Can we create the "perfect" farm? - Brent Loken

Transcriber: TED Translators Admin Reviewer: Mirjana Čutura

Translator: TED Translators Admin Reviewer: Yada Sattarujawong

About 10,000 years ago, humans began to farm.

ราว 10,000 ปีที่แล้ว มนุษย์เริ่มเพาะปลูก

This agricultural revolution was a turning point in our history

การปฏิวัติเกษตรกรรมเป็นจุดเปลี่ยน ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

that enabled people to settle, build and create.

ที่ช่วยให้มนุษย์สามารถตั้งถิ่นฐาน สร้างบ้านและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ

In short, agriculture enabled the existence of civilization.

เกษตรกรรม ช่วยให้เกิดอารยธรรม

Today, approximately 40 percent of our planet is farmland.

ปัจจุบัน กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ของโลก เป็นพื้นที่การเกษตร

Spread all over the world,

พื้นที่การเกษตรที่กระจายอยู่ทั่วโลกนี้

these agricultural lands are the pieces to a global puzzle

เป็นชิ้นส่วนหนึ่งของปัญหาระดับโลก

we are all facing:

ที่เรากำลังเผชิญ นั่นคือ

in the future, how can we feed every member of a growing population

ในอนาคต เราจะเลี้ยงปากท้องประชากร ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

a healthy diet?

ด้วยอาหารสุขภาพได้อย่างไร ?

Meeting this goal will require

การจะบรรลุเป้าหมายนี้ต้องอาศัย

nothing short of a second agricultural revolution.

การเปลี่ยนแปลงใหญ่ อย่างเช่น การปฏิวัติเกษตรกรรมครั้งที่สอง

The first agricultural revolution

การปฏิวัติเกษตรกรรมครั้งแรก

was characterized by expansion and exploitation,

เป็นการขยายขอบเขต และการใช้ประโยชน์

feeding people at the expense of forests, wildlife and water

สร้างอาหารให้มนุษย์โดยแลกกับ พื้นที่ป่า สัตว์ป่า และน้ำ

and destabilizing the climate in the process.

และทำลายสมดุลของสภาพภูมิอากาศ ไปในการทำการเกษตร

That's not an option the next time around.

นั่นไม่ใช่ทางเลือก ในการปฏิวัติครั้งที่สองนี้

Agriculture depends on a stable climate

เกษตรกรรม ขึ้นอยู่กับ สภาพภูมิอากาศที่แน่นอน

ที่สามารถพยากรณ์ฤดูกาล และรูปแบบสภาพอากาศได้

with predictable seasons and weather patterns.

นั่นหมายความว่าเราไม่สามารถ ขยายพื้นที่การเกษตรออกไปเรื่อย ๆ

This means we can't keep expanding our agricultural lands,

because doing so will undermine the environmental conditions

เพราะการทำแบบนั้นจะทำลาย สภาพแวดล้อม

that make agriculture possible in the first place.

ที่ช่วยให้เกษตรกรรมเกิดขึ้นได้

Instead, the next agricultural revolution

ในทางตรงกันข้าม การปฏิวัติเกษตรกรรมครั้งต่อไปนี้

will have to increase the output of our existing farmland for the long term

จะต้องเพิ่มผลผลิตจากพื้นที่เกษตรกรรม ที่มีอยู่ เพื่อประโยชน์ในระยะยาว

while protecting biodiversity, conserving water

ในขณะที่ยังรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ อนุรักษ์น้ำ

and reducing pollution and greenhouse gas emissions.

รวมถึงลดมลภาวะและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

So what will the future farms look like?

แล้วการทำสวนไร่นาในอนาคตจะเป็นอย่างไร

This drone is part of a fleet that monitors the crops below.

โดรนตัวนี้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพโดรน ที่ช่วยในการตรวจสอบการปลูกพืช

The farm may look haphazard

ฟาร์มอาจจะดูไม่มีระเบียบ

but is a delicately engineered use of the land

แต่จริง ๆ แล้ว มันถูกออกแบบให้ ใช้พื้นที่อย่างแยบยล

that intertwines crops and livestock with wild habitats.

โดยประสานการใช้พืช ปศุสัตว์ และแหล่งที่อยู่ของสัตว์ป่าเข้าด้วยกัน

Conventional farming methods cleared large swathes of land

เกษตรกรรมแบบดั้งเดิมจะใช้วิธี หักร้างพื้นที่ขนาดใหญ่

and planted them with a single crop,

และปลูกพืชเชิงเดี่ยว

eradicating wildlife

ทำลายสัตว์ป่า

and emitting huge amounts of greenhouse gases in the process.

และปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมาก จากกระบวนการปรับพื้นที่

This approach aims to correct that damage.

วิธีการแบบใหม่นี้มุ่งไปที่ การแก้ปัญหาความเสียหาย

Meanwhile, moving among the crops,

ในขณะเดียวกัน บางสิ่งเคลื่อนที่ระหว่างพืช

teams of field robots apply fertilizer in targeted doses.

ทีมหุ่นยนต์ภาคพื้นดิน ใส่ปุ๋ยในสัดส่วนที่กำหนดไว้

Inside the soil,

ในดิน

hundreds of sensors gather data on nutrients and water levels.

มีเซ็นเซอร์เป็นร้อย ๆ ตัวที่เก็บข้อมูล ระดับแร่ธาตุและน้ำ

This information reduces unnecessary water use

ข้อมูลนี้ช่วยลดการใช้น้ำที่ไม่จำเป็น

and tells farmers where they should apply more and less fertilizer

และบอกเกษตรกรว่าควรจะ ใส่ปุ๋ยตรงไหนเพิ่มขึ้นหรือลดลง

instead of causing pollution by showering it across the whole farm.

แทนที่จะสร้างมลพิษ ด้วยการหว่านปุ๋ยไปทั่ว

But the farms of the future won't be all sensors and robots.

แต่ไร่นาในอนาคตจะไม่ได้มีแต่ เซ็นเซอร์และหุ่นยนต์

These technologies are designed to help us produce food

เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกออกแบบมา เพื่อช่วยเราผลิตอาหาร

in a way that works with the environment

ในแบบที่ทำงานร่วมกับสภาพแวดล้อม

rather than against it,

มากกว่าที่จะไปต่อสู้กับมัน

taking into account the nuances of local ecosystems.

และคำนึงถึงความแตกต่างกัน ของระบบนิเวศท้องถิ่น

Lower-cost agricultural practices can also serve those same goals

การทำการเกษตรต้นทุนต่ำ สามารถช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้

and are much more accessible to many farmers.

และเกษตรกรก็สามารถเข้าถึงวิธีการนี้ ได้มากกว่า

In fact, many such practices are already in use today

จริง ๆ แล้ว ในปัจจุบัน ก็มีการทำการเกษตรแบบนี้บ้างแล้ว

and stand to have an increasingly large impact

และมุ่งมั่นที่จะสร้าง ผลลัพท์ในทางที่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ

as more farmers adopt them.

เมื่อเกษตรกรหันมาใช้ วิธีใหม่มากขึ้น

In Costa Rica,

ในประเทศคอสตาริกา

farmers have intertwined farmland with tropical habitat so successfully

เกษตรกรประสบความสำเร็จในการผสานพื้นที่ เพาะปลูกกับแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติเขตร้อน

that they have significantly contributed to doubling the country's forest cover.

จนขนาดที่พวกเขาสามารถเพิ่ม พื้นที่ป่าให้กับประเทศได้ถึงสองเท่า

This provides food and habitat for wildlife

ทำให้สัตว์ป่ามีอาหารและ ที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ

as well as natural pollination and pest control

รวมถึงการถ่ายละอองเรณูของพืช และการกำจัดแมลงโดยธรรมชาติ

from the birds and insects these farms attract,

ผ่านนกและแมลง ที่แปลงเพาะปลูกเหล่านี้ดึงดูดมา

producing food while restoring the planet.

สร้างอาหารในขณะที่ก็ฟื้นฟูโลก

In the United States,

ในสหรัฐอเมริกา

ranchers are raising cattle on grasslands composed of native species,

คนเลี้ยงสัตว์จะเลี้ยงวัว ในทุ่งหญ้าที่มีสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ

generating a valuable protein source

สร้างแหล่งโปรตีนที่มีคุณค่า

using production methods that store carbon and protect biodiversity.

ใช้กระบวนการผลิตที่กักเก็บคาร์บอน และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ

In Bangladesh, Cambodia and Nepal,

ในบังกลาเทศ กัมพูชา และเนปาล

new approaches to rice production

ใช้วิธีการใหม่ในการปลูกข้าว

may dramatically decrease greenhouse gas emissions in the future.

ซึ่งอาจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้อย่างมากในอนาคต

Rice is a staple food for three billion people

ข้าวเป็นอาหารหลัก ของคนกว่าสามพันล้านคน

and the main source of livelihood for millions of households.

และเป็นอาชีพหลัก ของหลายล้านครัวเรือน

More than 90 percent of rice is grown in flooded paddies,

มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของข้าว ปลูกในนาน้ำขัง

which use a lot of water

ซึ่งใช้น้ำจำนวนมาก

and release 11 percent of annual methane emissions,

และปล่อยก๊าซมีเทนคิดเป็น 11 เปอร์เซ็นต์ ของก๊าซมีเทนที่ถูกปล่อยออกมาในแต่ละปี

which accounts for one to two percent

ซึ่งเป็น 1 หรือ 2 เปอร์เซ็นต์

of total annual greenhouse gas emissions globally.

ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกในแต่ละปี

By experimenting with new strains of rice,

การทดลองข้าวสายพันธ์ใหม่

irrigating less

การใช้น้ำน้อยลง

and adopting less labor-intensive ways of planting seeds,

และอาศัยวิธีการปลูกที่ใช้กำลังแรงงานน้อยลง

farmers in these countries

เกษตรกรในประเทศเหล่านี้

have already increased their incomes and crop yields

ได้เพิ่มรายได้และจำนวนผลผลิตของพวกเขา

while cutting down on greenhouse gas emissions.

ในขณะที่ก็สามารถลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกลงได้

In Zambia,

ในแซมเบีย

numerous organizations are investing in locally specific methods

หลายองค์กรกำลังลงทุนหาวิธีการ ที่เหมาะสมกับพื้นที่

to improve crop production, reduce forest loss

เพื่อเพิ่มการผลิตพืชผล และลดการสูญเสียพื้นที่ป่า

and improve livelihoods for local farmers.

รวมทั้งปรับปรุงคุณภาพชีวิต ให้กับเกษตรกรท้องถิ่น

These efforts are projected to increase crop yield

ความพยายามเหล่านี้คาดว่า จะเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร

by almost a quarter over the next few decades.

ได้ถึงหนึ่งส่วนสี่ในอีกไม่กี่ทศวรรษ

If combined with methods to combat deforestation in the region,

หากผสมผสานกับวิธีการต่อสู้กับ การตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่แล้ว

they could move the country

เราสามารถขับเคลื่อนประเทศ ไปสู่เกษตรกรรม ที่ยืดหยุ่น และคำนึงถึงสภาพภูมิอากาศ

toward a resilient, climate-focused agricultural sector.

And in India,

ในอินเดีย

where up to 40 percent of post-harvest food is lost or wasted

40 เปอร์เซ็นต์ของอาหาร หลังการเก็บเกี่ยว สูญหายหรือกลายเป็นขยะ

due to poor infrastructure,

เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ดี

farmers have already started to implement solar-powered cold storage capsules

เกษตรกรได้เริ่มติดตั้งห้องเย็น ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์

that help thousands of rural farmers preserve their produce

เพื่อช่วยเกษตรกรหลายพันคนในชนบท เก็บรักษาผลิตผลของตัวเอง

and become a viable part of the supply chain.

และการเป็นส่วนสำคัญในห่วงโซ่อุปทาน

It will take all of these methods,

เราจะต้องใช้วิธีการเหล่านี้ทั้งหมด

from the most high-tech to the lowest-cost,

จากวิธีการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ไปจนถึงที่ใช้ต้นทุนต่ำ

to revolutionize farming.

ในการปฏิวัติเกษตรกรรม

High-tech interventions stand to amplify

วิธีการที่ใช้เทคโนโลยีสูง จะช่วยขยาย

climate- and conservation-oriented approaches to farming,

วิธีการทำการเกษตรที่คำนึงถึง การอนุรักษ์และสภาพภูมิอากาศ

and large producers will need to invest in implementing these technologies.

ผู้ผลิตรายใหญ่จะต้องลงทุนในการใช้ เทคโนโลยีเหล่านี้

Meanwhile, we'll have to expand access to the lower-cost methods

ในขณะเดียวกันเราจะต้องขยายการเข้าถึง วิธีการที่ใช้ต้นทุนต่ำ

for smaller-scale farmers.

สำหรับเกษตรกรรายย่อย

This vision of future farming will also require a global shift

วิสัยทัศน์ของการเกษตรในอนาคตนี้ จะต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก

toward more plant-based diets

ที่มุ่งไปที่อาหารที่ทำมาจากพืช

and huge reductions in food loss and waste,

และลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร

both of which will reduce pressure on the land

ซึ่งทั้งสองส่วนจะลดการใช้พื้นที่ ที่มากเกินไป

and allow farmers to do more with what they have available.

และช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์ จากสิ่งที่มีได้มากขึ้น

If we optimize food production, both on land and sea,

หากเราเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหาร ทั้งบนบกและในทะเล

we can feed humanity

เราจะมีอาหารให้กับมนุษยชาติ

within the environmental limits of the earth,

ภายใต้ข้อจำกัดทางด้านสภาพแวดล้อม ของโลก

but there's a very small margin of error,

แต่ก็อาจจะมีความผิดพลาดบ้าง

and it will take unprecedented global cooperation

และจะต้องใช้ความร่วมมือของทั่วโลก แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

and coordination of the agricultural lands we have today.

เพื่อร่วมกันใช้ผืนดินการเกษตร ที่เรามีในปัจจุบัน