันไม่รู้

but it's closed so we're all good on that one.

แต่เนื่องจากว่ามันปิดอยู่ เราจึงไม่มีปัญหากับเรื่องนี้

But one thing I'm actually really nervous about is my hands shaking.

แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันกังวลจริง ๆ คือกังวลเกี่ยวกับการที่มือของฉันสั่น

I remember when I was a kid,

ฉันจำได้ว่า ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก

giving presentations in school,

เมื่อต้องนำเสนองานที่โรงเรียน

I would have my notes on a piece of paper,

ฉันมีแผ่นกระดาษบันทึกย่อ

and I would put a notebook behind the paper

และฉันจะวางโน้ตบุ๊ก หลังกระดาษ

so that people wouldn't be able to see the paper quivering.

เพื่อให้คนไม่สามารถ เห็นกระดาษที่สั่น

And I give a lot of talks.

และฉันก็พูดไปหลายที่มาก

I know that about half of you in the audience are probably like,

ฉันรู้ว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของ กลุ่มผู้ฟังอาจจะเป็นแนว

"Building useless machines is really fun,

"สร้างเครื่องที่ไร้ประโยชน์สนุกจริง ๆ

but how is this in any way or form a business?"

แต่นี่จะสร้างธุรกิจได้ อย่างไรกัน"

And giving talks is a part of it.

และการพูดคุยเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้

And the arrangers always put out a glass of water for you onstage

และผู้จัดเตรียมแก้วน้ำให้ คุณบนเวทีเสมอ

so you have something to drink if you get thirsty,

เพื่อให้คุณมีบางอย่างไว้ดื่ม เผื่อคุณกระหายน้ำ

and I always so badly want to drink that water,

และฉันก็อยากจะดื่มน้ำนั่นจริง ๆ

but I don't dare to pick the glass up

แต่ฉันไม่กล้าที่จะหยิบแก้วขึ้นมา

because then people might be able to see that my hands are shaking.

เพราะผู้คนอาจจะเห็นว่า มือของฉันกำลังสั่น

So what about a machine that hands you a glass of water?

งั้น เครื่องที่ส่งแก้วน้ำให้คุณล่ะ

Sold to the nervous girl in the googly-eye shirt.

ขายให้กับสาวขี้กังวล ที่สวมเสื้อเชิ้ตลูกตาปลอม

Actually, I need to take this off because I have a thing --

จริงๆ แล้วฉันต้องถอดออก เพราะฉันมีสิ่ง -

(Googly eyes rattle)

(ดวงตาสั่นรัว)

Oh.

โอ้

(Clanking)

(เสียงกลุกกลิก)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

I still don't know what to call this,

ฉันยังไม่ทราบว่า จะเรียกสิ่งนี้อย่างไร

but I think some sort of "head orbit device,"

แต่ฉันคิดประมาณว่า "อุปกรณ์โคจรรอบหัว"

because it rotates this platform around you

เพราะมันหมุน ฐานนี้รอบตัวคุณ

and you can put anything on it.

และคุณสามารถใส่อะไรก็ได้

You can have a camera; you can get photos of your entire head.

คุณสามารถมีกล้อง คุณจะได้รูปถ่ายรอบหัวของคุณ

Like it's really -- it's a very versatile machine.

นี่จริงๆ แล้ว เป็นเครื่องที่สารพัดประโยชน์มาก

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

OK, and I have --

เอาละ แล้วฉันได้

I mean, you can put some snacks on it, for example,

ฉันหมายความว่า คุณสามารถใส่ ขนมบางอย่างไว้ได้ เป็นต้น

if you want to.

ถ้าคุณต้องการ

I have some popcorn here.

ฉันมีข้าวโพดคั่วที่นี่

And you just put a little bit like that.

และคุณก็ใส่เพียงเล็กน้อยแบบนั้น

And then you want to --

แล้วคุณต้องการ

there's some sacrifices for science --

มีการเสียสละบางอย่างเพื่อวิทยาศาสตร์

just some popcorn falling on the floor.

ข้าวโพดคั่วหล่นลงบนพื้น

Let's do the long way around.

ลองไปอีกทางละกัน

(Robot buzzes)

(หุ่นยนต์คราง)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And then you have a little hand.

แล้วคุณมีมือน้อย

You need to adjust the height of it,

คุณจำเป็นต้องปรับความสูงของมัน

and you just do it by shrugging.

และคุณก็ทำได้โดยการยักไหล่

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

It has a little hand.

มันมีมือเล็กๆ

(Hand thwacks)

(มือฟาดลง)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

I just bumped my mic off,

ฉันเพิ่งชนไมโครโฟน

but I think we're all good.

แต่ฉันคิดว่า เราทำได้ดีเลยทีเดียว

OK, also I need to chew this popcorn,

เอาละ ฉันต้องเคี้ยวข้าวโพดคั่วนี่

so if you guys could just clap your hands a little bit more --

คือ ถ้าพวกคุณเพียงแค่ปรบมือต่ออีกนิดหน่อย

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

OK, so it's like your own little personal solar system,

เอาละ มันก็เหมือนคุณมีระบบสุริยะเล็กๆ ที่เป็นของคุณเอง

because I'm a millennial,

เพราะฉันเป็นคนรุ่นมิลเลเนียล

so I want everything to revolve around me.

ดังนั้น ฉันต้องการให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวฉัน

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Back to the glass of water, that's what we're here for.

กลับไปที่แก้วน้ำ นั่นคือสิ่งที่เรามาอยู่ที่นี่

So, I promise -- I mean, it still has --

ฉันสัญญา ฉันหมายความว่า มันยังคงมี

it doesn't have any water in it,

ไม่ได้มีน้ำในนั้น

I'm sorry.

ฉันขอโทษ

But I still need to work on this machine a little bit

แต่ฉันยังต้องทำงาน กับเครื่องจักรนี้ต่ออีกนิด

because I still need to pick up the glass and put it on the platform,

เพราะฉันยังคงต้องหยิบแก้ว และวางไว้บนฐาน

but if your hands are shaking a little bit,

แต่ถ้ามือของคุณ กำลังสั่นเล็กน้อย

nobody's going to notice

ก็ยังคงไม่มีใครสังเกตเห็น

because you're wearing a very mesmerizing piece of equipment.

เพราะคุณกำลังสวมใส่ อุปกรณ์ที่น่าทึ่งชิ้นนี้

So, we're all good.

ดังนั้นเราทั้งหมดก็ยังโอเค

OK.

เอาละ

(Robot buzzes)

(หุ่นยนต์คราง)

(Singing)

(ร้องเพลง)

Oh no, it got stuck.

โอ้ไม่นะ มันติด

Isn't it comforting that even robots sometimes get stage fright?

มันเป็นเรื่องทำให้สบายใจขึ้น ที่แม้แต่หุ่นยนต์ยังตื่นเวที

It just gets stuck a little bit.

มันติดอยู่นิดหน่อย

It's very human of them.

เป็นแบบมนุษย์จริง ๆ

Oh wait, let's go back a little bit,

เดี๋ยวรอหน่อย ให้กลับไปสักหน่อย

and then --

และก็

(Glass falls)

(แก้วตก)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Isn't it a beautiful time to be alive?

ไม่ใช่เวลาที่ยอดเยี่ยม ที่จะมีชีวิตอยู่หรอกหรือ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

So as much as my machines can seem like simple engineering slapstick,

แม้ว่าเครื่องของฉันอาจดูเหมือน งานทางวิศวกรรมธรรมดา ๆ

I realize that I stumbled on something bigger than that.

ฉันรู้ว่า ฉันสะดุด กับสิ่งที่ใหญ่กว่านั้น

It's this expression of joy and humility that often gets lost in engineering,

นี่คือการแสดงออกความสุขและ ความอ่อนน้อมถ่อมตนที่มักสูญไปในโลกวิศวกรรม

and for me it was a way to learn about hardware

และสำหรับฉัน มันเป็นวิธี เรียนรู้เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์

without having my performance anxiety get in the way.

โดยไม่ให้ความวิตกกังวล เรื่องผลงานเข้ามาขัดขวาง

I often get asked if I think I'm ever going to build something useful,

ฉันมักจะถูกถามว่า เคยสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์มาบ้างไหม

and maybe someday I will.

และบางที สักวันหนึ่งฉันจะทำ

But the way I see it,

แต่ฉันก็คิดว่า

I already have

ฉันได้ทำแล้ว

because I've built myself this job

เพราะฉันสร้างงานนี้ขึ้นมาเอง

and it's something that I could never have planned for,

และเป็นสิ่งที่ฉัน ไม่เคยวางแผนมาก่อน

or that I could --

หรือคิดว่าจะทำได้

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

It's something that I could never have planned for.

เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคย วางแผนไว้มาก่อน

Instead it happened just because I was enthusiastic about what I was doing,

แต่มันเกิดขึ้นเพียงเพราะ ฉันกระตือรือร้นในสิ่งที่ฉันกำลังทำ

and I was sharing that enthusiasm with other people.

และฉันก็กำลังแบ่งปันความกระตือรือร้นนี้ ให้กับคนอื่น

To me that's the true beauty of making useless things,

สำหรับฉัน นั่นคือความงามที่แท้จริง ของการทำสิ่งที่ไร้ประโยชน์

because it's this acknowledgment

เพราะนี่คือการรับรู้ว่า

that you don't always know what the best answer is.

คุณสามารถรู้ได้ตลอดว่า คำตอบที่ดีที่สุดคืออะไร

And it turns off that voice in your head

และมันปิดเสียงนั้นในหัวของคุณ

that tells you that you know exactly how the world works.

ที่บอกคุณว่า คุณรู้ดีว่า โลกนั้นดำเนินไปอย่างไร

And maybe a toothbrush helmet isn't the answer,

และบางที หมวกกันน็อคแปรงสีฟัน ก็ไม่ใช่คำตอบ

but at least you're asking the question.

แต่อย่างน้อย คุณก็ได้ตั้งคำถามแล้ว

Thank you.

ขอบคุณ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)