How did feathers evolve? - Carl Zimmer

ขนนกมีวิวัฒนาการมาอย่างไร? - คาร์ล ซิมเมอร์ (Carl Zimmer)

Translator: Andrea McDonough Reviewer: Bedirhan Cinar

Translator: Yada Sattarujawong Reviewer: Unnawut Leepaisalsuwanna

Feathers are some of the most remarkable things

ขนนกเป็นหนึ่งในสิ่งไม่ธรรมดาต่างๆ

ever made by an animal.

ที่สัตว์สร้างขึ้น

They are gorgeous in their complexity,

ทั้งสวยงาม และซับซ้อน

delicate in their construction,

โครงสร้างบอบบาง

and yet strong enough to hold a bird

แต่ก็แข็งแรงพอที่จะทำให้นกบินได้

thousands of feet in the air.

สูงหลายพันฟุต

Like all things in nature,

เช่นเดียวกับสิ่งต่างๆในธรรมชาติ

feathers evolved over millions of years

ขนนกมีวิวัฒนาการมาหลายล้านปี

into their modern form.

จนกลายมาเป็นรูปแบบที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้

It could be hard to imagine

มันอาจจะจินตนาการได้ยาก

how this could have happened.

ว่ามันพัฒนามาได้อย่างไร

After all, what did the intermediate forms look like?

ยิ่งไปกว่านั้น รูปร่างตอนที่ยังไม่สมบูรณ์ มีหน้าตาเป็นอย่างไร

What good is half a wing,

ปีกครึ่งๆกลางๆ จะใช้ทำอะไรได้

festooned with half-feathers?

มีขนไม่ครบรึเปล่า?

Thanks to science,

ขอบคุณวิทยาศาสตร์

we now know that birds are living dinosaurs.

ที่ทำให้เรารู้ว่านก ก็คือไดโนเสาร์ที่ยังมีชีวิตอยู่

You can see the kinship in their skeletons.

เราเห็นความคล้ายคลึงกันในโครงกระดูกของพวกมัน

Certain dinosaurs share some anatomical details with birds

ไดโนเสาร์บางชนิดมีลักษณะกายวิภาค ที่มีรายละเอียดคล้ายกับนก

found in no other animals, such as wish bones.

ซึ่งไม่พบในสัตว์ชนิดอื่นเลย เช่นกระดูกสองง่าม

And in the late 1990s,

และในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990

paleontologists started digging up

ผู้ศึกษาซากดึกดำบรรพ ก็เริ่มขุดค้นพบ

some compelling support for that idea:

หลักฐานที่มารองรับข้อสันนิษฐานนั้น

dinosaurs with bits of feathers

ไดโนเสาร์ที่มีขนนก

still preserved on their bodies.

ยังติดอยู่ที่ตัวของมัน

Since then, scientists have found

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลักฐานทางวิทยาศาสตร์

dozens of species of dinosaurs

เกี่ยวกับไดโนเสาร์อีกมากกว่าสิบสองสายพันธุ์

with remnants of feathers.

ที่มีซากคล้ายขนนก

Some were as small as pigeons,

บางตัวก็เล็กพอๆกับนกพิราบ

and some were the size of a school bus.

และบางตัวก็มีขนาดเท่ากับรถโรงเรียน

If you look at how they are related on a family tree,

ถ้าเรามองดูว่า พวกมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร ตามสาแหรกวงศ์ตระกูล

the evolution of feathers

วิวัฒนาการของขนนก

doesn't seem quite so impossible.

อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

The most distant feathered relatives of birds

แม้แต่ญาติที่ห่างที่สุดกับสัตว์ตระกูลนก

had straight feathers that looked like wires.

ก็มีเส้นขนตรงๆ ที่ดูเหมือนลวด

Then these wires split apart,

แล้วเส้นลวดพวกนี้ก็เริ่มแตกออก

producing simple branches.

กลายเป็นกิ่งก้าน

In many dinosaur lineages,

ในสายพันธุ์ไดโนเสาร์หลายสาย

these simple feathers evolved

ขนนกแบบง่ายๆ นี้ได้วิวัฒนาการขึ้น

into more intricate ones,

อันที่บอบบางกว่า

including some that we see today on birds.

รวมทั้งบางอันที่เรายังสามารถพบได้ ในนกทุกวันนี้

At the same time,

ในขณะเดียวกัน

the feathers spread across the bodies of dinosaurs,

ขนนกที่แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของไดโนเสาร์

turning from sparse patches of fuzz

แล้วเปลี่ยนจากขนนกหรอมแหรม มากลายเป็นฝอย

into dense plumage,

และกลายเป็นขนนกฟูๆ

which even extended down to their legs.

ซึ่งแผ่กระจายลงไปถึงขาของพวกมัน

A few fossils even preserved some of the molecules

ซากดึกดำบรรพยังสามารถเก็บรักษาโมเลกุลบางส่วน

that give feathers color.

ที่ทำให้ขนนกเหล่านั้นมีสี

They reveal a beautiful range of colors:

แสดงให้เห็นว่ามีสีสันสวยงามหลากหลายเฉด

glossy, dark plumage, reminiscent of crows,

ทั้งเป็นมันเงา เป็นสีเข้ม แบบเดียวกับที่ ปรากฏอยู่ในขนของอีกา

alternating strips of black and white,

ขนนกที่เป็นสีขาวและดำสลับกัน

or splashes of bright red.

หรือสีแดงสดใส

Some dinosaurs had high crests on their heads,

ไดโนเสาร์บางชนิดมีหงอนสูงอยู่บนหัว

and others had long, dramatic tail feathers.

บางชนิดมีขนหางยาวเป็นพิเศษ

Now, none of these dinosaurs

แต่ ไม่มีไดโนเสาร์ประเภทใดเลย

could use their feathers to fly -

ที่สามารถใช้ขนของพวกมันในการบินได้

their arms were too short

แขนของพวกมันสั้นเกินไป

and the rest of their bodies were far too heavy.

และร่างกายส่วนที่เหลือก็มีน้ำหนักมากเกินไป

But, birds don't just use feathers to fly.

แต่พวกนกเองก็ไม่ได้ใช้ขนของพวกมันในการบิน

A woodcock uses feathers to blend in perfectly

นกซ่อมใช้ขนในการพรางตัว

with its forest backdrop.

เข้ากับป่ารอบตัว

An ostrich stretches its wings over its nest

นกกระจอกเทศยืดปีกปกคลุมเหนือรัง

to shade its young.

เพื่อบังร่มให้ลูกน้อยของมัน

A peacock displays its magnificent tail feathers

นกยูงรำแพนแพนหางที่สวยงามของมัน

to attract peahens.

เพื่อดึงดูดนกยูงตัวเมีย

Feathers could have served these functions

ขนนกอาจทำหน้าที่เหล่านี้

for dinosaurs too.

ในไดโนเสาร์เหล่านั้นด้วย

Exactly how feathered dinosaurs took flight

การที่ไดโนเสาร์ที่มีขนเหล่านั้น บินได้อย่างไร

is still a bit of a mystery.

ก็ยังคงเป็นปริศนา

But if a small-feathered dinosaur flapped

แต่ถ้าไดโนเสาร์ขนาดเล็ก ที่มีขนนกปกคลุม เริ่มตีปีก

its arms as it ran up an incline,

แล้ววิ่งไปในแนวตรง

its feathers would have provided extra lift

ขนที่ปีกของมันก็น่าจะช่วยให้เกิดแรงยกเพิ่มขึ้น

to help it run faster.

หรือช่วยให้มันวิ่งได้เร็วขึ้น

This accident of physics might have led

อุบัติเหตุทางฟิสิกส์แบบนี้ อาจทำให้เกิด

to the evolution of longer dinosaur arms,

วิวัฒนาการของแขนที่ยาวขึ้นในหมู่ไดโนเสาร์

which would let them run faster

ซึ่งจะยิ่งช่วยให้มันวิ่งได้เร็วยิ่งขึ้น

and even leap short distances through the air.

หรือยังอาจจะทำให้มันสามารถโผไปได้ในอากาศ เป็นช่วงสั้นๆ

Eventually, their arms stretched out into wings.

และในที่สุด แขนของพวกมันก็คงจะยืดออก จนกลายเป็นปีก

Only then, perhaps 50 million years

เมื่อเป็นเช่นนั้น ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเวลากว่า 50 ล้านปี

after the first wiry feathers evolved,

หลังจากที่เส้นขนเส้นแรกได้วิวัฒนาการขึ้น

did feathers lift those dinosaurs into the sky.

กว่าที่เส้นขนเหล่านั้น จะช่วยให้ไดโนเสาร์สามารถ บินได้บนท้องฟ้า