How to understand power - Eric Liu

3,570,477 views ・ 2014-11-04

TED-Ed


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Natthapat Mardech Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant
00:11
Every day of your life,
0
11444
1181
ในทุก ๆ วันของชีวิตคุณ
00:12
you move through systems of power that other people made.
1
12625
2712
ล้วนต้องเคลื่อนผ่านระบบอำนาจ ที่ผู้อื่นได้สร้างไว้
00:15
Do you sense them?
2
15337
1324
คุณสัมผัสถึงมันได้ไหม?
00:16
Do you understand power?
3
16661
2133
คุณเข้าใจเรื่องของอำนาจรึเปล่า?
00:18
Do you realize why it matters?
4
18794
2253
ตระหนักไหมว่าทำไมมันจึงสำคัญ?
00:21
Power is something we are often uncomfortable talking about.
5
21047
3348
อำนาจเป็นอะไรที่เรามัก ไม่สบายใจที่จะพูดถึง
00:24
That's especially true in civic life, how we live together in community.
6
24395
4296
ซึ่งเป็นความจริงมาก ๆ ของชีวิตคนเมือง และการที่เราอยู่ร่วมกันในสังคม
00:28
In a democracy, power is supposed to reside with the people, period.
7
28691
5775
ในระบอบประชาธิปไตย อำนาจควรจะถูกใช้เพื่อประชาชน จบ
00:34
Any further talk about power and who really has it
8
34466
2952
การพูดถึงอำนาจในมิตินอกเหนือจากนี้ และรวมไปถึงผู้ที่ถือครองมัน
00:37
seems a little dirty, maybe even evil.
9
37418
3419
ดูจะเป็นอะไรที่สกปรกนิด ๆ อาจถึงขั้นชั่วร้ายเลยด้วยซ้ำ
00:40
But power is no more inherently good or evil than fire or physics.
10
40837
4088
แต่โดยเนื้อแท้ของอำนาจนั้น มันไม่ได้ดี หรือชั่วร้ายไปมากกว่าไฟหรือฟิสิกส์เลย
00:44
It just is.
11
44925
2449
มันก็แค่เป็นไปแบบที่มันเป็น
00:47
It governs how any form of government works.
12
47374
2614
มันควบคุมว่ารูปแบบการปกครองต่าง ๆ จะทำงานอย่างไร
00:49
It determines who gets to determine the rules of the game.
13
49988
3420
มันกำหนดว่าใครจะเป็นผู้ได้กำหนด กฎกติกาต่าง ๆ ของเกม
00:53
So learning how power operates is key to being effective,
14
53408
3370
การเรียนรู้ว่าอำนาจทำงานอย่างไรจึงเป็น หัวใจที่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ มีประสิทธิภาพ
00:56
being taken seriously, and not being taken advantage of.
15
56778
4694
ถูกจัดการอย่างเอาจริงจัง และไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ
01:01
In this lesson, we'll look at where power comes from,
16
61472
2538
ในบทเรียนนี้ เราจะมาดูกัน ว่าอำนาจนั้นมาจากไหน
มันทำงานอย่างไร และต้องทำอย่างไร เพื่อให้ชีวิตสาธารณะของเรามีอำนาจมากขึ้น
01:04
how it's exercised and what you can do to become more powerful in public life.
17
64010
5774
01:09
Let's start with a basic definition.
18
69784
2198
มาเริ่มที่คำนิยามพื้นฐานกันก่อน
01:11
Power is the ability to make others do what you would have them do.
19
71982
3759
อำนาจคือความสามารถที่ทำให้ผู้อื่น ทำในสิ่งที่เราต้องการ
01:15
Of course, this plays out in all arenas of life,
20
75741
2574
แน่นอน มันเป็นเช่นนี้ ในทุกพื้นที่ของชีวิตเรา
01:18
from family to the workplace to our relationships.
21
78315
5738
ตั้งแต่ครอบครัวจนถึงที่ทำงาน จนไปถึงความสัมพันธ์
01:24
Our focus is on the civic arena,
22
84053
2611
เราจะให้ความสำคัญไปที่ เวทีพลเมือง
01:26
where power means getting a community to make the choices
23
86664
2751
ที่ที่อำนาจนั้นหมายถึงการให้ชุมชน ได้กำหนดทางเลือกเอง
01:29
and to take the actions that you want.
24
89415
3109
และตัดสินใจทำในสิ่งที่เราต้องการ
01:32
There are six main sources of civic power.
25
92524
2659
แหล่งที่มาของอำนาจพลเมือง มีด้วยกัน 6 แหล่ง
01:35
First, there's physical force and a capacity for violence.
26
95183
3809
แหล่งแรก อำนาจทางกายภาพ และสมรรถภาพในการใช้ความรุนแรง
01:38
Control of the means of force, whether in the police or a militia,
27
98992
3244
ควบคุมโดยใช้กำลังบังคับ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ตำรวจหรือกองทัพก็ตาม
01:42
is power at its most primal.
28
102236
2668
คืออำนาจที่จัดว่าเก่าแก่ที่สุด
01:44
A second core source of power is wealth.
29
104904
3004
แหล่งอำนาจสำคัญอย่างที่สอง คือความมั่งคั่ง
01:47
Money creates the ability to buy results and to buy almost any other kind of power.
30
107908
5992
เงินตราสร้างความสามารถที่จะซื้อผลลัพธ์ และซื้ออำนาจอื่น ๆ ได้เกือบทุกชนิด
01:53
The third form of power is state action, government.
31
113900
4033
อำนาจแบบที่สามคือการกระทำโดยรัฐ
รัฐบาล
01:57
This is the use of law and bureaucracy to compel people
32
117933
2850
นี่คือการใช้วิธีการทางกฎหมาย และระบบราชการในการบังคับผู้คน
02:00
to do or not do certain things.
33
120783
3240
ให้ทำหรือไม่ให้ทำสิ่งต่าง ๆ
02:04
In a democracy, for example, we the people, theoretically,
34
124023
3605
ในระบอบประชาธิปไตย พวกเราซึ่งเป็นประชาชน ในทางทฤษฎีแล้ว
02:07
give government its power through elections.
35
127628
3071
ให้อำนาจแก่รัฐบาลผ่านการเลือกตั้ง
02:10
In a dictatorship, state power emerges from the threat of force,
36
130699
4093
ในระบอบเผด็จการ อำนาจรัฐ ได้มาจากการใช้กำลังขู่เข็ญ
02:14
not the consent of the governed.
37
134792
2524
ไม่ใช่จากความสมยอมจากผู้ปกครอง
02:17
The fourth type of power is social norms or what other people think is okay.
38
137316
4626
อำนาจแบบที่สี่คือบรรทัดฐานทางสังคม หรือสิ่งที่ผู้คนคิดว่าใช้ได้
02:21
Norms don't have the centralized machinery of government.
39
141942
2730
บรรทัดฐานไม่มีกลไกรวมศูนย์แบบรัฐบาล
02:24
They operate in a softer way, peer to peer.
40
144672
3199
มันทำงานด้วยวิธีการที่นุ่มนวลกว่า จากคนหนึ่งสู่อีกคน
02:27
They can certainly make people change behavior and even change laws.
41
147871
3960
มันสามารถทำให้ผู้คนเปลี่ยนพฤติกรรมได้ และแม้กระทั่งเปลี่ยนกฎหมาย
02:31
Think about how norms around marriage equality today are evolving.
42
151831
4300
คิดดูว่าบรรทัดฐานในเรื่องความเท่าเทียมใน เรื่องการแต่งงานทุกวันนี้พัฒนาไปมากแค่ไหน
02:36
The fifth form of power is ideas.
43
156131
3287
อำนาจชนิดที่ห้าคือความคิด
02:39
An idea, individual liberties, say, or racial equality,
44
159418
3409
ความคิด เสรีภาพส่วนบุคคล เช่น ความเสมอภาคทางเชื้อชาติ
02:42
can generate boundless amounts of power
45
162827
2512
สามารถก่อให้เกิดอำนาจอันไร้ขอบเขตได้
02:45
if it motivates enough people to change their thinking and actions.
46
165339
4281
ถ้ามันกระตุ้นผู้คนได้มากพอ ให้เปลี่ยนวิธีคิดและการกระทำ
02:49
And so the sixth source of power is numbers, lots of humans.
47
169620
4504
และแหล่งอำนาจชนิดที่หกก็คือ จำนวน จำนวนของมนุษย์นี่แหละ
เสียงของผู้คนจำนวนมาก ทำให้เกิดอำนาจโดยการแสดงออกมาซึ่ง
02:54
A vocal mass of people creates power by expressing
48
174124
2529
02:56
collective intensity of interest
49
176653
2346
ความสนใจของผู้คนรวมหมู่อย่างเข้มข้น
02:58
and by asserting legitimacy.
50
178999
2055
และโดยการยืนยันความชอบธรรมทางกฎหมาย
03:01
Think of the Arab Spring or the rise of the Tea Party.
51
181054
3178
ลองคิดถึงอาหรับสปริง หรือการลุกฮือที่งานเลี้ยงน้ำชาบอสตัน
03:04
Crowds count.
52
184232
1960
จำนวนฝูงชนล้วน ๆ
03:06
These are the six main sources of power, what power is.
53
186192
4105
นี่คือหกแหล่งที่มาหลัก ๆ ของอำนาจ และว่าด้วยอำนาจคืออะไร
03:10
So now, let's think about how power operates.
54
190297
3368
ทีนี้มาลองคิดกันดีกว่าว่า อำนาจนั้นทำงานอย่างไร
03:13
There are three laws of power worth examining.
55
193665
4013
มีกฎของอำนาจอยู่สามข้อ ที่ควรค่าแก่การสำรวจ
03:17
Law number one: power is never static.
56
197678
3389
กฎข้อแรก อำนาจเป็นสิ่งที่ไม่ตายตัว
03:21
It's always either accumulating or decaying in a civic arena.
57
201067
3499
มันมีแต่จะเพิ่มพูนขึ้น ไม่ก็เสื่อมลงอยู่เสมอในเวทีพลเมือง
03:24
So if you aren't taking action, you're being acted upon.
58
204566
5773
ซึ่งหากคุณไม่ลงแรงทำอะไรเลย คุณก็จะต้องเป็นฝ่ายต้องปฏิบัติตาม
03:30
Law number two: power is like water.
59
210339
3754
กฎข้อสอง อำนาจก็เหมือนกับสายน้ำ
03:34
It flows like a current through everyday life.
60
214093
2665
มันไหลผ่านหมุนเวียน อยู่ในชีวิตประจำวัน
03:36
Politics is the work of harnessing that flow in a direction you prefer.
61
216758
4546
การเมืองคือเรื่องของการควบคุมสายธาร เหล่านั้นให้ไหลไปตามเส้นทางที่เราต้องการ
03:41
Policymaking is an effort to freeze and perpetuate a particular flow of power.
62
221304
4938
การกำหนดนโยบายคือความพยายามในการแช่แข็ง และรักษาไว้ซึ่งสายธารของอำนาจนั้น
03:46
Policy is power frozen.
63
226242
2793
นโยบายก็คือการรักษาอำนาจไว้
03:49
Law number three: power compounds.
64
229035
2708
กฎข้อที่สาม อำนาจนั้นเพิ่มพูน
03:51
Power begets more power, and so does powerlessness.
65
231743
3782
อำนาจจะสร้างอำนาจเพิ่ม และก็สร้างความไร้อำนาจเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
03:55
The only thing that keeps law number three from leading to a situation
66
235525
3825
สิ่งเดียวที่ทำให้กฎข้อสาม ไม่นำไปสู่สถานการณ์ดังกล่าว
03:59
where only one person has all the power
67
239350
3094
ก็คือการที่มีคนเพียงคนเดียว กุมอำนาจไว้เบ็ดเสร็จ
04:02
is how we apply laws one and two.
68
242444
6892
ซึ่งเราก็จะนำกฎข้อหนึ่งและสองมาปรับใช้
กฎกติการแบบไหนที่เราจะสร้างขึ้นมา เพื่อไม่ให้คนเพียงหยิบมือมีอำนาจมากเกินไป
04:09
What rules do we set up so that a few people don't accumulate too much power,
69
249336
4844
04:14
and so that they can't enshrine their privilege in policy?
70
254180
4104
และเพื่อไม่ให้พวกเขาสามารถ มีอภิสิทธิ์ในการกำหนดนโยบาย?
04:18
That's the question of democracy,
71
258284
2141
นั่นคือคำถามสำหรับระบอบประชาธิปไตย
04:20
and you can see each of these laws at work in any news story.
72
260425
4737
และคุณคงจะเห็นแล้วว่ากฎแต่ละข้อ ทำงานอย่างไรผ่านข่าวต่าง ๆ
04:25
Low wage workers organize to get higher pay.
73
265162
2713
แรงงานค่าแรงต่ำรวมตัวกัน เรียกร้องค่าแรงที่สูงขึ้น
04:27
Oil companies push to get a big pipeline approved.
74
267875
2857
บริษัทน้ำมันผลักดันให้ ท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่ได้รับการอนุมัติ
04:30
Gay and lesbian couples seek the legal right to marry.
75
270732
3253
คู่รักเกย์และเลสเบี้ยนต้องการ สิทธิทางกฎหมายเพื่อที่จะได้แต่งงานกัน
04:33
Urban parents demand school vouchers.
76
273985
2964
พ่อแม่ในเมืองต้องการ การสนับสนุนทางการศึกษา
04:36
You may support these efforts or not.
77
276949
2242
คุณอาจจะสนับสนุนเรื่องเหล่านี้ หรือไม่สนับสนุน
04:39
Whether you get what you want depends on how adept you are with power,
78
279191
4770
คุณจะได้สิ่งที่คุณต้องการหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจัดกับการอำนาจดีแค่ไหน
04:43
which brings us finally to what you can do to become more powerful in public life.
79
283961
4966
ซึ่งในที่สุดก็พาเรามาสู่เรื่องที่ว่าคุณจะ ทำอย่างไรให้มีอำนาจมากขึ้นในชีวิตสาธารณะ
04:48
Here, it's useful to think in terms of literacy.
80
288927
2716
เอาล่ะ คงมีประโยชน์กว่าถ้าลองคิด ในมุมของการที่เราอ่านออกเขียนได้
04:51
Your challenge is to learn how to read power and write power.
81
291643
4794
ความท้าทายของคุณคือการเรียนรู้ ที่จะอ่านอำนาจและเขียนอำนาจ
04:56
To read power means to pay attention to as many texts of power as you can.
82
296437
4655
การจะอ่านอำนาจหมายถึงการใส่ใจต่อ เนื้อหาเกี่ยวกับอำนาจให้มากเท่าที่จะทำได้
05:01
I don't mean books only.
83
301092
1617
เราไม่ได้หมายถึงในหนังสือเท่านั้นนะ
05:02
I mean seeing society as a set of texts.
84
302709
3304
เราหมายถึงการมองสังคม ในฐานะเนื้อหาชุดหนึ่ง
ไม่ชอบสิ่งที่เป็นอยู่ในมหาวิทยาลัย หรือในเมือง หรือในประเทศใช่ไหม?
05:06
Don't like how things are in your campus or city or country?
85
306013
3177
05:09
Map out who has what kind of power, arrayed in what systems.
86
309190
4420
กางออกดูสิว่าใครคนใดถืออำนาจชนิดใด และอำนาจจัดเรียงอยู่ในระบบแบบใด
05:13
Understand why it turned out this way,
87
313610
2316
ทำความเข้าใจว่าทำไมผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้
05:15
who's made it so, and who wants to keep it so.
88
315926
3523
ใครทำ และใครอยากจะให้มันเป็นเช่นนี้ต่อไป
05:19
Study the strategies others in such situations used:
89
319449
4433
ศึกษาการใช้กลยุทธ์ ที่ถูกใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ กันไป
05:23
frontal attack or indirection,
90
323882
4589
โจมตีซึ่งหน้า หรือมีลูกล่อลูกชน
05:28
coalitions or charismatic authority.
91
328471
3332
เป็นแบบมีแนวร่วม หรือเป็นผู้มีอำนาจบารมี
05:31
Read so you may write.
92
331803
2820
อ่านแล้วจากนั้นคุณจึงเขียน
05:34
To write power requires first that you believe you have the right to write,
93
334623
4565
ในการจะเขียนอำนาจ สิ่งจำเป็นอย่างแรกคือ คุณต้องเชื่อว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะเขียนมัน
05:39
to be an author of change.
94
339188
1800
เป็นผู้ประพันธ์ความเปลี่ยนแปลง
05:40
You do.
95
340988
1160
คุณทำได้
05:42
As with any kind of writing, you learn to express yourself,
96
342148
3275
ไม่ว่าจะการเขียนรูปแบบใด คุณจะ ได้เรียนรู้ที่จะแสดงออกซึ่งตัวตนของคุณ
05:45
speak up in a voice that's authentic.
97
345423
1832
พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แท้จริง
05:47
Organize your ideas, then organize other people.
98
347255
4142
จัดระเบียบความคิดขอคุณ จากนั้นจึงค่อยจัดระเบียบผู้อื่น
05:51
Practice consensus building.
99
351397
1628
ฝึกฝนที่จะสร้างฉันทามติร่วม
05:53
Practice conflict.
100
353025
1529
ฝึกฝนที่จะจัดการความขัดแย้ง
05:54
As with writing, it's all about practice.
101
354554
2908
ด้วยการเขียน นี่คือเรื่องของการฝึกฝนล้วน ๆ
05:57
Every day you have a chance to practice, in your neighborhood and beyond.
102
357462
3853
ทุก ๆ วันคุณมีโอกาสที่จะฝึกฝน ในละแวกบ้านของคุณและที่อื่น ๆ
06:01
Set objectives, then bigger ones.
103
361315
1981
ตั้งเป้าหมาย แล้วก็ตั้งเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นอีก
06:03
Watch the patterns, see what works.
104
363296
2578
ตั้งใจดูแบบแผน ว่ามันทำงานยังไง
06:05
Adapt, repeat.
105
365874
1863
ปรับตัว ทำซ้ำ
06:07
This is citizenship.
106
367737
4524
นี่คือความเป็นพลเมือง
ในบทเรียนสั้น ๆ นี้ เราได้สำรวจว่า อำนาจพลเมืองนั้นมาจากไหน
06:12
In this short lesson, we've explored where civic power comes from,
107
372261
3163
06:15
how it works and what you can do to exercise it.
108
375424
3743
ทำงานอย่างไร และเราทำอะไรได้บ้างกับมัน
06:19
One big question remaining is the "why" of power.
109
379167
3437
คำถามใหญ่ ๆ ที่ยังเหลืออยู่ คืออำนาจนั้นมีไป “ทำไม”
06:22
Do you want power to benefit everyone or only you?
110
382604
5325
คุณต้องการอำนาจเพื่อผลประโยชน์ของคนทุกคน หรือเพียงเพื่อตอบสนองตัวคุณเอง
06:27
Are your purposes pro-social or anti-social?
111
387929
3094
เป้าหมายของคุณ คือทำเพื่อสังคม หรือต่อต้านสังคม
06:31
This question isn't about strategy.
112
391023
2030
คำถามนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องกลยุทธ์ใด ๆ
06:33
It's about character, and that's another set of lessons.
113
393053
3720
มันเป็นเรื่องของอุปนิสัย และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งบทเรียน
06:36
But remember this:
114
396773
2395
แต่จงจำไว้ว่า
06:39
Power plus character equals a great citizen,
115
399168
3290
อำนาจบวกกับอุปนิสัย ผลลัพธ์เท่ากับพลเมืองที่เข้มแข็ง
06:42
and you have the power to be one.
116
402458
2736
และคุณเองมีอำนาจที่จะเป็นได้
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7