Sylvia Earle: How to protect the oceans (TED Prize winner!)

Translator: Sarinee Achavanuntakul Reviewer: Bank Light

Fifty years ago, when I began exploring the ocean,

ห้าสิบปีที่แล้ว ตอนที่ฉันเริ่มสำรวจทะเล

no one -- not Jacques Perrin, not Jacques Cousteau or Rachel Carson --

ไม่มีใครเลย แม้แต่ ฌาคส์ เปอร์แรง, ฌาคส์ คูสโต หรือ ราเชล คาร์สัน

imagined that we could do anything to harm the ocean

ไม่มีใครคาดคิดว่าเราจะก่อความเสียหายต่อท้องทะเลได้

by what we put into it or by what we took out of it.

ไม่ว่าจะด้วยสิ่งที่เราเทลงไป หรือเอาออกมาจากทะเล

It seemed, at that time, to be a sea of Eden,

ตอนนั้นทะเลดูเหมือนกับสวนอีเดนในสวรรค์

but now we know, and now we are facing paradise lost.

แต่ตอนนี้เรารู้ดีกว่านั้นแล้ว ตอนนี้สวรรค์ของเรากำลังหลุดลอย

I want to share with you

วันนี้ฉันอยากจะแบ่งปัน

my personal view of changes in the sea that affect all of us,

มุมมองส่วนตัวของฉันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในทะเล ที่กระทบกับเราทุกคน

and to consider why it matters that in 50 years, we've lost --

เพื่อคำนึงว่าความสำคัญคืออะไร ของการที่ในรอบ 50 ปี เราได้สูญเสีย --

actually, we've taken, we've eaten --

ที่จริงคือเราได้ตักตวงและกิน --

more than 90 percent of the big fish in the sea;

ปลาใหญ่ไปแล้วกว่าร้อยละ 90 ของปลาใหญ่ในทะเล

why you should care that nearly half of the coral reefs have disappeared;

ทำไมคุณถึงต้องสนใจด้วย ที่แนวปะการังเกือบครึ่งหนึ่งหายไปแล้ว

why a mysterious depletion of oxygen in large areas of the Pacific

ทำไมการสูญเสียออกซิเจนในบริเวณกว้าง ในมหาสมุทรแปซิฟิค

should concern not only the creatures that are dying,

ถึงไม่ได้เป็นเรื่องของสัตว์ที่กำลังจะตาย

but it really should concern you.

แต่เป็นเรื่องที่คุณควรกังวลด้วย

It does concern you, as well.

มันเป็นเรื่องของคุณด้วยนะคะ

I'm haunted by the thought of what Ray Anderson calls "tomorrow's child,"

ความคิดที่เฝ้าหลอกหลอนฉัน คือสิ่งที่ เรย์ แอนเดอร์สัน เรียกว่า "เด็กของพรุ่งนี้"

asking why we didn't do something on our watch

เขาถามว่าทำไมเราถึงไม่ทำอะไรในยุคของเรา

to save sharks and bluefin tuna and squids and coral reefs and the living ocean

เพื่อช่วยชีวิตปลาฉลาม ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน แนวปะการัง และมหาสมุทรมีชีวิต

while there still was time.

ขณะที่ยังพอมีเวลาช่วย

Well, now is that time.

เวลานั้นมาถึงแล้ว

I hope for your help

ฉันหวังว่าพวกคุณจะช่วยกัน

to explore and protect the wild ocean

สำรวจและพิทักษ์มหาสมุทร

in ways that will restore the health and,

ด้วยวิธีที่จะฟื้นฟูมันและ

in so doing, secure hope for humankind.

ทำให้มนุษยชาติมีความหวังอย่างมั่นคงไปพร้อมกัน

Health to the ocean means health for us.

สุขภาพของทะเลหมายถึงสุขภาพของเรา

And I hope Jill Tarter's wish to engage Earthlings includes dolphins and whales

ฉันหวังว่า คำอธิษฐานของ จิล ทาร์ทาร์ ที่อยากให้สิ่งมีชีวิตมีส่วนร่วมนั้นรวมถึงปลาโลมา ปลาวาฬ

and other sea creatures

และสัตว์ทะเลอื่นๆ ด้วย

in this quest to find intelligent life elsewhere in the universe.

ในการเสาะแสวงหาชีวิตที่มีปัญญานอกโลกใบนี้

And I hope, Jill, that someday

จิลคะ ฉันหวังว่าวันหนึ่ง

we will find evidence that there is intelligent life among humans on this planet.

เราจะพบหลักฐานว่ามีสิ่งมีชีวิตทรงปัญญา อยู่ท่ามกลางมนุษย์บนโลกใบนี้

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Did I say that? I guess I did.

ฉันพูดอะไรเนี่ย คงพูดไปแล้วจริงๆ

For me, as a scientist,

สำหรับฉัน ในฐานะนักวิทยาศาสตร์

it all began in 1953

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นในปี 1953

when I first tried scuba.

ตอนที่ฉันลองดำน้ำเป็นครั้งแรก

It's when I first got to know fish swimming

นั่นคือจุดที่ฉันรู้จักปลาที่กำลังว่ายน้ำ

in something other than lemon slices and butter.

ไม่ใช่ว่ายอยู่ท่ามกลางเสี้ยวมะนาวและเนย (บนจานอาหาร)

I actually love diving at night;

ฉันรักการดำน้ำตอนกลางคืนจริงๆ

you see a lot of fish then that you don't see in the daytime.

เพราะได้เจอปลามากมายที่ไม่เจอตอนกลางวัน

Diving day and night was really easy for me in 1970,

การดำน้ำทั้งวันทั้งคืน เป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับฉันในปี 1970

when I led a team of aquanauts living underwater for weeks at a time --

ตอนที่ฉันนำทีมนักประดาน้ำ ไปใช้ชีวิตใต้น้ำคราวละหลายสัปดาห์

at the same time that astronauts were putting their footprints on the moon.

เวลาเดียวกันกับที่นักบินอวกาศ กำลังประทับรอยเท้าบนดวงจันทร์

In 1979 I had a chance to put my footprints on the ocean floor

ในปี 1979 ฉันมีโอกาสได้ประทับรอยเท้าบนพื้นทะเล

while using this personal submersible called Jim.

ขณะใช้เรือดำน้ำส่วนตัวชื่อ จิม

It was six miles offshore and 1,250 feet down.

ห่างชายฝั่งไปหกไมล์ และลึกลงไป 1,250 ฟุต

It's one of my favorite bathing suits.

นี่คือชุดว่ายน้ำชุดหนึ่งที่ฉันชอบที่สุด

Since then, I've used about 30 kinds of submarines

หลังจากวันนั้นฉันได้ใช้เรือดำน้ำกว่า 30 แบบ

and I've started three companies and a nonprofit foundation called Deep Search

ก่อตั้งบริษัท 3 แห่ง และมูลนิธิไม่แสวงกำไรชื่อ ดีพ เสิร์ช

to design and build systems

เพื่อออกแบบและสร้างระบบ

to access the deep sea.

สำรวจโลกใต้ทะเลลึก

I led a five-year National Geographic expedition,

ฉันนำทีมสำรวจของ แนชันแนล จีโอกราฟิก เป็นเวลา 5 ปี

the Sustainable Seas expeditions,

ในโครงการสำรวจชื่อ "ทะเลที่ยั่งยืน"

using these little subs.

โดยใช้เรือดำน้ำลำจิ๋วแบบนี้

They're so simple to drive that even a scientist can do it.

มันขับง่ายมากจนนักวิทยาศาสตร์ก็ใช้ได้

And I'm living proof.

ฉันคือข้อพิสูจน์

Astronauts and aquanauts alike

นักบินอวกาศและนักประดาน้ำเหมือนกัน

really appreciate the importance of air, food, water, temperature --

ตรงที่เข้าใจดีถึงความสำคัญ ของอากาศ อาหาร น้ำ อุณหภูมิ

all the things you need to stay alive in space or under the sea.

ปัจจัยทุกอย่างที่คุณต้องใช้ในการเอาตัวรอด ในอวกาศหรือใต้ทะเล

I heard astronaut Joe Allen explain

ฉันเคยได้ยินนักบินอวกาศ โจ อัลเลน อธิบาย

how he had to learn everything he could about his life support system

ว่าเขาต้องเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง เกี่ยวกับระบบที่หล่อเลี้ยงชีวิต

and then do everything he could

เสร็จแล้วก็ต้องทำทุกอย่างที่ทำได้

to take care of his life support system;

เพื่อดูแลระบบที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเขา

and then he pointed to this and he said, "Life support system."

เสร็จแล้วเขาก็ชี้ที่ตรงนี้ และพูดว่า "ระบบที่หล่อเลี้ยงชีวิต"

We need to learn everything we can about it

เราจะต้องเรียนรู้ทุกอย่างที่ทำได้เกี่ยวกับมัน

and do everything we can to take care of it.

และทำทุกอย่างที่่ทำได้เพื่อดูแลมัน

The poet Auden said, "Thousands have lived without love;

กวีนาม ออเด็น กล่าวว่า "คนหลายพันคนอยู่ได้โดยไร้ซึ้งความรัก

none without water."

หากไม่มีใครอยู่ได้โดยปราศจากน้ำ"

Ninety-seven percent of Earth's water is ocean.

น้ำบนโลกนี้กว่าร้อยละ 97 อยู่ในทะเล

No blue, no green.

ถ้าไม่มีสีฟ้า โลกก็ไม่มีสีเขียว

If you think the ocean isn't important,

ถ้าคุณคิดว่าท้องทะเลไม่สำคัญ

imagine Earth without it.

ก็ลองนึกภาพโลกที่ไม่มีทะเลดูสิคะ

Mars comes to mind.

นั่นคือดาวอังคารล่ะ

No ocean, no life support system.

ไม่มีมหาสมุทร ไม่มีระบบที่หล่อเลี้ยงชีวิต

I gave a talk not so long ago at the World Bank

เมื่อไม่นานมานี้ ฉันไปบรรยายที่ธนาคารโลก

and I showed this amazing image of Earth

ฉันโชว์ภาพถ่ายโลกที่น่าทึ่งใบนี้

and I said, "There it is! The World Bank!"

แล้วก็พูดว่า "นี่ไง! นี่คือธนาคารโลก!"

That's where all the assets are!

นี่คือที่ที่มีสินทรัพย์ทั้งหมด!

And we've been trawling them down

และเราก็ลากอวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

much faster than the natural systems can replenish them.

ด้วยความเร็วเกินกว่าที่ระบบธรรมชาติจะฟื้นฟูได้

Tim Worth says the economy is a wholly-owned subsidiary of the environment.

ทิม เวิร์ธ กล่าวว่าเศรษฐกิจนั้น เป็นหน่วยย่อยของสิ่งแวดล้อม

With every drop of water you drink,

น้ำทุกหยดที่คุณดื่ม

every breath you take,

ลมหายใจทุกอณูที่คุณสูด

you're connected to the sea.

ล้วนเชื่อมโยงคุณเข้ากับทะเล

No matter where on Earth you live.

ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ที่ไหนในโลก

Most of the oxygen in the atmosphere is generated by the sea.

อ็อกซิเจนในชั้นบรรยากาศส่วนใหญ่ผลิตโดยทะเล

Over time, most of the planet's organic carbon

เมื่อเวลาผ่านไป คาร์บอนธรรมชาติของโลก

has been absorbed and stored there,

ก็ถูกดูดซับและสะสมในทะเล

mostly by microbes.

ส่วนใหญ่ด้วยจุลินทรีย์

The ocean drives climate and weather,

มหาสมุทรขับเคลื่อนลักษณะภูมิอากาศและสภาพอากาศ

stabilizes temperature, shapes Earth's chemistry.

ทำให้อุณหภูมิมีเสถียรภาพ ปรับเปลี่ยนดุลเคมีของโลก

Water from the sea forms clouds

น้ำจากทะเลก่อรูปเป็นเมฆ

that return to the land and the seas

จากนั้นก็หวนคืนสู่พื้นดินและทะเล

as rain, sleet and snow,

ในรูปของฝน ลูกเห็บ และหิมะ

and provides home for about 97 percent of life in the world,

นอกจากนั้นทะเลยังเป็นแหล่งอาศัยของชีวิต กว่าร้อยละ 97 ในโลก

maybe in the universe.

บางทีอาจจะในจักรวาลด้วย

No water, no life;

ถ้าไม่มีน้ำ ก็ไม่มีชีวิต

no blue, no green.

ถ้าไม่มีสีฟ้า ก็ไม่มีสีเขียว

Yet we have this idea, we humans,

แต่แล้วเราก็มีความคิด เราผู้เป็นมนุษย์

that the Earth -- all of it: the oceans, the skies --

เราคิดว่าโลกใบนี้ -- รวมท้องทะเลและท้องฟ้า --

are so vast and so resilient

กว้างใหญ่ไพศาลและยืดหยุ่นเหลือเกิน

it doesn't matter what we do to it.

จนเราไม่คิดว่าเราจะส่งผลกระทบอะไรได้

That may have been true 10,000 years ago,

คิดแบบนี้อาจจะถูกเมือ 10,000 ปีก่อน

and maybe even 1,000 years ago

และแม้แต่ 1,000 ปีก่อน

but in the last 100, especially in the last 50,

แต่ในช่วงเวลา 100 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ 50 ปีล่าสุด

we've drawn down the assets,

เราได้ถลุงสินทรัพย์จนร่อยหรอ

the air, the water, the wildlife

ถลุงอากาศ น้ำ พืชและสัตว์ป่า

that make our lives possible.

ที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้

New technologies are helping us to understand

เทคโนโลยีใหม่ๆ กำลังช่วยให้เราเข้าใจ

the nature of nature;

ธรรมชาติของธรรมชาติ

the nature of what's happening,

ธรรมชาติของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

showing us our impact on the Earth.

ชี้ให้เราเห็นผลกระทบของเราต่อโลก

I mean, first you have to know that you've got a problem.

คือฉันคิดว่า ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่ากำลังมีปัญหา

And fortunately, in our time,

และโชคดีที่ในยุคของเรา

we've learned more about the problems than in all preceding history.

เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับปัญหามากกว่ายุคก่อนหน้านี้ทั้งหมด

And with knowing comes caring.

ความรู้นำไปสู่ความเอาใจใส่

And with caring, there's hope

และความเอาใจใส่ก็ทำให้มีความหวัง

that we can find an enduring place for ourselves

ความหวังว่าเราจะสามารถพบพื้นที่ที่ยั่งยืนสำหรับเรา

within the natural systems that support us.

ภายในระบบธรรมชาติที่หล่อเลี้ยงเรา

But first we have to know.

แต่ก่อนอื่น เราจะต้องรู้

Three years ago, I met John Hanke,

สามปีที่แล้ว ฉันพบกับ จอห์น ฮันเก้

who's the head of Google Earth,

หัวหน้าโครงการกูเกิลเอิร์ธ

and I told him how much I loved being able to hold the world in my hands

ฉันบอกเขาว่าฉันชอบมากเลยที่จะถือโลกทั้งใบไว้ในอุ้งมือ

and go exploring vicariously.

ออกไปสำรวจมันอย่างร่าเริง

But I asked him: "When are you going to finish it?

แต่ฉันถามว่า "คุณจะทำมันเสร็จเมื่อไหร่คะ?

You did a great job with the land, the dirt.

คุณทำแผ่นดินได้เยี่ยมมาก

What about the water?"

แล้วผืนน้ำล่ะ?"

Since then, I've had the great pleasure of working with the Googlers,

ตั้งแต่นั้นฉันก็มีโอกาสทำงานกับชาวกูเกิล

with DOER Marine, with National Geographic,

สำรวจทะเลกับบริษัทดูเออร์มารีน แนชันแนลจีโอกราฟฟิก

with dozens of the best institutions and scientists around the world,

สถาบันชั้นนำหลายสิบแห่งและนักวิทยาศาสตร์ ที่เก่งที่สุดหลายสิบคนทั่วโลก

ones that we could enlist,

คนที่เราขอความช่วยเหลือได้

to put the ocean in Google Earth.

ให้ใส่ทะเลเข้าไปในกูเกิลเอิร์ธ

And as of just this week, last Monday,

เพิ่งสัปดาห์นี้เอง วันจันทร์ที่ผ่านมา

Google Earth is now whole.

ที่กูเกิลเอิร์ธสมบูรณ์

Consider this: Starting right here at the convention center,

ลองนึกดูสิคะ จากศูนย์ประชุมที่เราอยู่

we can find the nearby aquarium,

เราสามารถค้นหาอะควาเรียมใกล้ๆ

we can look at where we're sitting,

เราสามารถมองดูที่ที่เรานั่งอยู่

and then we can cruise up the coast to the big aquarium, the ocean,

เสร็จแล้วก็เลาะชายฝั่งไปยังอะควาเรียมใหญ่ นั่นคือมหาสมุทร

and California's four national marine sanctuaries,

และเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำระดับชาติสี่แห่งในแคลิฟอร์เนีย

and the new network of state marine reserves

และเครือข่ายใหม่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำระดับมลรัฐ

that are beginning to protect and restore some of the assets

ที่กำลังเริ่มปกป้องและฟื้นฟูสินทรัพย์บางอย่าง

We can flit over to Hawaii

เสร็จแล้วเราก็หมุนไปที่ฮาวายได้

and see the real Hawaiian Islands:

ไปดูหมู่เกาะฮาวายที่แท้จริง

not just the little bit that pokes through the surface,

ไม่ใช่แค่ส่วนเล็กๆ ที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา

but also what's below.

แต่มองเห็นโลกใต้เกาะด้วย

To see -- wait a minute, we can go kshhplash! --

ไปดู -- รอเดี๋ยวนะคะ เราไปกระโดดน้ำตูม! --

right there, ha --

ฮา ตรงนี้นะคะ --

under the ocean, see what the whales see.

ภายใต้ท้องทะเล ดูซิว่าปลาวาฬมองเห็นอะไร

We can go explore the other side of the Hawaiian Islands.

เราไปสำรวจอีกฝั่งของหมู่เกาะฮาวายได้

We can go actually and swim around on Google Earth

ในกูเกิลเอิร์ธเราว่ายไปไหนต่อไหนได้

and visit with humpback whales.

ท่องโลกไปกับวาฬหลังค่อม

These are the gentle giants that I've had the pleasure of meeting face to face

พวกเขาคือยักษ์ใจดีที่ฉันมีโอกาสเจอต่อหน้า

many times underwater.

หลายครั้งใต้ทะเล

There's nothing quite like being personally inspected by a whale.

ไม่มีอะไรเหมือนกับการถูกปลาวาฬตรวจสอบร่างกายเลยค่ะ

We can pick up and fly to the deepest place:

เราเร่งความเร็ว บินไปยังที่ที่ลึกที่สุดในโลก:

seven miles down, the Mariana Trench,

ลึกลงไปเจ็ดไมล์คือร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา

where only two people have ever been.

ซึ่งมีมนุษย์เพียงสองคนเท่านั้นที่เคยลงไป

Imagine that. It's only seven miles,

ลองนึกดูนะคะ มันมีความลึกเพียงเจ็ดไมล์

but only two people have been there, 49 years ago.

แต่มีเพียงสองคนที่เคยลงไป เมื่อ 49 ปีที่แล้ว

One-way trips are easy.

การเดินทางขาเดียวนั้นง่าย

We need new deep-diving submarines.

เราต้องมีเรือดำน้ำลึกใหม่ๆ

How about some X Prizes for ocean exploration?

น่าจะมีใครตั้งรางวัลเอ็กซ์สำหรับการสำรวจทะเลนะคะ

We need to see deep trenches, the undersea mountains,

เราต้องเห็นร่องลึกก้นสมุทร ภูเขาใต้ท้องทะเล

and understand life in the deep sea.

และเข้าใจชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำลึก

We can now go to the Arctic.

ตอนนี้เราไปที่ทวีปอาร์คติกได้แล้ว

Just ten years ago I stood on the ice at the North Pole.

สิบปีที่แล้วเอง ฉันไปยืนบนน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือ

An ice-free Arctic Ocean may happen in this century.

เราอาจได้เห็นมหาสมุทรอาร์คติก ที่ไร้น้ำแข็งภายในศตวรรษนี้

That's bad news for the polar bears.

นั่นคือข่าวร้ายสำหรับหมีขั้วโลก

That's bad news for us too.

แต่มันก็เป็นข่าวร้ายสำหรับเราด้วย

Excess carbon dioxide is not only driving global warming,

คาร์บอนไดออกไซด์เกินขนาด ไม่ได้กำลังขับดันภาวะโลกร้อนอย่างเดียว

it's also changing ocean chemistry,

แต่มันยังกำลังเปลี่ยนแปลงเคมีในทะเล

making the sea more acidic.

ทำให้ทะเลมีความเป็นกรดมากกว่าเดิม

That's bad news for coral reefs and oxygen-producing plankton.

มันเป็นข่าวร้ายสำหรับแนวปะการัง และแพลงก์ตอนที่ผลิตออกซิเจน

Also it's bad news for us.

และเป็นข่าวร้ายสำหรับเราด้วย

We're putting hundreds of millions of tons of plastic

เรากำลังเทพลาสติกหลายร้อยล้านตัน

and other trash into the sea.

และขยะชนิดอื่นลงไปในทะเล

Millions of tons of discarded fishing nets,

แหอวนที่ถูกทิ้งหลายล้านตัน

gear that continues to kill.

อุปกรณ์ที่ฆ่าหลังหมดอายุใช้งาน

We're clogging the ocean, poisoning the planet's circulatory system,

เรากำลังทำให้ทะเลอุดตัน ทำให้ระบบทางเดินหายใจของโลกเป็นพิษ

and we're taking out hundreds of millions of tons of wildlife,

และเราก็กำลังตักตวงพืชและสัตว์หลายร้อยล้านตัน

all carbon-based units.

ทั้งหมดคือสิ่งมีชีวิตบนฐานคาร์บอน

Barbarically, we're killing sharks for shark fin soup,

เราฆ่าแกงปลาฉลามอย่างป่าเถื่อนเพื่อซุปหูฉลาม

undermining food chains that shape planetary chemistry

ตัดตอนห่วงโซ่อาหารที่สร้างดุลเคมีของดาวเคราะห์ดวงนี้

and drive the carbon cycle, the nitrogen cycle,

และขับเคลื่อนวงจรคาร์บอน วงจรไนโตรเจน

the oxygen cycle, the water cycle --

วงจรอ็อกซิเจน วงจรน้ำ

our life support system.

ระบบที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเรา

We're still killing bluefin tuna; truly endangered

เรายังไม่หยุดฆ่าแกงปลาทูนาครีบน้ำเงิน ซึ่งตอนนี้ใกล้สูญพันธุ์จริงๆ แล้ว

and much more valuable alive than dead.

ปลาซึ่งตัวเป็นๆ มีมูลค่าสูงกว่าตอนตายมาก

All of these parts are part of our life support system.

ชิ้นส่วนทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่ง ของระบบหล่อเลี้ยงชีวิตของเรา

We kill using long lines, with baited hooks every few feet

เราฆ่ามันด้วยการลากอวนยาว อ่อยเหยื่อทุกสองสามฟุต

that may stretch for 50 miles or more.

ยาวถึง 50 ไมล์หรือมากกว่านั้น

Industrial trawlers and draggers are scraping the sea floor

เรือลากอวนและสายตะขอขนาดใหญ่กำลังขูดพื้นทะเล

like bulldozers, taking everything in their path.

เหมือนกับรถแทรกเตอร์ ถอนรากถอนโคนทุกสิ่งที่ขวางทาง

Using Google Earth you can witness trawlers --

ในกูเกิลเอิร์ธ คุณเป็นพยานการทำงานของเรือลากอวนได้

in China, the North Sea, the Gulf of Mexico --

ในจีน ทะเลเหนือ อ่าวเม็กซิโก

shaking the foundation of our life support system,

เรือเหล่านี้กำลังสั่นคลอนรากฐานของระบบหล่อเลี้ยงชีวิต

leaving plumes of death in their path.

ทิ้งเพียงหมอกแห่งความตายตลอดเส้นทาง

The next time you dine on sushi -- or sashimi,

ครั้งต่อไปที่คุณรับประทานซูชิ หรือซาชิมิ

or swordfish steak, or shrimp cocktail,

หรือสเต็กปลาดาบ หรือค็อกเทลกุ้ง

whatever wildlife you happen to enjoy from the ocean --

ไม่ว่าคุณจะชอบกินอะไรก็ตามที่มาจากทะเล

think of the real cost.

ก็ขอให้คิดถึงต้นทุนที่แท้จริงนะคะ

For every pound that goes to market,

อาหารทะเลทุก 1 ปอนด์ที่เข้าสู่ตลาด

more than 10 pounds, even 100 pounds,

จะมีอีก 10 ปอนด์ หรือแม้แต่ 100 ปอนด์

may be thrown away as bycatch.

ที่ถูกโยนทิ้งเพราะติดร่างแหแต่คนไม่ต้องการ

This is the consequence of not knowing

นี่คือผลพวงของความที่เราไม่รู้ว่า

that there are limits to what we can take out of the sea.

การตักตวงทรัพยากรจากทะเลนั้นมีข้อจำกัด

This chart shows the decline in ocean wildlife

แผนภูมินี้แสดงอัตราการลดลงของสิ่งมีชีวิตในทะเล

from 1900 to 2000.

ตั้งแต่ปี 1900 ถึงปี 2000

The highest concentrations are in red.

สีแดงแสดงจุดที่กระจุกตัวที่สุด

In my lifetime, imagine,

ลองนึกดูสิคะ ในช่วงชีวิตของฉัน

90 percent of the big fish have been killed.

ร้อยละ 90 ของปลาใหญ่ทั้งหมดถูกฆ่า

Most of the turtles, sharks, tunas and whales

เต่าทะเล ปลาฉลาม ปลาทูนา และปลาวาฬ

are way down in numbers.

ลดจำนวนลงอย่างฮวบฮาบ

But, there is good news.

แต่ข่าวดีก็มีเหมือนกัน

Ten percent of the big fish still remain.

ปลาใหญ่ร้อยละ 10 ยังเหลืออยู่

There are still some blue whales.

ยังมีวาฬสีน้ำเงิน

There are still some krill in Antarctica.

ฝูงเคยในทวีปแอนตาร์คติก

There are a few oysters in Chesapeake Bay.

ยังมีหอยนางรมในอ่วงชีซาพีค

Half the coral reefs are still in pretty good shape,

แนวปะการังครึ่งหนึ่งยังมีสุขภาพดี

a jeweled belt around the middle of the planet.

แนวที่เป็นเข็มขัดอัญมณีรอบแกนกลางของโลก

There's still time, but not a lot,

เรายังมีเวลาอยู่ แต่เวลาเหลือไม่มาก

to turn things around.

ที่จะทวนกระแสนี้

But business as usual means that in 50 years,

การทำธุรกิจแบบเดิมๆ ต่อไปแปลว่า ภายใน 50 ปี

there may be no coral reefs --

อาจไม่มีแนวปะการังเหลือ

and no commercial fishing, because the fish will simply be gone.

และไม่มีการประมงเชิงพาณิชย์ด้วย เพราะปลาจะหายไปหมด

Imagine the ocean without fish.

ลองนึกภาพทะเลที่ไม่มีปลาดูสิคะ

Imagine what that means to our life support system.

ลองนึกดูว่าแล้วระบบที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร

Natural systems on the land are in big trouble too,

ระบบธรรมชาติบนพื้นดินก็กำลังเดือดร้อนเหมือนกัน

but the problems are more obvious,

แต่ปัญหาบนดินนั้นเรามองเห็นชัดเจนกว่า

and some actions are being taken to protect trees, watersheds and wildlife.

และมีความพยายามอยู่บ้างที่จะพิทักษ์ต้นไม้ ลุ่มน้ำ พืชและสัตว์ป่า

And in 1872, with Yellowstone National Park,

ในปี 1872 อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน

the United States began establishing a system of parks

เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของสหรัฐอเมริกา รัฐเริ่มทำระบบอุทยาน

that some say was the best idea America ever had.

ซึ่งบางคนบอกว่า เป็นความคิดที่ดีที่สุดที่อเมริกาเคยมี

About 12 percent of the land around the world is now protected:

ปัจจุบันที่ดินราวร้อยละ 12 ของที่ดินทั้งโลกเป็นพื้นที่อนุรักษ์

safeguarding biodiversity, providing a carbon sink,

อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ให้เป็นแหล่งดูดซับคาร์บอน

generating oxygen, protecting watersheds.

ผลิตอ็อกซิเจน และปกป้องลุ่มน้ำ

And, in 1972, this nation began to establish a counterpart in the sea,

ในปี 1972 ประเทศนี้ได้ริเริ่มระบบเดียวกันในทะเล

National Marine Sanctuaries.

เริ่มทำเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำ

That's another great idea.

นั่นคือความคิดที่ยอดเยี่ยมอีกอันหนึ่ง

The good news is

ข่าวดีก็คือ

that there are now more than 4,000 places in the sea, around the world,

ตอนนี้เราพื้นที่ในทะเลกว่า 4,000 แห่งทั่วโลก

that have some kind of protection.

ซึ่งได้รับการคุ้มครองบางระดับ

And you can find them on Google Earth.

คุณหาพื้นที่เหล่านี้ได้ในกูเกิลเอิร์ธ

The bad news is

ข่าวร้ายก็คือ

that you have to look hard to find them.

คุณต้องพยายามมากๆ กว่าจะมองเห็นมัน

In the last three years, for example,

ยกตัวอย่างเช่น ในสามปีที่ผ่านมา

the U.S. protected 340,000 square miles of ocean as national monuments.

สหรัฐอเมริกาได้พิทักษ์ทะเลกว่า 340,000 ตารางไมล์ เป็นอนุสาวรีย์ของชาติ

But it only increased from 0.6 of one percent

แต่มันก็ทำให้พื้นที่ในทะเลทั่วโลกที่ได้รับการปกป้อง

to 0.8 of one percent of the ocean protected, globally.

เพิ่มจากร้อยละ 0.6 เป็น 0.8 เท่านั้นเอง

Protected areas do rebound,

เขตอนุรักษ์ฟื้นฟูได้จริง

but it takes a long time to restore

แต่ก็ต้องใช้เวลานานมากที่จะฟื้นฟู

50-year-old rockfish or monkfish, sharks or sea bass,

ปลาร็อคฟิช ปลาฉลาม หรือปลากะพงอายุ 50 ปี

or 200-year-old orange roughy.

หรือปลารัฟฟีสีส้มอายุ 200 ปี

We don't consume 200-year-old cows or chickens.

เราไม่กินวัวหรือไก่ที่มีอายุ 200 ปีหรอกนะคะ

Protected areas provide hope

เขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำทำให้เรามีความหวัง

that the creatures of Ed Wilson's dream

ว่าสิ่งมีชีวิตในความฝันของ เอ็ด วิลสัน

of an encyclopedia of life, or the census of marine life,

ที่เขาอยากเห็นสารานุกรมชีวิต หรือสำมะโนชีวิตในทะเล

will live not just as a list,

ความหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เป็นเพียงรายการ

a photograph, or a paragraph.

ภาพถ่าย หรือย่อหน้าหนึ่งย่อหน้า

With scientists around the world, I've been looking at the 99 percent of the ocean

ฉันร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก ดูท้องทะเลร้อยละ 99

that is open to fishing -- and mining, and drilling, and dumping, and whatever --

ที่คนสามารถทำประมง ตักตวงทรัพยากร ขุดเจาะ ทิ้งขยะ หรือกิจกรรมอื่น

to search out hope spots,

พวกเราค้นหาพื้นที่แห่งความหวัง

and try to find ways to give them and us a secure future.

และพยายามที่จะสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับมันและมนุษยชาติ

Such as the Arctic --

อย่างเช่นในทวีปอาร์คติก --

we have one chance, right now, to get it right.

เรามีโอกาสเพียงหนึ่งเดียวตอนนี้ที่จะฟื้นฟูให้ได้

Or the Antarctic, where the continent is protected,

หรือทวีปแอนตาร์คติก ซึ่งเป็นทวีปที่มีทะเลล้อมรอบ

but the surrounding ocean is being stripped of its krill, whales and fish.

แต่ทะเลนั้นกำลังถูกตักตวงตัวเคย วาฬ และปลาอื่นๆ จนใกล้หมด

Sargasso Sea's three million square miles of floating forest

ป่าลอยน้ำสามล้านตารางไมล์ในทะเลซาร์กัสโซ

is being gathered up to feed cows.

กำลังถูกคนตักตวงไปเลี้ยงวัว

97 percent of the land in the Galapagos Islands is protected,

พื้นที่ร้อยละ 97 ในหมู่เกาะกาลาปากอสเป็นพื้นที่อนุรักษ์

but the adjacent sea is being ravaged by fishing.

แต่ทะเลที่อยู่ติดกันกำลังถูกเรือประมงย่ำยี

It's true too in Argentina

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในอาร์เจนตินาเช่นกัน

on the Patagonian shelf, which is now in serious trouble.

ไหล่ทวีปใต้พาทาโกเนียอยู่ในสภาพที่แย่มากๆ

The high seas, where whales, tuna and dolphins travel --

ท้องทะเลเปิดซึ่งปลาวาฬ ทูนา และโลมาเดินทาง --

the largest, least protected, ecosystem on Earth,

ระบบนิเวศที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการปกป้องน้อยที่สุดบนโลก

filled with luminous creatures,

เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตเรืองแสง

living in dark waters that average two miles deep.

ที่ใช้ชีวิตในโลกมืด ที่ระดับความลึกเฉลี่ยสองไมล์

They flash, and sparkle, and glow

พวกเขากระพริบ ส่องประกาย และเรืองแสง

with their own living light.

ด้วยแสงสว่างในตัวเอง

There are still places in the sea as pristine as I knew as a child.

ยังมีพื้นที่บางแห่งในทะเลที่ยังบริสุทธิ์เหมือนกับที่ฉันรู้จักตอนเด็ก

The next 10 years may be the most important,

10 ปีนับจากนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด

and the next 10,000 years the best chance our species will have

และ 10,000 ปีต่อจากนี้ไป ก็เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์

to protect what remains of the natural systems that give us life.

ที่จะปกป้องระบบธรรมชาติที่เหลืออยู่ ส่วนที่หล่อเลี้ยงเรา

To cope with climate change, we need new ways to generate power.

เราต้องใช้วิธีใหม่ๆ ในการผลิตพลังงาน เพื่อรับมือกับภาวะสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

We need new ways, better ways, to cope with poverty, wars and disease.

เราต้องใช้วิธีใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิม ในการรับมือกับความยากจน สงคราม และโรคร้าย

We need many things to keep and maintain the world as a better place.

เราต้องใช้หลายสิ่งหลายอย่างเหลือเกิน ที่จะทำให้โลกนี้ดีกว่าเดิม

But, nothing else will matter

แต่ทั้งหมดนั้นจะไม่สำคัญเลย

if we fail to protect the ocean.

ถ้าหากว่าเราล้มเหลวในการพิทักษ์มหาสมุทร

Our fate and the ocean's are one.

ชะตากรรมของเราเป็นหนึ่งเดียวกันกับชะตากรรมของมหาสมุทร

We need to do for the ocean what Al Gore did for the skies above.

เราจะต้องทำกับมหาสมุทร อย่างที่ อัล กอร์ ทำกับท้องฟ้า(อากาศ และมลพิษ)เบื้องบน

A global plan of action

ตอนนี้มีแผนปฏิบัติการระดับโลก

with a world conservation union, the IUCN,

ร่วมกับสมาพันธ์อนุรักษ์โลก คือ IUCN (International Union for Conservation of Nature)

is underway to protect biodiversity,

ลงมือทำแล้วเพื่อพิทักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ

to mitigate and recover from the impacts of climate change,

เพื่อบรรเทาและฟื้นฟูจากผลกระทบของภาวะสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

on the high seas and in coastal areas,

ในทะเลเปิดและพื้นที่ชายฝั่ง

wherever we can identify critical places.

ทุกที่ที่เราระบุได้ว่าเป็นพื้นที่สำคัญ

New technologies are needed to map, photograph and explore

เราต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการสร้างแผนที่ ถ่ายภาพ และสำรวจ

the 95 percent of the ocean that we have yet to see.

ร้อยละ 95 ของมหาสมุทรที่เรายังไม่เคยเห็น

The goal is to protect biodiversity,

เป้าหมายอยู่ที่การพิทักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ

to provide stability and resilience.

ทำให้มหาสมุทรมีเสถียรภาพและยืดหยุ่น

We need deep-diving subs,

เราต้องการเรือดำน้ำลึก

new technologies to explore the ocean.

เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการสำรวจทะเล

We need, maybe, an expedition --

บางทีเราอาจต้องส่งคณะสำรวจ

a TED at sea --

เหมือนจัดงาน TED ที่ทะเล --

that could help figure out the next steps.

เพื่อช่วยให้เรามองเห็นก้าวต่อไป

And so, I suppose you want to know what my wish is.

ทีนี้ ฉันคิดว่าคุณคงอยากรู้ว่าฉันอธิษฐานอะไรนะคะ

I wish you would use all means at your disposal --

ฉันอธิษฐานว่าคุณจะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่คุณมี --

films, expeditions, the web, new submarines --

ภาพยนตร์ คณะสำรวจ เว็บไซต์ เรือดำน้ำใหม่ๆ --

and campaign to ignite public support

ทำแคมเปญจุดประกายให้ประชาชนสนับสนุน

for a global network of marine protected areas --

การสร้างเครือข่ายเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำระดับโลก

hope spots large enough to save and restore the ocean,

พื้นที่แห่งความหวังที่ใหญ่พอที่จะรักษาและฟื้นฟูมหาสมุทร

the blue heart of the planet.

หัวใจสีฟ้าของดาวเคราะห์ดวงนี้

How much?

พื้นที่เท่าไหร่หรือคะ?

Some say 10 percent, some say 30 percent.

บางคนบอกว่าร้อยละ 10 บางคนบอกร้อยละ 30

You decide: how much of your heart do you want to protect?

คุณตัดสินใจเองว่าอยากพิทักษ์กี่ส่วนของหัวใจของคุณเอง

Whatever it is,

ไม่ว่าตัวเลขจะเป็นเท่าไหร่

a fraction of one percent is not enough.

ส่วนเสี้ยวของหนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ไม่พอแน่ๆ

My wish is a big wish,

คำอธิษฐานของฉันนั้นทะเยอทะยาน

but if we can make it happen, it can truly change the world,

แต่ถ้าเราทำให้มันเกิดได้ มันก็จะเปลี่ยนโลกนี้ได้จริงๆ

and help ensure the survival

และช่วยพิทักษ์ความอยู่รอด

of what actually -- as it turns out -- is my favorite species;

ของเผ่าพันธุ์โปรดของฉัน

that would be us.

คือมนุษย์เรานี่แหละค่ะ

For the children of today,

สำหรับเด็กๆ ในวันนี้

for tomorrow's child:

และเด็กๆ ในวันหน้า

as never again, now is the time.

ไม่มีอีกแล้ว ตอนนี้คือเวลาลงมือทำ

Thank you.

ขอบคุณค่ะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)