Bono: The good news on poverty (Yes, there's good news)

Translator: Joseph Geni Reviewer: Morton Bast

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Bank Light

Chris Anderson asked me if I could put the last 25 years

คริส แอนเดอร์สัน (Chris Anderson) ขอให้ผมจะสรุปเรื่องราวใน 25 ปีที่ผ่านมา

of anti-poverty campaigning into 10 minutes for TED.

ที่เกี่ยวกับการรณรงค์ต่อต้านความยากจน ภายใน 10 นาที ในการบรรยายที่ TED

That's an Englishman asking an Irishman to be succinct.

นั่นมันคนอังกฤษขอให้คนไอริชอย่าเยิ่นเย้อชัดๆเลย

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

I said, "Chris, that would take a miracle."

ผมบอกว่า "คริส สงสัยจะต้องพึ่งปาฎิหาริย์แล้วล่ะ"

He said, "Bono, wouldn't that be a good use of your messianic complex?"

เขาบอกผมว่า "โบโน่ มันจะไม่ดีหรอ ที่คุณจะได้ใช้ความสามารถที่พระเจ้าประทานเทพๆของคุณ"

So, yeah.

อ่าฮะ

Then I thought, let's go even further than 25 years.

จากนั้นผมก็คิด เอาให้มันยิ่งกว่า 25 ปีไปเลย

Let's go back before Christ, three millennia,

ย้อนกลับไปยุคก่อนพระเยซู สามพันปีมาแล้ว

to a time when, at least in my head, the journey for justice,

ตอนที่ จากที่ผมจำได้ การเดินทางเพื่อความยุติธรรม

the march against inequality and poverty really began.

การเดินขบวนต่อต้านความความไม่เสมอภาค และความยากจน ได้กำเนิดขึ้นจริงๆ

Three thousand years ago,

สามพันปีก่อน

civilization just getting started on the banks of the Nile,

อารยธรรมเพิ่งจะก่อตัวขึ้นบนฝั่งแม่น้ำไนล์

some slaves, Jewish shepherds in this instance,

ทาสบางคน ในกรณีนี้ คนเลี้ยงแกะขาวยิว

smelling of sheep shit, I guess,

ตัวเหม็นสาบแกะ ผมเดานะครับ

proclaimed to the Pharaoh, sitting high on his throne,

พูดกับฟาโรห์ผู้เสวยราชย์ ทรงบันลังก์สูงศักดิ์

"We, your majesty-ness, are equal to you."

"พระองค์ผู้ทรงอาชญา เรากับท่านนั้นเสมอภาคกัน"

And the Pharaoh replies, "Oh, no.

และฟาโรห์ก็ได้เอ่ยกลับไป "โอ้ ไม่ๆ

You, your miserableness, have got to be kidding."

แก เจ้าตัวน่าสังเวช นี่มาล้อเล่นอะไรกับข้า"

And they say, "No, no, that's what it says here

และพวกเขาก็บอกว่า "ไม่ ไม่ มันบอกอยู่ตรงนี้ไงท่าน

in our holy book."

ในพระคัมภีร์(หนังสือ)ศักสิทธิ์ของเรา"

Cut to our century, same country, same pyramids,

ตัดมายังศตรรวษของเรา ประเทศเดิม ปิรมิดอันเดิม

another people spreading the same idea

คนอีกกลุ่มกำลังเผยแพร่ความคิดเดียวกัน

of equality with a different book.

ที่เกี่ยวกับความเท่าเทียม ด้วยหนังสืออีกเล่ม

This time it's called the Facebook.

คราวนี้ หนังสือเล่มที่ว่าคือ "เฟสบุ๊ค"

Crowds are gathered in Tahrir Square.

ฝูงชนเข้ามารวมตัวกันที่ จัตุรัส ทาเรียร์ (Tahrir Square)

They turn a social network from virtual to actual,

พวกเขาเปลี่ยนสังคมออนไลน์จากภาพเป็นการกระทำ

and kind of rebooted the 21st century.

และเป็นเหมือนกับการปลุกศตวรรษที่ 21 ขึ้นมาอีกครั้ง

Not to undersell how messy and ugly

ไม่ใช่เพื่อกดความสำคัญ ของความโกลาหลและอัปลักษณ์

the aftermath of the Arab Spring has been,

หลังเหตุการณ์ อาหรับสปริง (Arab Spring)

neither to oversell the role of technology,

ไม่ใช่เพื่อยกยอ บทบาทของเทคโนโลยี

but these things have given a sense of what's possible

แต่สิ่งเหล่านี้ได้ให้เราได้ตระหนักถึงสิ่งที่เป็นไปได้

when the age-old model of power, the pyramid,

เมื่อสัญลักษณ์แห่งอำนาจยุคเก่า ดังเช่นปิรมิด

gets turned upside down, putting the people on top

ถูกคว่ำตีลังกา นำผู้คนขึ้นสู่ยอด

and the pharaohs of today on the bottom, as it were.

และฟาโรห์แห่งยุคสู่เบื้องล่าง ดังที่มันเป็น

It's also shown us that something as powerful

มันได้แสดงให้เราเห็นว่า สิ่งหนึ่ง ที่มีอำนาจมากพอๆกับ

as information and the sharing of it can challenge inequality,

ข้อมูลและการบอกต่อแบ่งปัน สามารถต่อกรกับความไม่เสมอภาค

because facts, like people,

เพราะว่าความจริง เหมือนกับผู้คน

want to be free, and when they're free,

มันต้องการเป็นอิสระ และเมื่อพวกเขาเป็นไท

liberty is usually around the corner,

เสรีภาพก็อยู่ไม่ไกลเกินคว้า

even for the poorest of the poor --

แม้ว่าเขาจะจนแสนจนเพียงใด

facts that can challenge cynicism

ความจริงที่จะสามารถต่อกรกับคติหยามโลก

and the apathy that leads to inertia,

และความเฉยเมยที่นำไปสู่ความเฉื่อยชา

facts that tell us what's working and,

ความจริงที่บอกพวกเราว่าสิ่งใดที่ได้ผล

more importantly, what's not, so we can fix it,

และที่สำคัญไปกว่านั้น สิ่งใดที่ไม่ได้ผล เราจึงจะได้ซ่อมมัน

facts that if we hear them and heed them could help us

ความจริงที่ถ้าเราได้รับฟังและเอาใจใส่ จะสามารถช่วยเรา

meet the challenge that Nelson Mandela made

ได้พบกับสิ่งที่ เนลสัน แมนเดลา ได้ลุกขึ้นท้าทาย

back in 2005,

เมื่อปี 2005

when he asked us to be that great generation

เมื่อเขาได้ร้องขอให้เราเป็นคนในยุคแห่งความเป็นเลิศ

that overcomes that most awful offense to humanity,

ที่จะเอาชนะ การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่น่าพรั่นพรึงที่สุด

extreme poverty,

ความยากจนแร้นแค้น

facts that build a powerful momentum.

ความจริงที่สร้างแรงผลักดันต่อเนื่องอันทรงพลัง

So I thought, forget the rock opera,

ดังนั้น ผมคิด เลิกสนใจร๊อคโอเปร่า

forget the bombast, my usual tricks.

เลิกสนใจสำนวนฟุ้งเฟื่องที่เป็นกลวิธีปกติของผม

The only thing singing today would be the facts,

สิ่งเดียวที่ผมจะขับร้องในวันนี้คือ ข้อเท็จจริง

for I have truly embraced by inner nerd.

เพราะว่า ผมได้สวมกอดความเป็นเนิร์ดในตัวผม

So exit the rock star.

ดังนั้น ออกจากการเป็นดาราเพลงร๊อค

Enter the evidence-based activist, the factivist.

เข้าสู่การเป็น นักปฏิบัติการที่อิงหลักฐาน หรือในนาม นักปฎิบัติการข้อเท็จจริง

Because what the facts are telling us

เพราะว่า สิ่งที่ข้อเท็จจริงกำลังบอกเราอยู่ก็คือ

is that the long, slow journey,

การเดินทางที่เนิ่นนานนั้น

humanity's long, slow journey of equality,

การเดินทางเพื่อความเท่าเทียมกันของมนุษย์ชาติ

is actually speeding up.

กำลังเร่งความเร็วขึ้น

Look at what's been achieved.

ดูสิ่งที่เราทำสำเร็จกันแล้วสิครับ

Look at the pictures these data sets print.

ดูภาพของข้อมูลเหล่านี้สิครับ

Since the year 2000, since the turn of the millennium,

ตั้งแต่ปี 2000 ต้งแต่ช่วงเปลี่ยนสหัสวรรษ

there are eight million more AIDS patients

มีผู้ป่วยโรคเอดส์มากกว่าเดิม 8 ล้านคน

getting life-saving antiretroviral drugs.

ที่ได้รับการช่วยชีวิตด้วยยาต้านไวรัส

Malaria: There are eight countries in sub-Saharan Africa

มาลาเรีย มี 8 ประเทศในซับซาฮาร่าแอฟริกา

that have their death rates cut by 75 percent.

ที่มีอัตราการตายของพวกเขาลดลง 75 เปอร์เซนต์

For kids under five, child mortality, kids under five,

สำหรับเด็กๆอายุต่ำกว่า 5 ปี อัตราการเสียชีวิต

it's down by 2.65 million a year.

ลดลงไปที่ 2.65 ล้านต่อปี

That's a rate of 7,256 children's lives saved each day.

นั่นหมายถึง เด็ก 7,256 ชีวิตได้รับการช่วยเหลือต่อวัน

Wow. Wow. (Applause)

ว้าว ว้าว (เสียงปรบมือ)

Let's just stop for a second, actually, and think about that.

เราลองหยุดสักวินาที ลองมาคิดถึงกันดู

Have you read anything anywhere in the last week

คุณได้อ่านอะไรสักอย่างสักแห่งเมื่อสัปดาห์ก่อนหรือเปล่า

that is remotely as important as that number? Wow.

ที่มันมีความสำคัญใกล้เคียงกับตัวเลขนี้ ว้าว!

Great news. It drives me nuts

ข่าวใหญ่ มันทำผมคลั่งเลยครับ

that most people don't seem to know this news.

คนส่วนใหญ่เหมือนจะไม่ทราบข่าวดีนี้

Seven thousand kids a day. Here's two of them.

เด็กเจ็ดพันคนต่อวัน นี่เป็นสองคนในนั้น

This is Michael and Benedicta,

นี่คือ ไมเคิล และ เบเนดิคตา

and they're alive thanks in large part

และพวกเขามีชีวิตอยู่ ต้องส่งคำขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง

to Dr. Patricia Asamoah -- she's amazing --

ไปยัง ดร. แพทริเซีย แอซาโมห์ เธอช่างน่าทึ่ง

and the Global Fund, which all of you financially support,

และโครงการ Global Fund ซึ่งคุณทุกคนได้ให้การสนับสนุนด้านการเงิน

whether you know it or not.

ไม่ว่าคุณจะทราบหรือไม่ก็ตาม

And the Global Fund provides antiretroviral drugs

และ โครงการ Global Fund นี้ ได้ให้ยาต้านไวรัส

that stop mothers from passing HIV to their kids.

ที่ยับยั้งการติดต่อของเชื้อ เอชไววี จากแม่สู่ลูก

This fantastic news didn't happen by itself.

ข่าวดีเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยตัวของมันเอง

It was fought for, it was campaigned for,

มันได้มาจากการต่อสู้ มันได้มาจากการรณรงค์

it was innovated for.

มันได้มาจากการสรรค์สร้าง

And this great news gives birth to even more great news,

และข่าวดีนี้ ได้ให้กำเนิดข่าวที่ดียิ่งกว่านั้น

because the historic trend is this.

เพราะว่า ตามแนวโน้มทางประวัติศาสตร์มันเป็นอย่างนี้ครับ

The number of people living in back-breaking,

จำนวนของผู้คนที่อาศัยอยู่ในภาวะอดอยากปากแห้ง

soul-crushing extreme poverty has declined

ภาวะสุดยากไร้ กำลังลดลง

from 43 percent of the world's population in 1990

จาก 43 เปอร์เซนของประชากรโลกในปี 1990

to 33 percent by 2000

เหลือที่ 33 เปอร์เซนต์เมื่อปี 2000

and then to 21 percent by 2010.

และจากนั้น 21 เปอร์เซนต์เมื่อปี 2010

Give it up for that. (Applause)

ปรบมือหน่อยครับ (เสียงปรบมือ)

Halved. Halved.

ไชโย ไชโย

Now, the rate is still too high -- still too many people

ทีนี้ อัตราการเสียงชีวิตมันยังสูงเกินไป ยังมีคนมากเกินไป

unnecessarily losing their lives.

ที่ต้องเสียชีวิตอย่างไม่มีเหตุอันควร

There's still work to do.

ยังมีงานที่เราต้องทำ

But it's heart-stopping. It's mind-blowing stuff.

แต่นี่มันให้หัวใจเกือบหยุดเต้น ทำเอาจิตแทบกระเจิง

And if you live on less than $1.25 a day,

และถ้าคุณมีชีวิตอยู่ด้วยเงินน้อยกว่า 1.25 ดอลล่าห์ต่อวัน

if you live in that kind of poverty,

ถ้าคุณใช้ชีวิตอย่างยากจนเช่นนั้น

this is not just data.

นี่มันไม่ใช่แค่ข้อมูล

This is everything.

มันคือทุกสิ่งทุกอย่าง

If you're a parent who wants the best for your kids -- and I am --

ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ ผู้ที่อยากให้ลูกๆได้สิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งผมก็เช่นกัน

this rapid transition is a route out of despair and into hope.

การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ เป็นหนทางที่นำพวกเขาออกจากความทุกข์ไปสู่ความหวัง

And guess what? If the trajectory continues,

และทราบอะไรไหมครับ ถ้าแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป

look where the amount of people living on $1.25 a day

คิดดูสิว่า จำนวนคนที่มีชีวิตอยู่ได้ ด้วยเงิน 1.25 ดอลลาห์ต่อวัน

gets to by 2030.

จะเหลืออยู่เท่าไร เมื่อถึงปี 2030

Can't be true, can it?

ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย ใช่ไหมครับ

That's what the data is telling us. If the trajectory continues,

นั่นคือสิ่งที่ข้อมูลบอกเรา ถ้าแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป

we get to, wow, the zero zone.

เราจะไปยังจุดที่จำนวนของคนจนเป็นศูนย์ ว้าว

For number-crunchers like us,

สำหรับนักสถิติอย่างพวกเรา

that is the erogenous zone,

นั่นมันเป็นโซนไวสัมผัส

and it's fair to say that I am, by now,

และมันคงไม่ผิดที่จะบอกว่า ตอนนี้

sexually aroused by the collating of data.

ผมรู้สึกซู่ซ่ามากจากข้อมูลโดยรวมนี้

So virtual elimination of extreme poverty,

การกำจัดความยากจนแร้งแค้นที่ได้แสดงให้เห็น

as defined by people living on less than $1.25 a day,

โดยการตีความจากคนที่ใช้ชีวิตอยู่ ด้วยเงินต่ำกว่า 1.25 ดอลลาห์ต่อวัน

adjusted, of course, for inflation from a 1990 baseline.

แน่นอน มันได้มีการปรับให้เข้ากับภาวะเงินเฟ้อ จากค่าพื้นฐานในปี 1990

We do love a good baseline.

เราชอบ ค่าพื้นฐานดีๆครับ

That's amazing.

มันน่าที่งครับ

Now I know that some of you think this progress

ทีนี้ ผมทราบว่า คุณบางคนคงคิดว่าความก้าวหน้านี้

is all in Asia or Latin America or

มันอยู่แค่ในเอเชีย หรือ ลาตินอเมริกา หรือ

model countries like Brazil --

ประเทศแบบอย่าง เช่น บราซิล

and who doesn't love a Brazilian model? --

และใครจะไม่ชอบ (นาย/นาง)แบบ บราซิล จริงไหมครับ

but look at sub-Saharan Africa.

แต่ลองดูที่ซับซาอาราแอฟริกา

There's a collection of 10 countries, some call them the lions,

มีกลุ่มประเทศ 10 ประเทศ บ้างก็เรียกพวกเขารวมๆว่า "สิงห์" (lions)

who in the last decade have had a combination

ที่ในสิบปีที่ผ่านมามีทั้ง

of 100 percent debt cancellation,

การหมดหนี้คิดเป็น 100%

a tripling of aid, a tenfold increase in FDI --

ความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นสามเท่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้นสิบเท่า

that's foreign direct investment --

FDI ย่อมาจาก Foreign Direct Investment นะครับ

which has unlocked a quadrupling of domestic resources -- that's local money --

ซึ่งได้ปลดปล่อยกำลังเงินในประเทศมากถึงสี่เท่า --เงินท้องถิ่นนะครับ--

which, when spent wisely -- that's good governance --

ซึ่งเมื่อใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดแล้ว --โดยรัฐบาลดีๆ--

cut childhood mortality by a third,

จะลดการเสียชีวิตของเด็กๆลงได้หนึ่งในสาม

doubled education completion rates,

เพิ่มอัตราการจบการศึกษาได้สองเท่า

and they, too, halved extreme poverty,

และพวกเขาก็เช่นกัน ที่จะได้หั่นความยากจนออกไปครี่งหนึ่ง

and at this rate, these 10 get to zero too.

และด้วยอัตรานี้ 10 ประเทศนี้ก็จะมีคนยากจนเป็น 0 เช่นกัน

So the pride of lions

ดังนั้น ความทระนงของฝูงสิงห์

is the proof of concept.

คือบทพิสูจน์ของแนวคิดนี้

There are all kinds of benefits to this.

สิ่งนี้นำมาซึ่งประโยชน์หลายด้านครับ

For a start, you won't have to listen

เป็นต้นว่า คุณจะได้ไม่ต้องฟัง

to an insufferable little jumped-up Jesus like myself.

คนที่รับไม่ได้จนต้องออกมาตั้งตัวเป็นพระเยซูองค์น้อยอย่างผม

How about that? (Applause)

ว่าไงครับ (เสียงปรบมือ)

And 2028, 2030? It's just around the corner.

และปี 2028 หรือ 2030 มันก็อีกไม่นานแล้ว

I mean, it's about three Rolling Stones farewell concerts away.

ผมหมายถึง มันก็ประมาณว่า จัดคอนเสริตอำลาของวงโรลริ่ง สโตน อีกสามครั้งเอง

(Laughter) I hope. I'm hoping.

(เสียงหัวเราะ) ผมหวังว่านะครับ หวังว่า

Makes us look really young.

ทำให้เรารู้สึกเด็กไปเลย

So why aren't we jumping up and down about this?

ดังนั้น สำหรับเรื่องนี้ ทำไมเราจะไม่ร้องแรกแหกกระเชอกันล่ะครับ

Well, the opportunity is real, but so is the jeopardy.

ความเป็นไปได้มันมีอยู่จริง แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน

We can't get this done until we really accept

เราจะไม่มีวันทำให้งานนี้เสร็จลุล่วงได้ จนกว่าเราจะยอมรับจริงๆ

that we can get this done.

ว่าพวกเราสามารถทำได้

Look at this graph.

ดูกราฟนี่สิครับ

It's called inertia. It's how we screw it up.

มันเรียกว่า ความเฉื่อย ครับ นี่แหละที่จะทำเราย่อยยับ

And the next one is really beautiful.

และสิ่งถัดไปเป็นสิ่งที่สวยงามจริงๆครับ

It's called momentum.

มันเรียกว่า แรงกระตุ้นสมดุล

And it's how we can bend the arc of history

และนี่แหละที่เราจะสามารถดัดเส้นโค้งประวัติศาสตร์

down towards zero,

ให้ไปจรดอยู่ที่เลขศูนย์

just doing the things that we know work.

แค่ทำในสิ่งที่เรารู้ว่ามันได้ผล

So inertia versus momentum.

ฉะนั้น มันเป็นเรื่องของ ความเฉื่อย สู้กับ แรงกระตุ้น

There is jeopardy, and of course,

มันมีความเสี่ยงครับ และแน่นอน

the closer you get, it gets harder.

ยิ่งใกล้จุดหมายเข้าเท่าไร มันยิ่งยากขึ้นเท่านั้น

We know the obstacles that are in our way

เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งกีดขวาง

right now, in difficult times.

ในขณะนี้ ในยามยาก

In fact, today in your capital, in difficult times,

ที่จริงแล้ว วันนี้ ในเมืองหลวงของคุณ ในยามยากนี้

some who mind the nation's purse want to cut

คนบางคนที่ดูแลกระเป๋าเงินของชาติ

life-saving programs like the Global Fund.

อยากที่จะตัดงบโครงการดั่งเช่น the Global Fund

But you can do something about that.

แต่คุณสามารถแสดงพลังได้

You can tell politicians

คุณสามารถบอกนักการเมือง

that these cuts [can cost] lives.

ว่าการตัดงบในครั้งนี้ เป็นเหมือนการตัดชีวิต

Right now today, in Oslo as it happens,

วันนี้ ณ ขณะนี้ใน กรุงออสโลว์

oil companies are fighting to keep secret

บริษัทน้ำมันทั้งหลาย กำลังต่อสู้เพื่อที่จะป้องกันความลับจากรัฐบาล

their payments to governments

เรื่องรายจ่ายของพวกเขา

for extracting oil in developing countries.

จากการสกัดน้ำมันในประเทศที่กำลังพัฒนา

You can do something about that too.

คุณสามารถแสดงพลังได้

You can join the One Campaign,

คุณสามารถร่วมกับโครงการ One Campaign

and leaders like Mo Ibrahim, the telecom entrepreneur.

และผู้นำเช่น โม อิบราอิม นักลงทุนด้านการสื่อสาร

We're pushing for laws that make sure that at least some

พวกเราพยายามผลักดันกฎหมาย ที่จะทำให้แน่ใจได้ว่า อย่างน้อยๆ

of the wealth under the ground

ขุมทรัพย์ใต้ดินบางส่วน

ends up in the hands of the people living above it.

จะไปถึงมือของคนที่อาศัยอยู่บนพื้นที่นั่น

And right now, we know

และขณะนี้ เรารู้ว่า

that the biggest disease of all

โรคที่ร้ายแรงมากที่สุด

is not a disease. It's corruption.

ไม่ใช่เชื้อโรค มันคือการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง

But there's a vaccine for that too.

แต่มันก็มีวัคซีนสำหรับสิ่งนี้เช่นกัน

It's called transparency, open data sets,

มันเรียกว่า ความโปร่งใส การเปิดเผยข้อมูล

something the TED community is really on it.

สิ่งหนี่งที่สังคม TED มีบทบาทอย่างมาก

Daylight, you could call it, transparency.

ความโปร่งใส่ คุณจะเรียกก็ได้ว่ามันเป็น แสงตะวัน

And technology is really turbocharging this.

และเทคโนโลยีก็จะส่งแรงขับเคลื่อนแบบเทอร์โบให้มัน

It's getting harder to hide if you're doing bad stuff.

มันยากขึ้นเรื่อยๆที่จะปิดบัง ถ้าคุณกำลังทำอะไรแย่ๆ

So let me tell you about the U-report,

ดังนั้น ให้ผมเล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับ ยูรีพอร์ต (U-report)

which I'm really excited about. It's 150,000 millennials

ซึ่งผมตื่นเต้นกับมันจริงๆ คนยุคสหัสวรรษ 150,000 คน

all across Uganda, young people

คนหนุ่มสาว ทั่วทั้ง อูกันดา

armed with 2G phones, an SMS social network

ติดอาวุธ โทรศัพท์ 2G และ เครือข่าย SMS

exposing government corruption

เผชิญหน้ากับการฉ้อฉลโกงกินของรัฐบาล

and demanding to know what's in the budget

และเรียกร้องต้องการทราบว่า มีโครงการอะไรอยู่ในงบประมาณ

and how their money is being spent.

และเงินได้ถูกจัดสันไปใช้อย่างไร

This is exciting stuff.

นี่เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น

Look, once you have these tools,

ดูสิครับ เมื่อคุณมีเครื่องมือเหล่านี้

you can't not use them.

คุณไม่สามารถที่จะไม่ใช้มันได้

Once you have this knowledge, you can't un-know it.

เมื่อคุณมีความรู้นี้แล้ว คุณไม่สามารถจะทำเป็นไม่รู้มันได้

You can't delete this data from your brain,

คุณไม่สามารถลบข้อมูลนี้ออกจากสมองคุณได้

but you can delete the cliched image

แต่คุณสามารถลบภาพที่ชินตา

of supplicant, impoverished peoples

ของผู้ที่วิงวอน ผู้ยากไร้อนาถา

not taking control of their own lives.

ที่ไม่สามารถพี่งพายังชีพตัวเองได้

You can erase that, you really can,

คุณสามารถลบล้างสิ่งนั้นได้ คุณทำได้จริงๆครับ

because it's not true anymore. (Applause)

เพราะว่า มันไม่ใช่ความจริงอีกต่อไปแล้ว (เสียงปรบมือ)

It's transformational.

มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้

2030? By 2030, robots,

ปี 2030 หรือ ภายในปี 2030

not just serving us Guinness, but drinking it.

หุ่นยนต์ จะไม่ได้มาเทเบียร์ให้เรา แต่จะดื่มด้วย

By the time we get there,

เมื่อเราไปถึงจุดนั้น

every place with a rough semblance of governance

การปกครองที่โดยคร่าวๆแล้วมีลักษณะคล้ายกัน

might actually be on their way.

อาจจะกำลังเกิดขึ้นจริงๆในทุกหนทุกแห่ง

So I'm here to -- I guess we're here

ดังนั้น ผม และผมก็คาดว่าพวกเรา มาที่นี่

to try and infect you with this virtuous, data-based virus,

เพื่อที่จะพยายามและทำให้คุณติดไวรัสฐานข้อมูลแห่งกุศล

the one we call factivism.

ซึ่งมันเป็นตัวที่เราเรียกว่า การเคลื่อนไหวด้วยความจริง (factivism)

It's not going to kill you.

มันไม่ฆ่าคุณหรอกครับ

In fact, it could save countless lives.

ที่จริงแล้ว มันอาจช่วยชีวิตได้อีกมากมาย

I guess we in the One Campaign would love you

ผมว่า พวกเราในโครงการ One Campaign อยากจะให้คุณ

to be contagious, spread it, share it, pass it on.

แพร่กระจาย ขยายวงกว้าง แบ่งปัน ส่งมันต่อกันไป

By doing so, you will join us and countless others

จากการที่ทำเช่นนี้ คุณจะได้ร่วมมือกับเราแล้วคนอื่นอีกนับไม่ถ้วน

in what I truly believe is the greatest adventure ever taken,

ในสิ่งที่ผมเชื่ออย่างสุดหัวใจว่า มันเป็นการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

the ever-demanding journey of equality.

การเดินทางของความต้องการที่ไม่เคยหมด เพื่อความเท่าเทียม

Could we really be the great generation

เราจะเป็นคนในยุคแห่งความเป็นเลิศ ที่เมนเดลาขอร้องให้เราเป็นได้จริงหรือ

that Mandela asked us to be?

จะเป็นไปได้ไหม ด้วยวิทยาศาสตร์

Might we answer that clarion call with science,

ที่เราจะขานตอบเสียงเรียกร้อง

with reason, with facts,

ด้วยเหตุผล ด้วยความจริง

and, dare I say it, emotions?

และ ผมกล้าที่จะพูดอีกสิ่งหนึ่งก็คือ อารมณ์ความรู้สึก

Because as is obvious, factivists have feelings too.

เพราะมันเห็นได้ชัดเจน ว่านักเคลื่อนไหวด้วยความจริง นั้น ก็มีความรู้สึกเช่นกัน

I'm thinking of Wael Ghonim, though.

ผมนึกถึง เวล โกห์นิม (Wael Ghonim) ขึ้นมา

Some of you know him. He set up one of the Facebook groups

คุณบางคนอาจรู้จักเขา เขาสร้างกลุ่มในเฟสบุ๊คขึ้นมา

behind the Tahrir Square in Cairo.

หลังจากเหตุการณ์ที่ จัตุรัส ทาเรียร์ ในไคโรห์

He got thrown in jail for it,

เขาโดนจับโยนเข้าคุกเพราะเรื่องนี้

but I have his words tattooed on my brain.

แต่คำพูดของเขาสักติดอยู่ในสมองผม

"We are going to win because we don't understand politics.

"เรากำลังจะชนะ เพราะว่าเราไม่เข้าใจการเมือง

We are going to win because we don't play their dirty games.

เรากำลังจะชนะ เพราะว่าเราไม่ได้เล่นสาดโคลน

We are going to win because we don't have a party political agenda.

เรากำลังจะชนะ เพราะว่าเราไม่มีนัยทางการเมือง

We are going to win because the tears

เรากำลังจะชนะ เพราะว่าน้ำตา

that come from our eyes actually come from our hearts.

ที่เอ่อล้นออกมาจากตาของพวกเรานั้น ที่จริงแล้ว มาจากหัวใจของเราเอง

We are going to win because we have dreams,

พวกเรากำลังที่จะชนะ เพราะว่าพวกเรามีความฝัน

and we're willing to stand up for those dreams."

และพวกเราเต็มใจที่จะยืนหยัดขึ้นเพื่อฝันเหล่านั้น

Wael is right.

เวล พูดถูก

We're going to win

เรากำลังจะชนะ

if we work together as one,

ถ้าเราร่วมมือกันเป็นหนึ่ง

because the power of the people

เพราะว่าพลังจากมวลชนที่รวมพลังกันนั้น

is so much stronger than the people in power.

ทรงอนุภาพมากกว่าบุคคลที่ถูกครอบงำภายใต้พลังอำนาจ

Thank you.

ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Thank you so much. (Applause)

ขอบคุณมากๆครับ