How does anesthesia work? - Steven Zheng

Translator: Rawee Ma Reviewer: Tisa Tontiwatkul

If you've had surgery,

เมื่อคุณเข้ารับการผ่าตัด

you might remember starting to count backwards from ten,

คุณอาจจะจำได้แค่กำลังนับถอยหลังจาก 10...

nine,

9...

eight,

8...

and then waking up with the surgery already over before you even got to five.

แล้วก็ตื่นมาพบว่าการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย ก่อนที่จะนับถึง 5 ด้วยซ้ำ

And it might seem like you were asleep, but you weren't.

มันเหมือนว่าคุณได้หลับไป แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ได้เป็นอย่างนั้น

You were under anesthesia,

คุณถูกวางยาสลบ

which is much more complicated.

ซึ่งมีความซับซ้อนมากกว่านั้น

You were unconscious,

คุณไม่ได้สติ

but you also couldn't move,

ทั้งยังเคลื่อนไหวไม่ได้

form memories,

จำอะไรไม่ได้เลย

or, hopefully, feel pain.

หรือแม้กระทั่งรู้สึกเจ็บ

Without being able to block all those processes at once,

หากไม่สามารถสกัดกั้นความรู้สึกเหล่านี้ ได้พร้อม ๆ กันแล้ว

many surgeries would be way too traumatic to perform.

การผ่าตัด อาจจะทำให้เกิดความบอบช้ำรุนแรงขึ้นได้

Ancient medical texts from Egypt, Asia and the Middle East

จากตำราทางการแพทย์โบราณของ อียิปต์, เอเชีย และตะวันออกกลาง

all describe early anesthetics

ต่างระบุไว้ว่ายาสลบในสมัยก่อน

containing things like opium poppy,

มีส่วนผสมของดอกฝิ่น

mandrake fruit,

ผลแมนเดรก

and alcohol.

และแอลกอฮอล์

Today, anesthesiologists often combine

ปัจจุบัน วิสัญญีแพทย์ ได้รวมเอา

regional, inhalational and intravenous agents

การวางยาสลบเฉพาะส่วน, ระบบทางเดินหายใจ และการฉีดเข้าเส้นเลือดเข้าด้วยกัน

to get the right balance for a surgery.

เพื่อให้เกิดความสมดุลในการผ่าตัด

Regional anesthesia blocks pain signals from a specific part of the body

การวางยาสลับเฉพาะส่วนจะระงับ การรับรู้ความเจ็บปวดจากส่วนนั้นของร่างกาย

from getting to the brain.

ก่อนที่จะถูกส่งไปยังสมอง

Pain and other messages travel through the nervous system as electrical impulses.

ความเจ็บปวดและสื่อนำประสาทต่าง ๆ เดิน ทางผ่านระบบประสาทเหมือนกับคลื่นไฟฟ้า

Regional anesthetics work by setting up an electrical barricade.

การวางยาสลบเฉพาะส่วน จะทำหน้าที่เป็นฉนวนไฟฟ้า

They bind to the proteins in neurons' cell membranes

โดยการดักจับโปรตีน ภายในเนื้อเยื่อของเซลล์ประสาท

that let charged particles in and out,

เพื่อควบคุมการเข้าออกของประจุไฟฟ้า

and lock out positively charged particles.

และยับยั้งการเข้ามาของประจุบวก

One compound that does this is cocaine,

ส่วนประกอบที่ส่งผลเช่นนี้คือ โคเคน

whose painkilling effects were discovered by accident

มันถูกค้นพบความสามารถ ในการระงับความเจ็บปวดได้โดยบังเอิญ

when an ophthalmology intern got some on his tongue.

จากการที่โคเคนเข้าไปแตะลิ้น ของแพทย์ฝึกหัดด้านจักษุวิทยา

It's still occasionally used as an anesthetic,

แต่โคเคนก็ไม่ถูกนำไปใช้กับการวางยาสลบนัก

but many of the more common regional anesthetics

เนื่องจากการวางยาสลบเฉพาะส่วน

have a similar chemical structure and work the same way.

สามารถใช้สารเคมีชนิดอื่นทดแทนโคเคนได้

But for major surgeries where you need to be unconscious,

แต่สำหรับการผ่าตัดใหญ่ การทำให้หมดสติถือว่ามีความจำเป็น

you'll want something that acts on the entire nervous system,

โดยจำเป็นต้องใช้ยาที่สามารถ ระงับระบบประสาทให้ได้ทั้งหมด

including the brain.

รวมถึงสมอง

That's what inhalational anesthetics do.

สิ่งที่ทำแบบนั้นได้คือ การวางยาสลบในระบบทางเดินหายใจ

In Western medicine, diethyl ether was the first common one.

สำหรับแพทย์แผนตะวันตกแล้ว อีเธอร์จะถูกใช้เป็นอย่างแรก

It was best known as a recreational drug

รู้จักกันในนาม ยาเสพติดเพื่อความผ่อนคลาย

until doctors started to realize that people sometimes didn't notice

จนกระทั่งแพทย์ตระหนักได้ว่า ผู้คนต่างไม่ใส่ใจ

injuries they received under the influence.

ถึงผลกระทบที่พวกเขาจะได้รับ จากการใช้พวกมัน

In the 1840s, they started sedating patients with ether

ในปี ค.ศ. 1840 แพทย์ได้ใช้อีเธอร์ สำหรับการทำให้ผู้ป่วยผ่อนคลาย

during dental extractions and surgeries.

ระหว่างการทำฟันและการผ่าตัด

Nitrous oxide became popular in the decades that followed

ในทศวรรษถัดมา ไนตรัสออกไซด์ได้เข้ามามีบทบาทแทน

and is still used today.

และยังใช้จนถึงทุกวันนี้

although ether derivatives, like sevoflurane, are more common.

ถึงแม้ว่าอนุพันธ์ของอีเธอร์ อย่างเซโวฟลูเรนจะสามารถหาได้ง่ายก็ตาม

Inhalational anesthesia is usually supplemented with intravenous anesthesia,

การวางยาสลบในระบบทางเดินหายใจนั้น มักถูกใช้เสริมกับแบบฉีดเข้าเส้นเลือด

which was developed in the 1870s.

ซึ่งเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1870

Common intravenous agents include sedatives, like propofol,

ปกติการวางยาสลบที่ฉีดเข้าเส้น จะมีสารให้ความผ่อนคลายอย่าง โปรโพฟอล

which induce unconsciousness,

ซึ่งทำให้ไม่รู้สึกตัว

and opioids, like fentanyl, which reduce pain.

และสารสกัดฝิ่นอย่าง เฟนทานิล ซึ่งช่วยลดความเจ็บปวด

These general anesthetics also seem to work

การทำงานโดยทั่วไปของการวางยาสลบนั้น

by affecting electrical signals in the nervous system.

จะเกี่ยวข้องกับสัญญาณไฟฟ้า ภายในระบบประสาท

Normally, the brain's electrical signals are a chaotic chorus

ปกติแล้ว สัญญาณไฟฟ้าภายในสมอง จะมีการทำงานที่วุ่นวาย

as different parts of the brain communicate with each other.

ราวกับส่วนต่าง ๆ ของสมอง ได้ติดต่อสื่อสารระหว่างกัน

That connectivity keeps you awake and aware.

การทำงานของมัน ทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวและรับรู้

But as someone becomes anesthetized,

สำหรับคนที่ถูกวางยาสลบ

those signals become calmer and more organized,

สัญญาณเหล่านั้นจะสงบลง และทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น

suggesting that different parts of the brain

ตัวนำสัญญาณต่าง ๆ ภายในสมอง

aren't talking to each other anymore.

ได้หยุดการติดต่อระหว่างกัน

There's a lot we still don't know about exactly how this happens.

ยังมีอีกหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ ถึงกระบวนการทำงานของมัน

Several common anesthetics bind to the GABA-A receptor in the brain's neurons.

ยาสลบโดยทั่วไปนั้นจะผูกกับ ตัวรับ GABA-A ภายในเซลล์ประสาท

They hold the gateway open,

โดยจะทำหน้าที่เปิดช่องทาง

letting negatively charged particles flow into the cell.

ให้ประจุไฟฟ้าขั้วลบไหลผ่านเข้าสู่เซลล์

Negative charge builds up and acts like a log jam,

ประจุไฟฟ้าขั้วลบจะก่อตัวเป็นแนวกั้น

keeping the neuron from transmitting electrical signals.

ทำให้เซลล์ประสาทสามารถ ส่งสัญญาณไฟฟ้าต่อไปได้

The nervous system has lots of these gated channels,

ระบบประสาทนั้นประกอบไปด้วย ช่องทางเหล่านี้เป็นจำนวนมาก

controlling pathways for movement,

ซึ่งควบคุมการเคลื่อนที่

memory,

ความทรงจำ

and consciousness.

และสติ

Most anesthetics probably act on more than one,

ยาสลบส่วนใหญ่ ส่งผลได้มากกว่าหนึ่งอย่าง

and they don't act on just the nervous system.

และไม่ได้ส่งผลเฉพาะแต่ระบบประสาทเท่านั้น

Many anesthetics also affect the heart,

มันยังส่งผลถึงหัวใจ

lungs,

ปอด

and other vital organs.

และอวัยวะสำคัญอื่น ๆ อีกด้วย

Just like early anesthetics,

เช่นเดียวกับยาสลบในสมัยก่อน

which included familiar poisons like hemlock and aconite,

ที่มีส่วนผสมที่มีพิษ อย่าง เฮมล็อค และอะโคไนต์

modern drugs can have serious side effects.

ยาสลบในปัจจุบัน มีผลข้างเคียงที่รุนแรงเช่นเดียวกัน

So an anesthesiologist has to mix just the right balance of drugs

ดังนั้นวิสัญญีแพทย์ จึงต้องผสมยาต่าง ๆ ในปริมาณที่เหมาะสม

to create all the features of anesthesia,

เพื่อให้ได้ยาสลบที่มีคุณสมบัติครบถ้วน

while carefully monitoring the patient's vital signs,

ในขณะที่ต้องเฝ้าระวังสัญญาณชีพผู้ป่วย ในเวลาเดียวกัน

and adjusting the drug mixture as needed.

และปรับขนาดยาให้เหมาะกับผู้ป่วย

Anesthesia is complicated,

การวางยาสลบเป็นเรื่องที่ซับซ้อน

but figuring out how to use it

แต่การค้นหาวิธีการใช้ยาสลบ

allowed for the development of new and better surgical techniques.

ก่อให้เกิดการพัฒนาเทคนิคและ วิธีการผ่าตัดใหม่ ๆ ขึ้นมาได้

Surgeons could learn how to routinely and safely perform C-sections,

ศัลยแพทย์เรียนรู้การผ่าท้องคลอด ได้อย่างมีขั้นตอนและปลอดภัย

reopen blocked arteries,

ขยายเส้นเลือดที่ตีบ

replace damaged livers and kidneys,

เปลี่ยนถ่ายตับและไตที่ได้รับความเสียหาย

and many other life-saving operations.

และการผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตอีกมากมาย

And each year, new anesthesia techniques are developed

แต่ละปี เทคนิคการวางยาสลบได้ถูกพัฒนาขึ้น

that will ensure more and more patients survive the trauma of surgery.

เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วย จะมีชีวิตรอดจากการผ่าตัดได้