You have no idea where camels really come from | Latif Nasser

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Rawee Ma

So, this is a story

นี่คือเรื่องราว

about how we know what we know.

เกี่ยวกับว่าเรารู้สิ่งที่เรารู้ได้อย่างไร

It's a story about this woman,

มันคือเรื่องราวของผู้หญิงคนนี้

Natalia Rybczynski.

นาตาเลีย รูบชินสกี

She's a paleobiologist,

เธอเป็นนักบรรพชีวินวิทยา

which means she specializes in digging up really old dead stuff.

ซึ่งหมายความว่าเธอมีความชำนาญ ในการขุดซากโบราณที่ตายไปนานแล้วขึ้นมา

(Audio) Natalia Rybczynski: Yeah, I had someone call me "Dr. Dead Things."

(เสียง) นาตาเลีย รูบชินสกี: ค่ะ บางคนเรียกฉันว่า "ดร. ของตาย"

Latif Nasser: And I think she's particularly interesting

ลาทิฟ เนสซาร์: และผมคิดว่า เธอน่าสนใจมากครับ

because of where she digs that stuff up,

เพราะว่าสถานที่เธอขุดสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา

way above the Arctic Circle in the remote Canadian tundra.

อยู่เหนืออาร์คติกเซอเคิล ในป่าทุนดราที่ห่างไกลในแคนาดา

Now, one summer day in 2006,

ทีนี้ วันหนึ่งในฤดูร้อนหนึ่งในปี ค.ศ. 2006

she was at a dig site called the Fyles Leaf Bed,

เธออยู่ที่สถานที่ขุดที่เรียกว่า เดอร์ ไฟลส์ ลีฟ เบด (Fyles Leaf Bed)

which is less than 10 degrees latitude away from the magnetic north pole.

ซึ่งอยู่มีละติจูดต่ำลงมาเพียง 10 องศา จากแม่เหล็กขั้วโลกเหนือ

(Audio) NR: Really, it's not going to sound very exciting,

(เสียง) นาตาเลีย: มันคงฟังดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าไร

because it was a day of walking with your backpack and your GPS

เพราะว่ามันเป็นวันเดินทาง ที่คุณต้องแบกกระเป๋าและเครื่อง GPS

and notebook and just picking up anything that might be a fossil.

และสมุดจด และเก็บทุกอย่าง ที่คาดว่าน่าจะเป็นฟอสซิล

LN: And at some point, she noticed something.

ลาทิฟ: และ ณ จุดหนึ่ง เธอสังเกตเห็นบางอย่าง

(Audio) NR: Rusty, kind of rust-colored,

(เสียง) นาตาเลีย: สีออกจะเหมือนสนิม

about the size of the palm of my hand.

มีขนาดประมาณอุ้งมือของฉัน

It was just lying on the surface.

มันปรากฏอยู่บนพื้นผิว

LN: And at first she thought it was just a splinter of wood,

ลาทีฟ: และตอนแรก เธอคิดว่า มันเป็นแค่เศษไม้ชิ้นหนึ่ง

because that's the sort of thing people had found

เพราะว่านั่นเป็นสิ่งที่คนได้พบ

at the Fyles Leaf Bed before -- prehistoric plant parts.

ที่ ไฟลส์ ลีฟ เบด มาก่อนหน้านี้ -- ชิ้นส่วนพืชก่อนประวัติศาสตร์

But that night, back at camp ...

แต่คืนนั้นเอง ที่ค่ายพัก ...

(Audio) NR: ... I get out the hand lens,

(เสียง) นาตาเลีย: ... ฉันเอากล้องส่องขยายออกมา

I'm looking a little bit more closely and realizing

ฉันมองมันดูใกล้กว่าเดิมอีกหน่อย แล้วก็ทราบว่า

it doesn't quite look like this has tree rings.

มันเหมือนว่าจะไม่มีวงปีแบบต้นไม้

Maybe it's a preservation thing,

บางทีมันเป็นของที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้มานาน

but it looks really like ...

แต่มันดูเหมือนกับ ...

bone.

กระดูก

LN: Huh. So over the next four years,

ลาทีฟ: อ้า ฉะนั้น เป็นเวลาสี่ปีถัดจากนั้น

she went to that spot over and over,

เธอกลับไปยังจุดนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า

and eventually collected 30 fragments of that exact same bone,

และในที่สุดก็เก็บชิ้นส่วนกระดูกแบบเดียวกัน มาได้ 30 ชิ้น

most of them really tiny.

พวกมันส่วนใหญ่มีขนาดเล็กมาก ๆ

(Audio) NR: It's not a whole lot. It fits in a small Ziploc bag.

(เสียง) นาตาเลีย: มันไม่มากเท่าไร มันถูกเก็บไว้ในถุงซิบล๊อคได้ทั้งหมด

LN: And she tried to piece them together like a jigsaw puzzle.

ลาทีฟ: และเธอพยายามต่อพวกมันเข้าด้วยกัน เหมือนกันต่อจิ๊กซอว์

But it was challenging.

แต่มันท้าทายมาก

(Audio) NR: It's broken up into so many little tiny pieces,

(เสียง) นาตาเลีย: มันแยกออก เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

I'm trying to use sand and putty, and it's not looking good.

ฉันพยายามที่จะใช้ทรายและปูนอุดรอยรั่ว และมันดูไม่ดีเอาเสียเลย

So finally, we used a 3D surface scanner.

สุดท้ายแล้ว ฉันใช้เครื่องแสกนสามมิติ

LN: Ooh! NR: Yeah, right?

ลาทีฟ: โอ้ นาตาเลีย: ใช่แล้ว

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

LN: It turns out it was way easier to do it virtually.

ลาทีฟ: กลายเป็นว่านั่นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

(Audio) NR: It's kind of magical when it all fits together.

(เสียง) นาตาเลีย: มันช่างอัศจรรย์ เมื่อมันเข้ากันพอดิบพอดี

LN: How certain were you that you had it right,

ลาทีฟ: คุณมั่นใจแค่ไหน

that you had put it together in the right way?

ว่าคุณนำพวกมันมาติดกันอย่างถูกต้อง

Was there a potential that you'd put it together a different way

มีความเป็นไปได้ไหมว่า คุณอาจเอามันมาต่อกันได้ในแบบอื่น

and have, like, a parakeet or something?

และได้ออกมาเป็นนกหงส์หยก หรืออะไรแนวนั้น

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Audio) NR: (Laughs) Um, no. No, we got this.

(เสียง) นาตาเลีย: (เสียงหัวเราะ) อืม ไม่นะ ไม่ล่ะ เราต่อถูกต้องแล้ว

LN: What she had, she discovered, was a tibia, a leg bone,

ลาทีฟ: สิ่งที่เธอได้ก็คือ เธอได้ค้นพบกระดูกทิเบีย ซึ่งเป็นกระดูกขา

and specifically, one that belonged to a cloven-hoofed mammal,

ถ้าจะพูดให้เจาะจง มันเป็นกระดูกขา ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเท้าแบบกีบคู่

so something like a cow or a sheep.

ฉะนั้น มันเป็นวัวหรือแกะ อะไรประมาณนั้น

But it couldn't have been either of those.

แต่มันไม่น่าจะเป็นสัตว์ทั้งสองอย่างนั่น

It was just too big.

มันใหญ่เกินไป

(Audio) NR: The size of this thing, it was huge. It's a really big animal.

(เสียง) นาตาเลีย: ขนาดของสิ่งนี้ มันใหญ่มาก มันเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่จริง ๆ

LN: So what animal could it be?

ลาทีฟ: แล้ว มันน่าจะเป็นอะไรล่ะ

Having hit a wall, she showed one of the fragments

เมื่อจนมุมเอาอย่างนี้ เธอก็แสดงชิ้นส่วนหนึ่ง

to some colleagues of hers in Colorado,

ให้กับเพื่อนร่วมงานของเธอ ที่โคโลราโด

and they had an idea.

และพวกเขาก็ได้ความคิด

(Audio) NR: We took a saw, and we nicked just the edge of it,

(เสียง) นาตาเลีย เราใช้เลื่อย และเราหักปลายมันออกมานิดหนึ่ง

and there was this really interesting smell that comes from it.

และมันก็มีกลิ่นออกมา

LN: It smelled kind of like singed flesh.

ลาทีฟ: กลิ่นมันเหมือนกับเนื้อไหม้

It was a smell that Natalia recognized

มันเป็นกลิ่นที่นาตาเลียจำได้

from cutting up skulls in her gross anatomy lab:

จากการตัดกระโหลก ในห้องทดลองกายวิภาคศาสตร์

collagen.

มันคือ คอลลาเจน

Collagen is what gives structure to our bones.

คอลลาเจน คือสิ่งที่เป็นโครงสร้างให้กระดูก

And usually, after so many years,

และโดยทั่วไป หลังจากหลายปี

it breaks down.

มันจะถูกย่อยสลาย

But in this case, the Arctic had acted like a natural freezer and preserved it.

แต่ในกรณีนี้ ขั้วโลกเหนือทำหน้าที่ เป็นตู้แช่แข็งธรรมชาติและรักษามันไว้

Then a year or two later, Natalia was at a conference in Bristol,

จากนั้นปีหรือสองปีต่อมา นาตาเลียไปร่วมงานสัมมนาในบริสทัล

and she saw that a colleague of hers named Mike Buckley

และเธอพบกับเพื่อนร่วมงานของเธอ ที่มีชื่อว่า ไมค์ บัคลี

was demoing this new process that he called "collagen fingerprinting."

กำลังแสดงวิธีการใหม่ที่เขาเรียกว่า "ลายนิ้วมือคอลลาเจน"

It turns out that different species have slightly different structures

มันบอกว่าสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่าง ๆ มีโครงสร้างคอลลาเจน

of collagen,

ที่ต่างกันเล็กน้อย

so if you get a collagen profile of an unknown bone,

ฉะนั้น ถ้าคุณทราบลักษณะคอลลาเจน จากกระดูกปริศนานั้น

you can compare it to those of known species,

คุณก็จะสามารถเปรียบเทียบมัน กับกระดูกของสิ่งมีชีวิตที่เรารู้จักได้

and, who knows, maybe you get a match.

และใครจะไปรู้ บางทีเราอาจจะเจอ ผลที่ตรงกันก็ได้

So she shipped him one of the fragments,

เธอก็เลยส่งชิ้นส่วนหนึ่งไปให้เขา

FedEx.

ทางเฟดเอ็กซ์

(Audio) NR: Yeah, you want to track it. It's kind of important.

(เสียง) นาตาเลีย: ค่ะ คุณอยาก จะติดตามมัน มันค่อนข้างที่จะสำคัญ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

LN: And he processed it,

ลาทีฟ: และเขาก็นำมันไปทดสอบ

and compared it to 37 known and modern-day mammal species.

และเปรียบเทียบกับกระดูกของ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 27 สายพันธุ์

And he found a match.

และเขาก็พบกับผลที่ตรงกัน

It turns out that the 3.5 million-year-old bone

กลายเป็นว่ากระดูกอายุ 3.5 ล้านปี

that Natalia had dug out of the High Arctic

ที่นาตาเลียได้ขุดขึ้นมา จากภูเขาทางขั้วโลกเหนือ

belonged to ...

เป็นของ ...

a camel.

อูฐ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Audio) NR: And I'm thinking, what? That's amazing -- if it's true.

(เสียง) นาตาเลีย: และฉันก็คิดว่า ห๊ะ อะไรนะ นั่นมันเจ๋งไปเลย -- ถ้ามันจริง

LN: So they tested a bunch of the fragments,

ลาทีฟ: ฉะนั้น พวกเขาทดสอบ ชิ้นส่วนต่าง ๆ

and they got the same result for each one.

และพวกเขาก็ได้ผลลัพท์ เหมือนกันจากแต่ละชิ้นส่วน

However, based on the size of the bone that they found,

อย่างไรก็ดี ตามขนาดของกระดูก ที่พวกเขาพบ

it meant that this camel was 30 percent larger than modern-day camels.

มันได้สื่อว่า อูฐตัวนี้มีขนาดใหญ่ กว่าอูฐปัจจุบัน 30 เปอร์เซ็นต์

So this camel would have been about nine feet tall,

ฉะนั้น อูฐตัวนี้น่าจะสูงสักเก้าฟุต

weighed around a ton.

น้ำหนักประมาณหนึ่งตัน

(Audience reacts)

(ผู้ชมมีปฎิกิริยาตอบสนอง)

Yeah.

ครับ

Natalia had found a Giant Arctic camel.

นาตาเลียพบอูฐยักษ์ขั้วโลกเหนือ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Now, when you hear the word "camel,"

ทีนี้ เมื่อคุณได้ยินคำว่า "อูฐ"

what may come to mind is one of these,

สิ่งที่คุณนึกได้คือหนึ่งในสิ่งเหล่านี้

the Bactrian camel of East and Central Asia.

อูฐที่มีสองหนอก จากเอเชียตะวันออกและเอเชียกลาง

But chances are the postcard image you have in your brain

แต่เป็นไปได้ว่าภาพโปสการ์ด จากความทรงจำในสมองของคุณ

is one of these, the dromedary,

จะเป็นหนึ่งในสิ่งนี้อูฐที่มีหนอกเดียว

quintessential desert creature --

สัตว์สำคัญประจำทะเลทราย --

hangs out in sandy, hot places like the Middle East and the Sahara,

ที่อาศัยอยู่ในที่แห้งแล้งและร้อนอย่าง ในตะวันออกกลางและทะเลทรายซาฮารา

has a big old hump on its back

มีหนอกขนาดใหญ่บนหลัง

for storing water for those long desert treks,

ไว้สำหรับเก็บสำรองน้ำ สำหรับการเดินทางไกลในทะเลทราย

has big, broad feet to help it tromp over sand dunes.

ที่มีเท้ากว้าง ขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้มัน เดินไปบนเนินทรายได้

So how on earth would one of these guys end up in the High Arctic?

แล้วสิ่งมีชีวิตลักษณะนี้ ไปอยู่ทางขั้วโลกเหนือได้อย่างไร

Well, scientists have known for a long time, turns out,

ครับ นักวิทยาศาสตร์รู้มานานแล้ว

even before Natalia's discovery,

ก่อนที่การค้นพบของนาตาลีเสียอีก

that camels are actually originally American.

ว่าอูฐเป็นสัตว์ ที่มีแหล่งกำเนิดในอเมริกา

(Music: The Star-Spangled Banner)

(เสียงดนตรี: เดอะ สตาร์-สแปนเกิลด์ แบนเนอร์)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

They started here.

พวกเราเริ่มจากตรงนี้

For nearly 40 of the 45 million years that camels have been around,

เป็นเวลา 40 จาก 45 ล้านปี ที่อูฐอาศัยอยู่บนโลก

you could only find them in North America,

คุณสามารถพบพวกมันได้แต่เพียง ทางตอนเหนือของอเมริกาเท่านั้น

around 20 different species, maybe more.

พวกมันมีประมาณ 20 สายพันธ์ุ หรืออาจมีมากกว่านั้น

(Audio) LN: If I put them all in a lineup, would they look different?

(เสียง) ลาทีฟ: ถ้าเรานำพวกมัน มาวางเทียบกัน มันจะดูต่างกันไหม

NR: Yeah, you're going to have different body sizes.

นาตาเลีย: ค่ะ คุณจะเห็นขนาดตัว ที่ต่างกัน

You'll have some with really long necks,

บางตัวมีคอที่ยาวมาก

so they're actually functionally like giraffes.

แบบว่า พวกมันออกจะดูเหมือนยีราฟ

LN: Some had snouts, like crocodiles.

ลาทีฟ: บางชนิดก็มีจมูกยื่น ๆ เหมือนกับจระเข้

(Audio) NR: The really primitive, early ones would have been really small,

(เสียง) นาตาเลีย: พวกมันมีลักษณะ ที่เก่าแก่ พวกแรก ๆ จะมีขนาดเล็กมาก

almost like rabbits.

ตัวเกือบจะเท่ากระต่าย

LN: What? Rabbit-sized camels?

ลาทีฟ: หา อะไรนะ อูฐขนาดเท่ากระต่ายงั้นหรอ

(Audio) NR: The earliest ones.

(เสียง) นาตาเลีย: พวกแรก ๆ ของมันนะ

So those ones you probably would not recognize.

สำหรับพวกนั้น คุณอาจไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่ามันเป็นอูฐ

LN: Oh my God, I want a pet rabbit-camel.

ลาทีฟ: พระเจ้าช่วย ผมอยากได้ สัตว์เลี้ยงเป็นอูฐขนาดเท่ากระต่าย

(Audio) NR: I know, wouldn't that be great?

(เสียง) นาตาเลีย: ค่ะ ฉันรู้ นั่นมันคงเจ๋งไปเลยเนอะ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

LN: And then about three to seven million years ago,

ลาทีฟ: และประมาณ สามถึงเจ็ดล้านปีก่อน

one branch of camels went down to South America,

อูฐพวกหนึ่งเดินทางลงไปยังอเมริกาใต้

where they became llamas and alpacas,

ที่ซึ่งพวกมันกลายเป็นลามะ และอัลปากา

and another branch crossed over the Bering Land Bridge

และอีกพวกหนึ่งเดินทางข้าม เบอริง แลนด์ บริดจ์

into Asia and Africa.

ไปยังเอเชีย และแอฟริกา

And then around the end of the last ice age,

และจากนั้นประมาณช่วงท้ายยุคน้ำแข็ง

North American camels went extinct.

อูฐอเมริกาเหนือก็สูญพันธุ์

So, scientists knew all of that already,

ฉะนั้น นักวิทยาศาสตร์รู้เรื่องเหล่านี้ มาก่อนแล้ว

but it still doesn't fully explain how Natalia found one so far north.

แต่มันยังไม่ได้อธิบายชัดเจนว่าทำไม นาตาเลียจึงพบมันใกล้กับขั้วโลกเหนือ

Like, this is, temperature-wise, the polar opposite of the Sahara.

แบบว่า มันมีอุณหภูมิที่แตกต่าง ไปจากที่ทะเลทรายซาฮาราอย่างสุดขั้ว

Now to be fair,

พูดกันตรง ๆ

three and a half million years ago,

สามล้านห้าแสนปีก่อน

it was on average 22 degrees Celsius warmer than it is now.

โลกมีอุณหภูมิร้อนกว่าตอนนี้ เฉลี่ย 22 องศาเซลเซียส

So it would have been boreal forest,

ฉะนั้น มันน่าจะมีป่าพรุเขตหนาว

so more like the Yukon or Siberia today.

ที่คล้าย ๆ กับ ยูคอน หรือไซบีเรีย ในตอนนี้

But still, like, they would have six-month-long winters

แต่ถึงกระนั้น ฤดูหนาวน่าจะยาวนาน ถึง 6 เดือน

where the ponds would freeze over.

ซึ่งทำให้บ่อน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง

You'd have blizzards.

มันน่าจะมีพายุหิมะ

You'd have 24 hours a day of straight darkness.

มันน่าจะมีวันที่มึดตลอด 24 ชั่วโฒง

Like, how ... How?

มันแบบว่า เป็นไปได้อย่างไรเนี่ย

How is it that one of these Saharan superstars

ที่หนึ่งในสุดยอดดาราแห่งทะเลทรายซาฮารา

could ever have survived those arctic conditions?

จะเคยมีชีวิตอยู่ในสถานที่ ที่มีสภาพแบบขั้วโลกเหนืออย่างนั้นได้

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Natalia and her colleagues think they have an answer.

นาตาเลียและเพื่อนร่วมงานของเธอ คิดว่าพวกเขาพบคำตอบ

And it's kind of brilliant.

และมันก็เป็นคำตอบ ที่ออกจะยอดเยี่ยมซะด้วย

What if the very features that we imagine make the camel so well-suited

ถ้าหากคุณลักษณะที่เราคิดว่า มันทำให้อูฐสามารถใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี

to places like the Sahara,

ในสถานที่อย่างทะเลทรายซาฮารา

actually evolved to help it get through the winter?

อันที่จริงมีวิวัฒนาการมา เพื่อช่วยให้มันผ่านฤดูหนาวไปได้ล่ะ

What if those broad feet were meant to tromp not over sand,

ถ้าหากเท้ากว้าง ๆ มีไม่ได้จงใจ มีไว้เพื่อเดินบนเนินทราย

but over snow, like a pair of snowshoes?

แต่เอาไว้เดินบนหิมะ เหมือนอย่างรองเท้าลุยหิมะล่ะ

What if that hump -- which, huge news to me,

ถ้าหากโหนกนั่น -- ซึ่งสำหรับผมแล้วมันเป็นข่าวใหญ่เลย

does not contain water, it contains fat --

ไม่ได้มีน้ำอยู่ แต่มีไขมันอยู่ล่ะ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

was there to help the camel get through that six-month-long winter,

นั่นมันจะช่วยให้อูฐ ทนกับฤดูหนาวยาวหกเดือนได้หรือเปล่า

when food was scarce?

เมื่ออาหารขาดแคลน

And then, only later, long after it crossed over the land bridge

และต่อจากนั้น อีกนานหลังจากที่มัน ข้ามแลนด์บริดจ์

did it retrofit those winter features for a hot desert environment?

มันเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะที่เหมาะกับฤดูหนาว เพื่อให้เหมาะกับสภาพทะเลทรายร้อนระอุหรือเปล่า

Like, for instance, the hump may be helpful to camels in hotter climes

ยกตัวอย่างเช่น หนอก มันอาจเป็นประโยชน์ สำหรับอูฐ ในที่มีสภาพอากาศร้อน

because having all your fat in one place,

เพราะว่า การมีไขมันในจุดเดียว

like a, you know, fat backpack,

อย่างเช่นกระเป๋าหลังไขมัน แบบนั้น

means that you don't have to have that insulation

หมายความว่า คุณไม่ต้องมีฉนวนนั่น

all over the rest of your body.

ไปทั่วร่างกาย

So it helps heat dissipate easier.

ฉะนั้น มันจึงระบายความร้อนได้ดีกว่า

It's this crazy idea,

มันเป็นแนวคิดที่ออกจะแปลกประหลาด

that what seems like proof of the camel's quintessential desert nature

ที่สิ่งที่เหมือนว่าจะเป็นหลักฐาน ว่าอูฐเป็นสัตว์สำคัญประจำทะเลทราย

could actually be proof of its High Arctic past.

ที่จริงแล้ว อาจเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า มันเคยเป็นสัตว์ที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ

Now, I'm not the first person to tell this story.

ทีนี้นะครับ ผมไม่ใช่คนแรกที่เล่าเรื่องนี้

Others have told it as a way to marvel at evolutionary biology

คนอื่น ๆ เคยเล่าเรื่องนี้ในรูปแบบ วิวัฒนาการทางชีววิทยาที่น่าทึ่ง

or as a keyhole into the future of climate change.

หรือการไขปมปริศนาการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศในอนาคต

But I love it for a totally different reason.

แต่ผมรักเรื่องราวนี้ด้วยเหตุผลที่ต่างออกไป

For me, it's a story about us,

สำหรับผมแล้ว มันคือเรื่องราวของเรา

about how we see the world

เกี่ยวกับว่าเรามองโลกนี้อย่างไร

and about how that changes.

และเกี่ยวกับว่ามันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

So I was trained as a historian.

ผมเรียนมาเพื่อเป็นนักประวัติศาสตร์

And I've learned that, actually, a lot of scientists are historians, too.

และผมได้เรียนรู้ว่า อันที่จริง นักวิทยาศาสตร์ หลาย ๆ คน ก็เป็นนักประวัติศาสตร์เช่นกัน

They make sense of the past.

พวกเขาทำให้เราเข้าใจอดีตได้

They tell the history of our universe, of our planet, of life on this planet.

พวกเขาบอกเล่าประวัติศาสตร์ของจักรวาล ของดาวเคราะห์ ของชีวิตบนโลกนี้

And as a historian,

และในฐานะนักประวัติศาสตร์

you start with an idea in your mind of how the story goes.

คุณเริ่มจากความคิดในหัวของคุณ ว่าเรื่องราวนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป

(Audio) NR: We make up stories and we stick with it,

(เสียง) นาตาเลีย: เราแต่งเรื่องขึ้นมา แล้วเราก็เล่าไปเรื่อย ๆ

like the camel in the desert, right?

เหมือนกับที่บอกว่าอูฐเป็นสิ่งมีชีวิตในทะเลทราย ใช่หรือเปล่า

That's a great story! It's totally adapted for that.

มันเป็นเรื่องที่เจ๋งนะ มันถูกปรับมาจากจุดนั้นแหละ

Clearly, it always lived there.

เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้ว ว่ามันอยู่ที่นั่นมาตลอด

LN: But at any moment, you could uncover some tiny bit of evidence.

ลาทีฟ: แต่ไม่ว่าในวินาทีใดก็ตาม คุณก็สามารถที่จะเปิดเผยหลักฐานเล็ก ๆ ได้

You could learn some tiny thing

คุณสามารถเรียนรู้เกร็ดเล็ก ๆ บางอย่าง

that forces you to reframe everything you thought you knew.

ที่บังคับให้คุณตีกรอบทุกสิ่งทุกอย่าง ที่คุณคิดว่าคุณเคยรู้ใหม่เสีย

Like, in this case, this one scientist finds this one shard

เช่น ในกรณีนี้ นักวิทยาศาสตร์คนนี้ ได้พบกับเศษเสี้ยว

of what she thought was wood,

ของสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นไม้

and because of that, science has a totally new and totally counterintuitive theory

และเพราะว่าสิ่งนั้น วิทยาศาสตร์จึงมีทฤษฎี ที่ทั้งใหม่และตรงข้ามกับสัญชาตญาณ

about why this absurd Dr. Seuss-looking creature

แต่ทำไมสิ่งมีชีวิตที่หน้าตาตลกพิลึกนี้

looks the way it does.

มีหน้าตาอย่างที่มันเป็น

And for me, it completely upended the way I think of the camel.

และสำหรับผมแล้ว มันตรงข้ามกับอูฐในแบบที่ผมจินตนาการ

It went from being this ridiculously niche creature

มันเปลี่ยนจากสิ่งมีชีวิตที่ใช้ ทรัพยากรทางนิเวศวิทยาที่แปลกประหลาด

suited only to this one specific environment,

ที่เหมาะกับสิ่งแวดล้อมลักษณะเดียวเท่านั้น

to being this world traveler that just happens to be in the Sahara,

เป็นสิ่งมีชีวิตที่เดินทางไปรอบโลก เพื่อที่จะมาลงเอยอยู่ในทะเลทรายซาฮารา

and could end up virtually anywhere.

และอาจไปอยู่ที่ไหนก็ได้

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

This is Azuri.

นี่คืออะซูริ

Azuri, hi, how are you doing?

อะซูริ ไง เป็นไงมั่ง

OK, here, I've got one of these for you here.

โอเค นี่ ๆ ผมมีของกินให้นะ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

So Azuri is on a break from her regular gig

อะซูริหยุดพักจากงานประจำของเธอ

at the Radio City Music Hall.

ที่ เรดิโอ ซิตี มิวสิก ฮอล

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

That's not even a joke.

นั่นไม่ขำนะครับ

Anyway --

เอาเป็นว่า --

But really, Azuri is here as a living reminder

แต่จริง ๆ แล้ว อะซูริมาที่นี่ ในฐานะผู้ย้ำเตือน

that the story of our world is a dynamic one.

ว่าเรื่องราวของโลกของเรา เป็นเรื่องราวที่ไม่หยุดนิ่ง

It requires our willingness to readjust, to reimagine.

มันต้องการความยินยอมจากเรา ในการปรับเปลี่ยนใหม่ และมองในมุมใหม่

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Right, Azuri?

ใช่ไหม อะซูริ

And, really, that we're all just one shard of bone away

และ จริง ๆ แล้ว เราก็ห่างจากการมองโลกในแบบใหม่

from seeing the world anew.

จากกระดูกเสี้ยวเล็ก ๆ เพียงชิ้นเดียว

Thank you very much.

ขอบคุณมากครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)