What is love? - Brad Troeger

นิยามรัก? - แบรด โทรเกอร์ (Brad Troeger)

Translator: Kanawat Senanan Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

What is love?

รักคืออะไร?

Seriously, though, what is it?

ถามจริงๆ นะ มันคืออะไร?

What is love?

รักคืออะไร?

A verb?

กิริยา?

A noun?

A universal truth?

นาม?

สัจจะนิรันดร์?

An ideal?

อุดมคติ?

A common thread of all religions?

สิ่งที่เหมือนกันระหว่างทุกศาสนา

A cult?

นิกาย?

A neurological phenomenon?

ปรากฎการณ์ทางประสาทวิทยา?

There's no shortage of answers.

คำตอบมีไม่ได้รู้จบ

Some are all-encompassing.

บ้างก็นิยามไว้เสียกว้าง

It conquers all.

ความรักชนะทุกสิ่ง

It's all you need.

มันคือทุกสิ่งที่คุณต้องการ

It's all there is.

ความรักคือทุกสิ่ง

These are all comparisons, though,

เหล่านี้ถือเป็นการเปรียบเทียบ

ways of defining it by contrast,

เป็นการนิยามโดยเปรียบเทียบ

by saying it's more important

โดยกล่าวว่ามันสำคัญ

than all other things,

กว่าสิ่งอื่นๆ ทั้งหมด

but is it?

แต่จริงหรือ?

Sure, love matters more

แน่นอน ว่าความรักนั้น สำคัญ

than your standard turkey sandwich,

กว่าแซนด์วิชไก่งวงธรรมดาๆ

but does it matter more than shelter?

แต่มันสำคัญกว่าที่อยู่อาศัยหรือเปล่า

Or sanity?

หรือสติสัมปชัญญะล่ะ?

Or an exceptional turkey sandwich?

หรือแซนด์วิชไก่งวงเลิศรสล่ะ?

No matter your answer,

ไม่ว่าคุณจะตอบอย่างไร

you're just ranking it,

คุณแค่เรียงลำดับมัน

not defining it.

ไม่ได้ให้คำจำกัดความ

Another challenge to defining love

ความท้าทายอีกอย่างหนึ่งในการนิยามความรัก

is we often try to do so

คือเรามักทำเช่นนั้น

while falling into it

ในขณะที่ตกหลุมรัก

or out of it.

หรืออกหัก

Would you trust someone who just won the lottery

คุณจะเชื่อใจคนที่เพิ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1

to accurately define the concept of currency?

ว่าจะให้นิยามที่ถูกต้องเกี่ยวกับแนวคิดเรื่องเงินตราหรือ?

Or, I don't know, ask a guy to define bears

หรือ ไม่รู้สิ ลองถามใครสักคนให้จำกัดความหมี

while he's fending them off?

ในขณะที่เขากำลังไล่มันดีไหม?

Or is romance not like winning the lottery?

หรือว่า เรื่องโรแมนติกมันไม่เหมือนการถูกลอตเตอรี่?

Are break ups not like bear attacks?

และการเลิกกันมันไม่เหมือนกับโดนหมีทำร้าย?

Bad comparisons?

เป็นการเปรียบเปรยที่แย่ใช่ไหม?

That's my point.

นั่นแหละประเด็นของผม

I'm not thinking right

ผมมีความคิดพร่ามัว

because I'm in love,

เพราะกำลังอยู่ในภวังค์แห่งรัก

so ha!

ฮ่า

Taking a step back,

งั้นถอยสักก้าว

or taking a cold shower,

หรืออาบน้ำเย็นๆ

whatever,

love is potentially the most intensely thought about thing

อะไรก็แล้วแต่

ความรัก คือ การคิดถึงบางสิ่งอย่างรุนแรง

in all of human history.

ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

And despite centuries upon centuries of obsession,

แต่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ศตวรรษแห่งความหมกมุ่น

it still overwhelms us.

ความรักยังเป็นอารมณ์ที่อิ่มเอมสำหรับเรา

Some say it's a feeling,

บ้างก็ว่ามันคือความรู้สึก

a magical emotion,

อารมณ์อันวิเศษ

a feeling for someone like you've never felt before.

ความรู้สึกต่อใครคนหนึ่งที่คุณไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อน

But feelings are fluid,

แต่ความรู้สึกนั้นไม่หนักแน่น

not very concrete foundation for a definition.

มันไม่ใช่พื้นฐานที่หนักแน่นสำหรับคำนิยามอะไร

Sometimes you hate the person you love.

บางครั้ง คุณเกลียดคนที่คุณรัก

Plus, come on, you've felt feelings like it before,

ยอมรับเถอะน่า คุณก็เคยรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน

sort of in miniature.

ในแบบเล็กๆ

Your relationships with your family

ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและครอบครัว

shape your relationships with partners.

เป็นตัวกำหนดความสัมพันธ์กับคู่รัก

And your love for your partner

และความรักที่คุณมีต่อคู่ของคุณนั้น

may be in its own dynamic relationship,

บางทีอาจมีความสัมพันธ์ในแบบของมันเอง

healthy or totally weird,

ซึ่งอาจสุขสมบูรณ์หรือพิลึกกึกกือ

with the love of your parents and siblings.

กับความรักที่มีต่อพ่อแม่ หรือพี่น้อง ก็เป็นได้

Love is also a set of behaviors

ความรักยังเป็นกลุ่มของพฤติกรรม

we associate with the feeling:

ที่เราเชื่อมโยงไว้กับความรู้สึก:

Holding hands,

การเดินจับมือ

kissing,

จุมพิศ

hugging,

โอบกอด

public displays of affection,

แสดงความรักต่อกันในที่สาธารณะ

dating,

การออกเดท

marriage,

การแต่งงาน

having kids,

มีลูก

or just sex.

หรือแค่มีเซ็กซ์

But these loving actions can be subjective

แต่พฤติกรรมแห่งรักนี้ก็อาจเป็นนามธรรม

or culturally relative.

หรือแตกต่างกันตามวัฒนธรรม

You may love or be someone who can't have kids

คุณอาจรัก หรือเป็นคนที่ไม่สามารถมีลูกได้

or doesn't want to,

หรือไม่อยากมีลูก

who believes in marriage but also in divorce,

ผู้ซึ่งเชื่อมั่นทั้งในเรื่องการสมรส แต่ก็หย่าร้าง

who's from a culture where people don't really date

ผู้ซึ่งมาจากวัฒนธรรมที่ผู้คนไม่ออกเดทกัน

the way we think of dating,

ในแบบการเดทที่เรารู้จัก

or who just doesn't want to make out on the bus.

หรือเป็นผู้ซึ่งไม่อยากแสดงความรักกันบนรถบัส

But if love is a thing that we can define,

แต่ถ้าความรักเป็นสิ่งที่เรานิยามได้

then how can it mean opposite things

แล้วทำไมมันจึงหมายถึงสิ่งตรงกันข้าม

for so many people?

สำหรับหลายๆคน?

So, maybe love's just all in your head,

บางที ความรักมันอาจเป็นแค่เรื่องในสมองคุณ

a personal mystery winding through your neural pathways

เรื่องลึกลับส่วนตัว ที่วิ่งเลี้ยวลดไปตามเส้นทางสื่อประสาท

and lighting up pleasing, natural rewards

และส่งกระแสไฟฟ้ากระตุ้นให้รางวัลอันน่ารื่นรมย์

in your nervous system.

ในระบบประสาทของคุณ

Perhaps these rewards are addictive.

บางที รางวัลเหล่านี้อาจเป็นสิ่งเสพติด

Perhaps love is a temporary

บางทีความรักอาจเป็นการเสพติดชั่วครู่

or permanent addiction to a person,

หรือเสพติดถาวร สำหรับคนคนนึ่ง

just like a person can be addicted to a drug.

เหมือนเช่นที่คนอาจจะเสพติดยา

I don't mean to be edgy

ผมไม่ได้อยากจะทำให้มันเก๋ไก๋

like some pop song.

เหมือนเช่นในเพลงป๊อบบางเพลง

Evidence shows that chemicals in your brain

มีหลักฐานแสดงว่า สารเคมีในสมองคุณ

stimulated by another person

ที่เกิดจากการกระตุ้นโดยอีกคนหนึ่ง

can make you develop a habit for that person.

สามารถทำให้คุณพัฒนาพฤติกรรมที่มีต่อคนคนนั้นได้

The person comes to satisfy

หากบุคคลนั้นมาเพื่อสนอง

a physiological craving,

ความอยากทางร่างกาย

and you want more.

และคุณต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ

But then sometimes,

แต่กระนั้น บางครั้ง

slowly or suddenly,

อย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือแบบฉับพลัน

you don't.

คุณไม่ต้องมันอีกต่อไป

You've fallen out of love,

คุณได้ออกจากภวังค์แห่งรัก

become unaddicted,

เลิกเสพติด

for a spell.

มนต์แห่งรัก

What happened?

เกิดอะไรขึ้น?

Does one develop a tolerance or hit a limit?

เราสร้างภูมิต้านทานขึ้นมา หรือ ถึงขีดจำกัดงั้นหรือ?

Why do some lovers stay addicted

ทำไมคู่รักบางคู่จึงเสพติด

to each other their entire lives?

ซึ่งกันและกันไปชั่วชีวิต?

Perhaps to create new lives,

บางที เพื่อให้กำเนิดชีวิตใหม่

to proliferate their species?

เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์?

Maybe love is just human DNA's optimal method

บางที ความรักอาจเป็นแค่วิธีที่เหมาะที่สุดของดีเอ็นเอ

for bringing about its own replication.

เพื่อก่อให้เกิดการสร้างตัวมันเอง

There are evolutionary arguments

มีข้อโต้แย้งใหม่ๆ

regarding every human mating behavior,

เกี่ยวกับวิธีเลือกคู่ของมนุษย์

from how we display ourselves to potential mates,

จากวิธีที่เราแสดงออกต่อคนที่น่าจะมาเป็นคู่

to how we treat each other in relationships,

จนถึงวิธีที่เราปฏิบัติต่อกันและกันในระหว่างคบกัน

to how we raise kids.

จนถึงวิธีที่เราเลี้ยงลูก

Thus, some argue that the feeling

กระนั้น บ้างก็แย้งว่าความรู้สึก

you think you feel in your soul

ที่คุณคิดว่าคุณรู้สึกลึกลงไปในก้นบึ้งหัวใจนั้น

is just biology's way to make you continue our species.

เป็นแค่วิถีแห่งชีววิทยาเพื่อให้คุณดำรงเผ่าพันธุ์

Nature has selected you

ธรรมชาติคัดเลือกคุณ

to have crushes on hotties,

ให้ลุ่มหลงสาวฮอตๆ

just like it makes monkeys

เช่นเดียวกันที่ลิง

have crushes on hot monkeys,

หลงลิงตัวเมียฮอตๆ

and biology marches on.

และชีววิทยาก็ทำหน้าที่ของมันต่อ

But is that all love is?

แต่นั่นคือทั้งหมดของความรักเหรอ?

Or, perhaps worse, is it just a construct,

หรือบางที แย่กว่านั้น มันอาจเป็นเป็นสิ่งสมมุติ

some fake concept we all convince each other

แนวคิดลวงๆ ที่เราใช้หลอกตัวเอง

to try to live up to

เพื่อทำให้มันดูดี

for a fake sense of purpose?

สำหรับเป้าหมายปลอมๆ

Maybe it is a construct,

บางทีมันอาจเป็นเพียงสิ่งสมมุติ

but let's be more precise

แต่ลองมาพูดให้ชัดหน่อย

about what a construct is

ว่าสิ่งสมมุติหรืออะไร

because love is constructed from reality:

เพราะความรักคือสิ่งสมมุติจากความเป็นจริง

Our experiences,

ประสบการณ์ต่างๆ ของเรา

feelings,

ความรู้สึกต่างๆ

brain chemistry,

เคมีในสมอง

cultural expectations,

ความคาดหวังเชิงวัฒนธรรม

our lives.

ชีวิตของเรา

And this edifice can be viewed

และคุณสามารถมองระบบอันซับซ้อนนี้

through countless dimensions:

ผ่านมิติมากมายนับไม่ถ้วย

scientific,

วิทยาศาสตร์

emotional,

ความรู้สึก

historical,

ประวัติศาสตร์

spiritual,

จิตวิญญาณ

legal,

or just personal.

กฎหมาย

หรือเป็นเรื่องส่วนตัว

If no two people are the same,

ถ้าไม่มีคนคู่ไหนที่เหมือนกัน

no two people's love is the same either.

คงไม่มีความรักของคนคู่ไหนที่จะเหมือนกัน

So, in every loving relationship,

ดังนั้น ในทุกๆ ความสัมพันธ์ด้านความรัก

there's a lot to talk about

มันมีเรื่องมากมายให้พูดถึง

and partners should be open to that,

และคู่รักก็ควรเปิดใจให้กับมัน

or the relationship probably won't last.

ไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์คงไม่ยืนยาว

Love is always up for discussion

ประเด็นความรักนั้นถูกเปิดให้ถกเถียงเสมอ

and, sure, under construction.

และแน่นอน อยู่ระหว่างการประติดประต่อ

So, if we can't define it,

ดังนั้น ถ้าเรานิยามมันไม่ได้

that's a good sign.

นั่นเป็นสัญญาณที่ดี

It means we're all still making it.

มันแปลว่า เราทั้งหลายก็ยังคง "ทำรัก" อยู่

Wait, I didn't mean,

เดี๋ยว ไม่ใช่อย่างนั้น

you know what I meant.

คุณก็รู้ว่าผมหมายถึงอะไร