What causes seizures, and how can we treat them? - Christopher E. Gaw

Translator: Natthaphan-on K Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

Nearly three millennia ago,

เกือบ 3,000 ปีที่แล้ว

a Babylonian tablet described a curious illness called miqtu.

มีแผ่นจารึกของชาวบาบิโลนที่อธิบายถึง ความเจ็บป่วยแปลกประหลาดเรียกว่า มิคทู

Said to cause symptoms ranging from facial twitching to full body convulsions,

จากอาการตั้งแต่หน้ากระตุก ไปจนถึงการสั่นกระตุกทั่วทั้งร่างกาย

the Babylonians believed those afflicted were possessed by evil spirits,

ชาวบาบิโลนเชื่อว่าผู้ที่เจ็บป่วย จากโรคนี้นั้นถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง

and the only treatment was divine intervention.

และทางรักษาเดียวก็คือการแทรกแซงของพระเจ้า

Today, we know the symptoms of miqtu by another name,

ทุกวันนี้ เรารู้จักอาการ ของ Miqtu ในอีกชื่อหนึ่ง

and modern medicine has developed numerous treatments

และการแพทย์สมัยใหม่ ก็ได้พัฒนาวิธีการรักษามากมาย

for those experiencing seizures.

สำหรับผู้ที่ประสบกับอาการชัก

But these ancient afflictions still hold a surprising number of secrets.

แต่โรคภัยไข้เจ็บเก่าแก่เหล่านี้ กลับยังกุมความลับอันน่าประหลาดใจอยู่มาก

Doctors define a seizure as any set of symptoms

แพทย์ให้นิยามการชักว่าเป็นอาการใดๆ

resulting from excess electrical activity in the brain.

ที่เกิดจากคลื่นไฟฟ้าที่มากเกินไปในสมอง

Outside this shared feature, there is a massive range of seizure symptoms,

นอกเหนือจากอาการนี้ ยังมีอาการอื่นๆ เกี่ยวกับการชักอีกมากมาย

and researchers have identified a variety of different seizure types.

และนักวิจัยก็ได้จำแนกการชัก ออกเป็นหลายประเภท

But regardless of the underlying conditions that cause them,

แต่ไม่ว่าอะไรก็ตาม ที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้

every seizure begins here.

การชักล้วนมีจุดเริ่มต้นจากตรงนี้

Hippocrates identified the brain as the source of seizures around 400 BCE.

ฮิปโปเครติสพบว่าสมองเป็นต้นกำเนิด ที่ก่อให้เกิดการชักราวๆ 400 ปีก่อนคริสตกาล

However, this insight didn't immediately lead to better treatments.

อย่างไรก็ตาม ความรู้นี้ไม่ได้นำไปสู่ การรักษาที่ดีขึ้นโดยทันที

Generally, ancient Greeks prescribed medicinal herbs and alterations in diet.

โดยทั่วไปแล้ว ชาวกรีกโบราณจะจ่ายยาสมุนไพร และเปลี่ยนแปลงอาหารการกิน

If they believed the seizure was caused by bleeding in the skull,

ถ้าพวกเขาเชื่อว่าการชักเกิดจาก การเลือดออกภายในกะโหลกศีรษะ

they sometimes employed a technique called trepanation.

บางครั้งพวกเขาก็จะใช้เทคนิคการเจาะ

This early surgery involved drilling a hole in the skull to let blood escape

การผ่าตัดสมัยเก่านี้ ได้เจาะรู ที่กะโหลกศีรษะเพื่อให้เลือดออกมา

and relieve pressure on the brain.

และลดความดันภายในสมอง

Trepanation had... sizable risks.

การเจาะมีความเสี่ยงพอสมควร

But it wasn’t until the 19th century that scientists would make

แต่ก็ไม่จนกว่าจะถึง ศตวรรษที่ 19 ที่นักวิจัย

the next leap forward in seizure treatment.

ได้ก้าวไปสู่อีกขั้นของการรักษาการชัก

In 1870, two German researchers discovered that using electricity

ในปี 1870 นักวิจัยชาวเยอรมัน 2 คน ค้นพบว่าการใช้ไฟฟ้า

to stimulate specific areas of a dog’s brain could move parts of its body.

เพื่อกระตุ้นบางส่วนของสมองสุนัข สามารถขยับส่วนของร่างกายได้

Around the same time, other scientists discovered the brain and nervous system

ในเวลาไล่เลี่ยกัน นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ค้นพบว่าสมองและระบบประสาท

were connected via a network of cells called neurons

นั้นเชื่อมต่อผ่านร่างแหของเซลล์ประสาท

that transmitted electrical signals throughout the body.

ซึ่งถ่ายทอดสัญญาณไฟฟ้าไปทั่วร่างกาย

This established the brain as the control center for nerve impulses

สิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นว่าสมอง คือศูนย์สั่งการกระแสประสาท

that determine our thoughts and movement.

ที่กำหนดความคิดและการเคลื่อนไหว

Better yet, this model made it clear that seizures were due to errors

ยิ่งไปกว่านั้น ต้นแบบนี้ได้ชี้ชัดว่า การชักนั้นมีสาเหตุมาจากความผิดปกติ

in that control center,

ในศูนย์สั่งการนั้น

such as misfiring neurons or excess electrical activity.

เช่นเซลล์ประสาทที่ส่งสัญญาณผิดพลาด หรือคลื่นไฟฟ้าที่มากเกินไป

Early experiments even suggested that different patterns of misfiring

การทดลองก่อนๆ ยังสนับสนุนอีกด้วยว่า การส่งสัญญาณที่ผิดพลาดรูปแบบต่างๆ

could account for different seizure types and symptoms.

สามารถนำไปสู่ประเภท และอาการชักที่ต่างกันออกไปได้

So if seizures were due to neurons misfiring,

ดังนั้นถ้าการชักเกิดจากการส่งสัญญาณ ที่ผิดพลาดของเซลล์ประสาท

how could doctors stop this from happening?

แพทย์จะสามารถหยุดมันได้อย่างไรล่ะ?

Physicians like Sir Charles Locock hypothesized that sedative drugs

แพทย์อย่าง เซอร์ ชาร์ลส์ โลคอคก์ สันนิษฐานว่ายาระงับประสาท

might calm overactive brain activity,

อาจช่วยลดการทำงานของสมองที่มากเกินไป

a theory he confirmed by treating seizures

ซึ่งเป็นทฤษฎีที่เขายืนยันจากการรักษาการชัก

with a medication called potassium bromide.

ด้วยยาเรียกว่าโพแทสเซียมโบรไมด์

Others like Sir Victor Horsley

คนอื่นๆ อย่าง เซอร์ วิกเตอร์ ฮอร์สลีย์

suspected that removing damaged parts of the brain might stop a patient's seizures.

ตั้งข้อสงสัยว่าการนำสมองส่วนที่ได้รับ ผลกระทบออกอาจหยุดการชักของคนไข้ได้

In 1886, he performed a craniotomy,

ในปี 1886 เขาได้ทำการผ่ากะโหลกศีรษะ

temporarily removing part of a patient's skull to extract scarred brain tissue.

นำส่วนของกะโหลกของผู้ป่วยออกชั่วคราว เพื่อนำเนื้อเยื่อสมองที่บาดเจ็บออกมา

Not only did his patient survive, but his seizures improved,

ไม่เพียงแต่คนไข้ของเขารอดเท่านั้น แต่อาการชักของเขาดีขึ้น

launching further research in surgical treatments.

ทำให้เริ่มมีการวิจัยศึกษาต่อ ในด้านการรักษาด้วยการผ่าตัด

Over the next two centuries, seizure treatments advanced rapidly.

กว่า 2 ศตวรรษต่อมา การรักษาอาการชัก ได้ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว

And today, there are dozens of available seizure medications

และทุกวันนี้ก็มียารักษาการชักอยู่จำนวนมาก

that work with unprecedented specificity.

ที่ใช้ได้ผลกับความจำเพาะ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

Some newer medications are able to focus on specific proteins

ยาใหม่ๆ บางตัวนั้นสามารถมุ่งเป้า ไปที่โปรตีนบางตัวโดยเฉพาะ

in the neuron to help manage electrical activity.

ในเซลล์ประสาท เพื่อช่วยจัดการคลื่นไฟฟ้า

And advanced brain imaging techniques can sometimes allow doctors to pinpoint

และเทคนิคการสร้างภาพสมองที่ก้าวหน้า ก็ทำให้ในบางครั้งแพทย์สามารถชี้ชัดว่า

exactly what parts of the brain are causing an individual's seizures.

ส่วนไหนของสมองก่อให้เกิดการชักในบุคคลนั้นๆ

Surgeons then use this information to perform targeted surgeries.

จากนั้น ศัลยแพทย์ก็จะใช้ข้อมูลนี้ เพื่อทำการผ่าตัดเฉพาะที่

These various treatments help doctors manage the majority of seizure cases,

การรักษาต่างๆ ช่วยให้แพทย์ จัดการกับการชักส่วนใหญ่ได้

allowing most people with seizures to live healthy and comfortable lives.

ทำให้คนส่วนมากที่มีอาการชัก ใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข

But the underlying pathology of many seizures remains elusive.

แต่พยาธิสรีรวิทยาที่อยู่เบื้องหลัง อาการชักหลายๆอย่างยังคงยากที่จะเข้าใจได้

In cases without clear brain damage or certain types of pre-existing conditions,

ในกรณีที่สมองไม่มีความเสียหายอย่างชัดเจน หรืออาการที่มีอยู่ก่อนแล้วบางประเภท

it's incredibly difficult to determine what causes neurons to misfire.

มันยากอย่างยิ่งที่จะหาว่าอะไรทำให้เกิด การส่งสัญญาณที่ผิดพลาดของเซลล์ประสาท

It's also not always clear why some treatments are effective.

มันไม่ได้ชัดเจนเสมอไปด้วยว่า ทำไมการรักษาบางอย่างถึงมีประสิทธิภาพ

And even more mysterious are cases where seizures are resistant

และที่น่าพิศวงยิ่งไปกว่านั้น คือกรณีที่การชักนั้นต่อต้าน

to existing treatments that work on similar seizure types.

การรักษาที่มีอยู่ซึ่งใช้ได้ผล กับประเภทการชักที่คล้ายกัน

Scientists are still working on these questions,

นักวิทยาศาสตร์ยังคงพยายาม จัดการกับคำถามเหล่านี้อยู่

but there are clear answers for what to do

แต่มันมีคำตอบที่แน่ชัดแล้วว่าเราควรทำอะไร

if you encounter someone experiencing a seizure.

ถ้าคุณเจอใครที่กำลังชัก

You should never hold a seizing person down,

คุณไม่ควรอย่างยิ่งที่จะจับคนนั้นนอนลง

put objects in their mouth, or perform CPR.

แล้วใส่วัตถุเข้าไปในปาก หรือปั๊มหัวใจ

Instead, try to keep the person safe from falling or bumping their head,

ในทางกลับกัน พยายามดูให้คนนั้นปลอดภัย จากการล้มหรือกระแทกศีรษะตัวเอง

shift them onto their side to keep airways open,

เปลี่ยนให้นอนตะแคงเพื่อให้ทางเดินหายใจเปิด

and stay with them until medical help arrives.

และอยู่กับเขาจน ความช่วยเหลือทางการแพทย์มาถึง