4 ways the COVID-19 pandemic changed the way we sleep | Sleeping With Science

Transcriber: Leslie Gauthier Reviewer:

The COVID pandemic has changed sleep in at least four different ways:

Translator: มงคลลักษณ์ มัทวพันธุ์ Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ได้เปลี่ยน วิธีที่เรานอนหลับไปสี่ลักษณะด้วยกันคือ

quantity, quality, timing and dreaming.

ชั่วโมงการนอน คุณภาพการนอน เวลาเข้านอน และการฝัน

[Sleeping with Science]

[วิทยาศาสตร์การนอนหลับ]

The first is sleep quantity.

อันดับแรกคือจำนวนชั่วโมงการนอน

A study conducted across Europe,

งานวิจัยที่ศึกษาเรื่องนี้ในยุโรป

as well as the US and Asia,

รวมถึงในสหรัฐฯ และเอเชีย

found that on average people were sleeping around 25 minutes more each night

พบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ผู้คนนอนหลับได้มากขึ้น ประมาณ 25 นาทีในแต่ละคืน

during the pandemic.

ในช่วงการระบาดใหญ่นี้

Second, there has been a change in sleep quality.

สอง พบว่ามีการเปลี่ยนแปลง ในคุณภาพการนอนด้วย

Now, sleep has of course been a real challenge

ทุกวันนี้ การนอนหลับ กลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นทุกที

for many of us during the pandemic.

สำหรับใครหลายคนในช่วงการระบาดใหญ่นี้

And indeed, in the US,

และเป็นเช่นนั้นจริงๆ ในสหรัฐฯ

almost 60 percent of people felt

ที่ผู้คนกว่า 60 เปอร์เซนต์รู้สึกว่า

that the quality of their sleep had become worse during the pandemic.

คุณภาพการนอนของพวกเขา แย่ลงกว่าเดิมในช่วงระบาดใหญ่นี้

However, 40 percent of the people didn’t feel

อย่างไรก็ตาม ผู้คนอีก 40 เปอร์เซนต์ กลับไม่ได้รู้สึกว่า

that their sleep was any worse,

การนอนของเขาแย่ลงแต่อย่างใด

so there seems to be quite a difference in the response across individuals

จึงเห็นได้ว่าวิธีการที่ผู้คนแต่ละคนรับมือ กับปัญหาคุณภาพการนอน

when it comes to sleep quality and the pandemic.

ในช่วงการระบาดใหญ่นี้แตกต่างกันออกไป

The third change we’ve discovered concerns sleep timing.

สาม เรายังพบว่าเวลาเข้านอนเปลี่ยนไปด้วย

Since many people didn’t have to commute to work

เมื่อผู้คนไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงาน

or get the kids to school in the morning,

หรือพาลูกไปโรงเรียนในตอนเช้า

on average, people were going to bed later

โดยเฉลี่ย พวกเขาก็จะเข้านอนดึกขึ้นกว่าเดิม

and waking up later during the pandemic.

และตื่นสายขึ้นกว่าเดิมในช่วงระบาดใหญ่นี้

And I think this is a case of “Revenge of the Night Owls.”

และผมคิดว่านี่เป็นตัวอย่างของ “การเอาคืนของคนนอนดึก”

And I see it as one of the positive consequences

ซึ่งผมมองมันเป็นหนึ่งในข้อดี

that came out of the pandemic.

ที่มาจากการระบาดใหญ่ครั้งนี้

The fourth change is that people reported dreaming more

สี่ เราพบว่าผู้คนหลับแล้วฝันมากขึ้น

and also having COVID-related dreams.

และเป็นฝันที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิดด้วย

And this is likely due to the fact

ซึ่งน่าจะเป็นเพราะว่า

that people were sleeping later into the morning,

เรานอนตื่นสายกันมากขึ้น จนเลยช่วงเช้าไป

which is the time when we get most of our dream sleep,

ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการนอนหลับ ที่เราจะมีความฝันได้มากที่สุด

and the fact that dreaming helps us deal with emotional trauma.

อีกสาเหตุก็เพราะการฝันช่วยให้เราจัดการกับ ความเจ็บป่วยทางจิดใจ

However, there are many essential questions that still remain.

แต่ยังมีคำถามสำคัญอีกหลายข้อ ที่รอการค้นคว้าอยู่

One that I am particularly interested in answering

ข้อแรกเป็นคำถามที่ผมสนใจเป็นพิเศษ

is whether or not a lack of sleep before getting your COVID shot,

ก็คือถ้าคุณนอนหลับไม่เพียงพอ ก่อนได้รับวัคซีนโควิด

or your COVID booster in the future,

หรือก่อนรับวัคซีนเข็มเสริมในอนาคต

changes the effectiveness of that vaccination,

จะส่งผลต่อประสิทธิภาพ ของการได้รับวัคซีนหรือไม่

just as we know it does with your annual flu shot.

เพราะสมมติฐานนี้เป็นจริงกับ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปีของคุณ

What we do know for certain though is this:

แต่สิ่งที่เรารู้แน่ๆ แล้วก็คือ

your sleep health is intimately related to your immune health.

สุขภาพการนอนหลับของคุณนั้นเกี่ยวข้อง กับสุขภาพภูมิคุ้มกันของคุณอย่างมาก

Said simply:

พูดง่าย ๆ ว่า

sleep is a life support system.

การนอนหลับเป็นระบบการรักษาร่างกายของเราเอง