What happens to our bodies after we die? - Farnaz Khatibi Jafari

เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายหลังจากที่เราเสียชีวิต - เฟอร์นาซ คาทิบิ จาฟาริ (Farnaz Khatibi Jafari)

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Pitipa Chongwatpol

Since the dawn of humanity,

ตั้งแต่รุ่งอรุณของมนุษยชาติ

an estimated 100.8 billion people have lived and died,

ประชากรประมาณ 100.8 พันล้านคน มีชีวิตอยู่และตาย

a number that increases by about .8% of the world's population each year.

จำนวนประชากรโลกนั้น เพิ่มขึ้นประมาณ 0.8%ในแต่ละปี

What happens to all of those people's bodies after they die

เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของพวกเขา หลังจากที่เสียชีวิต

and will the planet eventually run out of burial space?

และท้ายที่สุดแล้ว ดาวเคราะห์นี้ จะไม่เหลือที่ฝังศพหรือเปล่า

When a person's heart stops beating,

เมื่อหัวใจของคนหยุดเต้น

the body passes through several stages before it begins decomposing.

ร่างกายจะผ่านระยะต่าง ๆ ก่อนที่มันจะเริ่มย่อยสลาย

Within minutes after death,

ภายในไม่กี่นาทีหลังความตาย

the blood begins settling in the lower-most parts of the body.

เลือดเริ่มที่จะตกลงมา อยู่ในส่วนล่างของร่างกาย

Usually eight to twelve hours later,

โดยทั่วไปแล้ว ภายในแปด ถึงสิบสองชั่วโมงต่อมา

the skin in those areas is discolored by livor mortis, or post-mortem stain.

ผิวหนังในบริเวณนั้นก็จะเริ่มเปลี่ยนสีโดย ลิวอร์ มอร์ทิส หรือรอยเขียวช้ำหลังตาย

And while at the moment of death the body's muscles relax completely

และในช่วงของเวลาตายนั้น กล้ามเนื้อของร่างกายคลายตัวอย่างสมบูรณ์

in a condition called primary flaccidity,

ในสภาวะที่เรียกว่า การอ่อนปวกเปียกขั้นต้น

they stiffen about two to six hours later in what's known as rigor mortis.

มันจะเกร็งตัวหลังจากสองถึงหกชั่วโมงต่อมา ในสภาวะที่รู้จักกันว่า ไรกอร์ มอร์ทิส

This stiffening spreads through the muscles,

การเกร็งแข็งนี้แผ่ไปทั่วกล้ามเนื้อ

and its speed can be affected by age, gender, and the surrounding environment.

และความเร็วของมันก็อาจต่างกันไปตามอายุ เพศ และสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ

The body also changes temperature,

ร่างกายยังมีอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป

usually cooling off to match its environment.

โดยมักจะเย็นลง จนถึงอุณหภูมิแวดล้อมของมัน

Next comes decomposition,

ต่อไป การย่อยสลายจะเกิดขึ้น

the process by which bacteria and insects break apart the body.

ซึ่งมันคือกระบวนการที่ซึ่งแบคทีเรีย และแมลงต่าง ๆ สลายร่างกาย

Many factors affect the rate of decomposition.

ปัจจัยต่าง ๆ ส่งผลต่อ อัตราการย่อยสลายนี้

There is, however, a basic guide of the effect of the environment on decompositon

อย่างไรก็ดี มีข้อชี้แนะพื้นฐานถึงผล จากสิ่งแวดล้อมที่มีต่อการย่อยสลาย

called Casper's Law.

เรียกว่า กฏของแคสเปอร์

It says that if all other factors are equal,

มันกล่าวว่า ถ้าปัจจัยอื่น ๆ เท่ากัน

a body exposed to air decomposes twice as fast as one immersed in water

ร่างที่สัมผัสกับอากาศย่อยสลายได้เร็ว เป็นสองเท่าของร่างที่แช่อยู่ในน้ำ

and eight times as fast as one buried in earth.

และเร็วเป็นแปดเท่าของร่างที่ถูกฝังดิน

Soil acidity also greatly affects bone preservation.

ความเป็นกรดในดินยังส่งผลอย่างมาก ต่อการเก็บรักษากระดูก

High-acidity soils with a pH of less than 5.3

ดินที่มีความเป็นกรดสูง ที่ pH น้อยกว่า 5.3

will rapidly decompose bone,

จะย่อยสลายกระดูกอย่างรวดเร็ว

whereas in a neutral or basic soil with a pH of 7 or more,

ในขณะที่ดินที่เป็นกลางหรือเป็นเบส ที่มีค่า pH ที่ 7 หรือสูงกว่า

a skeleton can remain in relatively good condition for centuries.

โครงกระดูกจะยังคงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างดี เป็นเวลาหลายศตวรรษ

Different cultures throughout history have developed unique approaches to burials.

วัฒนธรรมต่าง ๆ ตลอดประวัติศาสตร์ ได้พัฒนาวิธีการจำเพาะเพื่อฝังศพ

As far back as the first Neanderthal burials,

ย้อนกลับไปนานถึงการฝังศพ ของนีแอนเดอร์ทัลคนแรก

death was accompanied by rituals,

ความตายเกี่ยวข้องกับพิธีกรรม

like the positioning, coloring, or decorating of corpses.

เช่นการจัดวางท่าทาง การทาสี หรือการตกแต่งศพ

Traditional Christian burials decorate the body in dress,

การฝังศพตามธรรมเนียมชาวคริสต์ แบบดั้งเดิม ตกแต่งศพด้วยเสื้อผ้า

while in traditional Islam,

ในขณะที่ตามธรรมเนียมชาวอิสลาม

a body is wrapped in a piece of ritual fabric

ร่างถูกห่อด้วยสิ่งทอทางพิธีกรรม

with the face oriented toward Mecca.

โดยต้องร่างนั้นจะหันหน้าไปทางกรุงเมกกะ

Traditional Hindus ceremonially burn the body,

ตามธรรมเนียมชาวฮินดูจะเผาร่างตามพิธีกรรม

and Zoroastrians, followers of one of the oldest monotheistic religions,

และชาวโซโรแอสเตอร์ ผู้ที่นับถือศาสนา ที่เชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียวที่เก่าแก่ที่สุด

traditionally place bodies atop a tower to expose them to the Sun

ตามธรรมเนียมแล้ว จะวางร่างเอาไว้ที่ ส่วนบนของหอคอย เพื่อให้ได้รับแสงอาทิตย์

and scavenging birds.`

และให้ถูกพบได้โดยนกกินซาก

Before the Industrial Revolution, burials were simple and accessible.

ก่อนที่จะมีการปฏิวัติอุตสาหกรรม การฝังศพเป็นเรื่องพื้นฐานและทำได้ไม่ยาก

These days, with suitable burial land running out in high-population areas,

ทุกวันนี้ บริเวณที่เหมาะสมต่อการฝังศพ กำลังจะหมดไปในบริเวณที่มีประชากรมาก

purchasing private gravesites can be costly,

การซื้อพื้นที่ฝังศพส่วนตัวอาจมีราคาแพง

and many people can't afford simple burials.

และหลาย ๆ คนก็ไม่สามารถ ที่จะทำการฝังศพแบบทั่วไปได้

Even cremation, the second most common burial practice in the world,

แม้แต่การเผาศพ การทำศพที่พบได้มากที่สุด เป็นอันดับสองของโลก

comes with a high cost.

ก็มีราคาแพง

As for the question of running out of space,

สำหรับคำถามเรื่องพื้นที่ที่กำลังขาดแคลน

the issue isn't so much about total land in the world

ประเด็นไม่ได้เกี่ยวกับจำนวนที่ดินทั้งหมด ในโลกใบนี้

as it is that large populations cluster together within cities.

เนื่องจากประชากรจำนวนมาก จะกระจุกตัวกันอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ

Most of the big cities in the world

เมืองขนาดใหญ่ส่วนมากในโลก

may run out of suitable burial grounds within a century.

อาจกำลังขาดแคลนพื้นที่ที่เหมาะสม ต่อการฝังศพภายในศตวรรษนี้

For London, it's even sooner.

สำหรับลอนดอน มันอาจเร็วกว่านั้น

That may happen by 2035.

มันอาจเกิดขึ้นภายในปี ค.ศ. 2035

So are there alternatives to traditional burials

แล้วแบบนี้ เรามีทางเลือกอื่นหรือไม่

that might help with the space issue?

ที่อาจช่วยแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่

In some countries, skyscraper cemeteries enable vertical burials.

ในบางประเทศ สุสานตึกระฟ้า สามารถทำให้ฝังศพในแนวตั้งได้

Some options focus on the body's relationship with the environment.

บางตัวเลือกให้ความสนใจกับความสัมพันธ์ ของร่างกายที่มีต่อสิ่งแวดล้อม

Promession, for example, freeze-dries and pulverizes the body,

นวัตกรรมการจัดการศพยุคใหม่ เช่น การแช่แข็งแห้ง และการบดร่าง

creating a powder that can turn into compost

ทำให้เป็นผงที่สามารถ เปลี่ยนเป็นปุ๋ย

when mixed with oxygen and water.

เมื่อผสมกับออกซิเจนและน้ำ

There are also green burials that use special materials,

ยังมีการฝังศพแบบเป็นมิตรกับธรรมชาติ ที่ใช้สารจำเพาะ

such as biodegradable caskets,

เช่น โลงที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ

urns that sprout trees,

โกศที่ใช้เพาะกล้าไม้

and burial suits that grow mushrooms.

และชุดการฝังศพที่ใช้ปลูกเห็ดได้

Eternal reefs take that concept to the depths of the ocean

แนวปะการังชั่วนิรันดิ์ ได้นำแนวคิดนี้ไปยังทะเลลึก

using a mixture of ashes and cement to create marine habitats for sea life.

โดยใช้การผสมกันระหว่างเถ้าและซีเมนต์ เพื่อสร้างที่อยู่ให้กับสิ่งมีชีวิตในทะเล

Death is an inevitable part of the human condition,

ความตายเป็นส่วนหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ของการเป็นมนุษย์

but how we treat bodies and burials continues to evolve.

แต่การที่เราปฏิบัติต่อร่างและการฝังศพนั้น ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงต่อไป

We may each have different spiritual,

เราอาจมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพ

religious,

ศาสนา

or practical approaches to dying,

หรือวิธีการปฏิบัติต่อการตายที่แตกต่างกัน

but the ever-increasing demand for burial space

แต่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นมาก ต่อพื้นที่การฝังศพ

might give us a push to be creative

อาจผลักดันให้เรามีความคิดสร้างสรรค์

about where our bodies go after the final stages of life.

เกี่ยวกับว่าร่างของเราจะไปอยู่ที่ไหน เมื่อเรามาถึงระยะสุดท้ายของชีวิต