Robert Thurman: Expanding your circle of compassion

30,782 views ・ 2015-07-17

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Korawan Kitsommart Reviewer: PanaEk Warawit
00:12
I want to open by quoting Einstein's wonderful statement,
0
12000
4000
ผมอยากจะเริ่ม ด้วยการยกคำกล่าวที่แสนวิเศษของ ไอน์สไตน์
00:16
just so people will feel at ease that the great scientist of the 20th century
1
16000
5000
เพื่อให้คุณรู้สึกว่า แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 20
00:21
also agrees with us, and also calls us to this action.
2
21000
4000
ก็ยังเห็นด้วยกับเรา และก็ยังเรียกร้องให้เราลงมือทำอย่างเดียวกัน
00:25
He said, "A human being is a part of the whole, called by us, the 'universe,' --
3
25000
5000
เขากล่าวว่า "มนุษย์หนึ่งคน เป็นส่วนหนึ่งของมวลรวม ที่เรียกว่าจักรวาล
00:30
a part limited in time and space.
4
30000
3000
เป็นส่วน ที่มีเวลา และพื้นที่จำกัด
00:33
He experiences himself, his thoughts and feelings,
5
33000
3000
มนุษย์มองเห็นตัวเอง ความคิด และความรู้สึก
00:36
as something separated from the rest,
6
36000
3000
ว่าเขาเป็นสิ่งหนึ่ง ที่แยกออกจากสิ่งอื่น,
00:39
a kind of optical delusion of his consciousness.
7
39000
4000
ความแปลกแยกนี้ เป็นภาพลวงตาแบบหนึ่งที่เกิดในจิตใต้สำนึก
00:43
This delusion is a kind of prison for us,
8
43000
3000
ภาพลวงตาที่ว่านี้ ก็เป็นเหมือนคุก
00:46
restricting us to our personal desires and to affection for a few persons nearest to us.
9
46000
6000
ที่ขังเราไว้กับความปรารถนาส่วนตัว และความดึงดูดใจต่อคนไม่กี่คนรอบตัวเรา
00:52
Our task must be to free ourselves from this prison by widening our circle of compassion,
10
52000
6000
หน้าที่ของเรา คือการปลดปล่อยตัวเองออกจากกรงขังนี้ ด้วยการขยายขอบข่ายแห่งกรุณาออกไป
00:58
to embrace all living creatures and the whole of nature in its beauty."
11
58000
4000
เพื่อโอบกอดสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย และชื่นชมในความงามของธรรมชาติทั้งมวลนั้น"
01:02
This insight of Einstein's is uncannily close to that of Buddhist psychology,
12
62000
5000
ความเข้าใจของไอน์สไตน์นี้ ใกล้เคียงกับแนวคิดของพระพุทธเจ้าอย่างน่าอัศจรรย์
01:07
wherein compassion -- "karuna," it is called --
13
67000
4000
สิ่งที่ถูกเรียกว่า "ความกรุณา"
01:11
is defined as, "the sensitivity to another's suffering
14
71000
3000
มีนิยามว่า, "ความใส่ใจในทุกข์ของผู้อื่น
01:14
and the corresponding will to free the other from that suffering."
15
74000
5000
และปรารถนาจะให้ผู้อื่นพ้นจากทุกข์นั้น"
01:19
It pairs closely with love, which is the will for the other to be happy,
16
79000
4000
มันใกล้เคียงกับ ความรัก ซึ่งก็คือความปรารถนาที่จะให้ผู้อื่นมีความสุข
01:23
which requires, of course, that one feels some happiness oneself
17
83000
4000
ซึ่งก็แน่นอนว่า คนๆ นั้น ก็จะต้องมีความสุข
01:27
and wishes to share it.
18
87000
3000
และอยากจะแบ่งปัน
01:30
This is perfect in that it clearly opposes self-centeredness
19
90000
3000
มันเป็นเรื่องตรงกันข้ามกับ คนที่เห็นแต่ตัวเองเป็นใหญ่อย่างสิ้นเชิง
01:33
and selfishness to compassion, the concern for others,
20
93000
4000
และเห็นแก่ตัวเกินกว่าที่จะกรุณา, ที่จะคิดถึงผู้อื่น,
01:37
and, further, it indicates that those caught in the cycle of self-concern
21
97000
5000
และยิ่งไปกว่านั้น, มันก็บอกเราว่า คนที่ถูกกักขังอยู่ในห้วงแห่งตัวตน
01:42
suffer helplessly, while the compassionate are more free
22
102000
4000
เป็นทุกข์ที่เกินเยียวยา, ในขณะที่ ความกรุณาเป็นชีวิตอิสระ
01:46
and, implicitly, more happy.
23
106000
2000
และโดยเนื้อแท้ ก็เป็นชีวิตที่เป็นสุขกว่า
01:48
The Dalai Lama often states that compassion is his best friend.
24
108000
5000
ท่านดาไล ลามะ มักจะกล่าวว่า ความกรุณา เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของท่าน
01:53
It helps him when he is overwhelmed with grief and despair.
25
113000
3000
มันช่วยท่าน ในยามที่ทับท้นด้วยความเศร้าโศก และสิ้นหวัง
01:56
Compassion helps him turn away from the feeling of his suffering
26
116000
4000
ความกรุณา ช่วยให้ท่านหันเหออกจากความรู้สึกเป็นทุกข์ของตัวเอง
02:00
as the most absolute, most terrible suffering anyone has ever had
27
120000
5000
ที่คิดว่าเป็นความทุกข์อย่างที่สุด อย่างหาที่เปรียบไม่ได้
02:05
and broadens his awareness of the sufferings of others,
28
125000
3000
และเปิดการระลึกรู้ ไปสู่ความทุกข์ของผู้อื่น
02:08
even of the perpetrators of his misery and the whole mass of beings.
29
128000
5000
แม้แต่ของผู้ที่ก่อกรรมทำเข็ญ ผู้ที่ทำให้ท่านประสบกับความทุกข์ระกำลำบาก รวมไปถึงสรรพชีวิตทั้งมวล
02:13
In fact, suffering is so huge and enormous,
30
133000
3000
และพบว่า ความทุกข์โดยรวมนั้นมากมายมหาศาล
02:16
his own becomes less and less monumental.
31
136000
3000
จนความทุกข์ของท่านเอง กลายเป็นสิ่งเล็กน้อยไป
02:19
And he begins to move beyond his self-concern into the broader concern for others.
32
139000
6000
และเมื่อท่านเริ่มที่จะหลุดออกไปจากตัวเอง ไปสู่ความปรารถนาดีต่อผู้อื่นในวงที่กว้างออกไป
02:25
And this immediately cheers him up,
33
145000
2000
ก็ทำให้ท่านรู้สึกมีพลังใจขึ้นมาในทันที
02:27
as his courage is stimulated to rise to the occasion.
34
147000
4000
เพราะความหาญกล้าของท่าน ได้ถูกกระตุ้นด้วยสถานการณ์นั้น
02:31
Thus, he uses his own suffering
35
151000
2000
ดังนั้น ท่านจึงใช้ความทุกข์ของตัวเอง
02:33
as a doorway to widening his circle of compassion.
36
153000
4000
เป็นประตู ที่เปิดไปสู่วงล้อมแห่งกรุณาที่กว้างออกไปอีก
02:37
He is a very good colleague of Einstein's, we must say.
37
157000
4000
เราอาจกล่าวได้ว่า ท่านเป็นเพื่อนรักของไอน์สไตน์
02:41
Now, I want to tell a story,
38
161000
2000
ตอนนี้ ผมก็อยากจะเล่าอีกเรื่องหนึ่ง
02:43
which is a very famous story in the Indian and Buddhist tradition,
39
163000
3000
ซึ่งเป็นเรื่องที่โด่งดังมาก ในหมู่ชาวอินเดีย และชาวพุทธ
02:46
of the great Saint Asanga
40
166000
2000
เป็นเรื่องของท่านอสังคะ
02:48
who was a contemporary of Augustine in the West
41
168000
3000
ซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยเดียวกันกับท่านออกัสติน ทางตะวันตก
02:51
and was sort of like the Buddhist Augustine.
42
171000
2000
ซึ่งก็คล้ายๆ กับจะเป็นชาวพุทธ
02:53
And Asanga lived 800 years after the Buddha's time.
43
173000
4000
ท่านอสังคะ มีชีวิตอยู่ในช่วง 800 ปี หลังพุทธกาล
02:57
And he was discontented with the state of people's practice
44
177000
3000
และท่านก็ไม่พอใจอย่างมาก กับแนวทางการปฏิบัติของผู้คน
03:00
of the Buddhist religion in India at that time.
45
180000
2000
ของชาวพุทธ ในอินเดียในยุคนั้น
03:02
And so he said, "I'm sick of all this. Nobody's really living the doctrine.
46
182000
4000
ท่านกล่าวว่า "เราสุดจะทนกับสิ่งเหล่านี้ ไม่มีใครปฏิบัติตามคำสอนอย่างแท้จริง
03:06
They're talking about love and compassion and wisdom and enlightenment,
47
186000
3000
เขาพูดถึงความรัก ความกรุณา ปัญญา และความตื่นรู้
03:09
but they are acting selfish and pathetic.
48
189000
3000
แต่สิ่งที่ประพฤติกลับเห็นแก่ตัว และน่าอนาถใจ
03:12
So, Buddha's teaching has lost its momentum.
49
192000
3000
หรือคำสอนของพระพุทธองค์จะเสื่อมสลายเสียแล้ว
03:15
I know the next Buddha will come a few thousand years from now,
50
195000
3000
เรารู้ว่า พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปจะมาถึงในอีกไม่กี่พันปีข้างหน้า
03:18
but exists currently in a certain heaven" -- that's Maitreya --
51
198000
4000
แต่ในเวลานี้ ท่านที่ชื่อเมตไตรย ยังประทับอยู่ ณ สรวงสวรรค์
03:22
"so, I'm going to go on a retreat and I'm going to meditate
52
202000
3000
เช่นนั้น เราก็จะออกไปบำเพ็ญเพียรภาวนา เราจะไปทำสมาธิ
03:25
and pray until the Buddha Maitreya reveals himself to me,
53
205000
4000
และจะสวดมนต์ จนกว่าท่านเมตไตรจะปรากฏกายของท่านให้เห็น
03:29
and gives me a teaching or something
54
209000
2000
และให้คำสอน หรืออะไรซักอย่าง
03:31
to revive the practice of compassion in the world today."
55
211000
4000
ที่จะช่วยฟื้นการปฏิบัติกรุณาในโลกเราทุกวันนี้
03:35
So he went on this retreat. And he meditated for three years
56
215000
3000
แล้วท่านก็ออกบำเพ็ญเพียรภาวนา เมื่อท่านทำสมาธิได้สามปี
03:38
and he did not see the future Buddha Maitreya.
57
218000
2000
แต่ก็ยังไม่เห็นพระเมตไตรย พระอนาคตพุทธเจ้า
03:40
And he left in disgust.
58
220000
3000
เขาจึงละออกจากการบำเพ็ญเพียร
03:43
And as he was leaving, he saw a man --
59
223000
3000
ในขณะเดินทางกลับนั้นเอง ท่านก็ได้พบชายคนหนึ่ง--
03:46
a funny little man sitting sort of part way down the mountain.
60
226000
3000
ชายร่างเล็ก ท่าทางน่าขัน--นั่งอยู่ระหว่างทางลงจากเขา
03:49
And he had a lump of iron.
61
229000
3000
เขามีก้อนเหล็กอยู่ก้อนหนึ่ง
03:52
And he was rubbing it with a cloth.
62
232000
2000
และกำลังใช้ผ้าขัดถูมันอยู่
03:54
And he became interested in that.
63
234000
2000
ท่านจึงรู้สึกสนใจ
03:56
He said, "Well what are you doing?"
64
236000
2000
และถามว่า "นั่นกำลังทำอะไรอยู่เล่า?"
03:58
And the man said, "I'm making a needle."
65
238000
5000
ชายผู้นั้นตอบว่า "เรากำลังฝนเข็ม"
04:03
And he said, "That's ridiculous. You can't make a needle
66
243000
2000
ท่านจึงกล่าวว่า "นั่นมันน่าขันสิ้นดี เจ้าไม่สามารถทำเข็มได้
04:05
by rubbing a lump of iron with a cloth."
67
245000
2000
ด้วยการใช้ผ้าขัดถูแท่งเหล็กนี่หรอกนะ"
04:07
And the man said, "Really?" And he showed him a dish full of needles.
68
247000
3000
ชายผู้นั้นตอบว่า "จริงรึ?" แล้วเขาก็นำจานที่มีเข็มอยู่เต็มให้ดู
04:10
So he said, "Okay, I get the point."
69
250000
2000
ท่านอสังคคะจึงกล่าวว่า "เอาล่ะ เราเข้าใจแล้ว"
04:12
He went back to his cave. He meditated again.
70
252000
3000
ท่านจึงกลับไปที่ถ้ำ และปฏิบัติสมาธิอีกครั้ง
04:15
Another three years, no vision. He leaves again.
71
255000
3000
สามปีผ่านไป ท่านก็ยังไม่เห็นสิ่งใด จึงละความพยายามอีกครั้ง
04:18
This time, he comes down.
72
258000
2000
คราวนี้ ระหว่างกลับลงมา
04:20
And as he's leaving, he sees a bird making a nest on a cliff ledge.
73
260000
4000
ขณะนั้นเอง ท่านก็ได้เห็นนกกำลังทำรังที่ชะง่อนผา
04:24
And where it's landing to bring the twigs to the cliff,
74
264000
4000
และตรงจุดที่นกร่อนลงเพื่อนำกิ่งไม้ไปที่หน้าผานั้น
04:28
its feathers brushes the rock -- and it had cut the rock
75
268000
4000
ขนของมันก็ปัดโดนก้อนหิน และก็ตัดก้อนหินนั้น
04:32
six to eight inches in. There was a cleft in the rock
76
272000
3000
เป็นรอยแยกลึกเข้าไปในหน้าผายาวราวๆ หกถึงแปดนิ้ว
04:35
by the brushing of the feathers of generations of the birds.
77
275000
3000
อันเป็นผลจากขนนกที่ปัดโดนก้อนหินมาหลายชั่วอายุ
04:38
So he said, "All right. I get the point." He went back.
78
278000
2000
ท่านจึงกล่าวว่า "เราเข้าใจแล้ว" และท่านก็กลับขึ้นไปอีกครั้ง
04:40
Another three years.
79
280000
2000
อีกสามปีผ่านไป
04:42
Again, no vision of Maitreya after nine years.
80
282000
2000
ก็เหมือนเดิม ท่านยังคงไม่เห็นพระเมตไตรยแม้เวลาจะผ่านไปแล้วถึงเก้าปี
04:44
And he again leaves, and this time: water dripping,
81
284000
3000
และท่านก็ละความพยายามอีกครั้ง และครั้งนี้ก็มีหยดน้ำ
04:47
making a giant bowl in the rock where it drips in a stream.
82
287000
4000
ที่ทำให้ก้อนหินกลายเป็นแอ่งขนาดยักษ์
04:51
And so, again, he goes back. And after 12 years there is still no vision.
83
291000
4000
ท่านจึงกลับไปบำเพ็ญภาวนาอีกครั้งหนึ่ง และหลังจากผ่านไป 12 ปีโดยที่ไม่ได้พบเห็นสิ่งใด
04:55
And he's freaked out. And he won't even look left or right
84
295000
2000
ท่านรู้สึกกลัวมากจนไม่กล้ามองซ้ายมองขวาอีก
04:57
to see any encouraging vision.
85
297000
2000
เพราะเกรงจะพบเห็นสิ่งที่สร้างพลังใจอีก
04:59
And he comes to the town. He's a broken person.
86
299000
3000
เมื่อท่านกลับเข้าเมือง อย่างคนสิ้นเนื้อประดาตัว
05:02
And there, in the town, he's approached by a dog
87
302000
3000
ขณะนั้นเอง ก็มีสุนัขตัวนึงเดินเข้ามาใกล้
05:05
who comes like this -- one of these terrible dogs you can see in some poor countries,
88
305000
5000
ตรงมาแบบนี้--เป็นสุนัขน่ากลัวที่พบได้ทั่วไปในประเทศยากจน
05:10
even in America, I think, in some areas --
89
310000
2000
ผมคิดว่า แม้กระทั่งบางแห่งในอเมริกา--
05:12
and he's looking just terrible.
90
312000
2000
มันดูน่ากลัวมาก--
05:14
And he becomes interested in this dog because it's so pathetic,
91
314000
3000
แต่ท่านกลับรู้สึกสนใจในเจ้าสุนัขตัวนี้ เพราะมันดูน่าสงสารเหลือเกิน
05:17
and it's trying to attract his attention. And he sits down looking at the dog.
92
317000
3000
และมันก็พยายามเรียกร้องความสนใจจากท่าน ท่านจึงนั่งลง มองดูเจ้าสุนัขนั้น
05:20
And the dog's whole hindquarters are a complete open sore.
93
320000
5000
และก็เห็นว่าที่หลังหัวของเจ้าสุนัขนั้น เป็นแผลขนาดใหญ่
05:25
Some of it is like gangrenous,
94
325000
2000
และบางส่วนก็มีเนื้อที่เน่าแล้ว
05:27
and there are maggots in the flesh. And it's terrible.
95
327000
3000
และยังมีหนอนชอนไชอยู่ในเนื้อนั้น เป็นภาพที่น่าขยะแขยง
05:30
He thinks, "What can I do to fix up this dog?
96
330000
3000
ท่านคิดว่า "เราจะทำอย่างไรถึงจะช่วยเจ้าสุนัขนี้ได้?"
05:33
Well, at least I can clean this wound and wash it."
97
333000
3000
ดีละ อย่างน้อย เราก็ยังล้าง ทำความสะอาดแผลให้มันได้"
05:36
So, he takes it to some water. He's about to clean,
98
336000
2000
ท่านจึงนำน้ำมา และขณะที่กำลังจะล้างแผลนั้น
05:38
but then his awareness focuses on the maggots.
99
338000
4000
ท่านก็พุ่งความสนใจมาที่พวกหนอน
05:42
And he sees the maggots, and the maggots are kind of looking a little cute.
100
342000
3000
ท่านเห็นหนอน และก็ดูเหมือนพวกมันจะดูน่ารัก
05:45
And they're maggoting happily in the dog's hindquarters there.
101
345000
3000
และพวกมันก็อาศัยอยู่บนหัวของเจ้าสุนัขนี้อย่างมีความสุข
05:48
"Well, if I clean the dog, I'll kill the maggots. So how can that be?
102
348000
4000
"เอ ถ้าเราทำความสะอาดเจ้าสุนัขนี้ เราก็จะต้องฆ่าพวกหนอน เราจะทำยังไงดี?
05:52
That's it. I'm a useless person and there's no Buddha, no Maitreya,
103
352000
3000
ใช่แล้ว เราเป็นผู้ไร้ประโยชน์ และไม่มีแล้วซึ่งพระพุทธเจ้า หรือพระเมตไตรย
05:55
and everything is all hopeless.
104
355000
2000
สิ่งใดๆ ล้วนไร้หวัง
05:57
And now I'm going to kill the maggots?"
105
357000
3000
และบัดนี้ เรายังจะต้องฆ่าแม้พวกหนอนนี้รึ?
06:00
So, he had a brilliant idea.
106
360000
2000
แล้วท่านก็เกิดความคิด
06:02
And he took a shard of something, and cut a piece of flesh from his thigh,
107
362000
5000
แล้วท่านก็ใช้เศษอะไรบางอย่าง ตัดเนื้อที่น่องของตนเอง
06:07
and he placed it on ground.
108
367000
2000
วางลงที่พื้น
06:09
He was not really thinking too carefully about the ASPCA.
109
369000
4000
ท่านคงไม่ได้คิดถึงองค์กรป้องกันการทารุณกรรมสัตว์
06:13
He was just immediately caught with the situation.
110
373000
2000
คงคิดถึงแต่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
06:15
So he thought, "I will take the maggots and put them on this piece of flesh,
111
375000
3000
แล้วท่านก็คิดว่า "เราจะเอาพวกหนอนออกมาวางที่เนื้อนี้
06:18
then clean the dog's wounds, and then
112
378000
3000
แล้วก็ทำความสะอาดแผลของเจ้าสุนัข แล้วก็
06:21
I'll figure out what to do with the maggots."
113
381000
3000
ค่อยคิดอีกทีว่าจะทำอย่างไรกับพวกหนอน"
06:24
So he starts to do that. He can't grab the maggots.
114
384000
2000
แล้วท่านก็เริ่มลงมือ แต่ก็จับหนอนไม่ได้
06:26
Apparently they wriggle around. They're kind of hard to grab, these maggots.
115
386000
4000
เพราะพวกมันดิ้นยุกยิกไปมา ทำให้จับยากมาก
06:30
So he says, "Well, I'll put my tongue on the dog's flesh.
116
390000
4000
ท่านจึงกล่าวว่า "ถ้าเช่นนั้น เราจะวางลิ้นของเราไปบนเนื้อของเจ้าสุนัข
06:34
And then the maggots will jump on my warmer tongue" --
117
394000
2000
แล้วพวกหนอนก็จะกระโดดมาสู่ลิ้นของเราที่อุ่นกว่า
06:36
the dog is kind of used up --
118
396000
2000
เจ้าสุนัขที่ดูเหมือนจะโดนกินจนหมดแล้ว
06:38
"and then I'll spit them one by one down on the thing."
119
398000
3000
แล้วเราก็จะคายหนอนลงที่ชิ้นเนื้อ ทีละตัว ทีละตัว"
06:41
So he goes down, and he's sticking his tongue out like this.
120
401000
3000
เมื่อท่านก้มลง และแลบลิ้นออกแบบนี้
06:44
And he had to close his eyes, it's so disgusting, and the smell and everything.
121
404000
5000
และท่านก็ต้องปิดตา เพราะมันน่าขยะแขยงมาก แล้วยังมีกลิ่น แล้วยังอะไรต่อมิอะไรอีก
06:49
And then, suddenly, there's a pfft, a noise like that.
122
409000
2000
และแล้ว ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงฟึ่บ
06:51
He jumps back and there, of course, is the future Buddha Maitreya
123
411000
4000
ท่านกระโดดถอยหลัง ใช่แล้ว พระอนาคตพุทธเจ้า พระเมตไตรย
06:55
in a beautiful vision -- rainbow lights, golden, jeweled, a plasma body,
124
415000
7000
เป็นภาพที่สวยงาม มีแสงสีรุ้ง สีทอง มีอัญมณีแวววาว และกายที่เรืองแสง
07:02
an exquisite mystic vision -- that he sees.
125
422000
2000
เป็นภาพที่ช่างงามวิจิตร
07:04
And he says, "Oh." He bows.
126
424000
2000
ท่านจึงกล่าวว่า "โอ" และก้มลงคำนับ
07:06
But, being human, he's immediately thinking of his next complaint.
127
426000
4000
แต่ ด้วยความเป็นมนุษย์ ท่านก็คิดจะร้องทุกข์ในทันที
07:10
So as he comes up from his first bow he says,
128
430000
2000
พอเงยหน้าขึ้น ท่านก็กล่าวขึ้นว่า
07:12
"My Lord, I'm so happy to see you, but where have you been for 12 years?
129
432000
4000
"พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพเจ้ามีความสุขเหลือล้นที่ได้เห็นท่าน แต่ท่านไปอยู่ที่ไหนตลอด 12 ปีที่ผ่านมาเล่า?
07:16
What is this?"
130
436000
2000
นี่มันอะไรกัน?"
07:18
And Maitreya says, "I was with you. Who do you think was making needles
131
438000
3000
พระเมตไตรกล่าวว่า "เราอยู่กับท่านนั่นเอง ท่านคิดว่าใครเล่าที่นั่งฝนเข็ม
07:21
and making nests and dripping on rocks for you, mister dense?"
132
441000
4000
และทำรัง และหยดลงบนก้อนหินให้เจ้าเห็นเล่า เจ้าปัญญาทึบเอ๋ย?"
07:25
(Laughter)
133
445000
2000
(หัวเราะ)
07:27
"Looking for the Buddha in person," he said.
134
447000
3000
"เจ้าเอาแต่มองหาพระพุทธเจ้า" ท่านกล่าว
07:30
And he said, "You didn't have, until this moment, real compassion.
135
450000
6000
และยังกล่าวต่อไปว่า "เจ้ายังไม่มีกรุณาที่แท้ จนกระทั่ง ณ เวลานี้
07:36
And, until you have real compassion, you cannot recognize love."
136
456000
3000
และจนกว่าเจ้าจะมีกรุณาที่แท้ เมื่อนั้นเจ้าจึงจะรู้จักความรัก"
07:39
"Maitreya" means love, "the loving one," in Sanskrit.
137
459000
4000
เมตไตรย แปลว่าความรัก คือผู้มีเมตตา ในภาษาสันสกฤต
07:43
And so he looked very dubious, Asanga did.
138
463000
2000
ท่านอสังคะ ยังคงมองอย่างสงสัย
07:45
And he said, "If you don't believe me, just take me with you."
139
465000
3000
พระเมตไตรยจึงกล่าวว่า "หากท่านไม่เชื่อเรา จงนำเราไปกับท่าน"
07:48
And so he took the Maitreya -- it shrunk into a globe, a ball --
140
468000
5000
ท่านอสังคะจึงนำพระเมตไตรย ซึ่งกลายเป็นก้อนกลม
07:53
took him on his shoulder.
141
473000
2000
แบกไว้บนบ่า
07:55
And he ran into town in the marketplace, and he said, "Rejoice! Rejoice!
142
475000
4000
แล้ววิ่งเข้าไปในเมือง เข้าไปในตลาด และร้องตะโกนว่า "น่ายินดี น่ายินดี
07:59
The future Buddha has come ahead of all predictions. Here he is."
143
479000
4000
พระอนาคตพุทธเจ้า ได้มาปรากฏก่อนคำทำนาย ท่านอยู่ที่นี่แล้ว"
08:03
And then pretty soon they started throwing rocks and stones at him --
144
483000
3000
ไม่นานนัก ชาวบ้านต่างพากันขว้างปาก้อนหินใส่--
08:06
it wasn't Chautauqua, it was some other town --
145
486000
3000
ที่นั่นไม่ใช่ Chautauqua มันเป็นเมืองอื่น--
08:09
because they saw a demented looking, scrawny looking yogi man,
146
489000
4000
เพราะสิ่งที่เขามองเห็นกัน ก็เป็นเพียงโยคีผอมแห้ง ที่ดูเสียสติ
08:13
like some kind of hippie, with a bleeding leg and a rotten dog on his shoulder,
147
493000
5000
คงคล้ายๆ พวกฮิปปี้ ที่ตรงขามีแผลเลือดไหล และยังแบกสุนัขน่าเกลียดอยู่บนไหล่
08:18
shouting that the future Buddha had come.
148
498000
2000
ตะโกนร้องไปทั่วว่าพระอนาคตพุทธเจ้าได้เสด็จมาแล้ว
08:20
So, naturally, they chased him out of town.
149
500000
2000
ก็ปกตินะครับ ชาวเมืองต่างพากันขับไล่เขาออกไปจากเมือง
08:22
But on the edge of town, one elderly lady, a charwoman in the charnel ground,
150
502000
5000
แต่เมื่อมาถึงที่รอบนอกเมือง ก็มีหญิงชรานางหนึ่ง เป็นหญิงใส่ฟืนที่สุสาน
08:27
saw a jeweled foot on a jeweled lotus on his shoulder and then the dog,
151
507000
4000
นางมองเห็นเท้าที่ประดับด้วยอัญมณี อยู่บนดอกบัวที่เป็นอัญมณี อยู่บนไหล่ แล้วจึงเห็นเจ้าสุนัข
08:31
but she saw the jewel foot of the Maitreya, and she offered a flower.
152
511000
4000
นางได้เห็นพระบาทของพระเมตไตรย และได้ถวายดอกไม้บูชา
08:35
So that encouraged him, and he went with Maitreya.
153
515000
3000
นั่นก็ทำให้ท่านอสังคะมีกำลังใจ และไปกับพระเมตไตร
08:38
Maitreya then took him to a certain heaven,
154
518000
2000
พระเมตไตรยได้นำท่านไปสู่สวรรค์ชั้นหนึ่ง
08:40
which is the typical way a Buddhist myth unfolds.
155
520000
3000
ซึ่งก็เป็นแนวที่ตำนานทางพุทธศาสนามักจะใช้กัน
08:43
And Maitreya then kept him in heaven for five years,
156
523000
2000
และพระเมตไตรยก็ให้ท่านอสังคะอยู่บนสวรรค์เป็นเวลาห้าปี
08:45
dictating to him five complicated tomes
157
525000
4000
และได้สั่งสอนพระคัมภีร์ที่ยากยิ่งถึงห้าฉบับ
08:49
of the methodology of how you cultivate compassion.
158
529000
3000
ที่ว่าด้วยวิธีการฝึกบำเพ็ญกรุณา
08:52
And then I thought I would share with you what that method is, or one of them.
159
532000
3000
ซึ่งผมคิดว่า ผมจะนำมาแบ่งปันกับทุกท่านว่าวิธีการนั้นมันเป็นอย่างไร
08:55
A famous one, it's called the "Sevenfold Causal Method of Developing Compassion."
160
535000
5000
เรื่องที่มีชื่อเสียงที่สุด มีชื่อว่า "วิธีการสร้างความกรุณาอย่างง่ายๆ ใน 7 ขั้นตอน"
09:00
And it begins first by one meditating and visualizing that all beings are with one --
161
540000
7000
ซึ่งก็เริ่มต้นจากการทำสมาธิ และมองเห็นว่าสรรพชีวิตนั้นต่างเป็นสิ่งเดียวกัน
09:07
even animals too, but everyone is in human form.
162
547000
4000
และทุกสิ่ง --รวมทั้งสรรพสัตว์--ต่างก็เป็นมนุษย์ในรูปแบบหนึ่ง
09:11
The animals are in one of their human lives. The humans are human.
163
551000
3000
สัตว์ทั้งหลาย ก็คือมนุษย์ในชาติหนึ่ง และมนุษย์ทั้งหลายก็คือมนุษย์นี้เอง
09:14
And then, among them, you think of your friends and loved ones, the circle at the table.
164
554000
5000
และในท่ามกลางคนเหล่านั้น คุณคิดถึงเพื่อน และคนที่คุณรัก คนที่นั่งอยู่รอบๆ โต๊ะ
09:19
And you think of your enemies, and you think of the neutral ones.
165
559000
3000
และคิดถึงศัตรู แล้วก็คิดถึงคนที่คุณรู้สึกเฉยๆ
09:22
And then you try to say, "Well, the loved ones I love.
166
562000
4000
แล้วคุณก็อาจจะพยายามพูดว่า "ฉันรัก คนที่ฉันรัก
09:26
But, you know, after all, they're nice to me.
167
566000
2000
แต่คุณก็รู้นี่ เพราะเขาดีกับฉัน
09:28
I had fights with them. Sometimes they were unfriendly.
168
568000
2000
บางทีก็มีทะเลาะกัน บางคราวก็ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
09:30
I got mad. Brothers can fight. Parents and children can fight.
169
570000
3000
บางทีฉันก็คลั่ง พี่น้องกันก็ยังทะเลาะกัน พ่อแม่ก็ยังทะเลาะกับลูก
09:33
So, in a way, I like them so much because they're nice to me.
170
573000
4000
ดังนั้น ในทางนึง ฉันรักพวกเขามาก เพราะพวกเขาดีต่อฉัน
09:37
While the neutral ones I don't know. They could all be just fine.
171
577000
4000
ส่วนคนที่คุณรู้สึกเฉยๆ คนที่คุณไม่รู้จัก เขาก็อยู่สบายๆ
09:41
And then the enemies I don't like because they're mean to me.
172
581000
4000
และสำหรับศัตรู ฉันไม่ชอบ เพราะเขาร้ายกับฉัน
09:45
But they are nice to somebody. I could be them."
173
585000
3000
แต่บางทีเขาก็ดีกับคนอื่น บางทีฉันก็อาจจะทำอย่างเขา"
09:48
And then the Buddhists, of course, think that, because we've all had infinite previous lives,
174
588000
4000
ซึ่งในทางพุทธ ก็เชื่อกันว่า เราทั้งหลาย มีชาติภพที่ไม่รู้จบ
09:52
we've all been each other's relatives, actually.
175
592000
4000
ชาวพุทธเชื่อว่า ที่จริงแล้ว เราทั้งหลายต่างก็เคยมีสัมพันธ์กันมาก่อน
09:56
Therefore all of you, in the Buddhist view,
176
596000
2000
และในสายตาชาวพุทธ ทุกๆ คน และทุกๆ ท่านในที่นี้
09:58
in some previous life, although you don't remember it and neither do I,
177
598000
4000
ในชาติก่อนๆ ถึงคุณจะจำไม่ได้ และผมเองก็จำไม่ได้
10:02
have been my mother -- for which I do apologize for the trouble I caused you.
178
602000
5000
คุณอาจจะเคยเป็นแม่ของผม ซึ่งผมก็ต้องขอโทษ ที่ผมเคยก่อเรื่องไว้
10:07
And also, actually, I've been your mother.
179
607000
3000
และก็เช่นกัน ผมอาจจะเคยเป็นแม่ของคุณ
10:10
I've been female, and I've been every single one of yours' mother in a previous life,
180
610000
3000
ผมเคยเป็นผู้หญิง และผมเคยเป็นแม่ของคุณแต่ละคน ในชาติก่อนๆ ของผม
10:13
the way the Buddhists reflect.
181
613000
2000
นั่นเป็นการแสดงออกในแนวพุทธ
10:15
So, my mother in this life is really great. But all of you in a way
182
615000
3000
ดังนั้น แม่ของผมในชาตินี้ เป็นแม่ที่วิเศษ แต่ในทางนึง คุณทุกๆ คน
10:18
are part of the eternal mother.
183
618000
3000
ก็เป็นส่วนหนึ่งของมารดาแห่งนิรันดร์
10:21
You gave me that expression; "the eternal mama," you said. That's wonderful.
184
621000
4000
คุณๆ ให้ความรู้สึกนั้นกับผม แม่อันเป็นนิรันดร์ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องมหัศจรรย์
10:25
So, that's the way the Buddhists do it.
185
625000
2000
ครับ ในทางพุทธ ก็จะทำอย่างนั้น
10:27
A theist Christian can think that all beings, even my enemies, are God's children.
186
627000
5000
ชาวคริสต์ ผู้เชื่อในพระเจ้า ก็อาจจะคิดว่าสรรพชีวิต รวมไปถึงศัตรูของเรา คือบุตรของพระเจ้า
10:32
So, in that sense, we're related.
187
632000
2000
ซึ่งเช่นนั้นแล้ว เราทุกคนก็เป็นญาติกัน
10:34
So, they first create this foundation of equality.
188
634000
3000
และทำให้เกิดพื้นฐานแห่งความเสมอภาค
10:37
So, we sort of reduce a little of the clinging to the ones we love --
189
637000
4000
ก็จะทำให้เราลดความยึดติดในคนที่เรารัก--
10:41
just in the meditation -- and we open our mind to those we don't know.
190
641000
4000
แม้เพียงในการทำสมาธิ--และเราก็เปิดใจให้กับคนที่เราไม่รู้จัก
10:45
And we definitely reduce the hostility and the "I don't want to be compassionate to them"
191
645000
4000
และเราก็จะลดเจตนาร้าย และความคิดที่ว่า "ฉันไม่อยากจะกรุณาคนพวกนั้น"
10:49
to the ones we think of as the bad guys, the ones we hate and we don't like.
192
649000
5000
ไปจนถึงคนที่เราคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดี คนที่เราเกลียด และคนที่เราไม่ชอบ
10:54
And we don't hate anyone, therefore. So we equalize. That's very important.
193
654000
3000
ดังนั้น เราก็จะไม่เกลียดใครอีกต่อไป เราก็เหมือนๆ กัน นั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก
10:57
And then the next thing we do is what is called "mother recognition."
194
657000
4000
และเรื่องต่อไปที่เราจะทำก็คือสิ่งที่เรียกว่า ระลึกถึงแม่
11:01
And that is, we think of every being as familiar, as family.
195
661000
5000
ซึ่งมันก็คือ, การที่เราคิดถึงสรรพชีวิตว่าเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน
11:06
We expand. We take the feeling about remembering a mama,
196
666000
5000
เราขยายมันออกไป เราจับเอาความรู้สึกเหมือนตอนที่คิดถึงแม่
11:11
and we defuse that to all beings in this meditation.
197
671000
4000
แล้วเราก็ปลดปล่อยมันออกไปสู่สรรพชีวิต ในการทำสมาธินี้
11:15
And we see the mother in every being.
198
675000
2000
และให้เราเห็นแม่ ในทุกๆ ชีวิต
11:17
We see that look that the mother has on her face,
199
677000
3000
เราเห็นสายตาของแม่ที่ปรากฎบนใบหน้า
11:20
looking at this child that is a miracle
200
680000
2000
สายตาที่มองมายังเด็กน้อย ที่เป็นดั่งสิ่งมหัศจรรย์
11:22
that she has produced from her own body, being a mammal,
201
682000
3000
ที่เธอได้ให้กำเนิดจากร่างกายของเธอเอง, จากความเป็นแม่,
11:25
where she has true compassion, truly is the other, and identifies completely.
202
685000
4000
ผู้ซึ่งมีแต่ความกรุณาอย่างแท้จริง, ต่อชีวิตอีกชีวิตหนึ่ง อย่างชัดเจน และพิสูจน์ได้
11:29
Often the life of that other will be more important to her than her own life.
203
689000
4000
บ่อยครั้ง ที่อีกชีวิตนั้นจะกลายเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าชีวิตของเธอเอง
11:33
And that's why it's the most powerful form of altruism.
204
693000
3000
และนั่นก็เป็นสาเหตให้มันกลายเป็นรูปแบบที่ทรงพลังที่สุด ของความไม่เห็นแก่ตัว
11:36
The mother is the model of all altruism for human beings,
205
696000
4000
แม่ เป็นต้นแบบของความไม่เห็นแก่ตัวทั้งมวลของมนุษย์
11:40
in spiritual traditions.
206
700000
3000
ในวิถีแห่งจิตวิญญาณ
11:43
And so, we reflect until we can sort of see that motherly expression in all beings.
207
703000
6000
ดังนั้น เราจึงสะท้อนออกมาจนกระทั่งเห็นการแสดงออกแบบแม่ ในสรรพชีวิตทั้งมวล
11:49
People laugh at me because, you know, I used to say that
208
709000
3000
ผู้คนหัวเราเยาะผมนะคุณรู้มั้ย เพราะผมเคยพูดว่า
11:52
I used to meditate on mama Cheney as my mom,
209
712000
4000
ผมเคยทำสมาธิให้คุณแม่เชนีย์ ประหนึ่งเป็นแม่ของผม
11:56
when, of course, I was annoyed with him about all of his evil doings in Iraq.
210
716000
5000
เมื่อตอน, แน่ล่ะ, ตอนที่ผมหงุดหงิดเขา เรื่องที่เขาไปทำชั่วร้ายไว้ที่อิรัก
12:01
I used to meditate on George Bush. He's quite a cute mom in a female form.
211
721000
3000
ผมเคยทำสมาธิให้ จอร์จ บุชนะ เขาก็เป็นแม่ที่น่ารักดีในแบบหญิงๆ นะ
12:04
He has his little ears and he smiles and he rocks you in his arms.
212
724000
3000
มีหูเล็กๆ แล้วก็ยิ้ม แล้วก็โยกคุณไปมาในอ้อมกอด
12:07
And you think of him as nursing you.
213
727000
3000
คุณก็จะคิดว่าเขากำลังดูแลคุณอยู่
12:10
And then Saddam Hussein's serious mustache is a problem,
214
730000
3000
แล้วก็มาถึง หนวดเจ้าปัญหาของซัดดัม ฮุสเซน
12:13
but you think of him as a mom.
215
733000
3000
แต่ถ้าคุณคิดถึงเขาอย่างกับเป็นแม่
12:16
And this is the way you do it. You take any being who looks weird to you,
216
736000
2000
และนี่ก็เป็นวิธีที่คุณจะทำล่ะ คุณก็เลือกใครก็ได้ที่ดูแปลกในสายตาคุณ
12:18
and you see how they could be familiar to you.
217
738000
4000
แล้วคุณก็เห็นว่าเขาจะสนิทกับคุณได้อย่างไร
12:22
And you do that for a while, until you really feel that.
218
742000
4000
คุณอาจจะทำอย่างนั้นไปซักพัก จนคุณเริ่มจะรู้สึกถึงมันจริงๆ
12:26
You can feel the familiarity of all beings.
219
746000
2000
รู้สึกคุ้นเคยกับสิ่งมีชีวิตทั้งมวล
12:28
Nobody seems alien. They're not "other."
220
748000
2000
ไม่มีใครเป็นมนุษย์ต่างดาว พวกเขาไม่ใช่ "คนอื่น"
12:30
You reduce the feeling of otherness about beings.
221
750000
3000
คุณได้ลดความรู้สึกถึงความเป็นอย่างอื่นต่อสิ่งมีชีวิตทั้งมวล
12:33
Then you move from there to remembering the kindness of mothers in general,
222
753000
5000
แล้วคุณก็เคลื่อนจากจุดนั้น ไปย้อนระลึกถึงความมีเมตตาของแม่
12:38
if you can remember the kindness of your own mother,
223
758000
2000
ถ้าคุณรู้สึกได้ถึงความมีเมตตาของแม่ของคุณเอง,
12:40
if you can remember the kindness of your spouse,
224
760000
2000
ถ้าคุณรู้สึกได้ถึงความมีเมตตาของคู่ของคุณ
12:42
or, if you are a mother yourself, how you were with your children.
225
762000
3000
หรือ, หากคุณเองเป็นแม่, ก็คิดถึงตอนที่คุณอยู่กับลูก
12:45
And you begin to get very sentimental; you cultivate sentimentality intensely.
226
765000
5000
แล้วเมื่อคุณเริ่มรู้สึกได้มากขึ้น คุณก็พัฒนาความรู้สึกแบบนั้นอย่างแข็งขัน
12:50
You will even weep, perhaps, with gratitude and kindness.
227
770000
3000
บางที คุณอาจจะถึงกับร้องให้เพราะความซาบซึ้ง และความมีเมตตา
12:53
And then you connect that with your feeling that everyone has that motherly possibility.
228
773000
4000
แล้วคุณก็เชื่อมโยงสิ่งนั้น เข้ากับความรู้สึกที่ว่าทุกๆ คนก็มีโอกาสที่จะเป็นแม่ได้เช่นเดียวกัน
12:57
Every being, even the most mean looking ones, can be motherly.
229
777000
5000
ทุกชีวิต, แม้แต่พวกที่ดูโหดร้าย, ต่างก็เป็นแม่ได้
13:02
And then, third, you step from there to what is called "a feeling of gratitude."
230
782000
4000
และขั้นที่ 3 คุณก็ก้าวจากสิ่งนั้น ออกไปยังสิ่งที่เรียกว่าความกตัญญู
13:06
You want to repay that kindness that all beings have shown to you.
231
786000
4000
ที่ทำให้คุณอยากจะตอบแทนความเมตตาที่สรรพชีวิตได้มอบให้
13:10
And then the fourth step, you go to what is called "lovely love."
232
790000
4000
และในขั้นที่ 4 คุณก็จะก้าวไปสู่สิ่งที่เรียกว่า ความรักที่น่าเอ็นดู
13:14
In each one of these you can take some weeks, or months, or days
233
794000
2000
ในแต่ละขั้นนี้ คุณอาจจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์ๆ หรือเป็นเดือนๆ หรืออาจเป็นวันๆ
13:16
depending on how you do it, or you can do them in a run, this meditation.
234
796000
4000
ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำอย่างไร หรือคุณอาจจะทำได้ในคราวเดียว อย่างในการทำสมาธินี้
13:20
And then you think of how lovely beings are when they are happy,
235
800000
5000
และก็ให้คุณคิดว่า ชีวิตที่น่ารักเหล่านี้ เป็นอย่างไรในยามที่เขามีความสุข
13:25
when they are satisfied.
236
805000
2000
ยามที่เขาสมหวัง
13:27
And every being looks beautiful when they are internally feeling a happiness.
237
807000
4000
และสรรพชีวิตต่างก็ดูสวยงาม ในยามที่เขารู้สึกได้ถึงความสุขภายในใจ
13:31
Their face doesn't look like this. When they're angry, they look ugly, every being,
238
811000
4000
ใบหน้าของเขาไม่ได้เป็นแบบนี้ เวลาที่เขาโกรธ, เขาก็ดูน่าเกลียด, ก็ทุกชีวิตล่ะ
13:35
but when they're happy they look beautiful.
239
815000
2000
แต่เวลาที่เขามีความสุข เขาก็ดูสวยงาม
13:37
And so you see beings in their potential happiness.
240
817000
3000
คุณก็ได้เห็นชีวิตทั้งหลาย ในภาวะที่มีความสุข
13:40
And you feel a love toward them and you want them to be happy, even the enemy.
241
820000
3000
และคุณก็รู้สึกได้ถึงความรักรอบๆ ตัวเขา จากการที่คุณอยากให้เขามีความสุข, แม้กระทั่งคนที่เป็นศัตรู
13:43
We think Jesus is being unrealistic
242
823000
2000
อันที่จริง มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมาก--
13:45
when he says, "Love thine enemy."
243
825000
4000
เราอาจจะคิดว่า พระเยซูไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่กล่าวว่าให้รักศัตรูของท่าน
13:49
He does say that, and we think he's being unrealistic
244
829000
3000
ท่านพูดอย่างนั้นจริงๆ และเราก็คิดว่าท่านช่างเพ้อฝัน
13:52
and sort of spiritual and highfalutin. "Nice for him to say it, but I can't do that."
245
832000
3000
และก็คงเป็นแค่เรื่องของจิตวิญญาณ และความยโส จนคิดว่า "ก็พูดดีไปเถอะ แต่ฉันทำไม่ได้"
13:55
But, actually, that's practical.
246
835000
2000
แต่ที่จริงแล้ว มันเป็นเรื่องที่ป็นไปได้
13:57
If you love your enemy that means you want your enemy to be happy.
247
837000
3000
ถ้าคุณรักศัตรูของคุณ นั่นก็หมายความว่าคุณอยากให้ศัตรูของคุณมีความสุข
14:00
If your enemy was really happy, why would they bother to be your enemy?
248
840000
4000
ถ้าศัตรูของคุณมีความสุขจริงๆ, เขาจะมาคอยวุ่นวายเป็นศัตรูของคุณทำไม?
14:04
How boring to run around chasing you.
249
844000
2000
มันคงจะน่าเบื่อมากที่ต้องคอยวิ่งไล่ตามคุณ
14:06
They would be relaxing somewhere having a good time.
250
846000
3000
เขาก็คงจะมีความสุขอยู่ที่ไหนซักแห่ง
14:09
So it makes sense to want your enemy to be happy,
251
849000
2000
มันจึงเป็นเรื่องมีเหตุมีผลที่จะอยากให้ศัตรูของคุณมีความสุข
14:11
because they'll stop being your enemy because that's too much trouble.
252
851000
3000
เพราะเขาก็จะเลิกเป็นศัตรูกับคุณ เพราะมันยุ่งยากเกินไป
14:14
But anyway, that's the "lovely love. "
253
854000
2000
แต่อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นความรักแบบน่ารักๆ
14:16
And then finally, the fifth step is compassion, "universal compassion."
254
856000
4000
และในที่สุด ก็มาถึงขั้นที่ 5 ซึ่งก็คือความกรุณา, ความกรุณาต่อสรรพสิ่ง
14:20
And that is where you then look at the reality of all the beings you can think of.
255
860000
6000
และเมื่อถึงตรงนั้น คุณก็จะมองเห็นความจริงของสรรพชีวิตที่คุณคิดได้
14:26
And you look at them, and you see how they are.
256
866000
2000
และเมื่อคุณมองเขาเหล่านั้น คุณได้เห็นว่าเขาเป็นอย่างไร
14:28
And you realize how unhappy they are actually, mostly, most of the time.
257
868000
4000
และได้สัมผัสว่าแท้ที่จริงแล้ว เขาเหล่านั้นต่างก็ไม่มีความสุขเป็นส่วนใหญ่
14:32
You see that furrowed brow in people.
258
872000
2000
คุณมองเห็นร่องรอยคิ้วขมวดบนใบหน้าผู้คน
14:34
And then you realize they don't even have compassion on themselves.
259
874000
3000
และคุณก็ระลึกได้ว่า พวกเขาไม่มีแม้แต่ความกรุณาต่อตัวเอง
14:37
They're driven by this duty and this obligation.
260
877000
2000
เขาต่างก็ต้องทำไปตามหน้าที่ และความรับผิดชอบ
14:39
"I have to get that. I need more. I'm not worthy. And I should do something."
261
879000
4000
"ฉันต้องทำให้ได้ ฉันอยากได้อีก ฉันยังไม่รวย และฉันต้องทำอะไรซักอย่าง"
14:43
And they're rushing around all stressed out.
262
883000
2000
แล้วเขาก็เร่งรีบ และทำไปอย่างเคร่งเครียด
14:45
And they think of it as somehow macho, hard discipline on themselves.
263
885000
4000
และก็ยังคิดว่าสิ่งที่ทำนั่นมันช่างเท่ และทำอย่างเคร่งครัดกับตัวเอง
14:49
But actually they are cruel to themselves.
264
889000
3000
แท้ที่จริงแล้ว เขากำลังทำเรื่องโหดร้ายกับตัวเอง
14:52
And, of course, they are cruel and ruthless toward others.
265
892000
2000
และก็แน่นอน เขาก็โหดร้าย และหยาบคายต่อคนรอบข้างด้วย
14:54
And they, then, never get any positive feedback.
266
894000
2000
ดังนั้น เขาจึงไม่เคยได้รับการต้อนรับเลย
14:56
And the more they succeed and the more power they have,
267
896000
2000
ยิ่งเขาประสบความสำเร็จ ยิ่งเขามีอำนาจมากขึ้น
14:58
the more unhappy they are.
268
898000
2000
เขาก็ยิ่งไม่มีความสุข
15:00
And this is where you feel real compassion for them.
269
900000
3000
เพราะอย่างนี้เอง คุณถึงต้องมีกรุณาให้เขาอย่างแท้จริง
15:03
And you then feel you must act.
270
903000
3000
และคุณก็จะคิดว่าคุณต้องทำอะไรซักอย่าง
15:06
And the choice of the action, of course,
271
906000
2000
และนั่นก็คือแรงกระตุ้น--
15:08
hopefully will be more practical
272
908000
4000
และทางเลือกที่จะทำ ซึ่งก็แน่นอนล่ะ ก็หวังว่ามันจะเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ
15:12
than poor Asanga, who was fixing the maggots on the dog
273
912000
4000
มากกว่าท่านอสังคะที่น่าสงสาร ที่ต้องจับหนอนให้สุนัข
15:16
because he had that motivation, and whoever was in front of him,
274
916000
3000
เพราะท่านมีแรงกระตุ้นอันนั้น และใครก็ตามที่อยู่ต่อหน้าของท่าน
15:19
he wanted to help.
275
919000
2000
ท่านก็อยากจะช่วยเหลือ
15:21
But, of course, that is impractical. He should have founded the ASPCA in the town
276
921000
4000
แต่แน่ล่ะ ทำอย่างนั้น มันทำได้ยาก ท่านควรจะตั้งหน่วยงานควบคุมโรคในเมืองนั้น
15:25
and gotten some scientific help for dogs and maggots.
277
925000
3000
และหาคนมาช่วยทั้งสุนัข แล้วก็หนอนนั่น ให้ถูกหลักวิทยาศาสตร์
15:28
And I'm sure he did that later. (Laughter) But that just indicates the state of mind, you know.
278
928000
6000
ซึ่งผมก็แน่ใจว่าท่านคงจะทำอย่างนั้นในภายหลัง แต่คุณก็คงรู้ ว่านั่นเป็นเพียงเรื่องที่แสดงสภาวะของจิตใจ
15:34
And so the next step -- the sixth step beyond "universal compassion" --
279
934000
4000
ดังนั้น ขั้นตอนต่อไป-- ขั้นที่ 6 ที่เหนือกว่าความกรุณาต่อสรรพสิ่ง--
15:38
is this thing where you're linked with the needs of others in a true way,
280
938000
4000
ซึ่งก็คือความเชื่อมโยงของตัวคุณ กับความต้องการผู้อื่นอย่างแท้จริง
15:42
and you have compassion for yourself also,
281
942000
3000
และคุณก็มีความกรุณาต่อตัวเองด้วย
15:45
and it isn't sentimental only. You might be in fear of something.
282
945000
3000
แต่คุณก็ไม่--มันไม่ใช่แค่เพียงความรู้สึก คุณอาจจะกำลังกลัวอะไรบางอย่าง
15:48
Some bad guy is making himself more and more unhappy
283
948000
3000
คนที่ชั่วร้ายบางคนอาจจะกำลังทำให้ตัวเองไม่มีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ
15:51
being more and more mean to other people
284
951000
2000
ทำตัวเองให้โหดร้ายกับคนอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ
15:53
and getting punished in the future for it in various ways.
285
953000
3000
และก็ถูกลงโทษในเวลาต่อมา ในหลายๆ แบบ
15:56
And in Buddhism, they catch it in the future life.
286
956000
3000
ในทางพุทธศาสนา เขาก็จะได้รับผลนั้นในชีวิตหน้า
15:59
Of course in theistic religion they're punished by God or whatever.
287
959000
3000
แน่ละ ในศาสนาที่นับถือพระเจ้า เขาก็จะถูกพระเจ้าลงโทษ
16:02
And materialism, they think they get out of it just by not existing,
288
962000
2000
และในทางวัตถุนิยม เขาก็จะคิดว่าเขาจะพ้นไปจากเรื่องพวกนี้ก็แค่เขาหายไป
16:04
by dying, but they don't.
289
964000
3000
ตอนที่เขาตาย แต่เขาก็ยังไม่ตาย
16:07
And so they get reborn as whatever, you know.
290
967000
3000
แล้วเขาก็มาเกิดใหม่ เป็นอะไรก็ตามแต่นะ
16:10
Never mind. I won't get into that.
291
970000
2000
ก็ไม่เป็นไรนะ ผมจะไม่ก้าวก่ายล่ะ
16:12
But the next step is called "universal responsibility."
292
972000
3000
แต่ขั้นต่อไปก็คือ ความรับผิดชอบต่อสรรพสิ่ง
16:15
And that is very important -- the Charter of Compassion
293
975000
3000
ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญมาก--บัญญัติแห่งความกรุณา
16:18
must lead us to develop through true compassion,
294
978000
3000
จะต้องนำเราไปสู่การพัฒนา ผ่านความกรุณาที่แท้
16:21
what is called "universal responsibility."
295
981000
2000
ซึ่งเรียกว่าความรับผิดชอบต่อสรรพสิ่ง
16:23
In the great teaching of his Holiness the Dalai Lama
296
983000
4000
และนั่นก็หมายความว่า คำสอนที่ยิ่งใหญ่ของท่านดาไล ลามะ
16:27
that he always teaches everywhere, he says
297
987000
2000
ที่ท่านได้พร่ำสอนไปทุกหนทุกแห่ง ที่ท่านได้กล่าวว่า
16:29
that that is the common religion of humanity: kindness.
298
989000
3000
เมตตา เป็นความเชื่อที่ทุกศาสนามีเหมือนๆ กัน
16:32
But "kindness" means "universal responsibility."
299
992000
2000
แต่ความเมตตา ก็คือความรู้สึกรับผิดชอบต่อสรรพสิ่ง
16:34
And that means whatever happens to other beings is happening to us:
300
994000
4000
และนั่นก็หมายถึงว่า สิ่งใดๆ ก็ตามที่เกิดกับชีวิตอื่น ก็เหมือนเกิดขึ้นกับตัวเราเอง
16:38
we are responsible for that, and we should take it
301
998000
4000
ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ และเราก็ควรจะรับเอาไว้
16:42
and do whatever we can at whatever little level
302
1002000
2000
แล้วก็ทำอะไรก็ได้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องเพียงน้อยนิด
16:44
and small level that we can do it.
303
1004000
2000
หรือเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ ที่เราทำได้
16:46
We absolutely must do that. There is no way not to do it.
304
1006000
4000
เราก็ต้องลงมือทำ ไม่มีเหตุผลใดเลยที่เราจะไม่ต้องทำ
16:50
And then, finally, that leads to a new orientation in life
305
1010000
4000
และเมื่อนั้น ในที่สุดแล้ว ก็จะนำเราไปสู่การกำหนดทิศทางใหม่ให้กับชีวิต
16:54
where we live equally for ourselves and for others
306
1014000
4000
ที่เราจะอยู่อย่างเสมอภาคกับผู้อื่น
16:58
and we are
307
1018000
4000
และเราก็จะตระหนักถึงความสุขในตัวเอง --
17:02
joyful and happy.
308
1022000
2000
เราจะเบิกบาน และเป็นสุข
17:04
One thing we mustn't think is that compassion makes you miserable.
309
1024000
3000
สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรคิดก็คือ ความกรุณาจะทำให้เราเป็นทุกข์
17:07
Compassion makes you happy.
310
1027000
2000
ความกรุณา มีแต่ทำให้เราเป็นสุข
17:09
The first person who is happy when you get great compassion is yourself,
311
1029000
4000
คนแรกที่จะมีความสุข เมื่อคุณมีความกรุณาที่เต็มเปี่ยม ก็คือตัวคุณเอง
17:13
even if you haven't done anything yet for anybody else.
312
1033000
2000
แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้ทำอะไรให้ใครๆ เลย
17:15
Although, the change in your mind already does something for other beings:
313
1035000
5000
แม้กระนั้น ความเปลี่ยนแปลงในจิตใจของคุณ ก็เริ่มมีผลบางอย่างต่อชีวิตอื่น
17:20
they can sense this new quality in yourself,
314
1040000
3000
พวกเขารับรู้ได้ถึงสิ่งใหม่ในตัวคุณ
17:23
and it helps them already, and gives them an example.
315
1043000
2000
แค่นี้ก็ช่วยเขาแล้ว และก็ได้เป็นตัวอย่างให้เขา
17:25
And that uncompassionate clock has just showed me that it's all over.
316
1045000
4000
และนาฬิกาของความไร้กรุณา ก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้นได้จบสิ้นลงแล้ว
17:29
So, practice compassion, read the charter, disseminate it
317
1049000
5000
เช่นนั้นแล้ว ก็จงปฏิบัติกรุณา, อ่านบทบัญญัติ, ส่งต่อกันออกไป
17:34
and develop it within yourself.
318
1054000
2000
และบ่มฟักมันขึ้นในตัวเรา
17:36
Don't just think, "Well, I'm compassionate," or "I'm not compassionate,"
319
1056000
3000
อย่าเพียงแต่คิดว่า อ้อ ใช่แล้ว ฉันมีความกรุณา หรือฉันไร้ซึ่งความกรุณา
17:39
and sort of think you're stuck there.
320
1059000
2000
หรือความคิดประเภทที่คุณจะติดพันอยู่อย่างนั้น
17:41
You can develop this. You can diminish the non-compassion,
321
1061000
3000
คุณสร้างสิ่งนี้ขึ้นได้ และคุณก็ขจัดความไร้กรุณา,
17:44
the cruelty, the callousness, the neglect of others,
322
1064000
4000
ความโหดร้าย, ความไม่มีหัวจิตหัวใจ, และการเพิกเฉยละเลยต่อคนอื่นๆ
17:48
and take universal responsibility for them.
323
1068000
2000
รับเอาซึ่งความรับผิดชอบในเขาเหล่านั้น
17:50
And then, not only will God smile and the eternal mama will smile,
324
1070000
5000
เมื่อนั้น ไม่เพียงแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะยิ้มให้ และก็ไม่เพียงแต่มารดาแห่งนิรันดร์ที่ยิ้มให้
17:55
but Karen Armstrong will smile.
325
1075000
2000
แต่จะมีคาเรน อาร์มสตรอง ที่ก็จะยิ้มให้กับคุณด้วย
17:57
Thank you very much. (Applause)
326
1077000
2000
ขอบคุณมากครับ
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7