Bernie Krause: The voice of the natural world

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Kanwipa Chitwanitphaibun

(Nature sounds)

(เสียงธรรมชาติ)

When I first began recording wild soundscapes

เมื่อผมทำการบันทึกพื้นเสียง (soundscape) จากป่าเป็นครั้งแรก

45 years ago,

เมื่อ 45 ปีก่อน

I had no idea that ants,

ผมไม่ทราบเลยว่า มด

insect larvae, sea anemones and viruses

ตัวอ่อนของแมลง ดอกไม้ทะเล และไวรัส

created a sound signature.

สร้างเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ได้

But they do.

แต่พวกมันทำได้

And so does every wild habitat on the planet,

และสิ่งมีชีวิตอื่นๆในป่าที่อาศัยอยู่บนโลกนี้ก็ทำได้เช่นกัน

like the Amazon rainforest you're hearing behind me.

ดั่งเช่นเสียงจากป่าฝนแอมะซอนที่คุณได้ยินอยู่ข้างหลังผมนี้

In fact, temperate and tropical rainforests

ที่จริงแล้ว ป่าฝนในเขตอบอุ่นและเขตร้อน

each produce a vibrant animal orchestra,

แต่ละชนิดของป่านั้น ขับประสานเสียงของบรรดาสรรพสัตว์

that instantaneous and organized expression

ที่แสดงถึงสถานภาพ ณ เวลาหนึ่ง และการจัดตัว

of insects, reptiles, amphibians, birds and mammals.

ของแมลง สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ นก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

And every soundscape that springs from a wild habitat

และทุกๆพื้นเสียงที่ขับออกมาจากป่านั้น

generates its own unique signature,

ได้สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันเอง

one that contains incredible amounts of information,

ซึ่งประกอบได้ด้วยข้อมูลปริมาณมหาศาล

and it's some of that information I want to share with you today.

และนี่ก็เป็นข้อมูลบางส่วน ที่ผมอยากจะนำมาแบ่งปันกับพวกคุณในวันนี้

The soundscape is made up of three basic sources.

พื้นเสียงนั้นประกอบขึ้นจากสามแหล่งสำคัญ

The first is the geophony,

ประการแรกคือ เสียงจากแหล่งกายภาพ (genophony)

or the nonbiological sounds that occur

หรือ เรียกได้ว่าเป็นเสียงจากสิ่งที่ไม่ได้เป็นชีวภาพ

in any given habitat,

ที่เกิดในทุกๆแห่งอาศัย

like wind in the trees, water in a stream,

เช่นเสียงลมในต้นไม้ น้ำในลำธาร

waves at the ocean shore, movement of the Earth.

คลื่น ณ ชายฝั่งของมหาสมุทร การเคลื่อนไหวของโลก

The second of these is the biophony.

แหล่งที่สองคือ เสียงจากแหล่งชีวภาพ (biophony)

The biophony is all of the sound

เสียงจากแหล่งชีวภาพคือทุกๆเสียง

that's generated by organisms in a given habitat

ที่สร้างมาจากสิ่งมีชีวิตในที่อยู่อาศัยนั้น

at one time and in one place.

ณ เวลาหนึ่ง และ ณ สถานที่หนึ่ง

And the third is all of the sound that we humans generate

และแหล่งที่สามก็คือ เสียงที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์เรา

that's called anthrophony.

ซึ่งเรียกได้ว่า เสียงจากมนุษย์ (anthrophony)

Some of it is controlled, like music or theater,

บางเสียงนั้นได้รับการควบคุม เช่นเสียงดนตรี หรือละคร

but most of it is chaotic and incoherent,

แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นเสียงความโกลาหล และเสียงที่ไม่ประสานกัน

which some of us refer to as noise.

ซึ่งเราบางคนเรียกมันว่า เสียงรบกวน

There was a time when I considered wild soundscapes

ผมเคยคิดว่า พื้นเสียงจากป่านั้น

to be a worthless artifact.

ปราศจากสิ่งก่อกวนใดๆ

They were just there, but they had no significance.

พวกมันมีอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ แต่พวกมันไม่ได้เด่นชัดอะไร

Well, I was wrong. What I learned from these encounters

เอาล่ะ ผมผิดไปครับ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการการทำงานนี้ก็คือ

was that careful listening gives us incredibly valuable tools

การฟังอย่างระมัดระวังตั้งใจนั้น ได้มอบเครื่องมืออันมีค่าอัศจรรย์ยิ่งกับเรา

by which to evaluate the health of a habitat

ในการใช้มันประเมินความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งที่อาศัย

across the entire spectrum of life.

ได้ทั่วทั้งความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต

When I began recording in the late '60s,

เมื่อผมทำการบันทึกในปลายยุค 60

the typical methods of recording were limited

วิธีการในการบันทึกนั้นถูกจำกัด

to the fragmented capture of individual species

ให้มีลักษณะการแบ่งเป็นส่วนๆ ของแต่ละสายพันธ์ุของสิ่งมีชีวิต

like birds mostly, in the beginning,

เช่นส่วนใหญ่ นก ในตอนแรกๆ

but later animals like mammals and amphibians.

และต่อมาในสัตว์อื่นๆเช่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และสัตว์ครึ่งบอกครึ่งน้ำ

To me, this was a little like trying to understand

สำหรับผม นี่มันเหมือนกับการที่เราพยายามจะเข้าใจ

the magnificence of Beethoven's Fifth Symphony

งานประพันธ์ซิมโฟนี่หมายเลข 5 ของบีโทเฟ่น ที่สุดแสนอลังการ

by abstracting the sound of a single violin player

โดยดึงเอาเสียงของนักไวโอลินคนเดียว

out of the context of the orchestra

ออกมาจากบทประพันธ์ของวงดนตรีทั้งวง

and hearing just that one part.

และฟังมันแต่เพียงท่อนเดียว

Fortunately, more and more institutions

โชคดี มีสถาบันต่างๆมากขึ้น

are implementing the more holistic models

จัดตั้งตัวอย่างอุปกรณ์ต่างๆที่สมบูรณ์มากขึ้น

that I and a few of my colleagues have introduced

ที่ผมและผู้ร่วมงานบางท่านได้รับการแนะนำให้รู้จัก

to the field of soundscape ecology.

กับสาขาวิชานิเวศวิทยาเชิงพื้นเสียง (soundscape ecology)

When I began recording over four decades ago,

เมื่อผมทำการบันทึกเสียง กว่าสี่ทศวรรษที่แล้ว

I could record for 10 hours

ผมทำการบันทึกได้เป็น 10 ชั่วโมง

and capture one hour of usable material,

เพียงเพื่อได้งานเพียงชั่วโมงเดียวที่มีคุณค่า

good enough for an album or a film soundtrack

ดีพอต่อการนำไปใช้สำหรับเป็นอัลบัม หรือเสียงสำหรับภาพยนต์

or a museum installation.

หรือเป็นสิ่งจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์

Now, because of global warming,

ทีนี้ เพราะว่าปรากฎการณ์โลกร้อน

resource extraction,

การสูญสิ้นไปของทรัพยากร

and human noise, among many other factors,

และเสียงรบกวนจากมนุษย์ ซึ่งก็เป็นปัจจัยตัวหนึ่ง

it can take up to 1,000 hours or more

มันทำให้ต้องใช้เวลามากถึง 1,000 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น

to capture the same thing.

เพื่อเก็บบันทึกในสิ่งเดียวกัน

Fully 50 percent of my archive

50 เปอร์เซ็นต์เต็มของผลงานที่ได้มาของผม

comes from habitats so radically altered

มาจากถิ่นอาศัยที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

that they're either altogether silent

จนพวกมัน ถ้าไม่เงียบสงัด

or can no longer be heard in any of their original form.

ก็ไม่ได้มีเสียงในรูปแบบเดิมที่มันเป็น

The usual methods of evaluating a habitat

วิธีปกติในการประเมินถิ่นอาศัย

have been done by visually counting the numbers of species

ทำได้โดยนับจำนวนสายพันธ์ุต่างๆ

and the numbers of individuals within each species in a given area.

และจำนวนสิ่งมีชีวิตแต่ละสายพันธ์ุในบริเวณหนึ่งๆ จากการมอง

However, by comparing data that ties together

อย่างไรก็ดี จากการเปรียบเทียบข้อมูลที่เชื่อมโยง

both density and diversity from what we hear,

ทั้งความหนาแน่นและความหลากหลายจากที่เราได้ยิน

I'm able to arrive at much more precise fitness outcomes.

ผมสามารถที่จะได้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำมากกว่า

And I want to show you some examples

และผมอยากที่จะแสดงให้คุณเห็นตัวอย่างบางส่วน

that typify the possibilities unlocked

ที่เป็นแบบอย่างความเป็นไปได้ ที่ถูกเผย

by diving into this universe.

โดยการกระโจนลงไปยังมิตินี้

This is Lincoln Meadow.

นี่คือ ทุ่งหญ้า ลินคอน (Lincoln Meadow)

Lincoln Meadow's a three-and-a-half-hour drive

มันห่างออกไปประมาณสามชั่วโมงครึ่งโดยทางรถยนต์

east of San Francisco in the Sierra Nevada Mountains,

อยู่ทางตะวันออกของซานฟรานซิสโก ในภูเขาเซียร์ร่า เนวาดา (Sierra Nevada)

at about 2,000 meters altitude,

ที่ความสูง 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

and I've been recording there for many years.

และผมได้บันทึก ณ ที่นั่นเป็นเวลาหลายปี

In 1988, a logging company convinced local residents

ในปี ค.ศ. 1988 บริษัทรับตัดไม้ ได้โน้มน้าวชาวบ้าน

that there would be absolutely no environmental impact

ว่ามันจะไม่เกิดผลกระทบใดๆทั้งสิ้นต่อสิ่งแวดล้อม

from a new method they were trying

จากวิธีการใหม่ที่พวกเขาใช้

ที่เรียกว่า "การตัดไม้แบบเลือก" (selective logging)

called "selective logging,"

taking out a tree here and there

ที่ตัดต้นไม้เป็นหย่อมๆกระจายกัน

rather than clear-cutting a whole area.

แทนที่จะตัดให้โกร๋นไปทั้งพื้นที่

With permission granted to record

จากการได้รับอนุญาตให้ทำการบันทึก

both before and after the operation,

ทั้งก่อนและหลังปฎิบัติการนี้

I set up my gear and captured a large number of dawn choruses

ผมติดตั้งอุปกรณ์ของผม และทำการจับเสียงประสานในช่วงใกล้รุ่งเป็นจำนวนมาก

to very strict protocol and calibrated recordings,

ด้วยรูปแบบวิธีที่เข้มงวดและปรับมาตราฐานการบันทึก

because I wanted a really good baseline.

เพราะว่าผมต้องการตัวฐานอ้างอิงที่ดีจริงๆ

This is an example of a spectrogram.

นี่เป็นตัวอย่างของแถบคลื่นเสียง (spectrogram)

A spectrogram is a graphic illustration of sound

มันเป็นภาพกราฟฟิกของเสียง

with time from left to right across the page --

ที่กำกับด้วยเวลาจากทางซ้ายไปขวา

15 seconds in this case is represented —

ในกรณีนี้ แสดงความยาว 15 วินาที

and frequency from the bottom of the page to the top,

และความถี่จากด้านล่างถึงด้านบนสุด

lowest to highest.

จากต่ำสุดถึงสูงที่สุด

And you can see that the signature of a stream

และคุณสามารถเห็นได้ถึงลักษณะเฉพาะของกระแส

is represented here in the bottom third or half of the page,

ที่ได้แสดงที่นี่ใน หนึ่งในสามหรือครึ่งหนึ่งของหน้า

while birds that were once in that meadow

ในขณะที่นกที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในทุ่งหญ้านั้น

are represented in the signature across the top.

ถูกแสดงให้เห็นเป็นลักษณะเฉพาะทางด้านบน

There were a lot of them.

มีพวกมันอยู่เยอะเลยครับ

And here's Lincoln Meadow before selective logging.

และนี่เป็นเสียงจากทุ่งหญ้าลินคอน ก่อนที่จะมีการตัดไม้

(Nature sounds)

(เสียงธรรมชาติ)

Well, a year later I returned,

เอาล่า อีกปีถัดไป ผมกลับไป

and using the same protocols

และใช้รูปแบบวิธีแดิม

and recording under the same conditions,

และบันทึกในข้อกำหนดเดิม

I recorded a number of examples

ผมบันทึกตัวอย่างจำนวนมาก

of the same dawn choruses,

ของเสียงประสานเดิมตอนใกล้รุ่ง

and now this is what we've got.

และทีนี้ นี่เป็นสิ่งที่เราได้

This is after selective logging.

นี่เป็นตอนหลังจากเกิดการตัดไม้แบบเลือก

You can see that the stream is still represented

คุณเห็นได้ว่ากระแสนั้นยังคงแสดงอยู่ให้เห็น

ในส่วนล่าง หนึ่งในสามส่วนของหน้า

in the bottom third of the page,

but notice what's missing in the top two thirds.

แต่สังเกตดูว่าอะไรหายไปจากสองในสามส่วนทางด้านบน

(Nature sounds)

(เสียงธรรมชาติ)

Coming up is the sound of a woodpecker.

ที่กำลังจะมาคือเสียงของนกหัวขวาน

Well, I've returned to Lincoln Meadow 15 times

เอาล่ะ ผมได้กลับไปยังทุ่งหญ้าลินคอนถึง 15 ครั้ง

in the last 25 years,

ในรอบ 25 ปี

and I can tell you that the biophony,

และผมสามารถบอกคุณได้ว่าเสียงจากแหล่งชีวภาพ

the density and diversity of that biophony,

ความหนาแน่นและความหลากหลาย ของเสียงจากแหล่งชีวภาพ

has not yet returned to anything like it was

ยังไม่ได้กลับมาสู่รูปแบบเดิมที่มันเคยเป็น

before the operation.

ก่อนที่จะเกิดปฎิบัติการ

But here's a picture of Lincoln Meadow taken after,

แต่นี่เป็นภาพของทุ่งหญ้าลินคอน ที่ถ่ายทีหลัง

and you can see that from the perspective of the camera

และคุณสามารถเห็นได้ผ่านมุมกล้อง

or the human eye,

หรือจากทัศนะของมนุษย์

hardly a stick or a tree appears to be out of place,

ว่าแทบจะไม่มีกิ่งไม้หรือต้นไม้ระเกะระกะเลย

which would confirm the logging company's contention

ซึ่งยืนยันข้อโต้แย้งของบริษัทที่รับตัดไม้

that there's nothing of environmental impact.

ว่ามันจะไม่เกิดผลกระทบใดๆต่อสิ่งแวดล้อม

However, our ears tell us a very different story.

อย่างไรก็ดี หูของเราบอกเรื่องราวที่ต่างออกไป

Young students are always asking me

นักเรียนรุ่นเยาว์ถามผมเสมอๆ

what these animals are saying,

ว่าสัตว์เหล่านี้พูดอะไรกัน

and really I've got no idea.

และอันที่จริง ผมก็ไม่ทราบหรอกครับ

But I can tell you that they do express themselves.

แต่ผมสามารถบอกคุณได้ว่า พวกมันแสดงออกถึงตัวตนของมัน

Whether or not we understand it is a different story.

ส่วนที่ว่าเราจะเข้าใจหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

I was walking along the shore in Alaska,

ผมเดินเลาะไปตามชายฝั่งในอะลาสก้า

and I came across this tide pool

และผมได้พบกับแอ่งน้ำริมฝั่งนี้

filled with a colony of sea anemones,

ที่เต็มไปด้วยกลุ่มของดอกไม้ทะเล

these wonderful eating machines,

เจ้าเครื่องจักรนักกินที่แสนวิเศษ

relatives of coral and jellyfish.

ที่เป็นญาติกับปะการังและแมงกะพรุน

And curious to see if any of them made any noise,

และพอเกิดความสงสัยว่าพวกมันจะทำเสียงอะไรบ้างไหม

I dropped a hydrophone,

ผมก็หย่อนไฮโดรโฟน (hydrophone)

an underwater microphone covered in rubber,

ซึ่งมันก็คือไมโครโฟนใต้น้ำที่หุ้มด้วยยาง

down the mouth part,

ลงไปยังส่วนปากของมัน

and immediately the critter began

และในทันใดนั้น เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้

to absorb the microphone into its belly,

ก็เริ่มที่จะดูดไมโครโฟนเข้าไปในท้องของมัน

and the tentacles were searching out of the surface

และหนวดทั้งหลายก็เข้าค้นหาส่วนพื้นผิว

for something of nutritional value.

เพื่อหาอะไรก็ตามที่มีคุณค่าทางอาหาร

The static-like sounds that are very low,

เสียงแบบนิ่งๆนั้นเบามากๆ

that you're going to hear right now.

และคุณกำลังที่จะได้ยินครับ

(Static sounds)

(เสียงเบาๆ)

Yeah, but watch. When it didn't find anything to eat --

ครับ แต่เดี๋ยวนะครับ เมื่อมันไม่เจออะไรที่กินได้

(Honking sound)

(เสียงดังปู๊ด)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

I think that's an expression that can be understood

ผมคิดว่าการแสดงออกนั้นเป็นที่เข้าใจได้

in any language.

ไม่ว่าในภาษาใดๆ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

At the end of its breeding cycle,

ในช่วงท้ายของวงจรสืบพันธ์ุ

the Great Basin Spadefoot toad

คางคกเท้าพลั่ว เกรทเบซิน (the Great Basin Spadefoot toad)

digs itself down about a meter under

ขุดหลุมลึกลงไปประมาณหนึ่งเมตร

the hard-panned desert soil of the American West,

ใต้ดินทะเลทรายที่แน่นแข็งของอเมริกาตะวันตก

where it can stay for many seasons

ซึ่งมันจะสามารถอยู่ได้หลายฤดู

until conditions are just right for it to emerge again.

จนกว่าปัจจัยต่างๆจะเหมาะสมต่อปรากฎกายของมันอีกครั้ง

And when there's enough moisture in the soil

และเมื่อมีความชื้นในดินเพียงพอ

in the spring, frogs will dig themselves to the surface

ในฤดูใบไม้ผลิ บรรดากบจะตะกายออกมาบนพื้นผิว

and gather around these large, vernal pools

และมาชุมนุมกันรอบแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ

in great numbers.

เป็นจำนวนมาก

And they vocalize in a chorus

และพวกมันขับเสียงร้องประสาน

that's absolutely in sync with one another.

ที่เข้ากันกับตัวอื่นๆได้อย่างลงตัว

And they do that for two reasons.

และพวกมันทำเช่นนั้นด้วยเหตุสองประการ

The first is competitive, because they're looking for mates,

อย่างแรกเพื่อการแข่งขัน เพราะพวกมันกำลังมองหาคู่

and the second is cooperative,

และประการที่สองเพื่อความร่วมมือ

because if they're all vocalizing in sync together,

เพราะถ้าพวกมันร้องเสียงออกมาประสานกันแล้ว

it makes it really difficult for predators like coyotes,

มันจะเป็นอะไรที่ยากสำหรับนักล่าอย่างหมาป่า

foxes and owls to single out any individual for a meal.

หมาจิ้งจอก และนกฮูก ที่จะจับแยกพวกมัน มากินเป็นอาหาร

This is a spectrogram of what the frog chorusing looks like

นี่เป็นหน้าตาของแถบคลื่นเสียงจากเสียงประสานของกบ

when it's in a very healthy pattern.

เมื่อมันมีรูปแบบที่สมบูรณ์ดีมากๆ

(Frogs croaking)

(เสียงกบร้อง)

Mono Lake is just to the east of Yosemite National Park

ทะเลสาปโมโน (Mono Lake) อยู่ถัดไปทางตะวันออก ของอุทยานแห่งชาติโยซาเมติ (Yosemate National Park)

in California,

ในแคลิฟอเนีย

and it's a favorite habitat of these toads,

และมันเป็นแหล่งอาศัยอันโปรดปรานของคางคก

and it's also favored by U.S. Navy jet pilots,

และมันยังเป็นที่นิยมสำหรับนักบินของทัพเรือสหรัฐฯ

who train in their fighters flying them at speeds

ผู้ที่ซ้อมขับเครื่องบินรบที่ความเร็ว

exceeding 1,100 kilometers an hour

เกินกว่า 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

and altitudes only a couple hundred meters

และอยู่ในระดับความสูง เพียงไม่กี่ร้อยเมตร

above ground level of the Mono Basin,

เหนือระดับพื้นดินของอ่างเก็บน้ำโมโน (Mono Basin)

very fast, very low, and so loud

เร็วมาก ต่ำมาก และเสียงดังมากๆ

that the anthrophony, the human noise,

แหล่งเสียงจากมนุษย์นี้

even though it's six and a half kilometers

แม้ว่ามันจะห่างไป หกกิโลเมตรครึ่ง

จากบ่อน้ำที่กบอาศัยอยู่ ที่คุณเพิ่งจะได้ยินไปตะกี้

from the frog pond you just heard a second ago,

it masked the sound of the chorusing toads.

มันกลบเสียงประสานของบรรดาคางคก

You can see in this spectrogram that all of the energy

คุณสามารถเห็นได้จากแถบคลื่นเสียงว่า พลังงานทั้งหมด

that was once in the first spectrogram is gone

ที่เคยอยู่ในแถบคลื่นเสียงแรกนั้นหายไป

from the top end of the spectrogram,

จากส่วนบนของแถบคลื่นเสียง

and that there's breaks in the chorusing at two and a half,

และมันมีช่วงหยุดของเสียงประสาน ตรงวินาทีที่สองครึ่ง

สี่ครึ่ง และหกครึ่ง

four and a half, and six and a half seconds,

and then the sound of the jet, the signature,

และต่อจากนั้นก็เป็นเสียงของเครื่องบินไอพ่น ที่เป็นเอกลักษณ์

is in yellow at the very bottom of the page.

ซึ่งเป็นสีเหลือและอยู่ในบริเวณส่วนล่างของหน้าจอ

(Frogs croaking)

(เสียงกบร้อง)

Now at the end of that flyby,

ทีนี้ ในตอนท้ายที่เครื่องบินผ่านไป

it took the frogs fully 45 minutes

มันใช้เวลา 45 นาทีเต็มๆ

to regain their chorusing synchronicity,

กว่ากบจะกลับมาร้องประสานเสียงกันอีกครั้ง

during which time, and under a full moon,

ภายใต้พระจันทร์เต็มดวง ระหว่างช่วงเวลานั้น

we watched as two coyotes and a great horned owl

เราเฝ้าจับตา หมาป่าสองตัว และนกฮูก (Horned owl)

came in to pick off a few of their numbers.

เข้ามาจับกบไปนิดหน่อย

The good news is that, with a little bit of habitat restoration

ข่าวดีก็คือว่า จากการฟื้นฟูสภาพแหล่งอาศัย

and fewer flights, the frog populations,

และการบินที่น้อยลง ประชากรของกบ

once diminishing during the 1980s and early '90s,

ที่ครั้งหนึ่งลดหายไปใจช่วงยุค 1980 และช่วงแรกของยุค 90

have pretty much returned to normal.

ได้กลับมาเกือบจะเป็นปกติดังเดิม

I want to end with a story told by a beaver.

ผมอยากที่จะจบด้วยเรื่องที่บอกเล่าโดยบีเวอร์

It's a very sad story,

มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากครับ

but it really illustrates how animals

แต่มันแสดงให้เห็นภาพจริงๆว่า สรรพสัตว์

can sometimes show emotion,

บางครั้ง สามารถแสดงอารมณ์ได้

a very controversial subject among some older biologists.

ซึ่งมันเป็น หัวข้อที่เป็นที่ขัดแย้งอย่างมาก ในบรรดานักชีววิทยารุ่นเก่า

A colleague of mine was recording in the American Midwest

เพื่อนร่วมงานของผม ตอนนั้นกำลังทำการบันทึก อยู่ในตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา

around this pond that had been formed

ในระแวกแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นมา

maybe 16,000 years ago at the end of the last ice age.

บางทีอาจจะ 16,000 ปีก่อน ในช่วงท้ายของยุคน้ำแข็งสุดท้าย

It was also formed in part by a beaver dam

อีกส่วนหนึ่ง มันเป็นเช่นนี้ได้เพราะเขื่อนของบีเวอร์

at one end that held that whole ecosystem together

ที่ด้านหนึ่ง ซึ่งมันยึดเหนี่ยวระบบนิเวศทั้งหมดเอาไว้ด้วยกัน

in a very delicate balance.

ในสมดุลที่ช่างเปราะบาง

And one afternoon, while he was recording,

ในบ่ายวันหนึ่ง ระหว่างที่เขากำลังทำการบันทึก

there suddenly appeared from out of nowhere

ทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์คู่หนึ่ง

a couple of game wardens,

ก็ปรากฎตัวออกมาจากไหนก็ไม่รู้

who for no apparent reason,

และไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด

walked over to the beaver dam,

พวกเขาเดินไปบนเขื่อนของบีเวอร์

dropped a stick of dynamite down it, blowing it up,

ทิ้งแท่งดินระเบิดลงไป ระเบิดมันทิ้ง

killing the female and her young babies.

ฆ่าบีเวอร์ตัวเมียและลูกเล็กๆของมัน

Horrified, my colleagues remained behind

ด้วยความกลัว เพื่อนร่วมงานของผมหยุดอยู่ตรงนั้น

to gather his thoughts

เพื่อจะรวบรวมความคิด

and to record whatever he could the rest of the afternoon,

และทำการบันทึกอะไรก็ตามแต่ที่เขาทำได้ ทั้งบ่ายวันนั้น

and that evening, he captured a remarkable event:

และในช่วงเย็นวันนั้น เขาได้บันทึกสถานการณ์ที่พิเศษ

the lone surviving male beaver swimming in slow circles

บีเบอร์ตัวผู้ที่รอดชีวิตเพียงตัวเดียว ว่ายน้ำเป็นวงกลมช้าๆ

crying out inconsolably for its lost mate and offspring.

ครวญเสียงแสนเศร้า ต่อการสูญเสียคู่และลูกๆของมัน

This is probably the saddest sound

บางที นี่อาจเป็นเสียงที่เศร้าที่สุด

I've ever heard coming from any organism,

ที่ผมเคยได้ฟังไม่ว่าจะมาจากสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ไหน

human or other.

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตอื่น

(Beaver crying)

(เสียงบีเวอร์ร้อง)

Yeah. Well.

ครับ

There are many facets to soundscapes,

เรื่องของพื้นเสียงนั้น มันมีหลายแง่มุม

among them the ways in which animals taught us to dance and sing,

หนึ่งในนั้นคือ รูปแบบที่สรรพสัตว์สอนเราให้ร้องรำ

which I'll save for another time.

ซึ่งผมจะขอเก็บไว้เล่าในคราวอื่น

But you have heard how biophonies

แต่ตอนนี้คุณก็ได้รับฟังแล้วว่า เสียงจากแหล่งชีวภาพ

help clarify our understanding of the natural world.

ช่วยให้ความกระจ่างต่อความเข้าใจของเรา ที่มีต่อโลกธรรมชาติได้อย่างไร

You've heard the impact of resource extraction,

คุณได้ยินแล้ว ถึงผลกระทบของการดึงทรัพยากรณ์มาใช้

human noise and habitat destruction.

เสียงรบกวนจากมนุษย์ และการทำลายแหล่งอาศัย

And where environmental sciences have typically

และในขณะที่วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ตามแบบฉบับแล้ว

ได้พยายามทำความเข้าใจโลกของเราผ่านสิ่งที่เราเห็น

tried to understand the world from what we see,

a much fuller understanding can be got from what we hear.

ความเข้าใจที่สมบูรณ์มากกว่านั้น สามารถเข้าถึงได้จากสิ่งที่เราได้ยิน

Biophonies and geophonies are the signature voices

เสียงจากแหล่งชีวภาพและจากแหล่งกายภาพ เป็นเสียงของโลกธรรมชาติ

of the natural world,

ที่เป็นเอกลักษณ์ดุจลายเซ็น

and as we hear them,

และในขณะที่เรารับฟังมัน

we're endowed with a sense of place,

เราได้รับการประสิทธิ์ประสาทถึงสัมผัสของสถานที่

the true story of the world we live in.

เรื่องราวชีวิตแห่งโลกที่เราอาศัย

In a matter of seconds,

ในชั่ววินาที

a soundscape reveals much more information

การบันทึกพื้นเสียงนั้น เปิดเผยข้อมูลมากมายกว่า

from many perspectives,

จากหลากหลายทัศนมิติ

from quantifiable data to cultural inspiration.

จากข้อมูลเชิงปริมาณ จนถึงแรงบันดาลใจต่อวัฒนธรรม

Visual capture implicitly frames

การมองเห็นนั้น โดยนัยแล้วจับกรอบภาพ

a limited frontal perspective of a given spatial context,

ทัศนวิศัยส่วนหน้าที่จำกัด ของบริบทเชิงภูมิทัศน์

while soundscapes widen that scope

ในขณะที่การบันทึกพื้นเสียงทำให้ขอบเขตนั้นกว้างขึ้น

to a full 360 degrees, completely enveloping us.

จนเต็มระดับ 360 องศา ครอบคลุมเราอย่างสมบูรณ์

And while a picture may be worth 1,000 words,

และในขณะที่ภาพหนึ่งๆ อาจมีค่าเทียบคำเป็นพัน

a soundscape is worth 1,000 pictures.

การบันทึกพื้นเสียงนั้น มีค่าเทียบได้กับภาพเป็นพันภาพ

And our ears tell us

และหูของเราบอกเราว่า

that the whisper of every leaf and creature

เสียงกระซิบของทุกใบไม้และสรรพสัตว์

speaks to the natural sources of our lives,

พูดกับแหล่งกำเนิดทางธรรมชาติของชีวิตเรา

which indeed may hold the secrets of love for all things,

ซึ่งแน่นอนมันอาจกุมความลับแห่งรักต่อสิ่งทั้งผอง

especially our own humanity,

โดยเฉพาะความเห็นมนุษย์ของเรา

and the last word goes to a jaguar from the Amazon.

และสุดท้ายนี้เป็นเสียงของจาร์กัวแห่งป่าแอมะซอน

(Growling)

(เสียงคำรามในคอ)

Thank you for listening.

ขอบคุณที่รับฟังครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)