Home Is a Song I've Always Remembered | Teitur | TED Talks

Translator: Mahachai Sattayathamrongthian Reviewer: Thipnapa Huansuriya

(กีต้าร์บรรเลง)

(Guitar music)

I was just thinking

ผมกำลังคิดอยู่

that I have been missing you way too long

ว่าผมคิดถึงคุณมานานเกินไปแล้ว

There's something inside this weary head

มีอะไรบางอย่างข้างในความคิดอันเหนื่อยล้า

that wants us to love just instead

บอกว่าอยากให้เรารักกัน แทนที่จะเป็นแบบนี้

But I was just thinking,

แต่ผมก็แค่กำลังคิด

merely thinking

แค่คิดเท่านั้น

I've got loads of pictures,

ผมมีรูปเก็บไว้มากมาย

I've got the one of you in that dancing dress

มีรูปคุณหนึ่งใบในชุดเต้นรำนั้น

But man I feel silly in that dim light

แต่ผมรู้สึกเหมือนคนโง่ในแสงสลัวนั้น

Just after doing you by the sight of my Kodak delights,

หลังจากถ่ายรูปคุณด้วยกล้องโกดักของผม

I am sinking,

ผมกำลังทรุดลง

merely sinking

ค่อยๆ ทรุดลง

I think about long distance rates instead of kissing you babe

ผมคิดถึงค่าโทรทางไกล แทนที่จะได้จูบคุณที่รัก

I'm a singer without a song

ผมเป็นนักร้องที่ปราศจากเพลง

If I wait for you longer

ถ้าผมรอคุณนานกว่านี้

my affection is stronger

ความรักของผมคงยิ่งรุนแรงกว่านี้

and I ... I was just thinking,

และ ผม... ผม ก็แค่กำลังคิด

merely thinking

ได้แค่เพียงคิด

that this boat is sinking

ว่า เรือลำนี้กำลังจะจม

I'm tired of postcards,

ผมเหนื่อยกับโปสการ์ด

especially the ones with cute dogs and cupids

โดยเฉพาะที่มีหมาน่ารักกับกามเทพ

I'm tired of calling you and missing you

ผมเหนื่อยกับการโทรไปหาคุณและคิดถึงคุณ

and dreaming I slept with you

และฝันว่าผมนอนอยู่ข้างคุณ

Don't get me wrong I still desperately love you

อย่าเข้าใจผมผิด ผมยังคงรักคุณไม่เสื่อมคลาย

inside this weary head

ภายในสมองที่เหนื่อยล้า

I just want us to love just instead

ผมแค่อยากให้เรารักกัน แทนที่จะเป็นแบบนี้

But I was just thinking and thinking,

แต่ผมก็ได้แค่คิด และคิด

merely thinking

ได้เพียงแค่คิด

I think about long distance rates instead of kissing you babe

ผมคิดถึงค่าโทรทางไกล แทนที่จะได้จูบคุณที่รัก

and time is running me still

และเวลาก็ยังคงเดินต่อไป

If I wait for you longer

ถ้าผมรอคุณนานกว่านี้

my affection is stronger

ความรักของผมคงเข้มข้นขึ้นกว่านี้

I ... I was just thinking

ผม...ผมแค่กำลังคิด

I ... I was just thinking

ผม...ผมแค่กำลังคิด

that I'm tired of calling you once a week

ว่าผมเหนื่อยกับการโทรหาคุณอาทิตย์ละครั้ง

thinking of long distance rates instead of kissing you

ผมคิดถึงค่าโทรทางไกล แทนที่จะได้จูบคุณที่รัก

So baby I'm sinking,

ดังนั้นที่รัก ผมกำลังทรุดลง

merely sinking

ค่อยๆ ทรุดลง

(Guitar music ends)

(เสียงบรรเลงกีต้าร์จบ)

(Applause)

(ปรบมือ)

Thank you.

ขอบคุณครับ

Singing is sharing.

การร้องเพลงคือการแบ่งปัน

When you sing, you have to know what you're talking about intimately,

เมื่อคุณร้องเพลง คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังพูด ถึงอะไรอย่างละเอียด

and you have to be willing to share this insight

และคุณต้องปรารถนาที่จะแบ่งปันมัน อย่างลึกซึ้ง

and give away a piece of yourself.

และเปิดเผยส่วนที่เป็นตัวของคุณเอง

I look for this intention to share in everything,

ผมมองหาเจตนาที่จะแบ่งปันนี้ในทุกๆ เรื่อง

and I ask: what are the intentions behind this architecture or this product

ผมตั้งคำถามว่า อะไรคือเจตนาที่อยู่ เบื้องหลังสถาปัตยกรรม หรือ ผลิตภัณฑ์

or this restaurant or this meal?

หรือ ร้านอาหาร หรือ อาหาร?

And if your intentions are to impress people

และถ้าเจตนาของคุณ คือทำให้คนอื่นประทับใจ

or to get the big applause at the end,

หรือ เพื่อที่จะได้รับเสียงปรบมือ เกรียวกราวในตอนจบ

then you are taking, not giving.

นั่นแปลว่าคุณกำลังรับ ไม่ใช่กำลังให้

And this is a song that's about --

และ นี่คือเพลงนึง

it's the kind of song that everyone has their version of.

มันเป็นเพลงที่ทุกคน ต่างมีรูปแบบเป็นของตัวเอง

This song is called "Home,"

เพลงนี้ เรียกว่า "บ้าน"

and it's sort of a "This is where I'm from, nice to meet you all,"

มันเป็นเพลงที่ให้ความรู้สึก แบบ "นี่คือที่มาของผม ยินดีที่ได้รู้จัก

kind of song.

ทุกคนครับ"

(Laughter)

(หัวเราะ)

(Applause)

(ปรบมือ)

(Piano music)

(เสียงบรรเลงเปียโน)

Home is the sound of birds early in the morning

บ้าน คือ เสียงนกร้องในตอนเช้าตรู่

Home is a song I've always remembered

บ้าน คือ เพลงที่ผมจำมันได้เสมอ

Home is the memory of my first day in school

บ้าน คือ ความทรงจำวันแรกที่ผมไปโรงเรียน

Home is the books that I carry around

บ้าน คือ หนังสือที่ผมถือไปทุกๆ ที่

Home is an alley in a faraway town

บ้าน คือ ตรอกแคบๆในเมืองที่ห่างไกล

Home is the places I’ve been and where I’d like to go

บ้าน คือ สถานที่ที่ผมเคยอยู่ และเป็นที่ที่ผมต้องการจะไป

Home

บ้าน

I'm always gonna feel at home

ผมต้องการจะรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเสมอ

No matter where I may roam

ไม่ว่าผมเดินทางไปที่ไหน

I'm always gonna find my way back home

ผมจะหาทางกลับบ้านอยู่เสมอ

No matter how far I’m gone

ไม่ว่าผมจะไปมาไกลแค่ไหน

I’m always gonna feel this longing

ผมจะรู้สึกถึงความปรารถนานี้เสมอ

No matter where I might stay

ไม่ว่าผมอาจจะพักอยู่ที่ไหน

Home is a feather twirling in the air

บ้านคือขนนกที่ลอยหมุนอยู่ในอากาศ

Home is flowers in a windowsill

บ้านคือดอกไม้ริมขอบหน้าต่าง

Home is all the things she said to me

บ้านคือ ทุกอย่างที่เธอบอกผม

Home is a photo I never threw away

บ้านคือ รูปถ่ายที่ผมไม่เคยโยนมันทิ้งไป

Home is the smile on my face when I die

บ้านคือ รอยยิ้มบนใบหน้าเมื่อผมตาย

Home is the taste of an apple pie

บ้านคือ รสชาติของพายแอ็ปเปิ้ล

I met a woman, she always lived in the same place

ผมพบกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมักจะอาศัยอยู่ที่เดิมเสมอ

And she said home is where you’re born and raised

และเธอบอกว่า บ้านคือที่ที่คุณเกิดและเติบโต

And I met a man, he sat looking out to the sea

และได้พบกับผู้ชายคนนึง เขานั่งมองออกไปยังทะเล

And he said home is where you want to be

และ เขาบอกว่า บ้าน คือ สถานที่เขาอยากจะอยู่

I met a girl in some downtown bar

ผมพบกับผู้หญิงคนนึงที่บาร์ในเมือง

And she said I'll have whatever he's having

และเธอบอกว่า ฉันจะได้ทุกอย่างที่ผู้ชายคนนั้นมี

And I asked her how come we never met before?

และผมก็ถามเธอว่า เป็นไปได้อย่างไร ที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อน

And she said all my life I’ve been trying

และ เธอก็บอกว่า ทั้งชีวิตของฉันได้พยายาม

to get a place of my own

ที่จะแสวงหาสถานที่ๆ เป็นของตัวเอง

I’m always gonna feel at home

ผมจะรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเสมอ

No matter where I may roam

ไม่ว่าผมจะท่องเที่ยวไปที่ไหน

Always gonna find my way back home

ผมก็จะหาทางกลับบ้านเสมอ

No matter how far I’m gone

ไม่ว่าผมจะไปไกลแค่ไหน

I'm always gonna feel this longing

ผมจะรู้สึกถึงความปรารถนานี้เสมอ

No matter where I might stay

ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน

(Piano music)

(เปียโนบรรเลง)

(Piano music ends)

(เสียงเปียโนบรรเลงจบ)

(Applause)

(ปรบมือ)