How CRISPR lets us edit our DNA | Jennifer Doudna

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Pongsapak Vanichrundorn

A few years ago,

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา

with my colleague, Emmanuelle Charpentier,

เพื่อนร่วมงานของฉัน เอมานูเอล คาร์เปนเทียร์

I invented a new technology for editing genomes.

และฉัน คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ สำหรับการแก้ไขจีโนม

It's called CRISPR-Cas9.

มันเรียกว่า CRISPR-Cas9

The CRISPR technology allows scientists to make changes

เทคโนโลยี CRISPR ทำให้นักวิทยาศาสตร์ ทำการเปลี่ยนแปลง

to the DNA in cells

ดีเอ็นเอในเซลล์

that could allow us to cure genetic disease.

ที่ทำให้พวกเรา สามารถรักษาโรคทางพันธุกรรมได้

You might be interested to know

คุณอาจจะอยากรู้ว่า

that the CRISPR technology came about through a basic research project

เทคโนโลยี CRISPR-Cas9 มาจากโครงการวิจัยพื้นฐาน

that was aimed at discovering how bacteria fight viral infections.

ที่มุ่งหวังที่จะค้นพบว่า แบคทีเรียสู้กับไวรัสที่บุกเข้ามาได้อย่างไร

Bacteria have to deal with viruses in their environment,

แบคทีเรียจะต้องจัดการกับไวรัส ในสิ่งแวดล้อมของมัน

and we can think about a viral infection like a ticking time bomb --

และพวกเราคิดว่าการติดเชื้อไวรัส เหมือนกับเป็นระเบิดเวลา --

a bacterium has only a few minutes to defuse the bomb

แบคทีเรียมีเวลาเพียงไม่กี่นาที ที่จะกู้ระเบิด

before it gets destroyed.

ก่อนที่มันจะถูกทำลาย

So, many bacteria have in their cells an adaptive immune system called CRISPR,

ฉะนั้น แบคทีเรียมีระบบภูมิคุ้มกันอย่างเจาะจง ที่เรียกว่า CRISPR

that allows them to detect viral DNA and destroy it.

ที่ทำให้พวกมันสามารถตรวจจับดีเอ็นเอของไวรัส และทำลายมันได้

Part of the CRISPR system is a protein called Cas9,

ส่วนของระบบ CRISPR คือโปรตีนที่เรียกว่า Cas9

that's able to seek out, cut and eventually degrade viral DNA

ที่สามารถตามหา ตัดชิ้นส่วน และในที่สุดสลายดีเอ็นเอของไวรัส

in a specific way.

ในวิธีที่จำเพาะ

And it was through our research

และด้วยงานวิจัยของเรา

to understand the activity of this protein, Cas9,

เพื่อที่มุ่งจะเข้าใจการทำงาน ของโปรตีน Cas9

that we realized that we could harness its function

ที่เราตระหนักว่า เราสามารถใช้หน้าที่ของมัน

as a genetic engineering technology --

เป็นเทคโนโลยีทางพันธุวิศวกรรม --

a way for scientists to delete or insert specific bits of DNA into cells

วิธีสำหรับให้นักวิทยาศาสตร์กำจัดหรือแทรก ส่วนจำเพาะของดีเอ็นเอเข้าไปในเซลล์

with incredible precision --

ซึ่งแม่นยำมาก ๆ --

that would offer opportunities

จนมันอาจทำให้

to do things that really haven't been possible in the past.

เราสามารถทำสิ่งที่ไม่อาจทำได้ในอดีต

The CRISPR technology has already been used

เทคโนโลยี CRISPR ได้ถูกนำมาใช้แล้ว

to change the DNA in the cells of mice and monkeys,

เพื่อเปลี่ยนดีเอ็นเอในเซลล์ของหนูและลิง

other organisms as well.

และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ

Chinese scientists showed recently

ไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์จีนแสดงว่า

that they could even use the CRISPR technology

พวกเขาสามารถใช้เทคโนโลยี CRISPR

to change genes in human embryos.

เพื่อเปลี่ยนยีนของเอ็มบริโอมนุษย์

And scientists in Philadelphia showed they could use CRISPR

และนักวิทยาศาสตร์ในฟิลาเดเฟีย แสดงให้เห็นว่า พวกเขาสามารถใช้ CRISPR

to remove the DNA of an integrated HIV virus

เพื่อกำจัดดีเอ็นเอที่มีส่วนของไวรัส HIV

from infected human cells.

จากเซลล์มนุษย์ที่ติดเชื้อได้

The opportunity to do this kind of genome editing

โอกาสที่เราสามารถทำการแก้ไขจีโนมเหล่านี้

also raises various ethical issues that we have to consider,

ยังทำให้เกิดประเด็นทางจริยธรรมมากมาย ที่เราต้องนำมาพิจารณา

because this technology can be employed not only in adult cells,

เพราะว่าเทคโนโลยีนี้ สามารถถูกนำไปใช้ ไม่เพียงแต่ในเซลล์เต็มวัย

but also in the embryos of organisms,

แต่ยังใช้ได้ในเอมบริโอของสิ่งมีชีวิต

including our own species.

รวมถึงสายพันธุ์ของเราด้วย

And so, together with my colleagues,

และแล้ว ฉันกับเพื่อนร่วมงาน

I've called for a global conversation about the technology that I co-invented,

ก็ถูกเรียกไปร่วมสนทนาในระดับนานาชาติ เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ฉันร่วมคิดค้น

so that we can consider all of the ethical and societal implications

เพื่อที่เราจะสามารถพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องทาง จริยธรรมและสังคมทั้งหมด

of a technology like this.

เกี่ยวกับเทคโนโลยีแบบนี้

What I want to do now is tell you what the CRISPR technology is,

สิ่งที่ฉันต้องการทำในตอนนี้ก็คือ เล่าให้คุณฟังว่าเทคโนโลยี CRISPR คืออะไร

what it can do,

มันทำอะไรได้

where we are today

และวันนี้เราไปถึงไหนกันแล้ว

and why I think we need to take a prudent path forward

และทำไมฉันถึงคิดว่า เราจะต้องเดินหน้าต่อไปอย่างระมัดระวัง

in the way that we employ this technology.

ในการที่เราจะใช้เทคโนโลยีนี้

When viruses infect a cell, they inject their DNA.

เมื่อไวรัสบุกเข้าในเซลล์ พวกมันนำดีเอ็นเอเข้าไป

And in a bacterium,

และในแบคทีเรีย

the CRISPR system allows that DNA to be plucked out of the virus,

ระบบ CRISPR ยอมให้ดีเอ็นเอ ถูกดึงออกจากไวรัส

and inserted in little bits into the chromosome --

และถูกสอดเข้าไปเล็กน้อย ในโครโมโซม --

the DNA of the bacterium.

ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของแบคทีเรีย

And these integrated bits of viral DNA get inserted at a site called CRISPR.

และส่วนที่ถูกรวมเข้าไปในดีเอ็นเอของไวรัส ถูกแทรกเข้าไปในบริเวณที่เรียกว่า CRISPR

CRISPR stands for clustered regularly interspaced short palindromic repeats.

CRISPR ย่อมาจาก บริเวณที่โดยปกติ ขั้นอยู่ระหว่างบริเวณซ้ำสั้น ๆ ที่ให้รหัส

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

A big mouthful -- you can see why we use the acronym CRISPR.

ยาวมากเลย -- คุณคงเข้าใจแล้ว ว่าทำไมเราถึงใช้ตัวย่อว่า CRISPR

It's a mechanism that allows cells to record, over time,

มันคือกลไกที่ยอมให้เซลล์บันทึก ในช่วงเวลาหนึ่ง

the viruses they have been exposed to.

ถึงไวรัสที่พวกมันสัมผัส

And importantly, those bits of DNA are passed on to the cells' progeny,

และที่สำคัญ ส่วนเล็ก ๆ ของดีเอ็นเอเหล่านี้ ถูกส่งต่อไปยังเซลล์ลูกหลาน

so cells are protected from viruses not only in one generation,

ฉะนั้น เซลล์เหล่านี้จะได้รับการป้องกันจากไวรัส ไม่ใช่เพียงในรุ่นเดียว

but over many generations of cells.

แต่เป็นหลาย ๆ รุ่นของเซลล์

This allows the cells to keep a record of infection,

นี่ทำให้เซลล์เหล่านี้ เก็บบันทึกการติดเชื้อไปเรื่อย ๆ

and as my colleague, Blake Wiedenheft, likes to say,

และอย่างที่เพื่อนร่วมงานของฉัน เบลค ไวเดนเฮฟท์ ชอบบอกว่า

the CRISPR locus is effectively a genetic vaccination card in cells.

บริเวณของ CRISPR เป็นบัตรวัคซีน ทางพันธุศาสตร์ ที่มีประสิทธิภาพสำหรับในเซลล์

Once those bits of DNA have been inserted into the bacterial chromosome,

เมื่อดีเอ็นเอส่วนเล็ก ๆ เหล่านี้ ถูกแทรกเข้าไปในโครโมโซมของแบคทีเรีย

the cell then makes a little copy of a molecule called RNA,

เซลล์จะสร้างโมเลกุลเล็ก ๆ เรียกว่า อาร์เอ็นเอ

which is orange in this picture,

ซึ่งมีสีส้มในภาพนี้

that is an exact replicate of the viral DNA.

ที่ซึ่งเป็นตัวสำเนา ที่เหมือนกับดีเอ็นเอของไวรัสทุกประการ

RNA is a chemical cousin of DNA,

อาร์เอ็นเอคือโมเลกุลที่เป็นญาติกับดีเอ็นเอ

and it allows interaction with DNA molecules

และมันยอมให้เกิดปฏิสัมพันธ์ กับโมเลกุลดีเอ็นเอ

that have a matching sequence.

ที่มีลำดับที่ตรงกัน

So those little bits of RNA from the CRISPR locus

ดังนั้น ส่วนเล็ก ๆ ของอาร์เอ็นเอ จากบริเวณ CRISPR

associate -- they bind -- to protein called Cas9,

เกี่ยวข้องกัน -- พวกมันจับกับ -- โปรตีนที่เรียกว่า Cas9

which is white in the picture,

ซึ่งมีสีขาวในภาพนี้

and form a complex that functions like a sentinel in the cell.

และเกิดเป็นโครงสร้างเชิงซ้อน ที่ทำหน้าที่เหมือนกับยามในเซลล์

It searches through all of the DNA in the cell,

มันตรวจหาดีเอ็นเอทั้งหมดในเซลล์

to find sites that match the sequences in the bound RNAs.

เพื่อหาบริเวณที่ตรงกัน กับลำดับในดีเอ็นเอที่จับอยู่

And when those sites are found --

และจากนั้น เมื่อบริเวณเหล่านี้ถูกพบ --

as you can see here, the blue molecule is DNA --

อย่างที่เราเห็นตรงนี้ โมเลกุลสีฟ้าคือดีเอ็นเอ --

this complex associates with that DNA

โครงสร้างเชิงซ้อนนี้ เข้าไปเกี่ยวข้องกับดีเอ็นเอ

and allows the Cas9 cleaver to cut up the viral DNA.

และยอมให้ตัวตัด Cas9 ตัดดีเอ็นเอของไวรัส

It makes a very precise break.

มันทำให้เกิดการแยกที่แม่นยำ

So we can think of the Cas9 RNA sentinel complex

ฉะนั้น เราสามารถคิดได้ว่า ยามเชิงซ้อน อาร์เอ็นเอ Cas9

like a pair of scissors that can cut DNA --

เป็นเหมือนกรรไกรที่สามารถตัดดีเอ็นเอ --

it makes a double-stranded break in the DNA helix.

มันทำให้สายคู่ของเกลียวดีเอ็นเอแยกออก

And importantly, this complex is programmable,

และที่สำคัญ โครงสร้างเชิงซ้อนนี้สามารถถูกกำหนดได้

so it can be programmed to recognize particular DNA sequences,

ฉะนั้น มันสามารถถูกกำหนด เพื่อจดจำลำดับจำเพาะของดีเอ็นเอ

and make a break in the DNA at that site.

และทำให้เกิดการแยกในดีเอ็นเอ ที่บริเวณนั้น

As I'm going to tell you now,

ในขณะที่ฉันกำลังเล่าให้คุณฟังตอนนี้

we recognized that that activity could be harnessed for genome engineering,

เรารู้ว่า กิจกรรมดังกล่าวนี้ สามารถถูกใช้ประโยชน์ในการวิศวกรรมจีโนม

to allow cells to make a very precise change to the DNA

เพื่อที่จะให้เซลล์ สร้างการเปลี่ยนแปลงจำเพาะต่อดีเอ็นเอ

at the site where this break was introduced.

ที่บริเวณ ซึ่งการแยกนี้ถูกทำให้เกิดขึ้น

That's sort of analogous

มันก็คล้าย ๆ

to the way that we use a word-processing program

กับวิธีที่เราใช้โปรแกรมเวิร์ด

to fix a typo in a document.

เพื่อแก้ไขคำผิดในเอกสาร

The reason we envisioned using the CRISPR system for genome engineering

เหตุผลที่เรานึกว่าจะใช้ระบบ CRISPR สำหรับการวิศวกรรมจีโนม

is because cells have the ability to detect broken DNA

ก็เพราะว่า เซลล์มีความสามารถ ในการตรวจจับดีเอ็นเอที่มีการแยก

and repair it.

และซ่อมมันได้

So when a plant or an animal cell detects a double-stranded break in its DNA,

ฉะนั้น เมื่อเซลล์พืชหรือสัตว์ พบกว่ามีสายคู่ของดีเอ็นเอของมันที่แยกออก

it can fix that break,

มันสามารถซ่อมรอยแยกนั้นได้

either by pasting together the ends of the broken DNA

ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมปลาย ของดีเอ็นเอที่แยกออกเข้าด้วยกัน

with a little, tiny change in the sequence of that position,

โดยมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ในลำดับของตำแหน่งนั้น

or it can repair the break by integrating a new piece of DNA at the site of the cut.

หรือมันสามารถซ่อมรอยแยกได้โดยการรวมกัน ของชิ้นส่วนดีเอ็นเอใหม่ที่บริเวณที่ถูกตัด

So if we have a way to introduce double-stranded breaks into DNA

ฉะนั้น ถ้าเรามีวิธีการนำสายคู่ที่แยกของดีเอ็นเอ

at precise places,

เข้าไปในบริเวณที่กำหนดไว้เฉพาะ

we can trigger cells to repair those breaks,

เราสามารถกระตุ้นให้ เซลล์ซ่อมแซมส่วนที่แยกนั้นได้

by either the disruption or incorporation of new genetic information.

โดยการรบกวน หรือร่วมมือ กับข้อมูลใหม่ทางพันธุศาสตร์

So if we were able to program the CRISPR technology

ฉะนั้น ถ้าเราจะสามารถกำหนด CRISPR เทคโนโลยี

to make a break in DNA

เพื่อสร้างการแยกในดีเอ็นเอ

at the position at or near a mutation causing cystic fibrosis, for example,

ที่บริเวณนั้น หรือบริเวณที่ใกล้กับการกลายพันธุ์ ที่ทำให้เกิดซิสติก ไฟโบรซิส เป็นต้น

we could trigger cells to repair that mutation.

เราสามารถกระตุ้นเซลล์ เพื่อซ่อมการกลายพันธุ์ได้

Genome engineering is actually not new, it's been in development since the 1970s.

อันที่จริงแล้ว วิศวกรรมจีโนมไม่ใช่สิ่งใหม่ มันถูกพัฒนาเรื่อยมาตั้งแต่ยุค 1970

We've had technologies for sequencing DNA,

พวกเรามีเทคโนโลยีสำหรับการหาลำดับดีเอ็นเอ

for copying DNA,

สำหรับการทำสำเนาดีเอ็นเอ

and even for manipulating DNA.

และแม้กระทั่งการกำกับควบคุมดีเอ็นเอ

And these technologies were very promising,

และเทคโนโลยีเหล่านี้ก็พัฒนาไปได้ดีมาก

but the problem was that they were either inefficient,

แต่ปัญหาก็คือว่า ถ้าพวกมันไม่มีประสิทธิภาพ

or they were difficult enough to use

ก็ยากที่จะนำไปใช้

that most scientists had not adopted them for use in their own laboratories,

นักวิทยาศาสตร์จึงไม่ได้นำพวกมัน ไปใช้ในห้องทดลองของพวกเขา

or certainly for many clinical applications.

หรือแน่นอน ไม่ได้นำไปใช้ ในการบำบัดรักษา

So, the opportunity to take a technology like CRISPR and utilize it has appeal,

ฉะนั้น โอกาสที่จะนำเทคโนโลยี อย่างเช่น CRISPR และใช้มันจึงเป็นที่น่าสนใจ

because of its relative simplicity.

เพราะว่ามันค่อนข้างที่จะง่าย

We can think of older genome engineering technologies

พวกเราอาจเปรียบเทคโนโลยี การวิศวกรรมจีโนมแบบเก่า

as similar to having to rewire your computer

ว่าเป็นเหมือนกับ การต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์

each time you want to run a new piece of software,

แต่ละครั้งเมื่อคุณต้องการที่จะใช้โปรแกรมใหม่

whereas the CRISPR technology is like software for the genome,

ในขณะที่เทคโนโลยี CRISPR เหมือนกับโปรแกรมสำหรับจีโนม

we can program it easily, using these little bits of RNA.

เราสามารถใช้มันได้อย่างง่ายดาย โดยใช้ส่วนเล็ก ๆ ของอาร์เอ็นเอเหล่านี้

So once a double-stranded break is made in DNA,

ฉะนั้น เมื่อสายคู่ของดีเอ็นเอถูกแยก

we can induce repair,

เราสามารถเหนี่ยวนำการซ่อมได้

and thereby potentially achieve astounding things,

และด้วยวิธีการดังกล่าว มันมีศักยภาพที่จะทำให้เราได้สิ่งที่น่าทึ่ง

like being able to correct mutations that cause sickle cell anemia

เช่นการที่จะสามารถแก้ไขการกลายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุ ของโรคโลหิตจางซิคเคิลเซลล์ (sickle cell anemia)

or cause Huntington's Disease.

หรือทำให้เกิดโรคฮันทิงตัน (Huntington's Disease)

I actually think that the first applications of the CRISPR technology

ฉันคิดจริง ๆ ว่า การใช้เทคโนโลยี CRISPR เป็นครั้งแรก

are going to happen in the blood,

จะต้องเกิดขึ้นกับเลือด

where it's relatively easier to deliver this tool into cells,

ซึ่งมันค่อนข้างง่ายต่อการนำเครื่องมือ เข้าไปในเลือด

compared to solid tissues.

เมื่อเทียบกับการใช้กับเนื้อเยื้อแข็ง ๆ

Right now, a lot of the work that's going on

ตอนนี้ งานส่วนใหญ่ที่กำลังดำเนินการอยู่

applies to animal models of human disease, such as mice.

เกี่ยวกับแบบจำลองสัตว์สำหรับโรคในมนุษย์ เช่น หนู

The technology is being used to make very precise changes

เทคโนโลยีถูกใช้เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ที่แม่นยำมาก ๆ

that allow us to study the way that these changes in the cell's DNA

ที่ยอมให้เราศึกษาวิธีการ ที่การเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอเหล่านี้ของเซลล์

affect either a tissue or, in this case, an entire organism.

มีผลต่อเนื้อเยื่อ หรือในกรณีนี้ กับทั้งสิ่งมีชีวิค

Now in this example,

ทีนี้ ในตัวอย่างนี้

the CRISPR technology was used to disrupt a gene

เทคโนโลยี CRISPR ถูกใช้เพื่อขัดขวางยีน

by making a tiny change in the DNA

โดยการสร้างความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในดีเอ็นเอ

in a gene that is responsible for the black coat color of these mice.

ในยีนที่ทำหน้าที่กำกับขนสีดำในหนูเหล่านี้

Imagine that these white mice differ from their pigmented litter-mates

ลองนึกดูว่า หนูสีขาวเหล่านี้ ต่างจากเพื่อนตัวเล็ก ๆ ของมันที่มีสี

by just a tiny change at one gene in the entire genome,

เพียงแค่การเปลี่ยนแปลงของยีนเดียว จากทั้งจีโนม

and they're otherwise completely normal.

และพวกมันก็เป็นปกติสมบูรณ์

And when we sequence the DNA from these animals,

และเมื่อเราทำการหาลำดับดีเอ็นเอ จากสัตว์เหล่านี้

we find that the change in the DNA

เพราะพบว่าการเปลี่ยนแปลงในดีเอ็นเอ

has occurred at exactly the place where we induced it,

ได้เกิดขึ้นที่ตำแหน่ง ที่เราเหนี่ยวนำมันอย่างเจาะจง

using the CRISPR technology.

โดยใช้เทคโนโลยี CRISPR

Additional experiments are going on in other animals

การทดลองเพิ่มเติมกำลังถูกดำเนินการ ในสัตว์ทดลอง

that are useful for creating models for human disease,

ที่เป็นประโยชน์สำหรับการสร้างแบบจำลอง สำหรับโรคในมนุษย์

such as monkeys.

เช่น ลิง

And here we find that we can use these systems

และเราก็ได้พบว่า เราสามารถใช้ระบบเหล่านี้

to test the application of this technology in particular tissues,

ในการทดสอบการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ในเนื้อเยื่อบางอย่างได้

for example, figuring out how to deliver the CRISPR tool into cells.

ยกตัวอย่างเช่น หาว่าจะนำอุปกรณ์ CRISPR เข้าไปในเซลล์ได้อย่างไร

We also want to understand better

เรายังต้องการที่จะเข้าใจให้มากขึ้น

how to control the way that DNA is repaired after it's cut,

ถึงควบคุมวิธีการที่ดีเอ็นเอถูกซ่อม หลังจากที่มันถูกตัด

and also to figure out how to control and limit any kind of off-target,

และยังต้องเข้าใจถึงการควบคุม และจำกัดสิ่งใดๆ ที่อยู่นอกเหนือเป้าหมาย

or unintended effects of using the technology.

หรือผลที่ไม่เป็นที่ต้องการ จากการใช้เทคโนโลยี

I think that we will see clinical application of this technology,

ฉันคิดว่าเราจะได้เห็น การใช้เทคโนโลยีนี้ในทางการแพทย์

certainly in adults,

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ใหญ่

within the next 10 years.

ภายในอีก 10 ปีข้างหน้า

I think that it's likely that we will see clinical trials

ฉันคิดว่า มันเป็นไปได้มาก ที่เราจะเห็นการทดสอบทางคลินิก

and possibly even approved therapies within that time,

และเป็นไปได้ว่ามันจะได้รับการอนุมัติ ให้ใช้ในการรักษาได้ภายในช่วงเวลานั้น

which is a very exciting thing to think about.

ซึ่งมันเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ

And because of the excitement around this technology,

และด้วยความตื่นเต้นต่อเทคโนโลยีนี้

there's a lot of interest in start-up companies

บริษัทสตาร์ตอัพหลายแห่งก็สนใจ

that have been founded to commercialize the CRISPR technology,

ที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี CRISPR

and lots of venture capitalists

และผู้ร่วมลงทุนมากมาย

that have been investing in these companies.

ก็ได้ทุ่มทุนกับบริษัทเหล่านี้

But we have to also consider

แต่เรายังพิจารณา

that the CRISPR technology can be used for things like enhancement.

ว่าเทคโนโลยี CRISPR นี้ ยังสามารถถูกใช้ในการปรับปรุงให้ดีขึ้นได้

Imagine that we could try to engineer humans

ลองจินตนาการว่า เราอาจพยายามพันธุวิศวกรรมมนุษย์

that have enhanced properties, such as stronger bones,

ที่มีคุณสมบัติที่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น เช่น มีกระดูกที่แข็งแรงขึ้น

or less susceptibility to cardiovascular disease

หรือมีเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจได้น้อยลง

or even to have properties

หรือแม้กระทั่งมีคุณสมบัติ

that we would consider maybe to be desirable,

ที่เราอาจพิจารณาว่าเป็นที่ต้องการ

like a different eye color or to be taller, things like that.

เช่นมีตาสีต่างๆ หรือสูงขึ้น อะไรอย่างนั้น

"Designer humans," if you will.

จะเรียกว่า "มนุษย์ที่ได้รับการออกแบบ" ก็ได้

Right now, the genetic information

ตอนนี้ ข้อมูลทางพันธุกรรม

to understand what types of genes would give rise to these traits

ที่จะช่วยทำให้เข้าใจว่ายีนชนิดไหน ทำให้เกิดลักษณะเหล่านี้

is mostly not known.

ยังไม่เป็นที่ทราบกัน

But it's important to know

แต่มันสำคัญที่จะรู้ว่า

that the CRISPR technology gives us a tool to make such changes,

เทคโนโลยี CRISPR นี้ ให้อุปกรณ์กับเราในการเปลี่ยนแปลง

once that knowledge becomes available.

เมื่อความรู้ได้รับการเปิดเผย

This raises a number of ethical questions that we have to carefully consider,

มันทำให้เกิดปัญหาทางจริยธรรมมากมาย ที่เราต้องพิจารณาอย่างระมัดระวัง

and this is why I and my colleagues have called for a global pause

และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันและเพื่อนร่วมงาน ได้เรียกร้องให้เกิดการหยุดในระดับสากล

in any clinical application of the CRISPR technology in human embryos,

ในการใช้เทคโนโลยี CRISPR ทางคลินิกใด ๆ ในตัวอ่อนของมนุษย์

to give us time

เพื่อที่จะให้เวลากับเรา

to really consider all of the various implications of doing so.

ในการพิจารณาแง่มุมต่าง ๆ ของการกระทำนั้น

And actually, there is an important precedent for such a pause

และอันที่จริง มันเป็นการตัดสินที่สำคัญ ที่มีการยับยั้ง

from the 1970s,

ตั้งแต่ยุค 1970

when scientists got together

เมื่อนักวิทยาศาสตร์มารวมตัวกัน

to call for a moratorium on the use of molecular cloning,

และเรียกร้องการผ่อนเวลา ในเรื่องการโคลนนิงเชิงโมเลกุล

until the safety of that technology could be tested carefully and validated.

จนกระทั่งความปลอดภัยของเทคโนโลยี ถูกทดสอบอย่างระมัดระวังและถูกประเมิน

So, genome-engineered humans are not with us yet,

ฉะนั้น มนุษย์ที่ถูกวิศวกรรมจีโนม ยังไม่พบในหมู่พวกเรา

but this is no longer science fiction.

แต่มันก็จะไม่เป้นนิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไป

Genome-engineered animals and plants are happening right now.

สัตว์และพืชที่ถูกวิศวกรรมจีโนม กำลังเกิดขึ้นแล้วในตอนนี้

And this puts in front of all of us a huge responsibility,

และมันก็เอาความรับผิดชอบ มาตั้งเอาไว้ตรงหน้าเรา

to consider carefully both the unintended consequences

ให้พิจารณาอย่างระมัดระวัง ทั้งในเรื่องผลพวกที่ไม่ได้จงใจที่จะตามมา

as well as the intended impacts of a scientific breakthrough.

เช่นเดียวกับผลกระทบที่จงใจ ของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์

Thank you.

ขอบคุณค่ะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

(Applause ends)

(เสียงปรบมือหยุด)

Bruno Giussani: Jennifer, this is a technology with huge consequences,

บรูโน กุซซานี: เจนิเฟอร์ นี่เป็นเทคโนโลยีที่มีผลกระทบที่ตามมาอย่างยิ่ง

as you pointed out.

ดังที่คุณได้บอกไว้

Your attitude about asking for a pause or a moratorium or a quarantine

แนวคิดของคุณที่ขอร้องให้หยุด หรือผ่อนเวลา หรือกักมันไว้ก่อน

is incredibly responsible.

เป็นความรับผิดชอบที่น่าทึ่ง

There are, of course, the therapeutic results of this,

แน่นอน มันมีผลต่อการบำบัดรักษา

but then there are the un-therapeutic ones

แต่มันก็มีผลต่อเรื่องอื่นเช่นกัน

and they seem to be the ones gaining traction,

และพวกมันเหมือนที่จะเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดการหน่วง

particularly in the media.

โดยเฉพาะในสื่อต่าง ๆ

This is one of the latest issues of The Economist -- "Editing humanity."

มีนิตยสารใหม่ฉบับหนึ่งของ เดอะ เอ็คโคโนมิส -- "การปรับปรุงมวลมนุษย์ชาติ"

It's all about genetic enhancement, it's not about therapeutics.

มันเกี่ยวกับการเร่งสนับสนุนทางพันธุศาสตร์ มันไม่ได้เกี่ยวกับการบำบัดรักษา

What kind of reactions did you get back in March

คุณได้รับการตอบสนองอย่างไรบ้าง ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

from your colleagues in the science world,

จากเพื่อนร่วมงานของคุณในวงการวิทยาศาสตร์

when you asked or suggested

เมื่อคุณถาม หรือแนะนำ

that we should actually pause this for a moment and think about it?

ว่าเราควรที่จะหยุดมันเอาไว้ก่อน และครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน

Jennifer Doudna: My colleagues were actually, I think, delighted

เจนิเฟอร์ ดอดนา: ฉันคิดว่า เพื่อนร่วมงานของฉันจริง ๆ แล้วยินดี

to have the opportunity to discuss this openly.

ที่จะมีโอกาสให้มีการอภิปรายกันอย่างเปิดเผย

It's interesting that as I talk to people,

มันน่าสนใจที่ว่าเมื่อฉันพูดกับใคร ๆ

my scientific colleagues as well as others,

ทั้งเพื่อนร่วมงานนักวิทยาศาสตร์ และคนอื่น ๆ

there's a wide variety of viewpoints about this.

มันมีมุมมองแนวคิดต่าง ๆ มากมาย

So clearly it's a topic that needs careful consideration and discussion.

ฉะนั้น เป็นที่ชัดเจนว่า มันเป็นสิ่งที่ต้องการ การพิจารณาและตัดสินใจที่ระมัดระวัง

BG: There's a big meeting happening in December

บรูโน: กำลังจะมีการประชุมใหญ่ ในเดือนธันวาคม

that you and your colleagues are calling,

ที่คุณและเพื่อร่วมงานของคุณถูกเชิญ

together with the National Academy of Sciences and others,

พร้อมกับสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ และที่อื่น ๆ

what do you hope will come out of the meeting, practically?

คุณหวังว่าจะได้อะไรจากการประชุม ในทางปฏิบัติ

JD: Well, I hope that we can air the views

เจนิเฟอร์: ฉันหวังว่าเราจะสามารถพูดคุย ถึงความคิดเห็นต่าง ๆ

of many different individuals and stakeholders

จากแต่ละคน และผู้มีผลประโยชน์ร่วม

who want to think about how to use this technology responsibly.

ผู้ที่จะต้องคิดว่า เราจะใช้เทคโนโลยีนี้อย่างรับผิดชอบได้อย่างไร

It may not be possible to come up with a consensus point of view,

มันอาจเป็นไปไม่ได้ที่จะได้มาซึ่งมุมมอง ที่มีเห็นด้วยกันเป็นเอกฉันท์

but I think we should at least understand

แต่ฉันคิดว่าอย่างน้อยเราควรที่จะเข้าใจ

what all the issues are as we go forward.

ว่าเรื่องทั้งหมดนี้คืออะไร ในขณะที่เรากำลังก้าวต่อไป

BG: Now, colleagues of yours,

บรูโน: ตอนนี้เพื่อนร่วมงานของคุณ

like George Church, for example, at Harvard,

อย่างเช่น จอร์จ เชิร์ช ที่ฮาร์วาร์ด

they say, "Yeah, ethical issues basically are just a question of safety.

พวกเขาบอกว่า "ใช่ ปัญหาทางจริยธรรม โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นแค่คำถามเรื่องความปลอดภัย

We test and test and test again, in animals and in labs,

เราตรวจสอบมัน ครั้งแล้วครั้งเล่า

and then once we feel it's safe enough, we move on to humans."

และเมื่อเรารู้สึกว่ามันปลอดภัยเพียงพอ เราก็ไปทำการทดลองในมนุษย์"

So that's kind of the other school of thought,

ฉะนั้น นั่นมันเหมือนเป็นอีกหนึ่งแนวคิด

that we should actually use this opportunity and really go for it.

ที่เราควรที่จะใช้โอกาสนี้ และมุ่งประเด็นไปที่มัน

Is there a possible split happening in the science community about this?

มันเป็นไปได้หรือไม่ที่มีการแตกแยก ในวงการวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องนี้

I mean, are we going to see some people holding back

ผมหมายความว่า เรากำลังจะเห็นบางคนรั้งรอ

because they have ethical concerns,

เพราะพวกเขาเป็นห่วงเรื่องจริยธรรม

and some others just going forward

และบางคนดำเนินการต่อไป

because some countries under-regulate or don't regulate at all?

เพราะว่าบางประเทศมีการควบคุม หรือไม่มีการควบคุมเลย

JD: Well, I think with any new technology, especially something like this,

เจนิเฟอร์: ฉันคิดว่า เทคโนโลยีใหม่ใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีแบบนี้

there are going to be a variety of viewpoints,

มันจะต้องมีความเห็นต่าง ๆ มากมาย

and I think that's perfectly understandable.

และฉันคิดว่า มันเป็นที่เข้าใจได้

I think that in the end,

ฉันคิดว่า ที่สุดแล้ว

this technology will be used for human genome engineering,

เทคโนโลยีนี้จะถูกใช้ สำหรับพันธุวิศวกรรมในมนุษย์

but I think to do that without careful consideration and discussion

แต่ฉันติดว่า การที่จะทำอย่างนั้นโดยปราศจาก การพิจารณาและอภิปรายกันอย่างรอบคอบ

of the risks and potential complications

ถึงความเสี่ยงและความยุ่งยากที่อาจเกิดขึ้นได้

would not be responsible.

คงจะเป็นการไร้ความรับผิดชอบ

BG: There are a lot of technologies and other fields of science

บรูโน: มีเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์สาขาอื่น ๆ มากมาย

that are developing exponentially, pretty much like yours.

ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับงานของคุณ

I'm thinking about artificial intelligence, autonomous robots and so on.

ผมกำลังนึกถึงหุ่นยนต์อัจฉริยะ, หุ่นยนต์อัตโนมัติ อะไรพวกนั้น

No one seems --

เหมือนว่าจะไม่มีใคร --

aside from autonomous warfare robots --

นอกเสียจากหุ่นยนต์สงครามอัตโนมัติ --

nobody seems to have launched a similar discussion in those fields,

ออกมาเปิดประเด็นอภิปรายอะไรคล้าย ๆ กันนี้

in calling for a moratorium.

ในการระงับการใช้ไว้ก่อน

Do you think that your discussion may serve as a blueprint for other fields?

คุณคิดว่า การอภิปรายของคุณอาจเป็นเหมือนพิมพ์เขียว สำหรับวิทยาศาสตร์สาขาอื่น ๆ หรือไม่ครับ

JD: Well, I think it's hard for scientists to get out of the laboratory.

เจนิเฟอร์: ค่ะ ฉันคิดว่ามันยากที่นักวิทยาศาสตร์ จะออกไปจากห้องทดลอง

Speaking for myself,

สำหรับตัวฉันเอง

it's a little bit uncomfortable to do that.

มันค่อนข้างที่จะอึดอัดที่เดียว

But I do think that being involved in the genesis of this

แต่ฉันคิดจริง ๆ ว่าการที่ได้มามีส่วนร่วม ในจุดปฐมบทของสิ่งนี้

really puts me and my colleagues in a position of responsibility.

ทำให้ฉันและผู้ร่วมงาน อยู่ในตำแหน่งที่ต้องรับผิดชอบ

And I would say that I certainly hope that other technologies

และฉันคงบอกได้ว่า ฉันหวังจริง ๆ ว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ

will be considered in the same way,

จะถูกพิจารณาในลักษณะเดียวกัน

just as we would want to consider something that could have implications

เช่นเดียวกับที่เราอยากที่จะพิจารณา อะไรบางอย่างที่มีเงื่อนงำ

in other fields besides biology.

ในวิทยาศาสตร์สาขาอื่น ๆ นอกจากชีววิทยา

BG: Jennifer, thanks for coming to TED.

บรูโน: เจนิเฟอร์ ขอบคุณที่มาที่ TED ครับ

JD: Thank you.

เจนิเฟอร์: ขอบคุณค่ะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)