New bionics let us run, climb and dance | Hugh Herr | TED

Translator: Penchan Kongpet Reviewer: Varavut Lormongkol

Looking deeply inside nature,

มองให้ลึกเข้าไปในธรรมชาติ

through the magnifying glass of science,

ผ่านแว่นขยายของวิทยาศาสตร์

นักออกแบบ ต้นแบบ แห่งสรรพสิ่ง

designers extract principles, processes and materials

กระบวนการและ เครื่องมือ

that are forming the very basis of design methodology.

ในการสร้างรูปแบบพื้นฐานของ กรรมวิธีการออกแบบ

จากการสร้างโดยการสังเคราะห์ ที่คล้ายกันกับ

From synthetic constructs that resemble biological materials,

เครื่องมือทางชีววิทยา

to computational methods that emulate neural processes,

เพื่อที่จะคำนวนกระบวนการสร้างประสาทเลียนแบบ

nature is driving design.

ธรรมชาติ สร้างสรรค์การออกแบบนี้

Design is also driving nature.

และการออกแบบก็สร้างสรรค์ธรรมชาติด้วยเช่นกัน

In realms of genetics, regenerative medicine and synthetic biology,

ในขอบข่ายของพันธุศาสตร์ของ การแพทย์แผนใหม่

และชีววิทยาสังเคราะ

designers are growing novel technologies,

นักออกแบบ กำลังเติบโตในยุคของเทคโนโลยี

not foreseen or anticipated by nature.

ไม่ว่าจะเคยเห็นมาก่อน หรือไม่เคยก็ตาม ในธรรมชาติ

วิทยาการไบโอนิค ได้ผสมผสาน

Bionics explores the interplay between biology and design.

ระหว่างชีววิทยา และการออกแบบ

As you can see, my legs are bionic.

เหมือนอย่างนี่คุณเห็น ขาของฉันก็เป็นนวัตกรรมไบโอนิค

Today, I will tell human stories of bionic integration;

วันนี้ ฉันจะบอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์

ที่สามารถผสมผสานกับวิทยาการไบโอนิค

how electromechanics attached to the body, and implanted inside the body

ร่างกายเราผสานเข้ากับอิเล็คโทรแมคคานิกส์ได้อย่างไร

และ การนำเข้าสู่ร่างกายมนุษย์

กำลังเริ่มต้นเป็นสะพานเชื่อมช่องว่างนั้น

are beginning to bridge the gap between disability and ability,

ระหว่าง ความพิการ และความไม่พิการ

between human limitation and human potential.

ระหว่างข้อจำกัดของมนุษย์

และศักยภาพของมนุษย์

Bionics has defined my physicality.

ไบโอนิค ได้กำหนดลักษณะทางกายภาพของผม

ผมขาด้วนทั้งสองข้างมาตั้งแต่ปี 1982

In 1982, both of my legs were amputated

due to tissue damage from frostbite,

อันเนื่องมาจากความเสียหายของเนื้อเยื่อ

incurred during a mountain-climbing accident.

จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างการปีนเขา

At that time, I didn't view my body as broken.

ในตอนนั้นผม ไม่ได้มองว่าร่างกายของผม

แตกหัก หรือ พัง

I reasoned that a human being can never be "broken."

ผมให้เหตุผลกับตัวเองว่ามนุษย์นั้น

ไม่มีวันแตกหัก หรือพังได้

Technology is broken.

เทคโนโลยี ต่างหากที่พัง

Technology is inadequate.

เทคโนโลยีต่างหากที่ไม่ก้าวหน้าพอ

This simple but powerful idea was a call to arms,

นี่เป็นความคิดธรรมดาๆ ที่ทรงพลังมหาศาล

ในการที่จะลุกขึ้นต่อสู้

เพื่อเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า

to advance technology for the elimination of my own disability,

เพื่อที่จะขจัดความพิการของตัวผมเอง

and ultimately, the disability of others.

และเพื่อความพิการของคนอื่นๆ

I began by developing specialized limbs

ผมเริ่มต้นด้วยการพัฒนา แขนขา พิเศษ

that allowed me to return to the vertical world

ที่ไม่ยอมให้ผมหันหลังกลับ

of rock and ice climbing.

ไปหาโลกแนวตั้งที่มีไว้สำหรับการปีนป่ายภูเขาหินและน้ำแข็ง

I quickly realized that the artificial part of my body is malleable;

ผมตระหนักอย่างรวดเร็วว่า ชิ้นส่วนอวัยวะเทียมของร่างกายผม

มันช่างอ่อนนุ่ม

able to take on any form, any function --

สามารถนำไปทำเป็นรูปแบบใดๆ หรือใช้งานใดๆ ก็ได้

a blank slate for which to create,

จากความว่างเปล่า ไปจนถึงการสร้างสรรค์

perhaps, structures that could extend beyond biological capability.

บางทีอาจเป็นเพร้าะโครงสร้างที่สามารถขยายได้

ในความสามารถของหน่วยชีวภาพ

ผมสามารถปรับเปลี่ยนความสูงของผมได้

I made my height adjustable.

I could be as short as five feet or as tall as I'd like.

ผมอาจเตี้ยลงเหลือเพียงห้าฟุต หรือสูงเท่าไหร่ก็ได้

(Laughter)

(เสียงคนหัวเราะ)

So when I was feeling bad about myself,

ดังนั้น เมื่อผมรู้สึกแย่เกี่ยวกับร่างกายของตัวเอง

เวลาที่ผมรู้สึกไม่ปลอดภัย ผมจะทำให้ตัวเองสูงขึ้น

insecure, I would jack my height up.

(Laughter)

เวลาที่รู้สึกมั่นใจในตัวเอง และปลอดภัย

But when I was feeling confident and suave,

ผมจะลดความสูงลง

I would knock my height down a notch, just to give the competition a chance.

เพียงเพื่อจะได้มีโอกาสแข่งขัน

(Laughter)

(เสียงคนหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)

(Applause)

พูดง่ายๆ ก็คือ มันทำให้ผมได้ปีนเขาอีกครั้ง

Narrow-edged feet allowed me to climb steep rock fissures,

ได้ปีนป่ายร่องหินสูงชัน

where the human foot cannot penetrate,

ไปในที่ๆ เท้าของมนุษย์ไม่สามารถทนได้

and spiked feet enabled me to climb vertical ice walls,

และเหล็กแหลมคมทำให้ผมปีนไปบน

ผนังน้ำแข็งสูงในแนวตั้งได้

without ever experiencing muscle leg fatigue.

โดยที่กล้ามเนื้อขาไม่รู้สึกเมื่อยล้าแต่อย่างใด

Through technological innovation,

จากนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่นี้

I returned to my sport, stronger and better.

ทำให้ผมได้กลับไปเล่นกีฬาโปรดของผมได้ แข็งแรงขึ้น และดีขึ้น

Technology had eliminated my disability,

เทคโนโลยีได้ขจัดความพิการของผม

ทำให้ผม กลับไปปีนเขาได้ใหม่อย่างกล้าหาญ

and allowed me a new climbing prowess.

As a young man, I imagined a future world where technology so advanced

ในฐานะที่ยังเป็นคนรุ่นหนุ่ม ผมฝันว่าในโลกอนาคต

เมื่อเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้น

โลกนี้คงจะไม่มีคนพิการ

could rid the world of disability,

a world in which neural implants would allow

โลกที่เส้นประสาทเทียม จะทำให้

the visually impaired to see.

ผู้ป่วยทางสายตาสามารถมองเห็นได้

โลกที่จะทำให้ผู้ป่วยอัมพาต เดินเหินได้

A world in which the paralyzed could walk, via body exoskeletons.

โดยใช้โครงร่าง ของร่างกาย

Sadly, because of deficiencies in technology,

แต่น่าเศร้าที่ ความบกพร่องของเทคโนโลยี

disability is rampant in the world.

ทำให้มีผู้พิการอยู่ทั่วไปในโลก

สุภาพบุรุษท่านนี้ แขนขาหายไปสาม

This gentleman is missing three limbs.

As a testimony to current technology, he is out of the wheelchair,

แต่ด้วยการทดสอบ ของเทคโนโลยีปัจจุบัน

ทำให้เขาลุกออกจากรถเข็น

but we need to do a better job in bionics, to allow, one day, full rehabilitation

แต่เรายังคงต้องทำงานที่ดีกว่านี้ในเรื่องไบโอนิค

ซึ่งวันหนึ่งมันจะต้องถูกพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ

for a person with this level of injury.

สำหรับคนที่บาดเจ็บในระดับนี้

At the MIT Media Lab, we've established the Center for Extreme Bionics.

ที่ห้องทดลองของ เอ็ม ไอ ที พวกเราสร้าง

ศูนย์ ไบโอนิค เต็มรูปแบบ

The mission of the center is to put forth fundamental science

ภาระกิจของศูนย์นี้

คือการนำเอาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน

และความสามารถของเทคโนโลยี

and technological capability

that will allow the biomechatronic and regenerative repair of humans,

ไบโอแมคคาโทรนิก และ วิทยาการซ่อมแซมร่างกายมนุษย์

across a broad range of brain and body disabilities.

ในวงกว้างมากขึ้น ไปจนถึง

สมอง และร่างกายที่พิการ

Today, I'm going to tell you how my legs function, how they work,

ในวันนี้ผมจะบอกกับพวกคุณว่า ขาของผมทำอะไรได้บ้าง

มันทำงานอย่างไร

as a case in point for this center.

ในกรณีที่กล่าวถึงของศูนย์นี้

Now, I made sure to shave my legs last night,

ถึงตอนนี้ ผมแน่ใจว่าเมื่อคืนได้โกนขนขาเรียบร้อยแล้ว

because I knew I'd be showing them off.

เพราะผมรู้ว่าผมต้องนำมันมาโชว์

(Laughter)

Bionics entails the engineering of extreme interfaces.

There's three extreme interfaces in my bionic limbs:

ไบโอนิค เป็นการสร้าง วิศวกรรม แห่งอวัยวะร่างกายที่ยิ่งใหญ่

มีสิ่งยิ่งใหญ่สามอย่าง ในการสร้างแขนขาเทียมแบบไบโอนิค

mechanical, how my limbs are attached to my biological body;

โดยลักษณะทางเครื่องมือ แขนขาของผมสร้างขึ้นมาได้อย่างไร

ให้มาผสมผสานกับร่างกายที่่เป็นลักษณะทางชีววิทยา

dynamic, how they move like flesh and bone;

โดยทางพลวัต พวกมันเคลื่อนไหว เหมือนเลือดเนื้อและกระดูกจริง ๆ ได้อย่างไรกัน

and electrical, how they communicate with my nervous system.

และโดยทางไฟฟ้า พวกมันสื่อสารได้อย่างไร

กับระบบประสาทของผม

I'll begin with mechanical interface.

ผมจะเริ่มจาก ลักษณะทางเครื่องยนต์

In the area of design, we still do not understand

ในขอบเขตของการออกแบบแล้ว เรายังคงไม่เข้าใจ

ลักษณะการใส่สิ่งของที่เป็นเครื่องจักรเข้าไปในร่างกาย

how to attach devices to the body mechanically.

มันช่างเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติมากสำหรับผมในวันนี้ และ ในยุคนี้

It's extraordinary to me that in this day and age,

one of the most mature, oldest technologies

หนึ่งในการเติบโตมากที่สุด เทคโนโลยีที่เก่าแต่ที่สุด

in the human timeline, the shoe, still gives us blisters.

ในช่วงเวลาของมนุษย์ ในรองเท้า

ยังคงมีหยดเหงื่อ

How can this be?

สิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร

We have no idea how to attach things to our bodies.

เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเอาอะไรบ้างอย่างเข้าไปในร่างกายของเราอย่างไร

This is the beautifully lyrical design work

นี่คืองานออกแบบที่เป็นเหมือนบทเพลงบรรเลงที่สวยงามมาก

ของศาสตราจารย์ เนริ ออกซ์มาน ที่่ เอ็ม ไอ ที มีเดีย แลป

of Professor Neri Oxman at the MIT Media Lab,

showing spatially varying exoskeletal impedances,

ที่แสดงให้เห็นโครงสร้างของกระดูกเทียมภายนอก

อย่างที่แสดงให้เห็น ที่นี่ด้วยสีต่าง ๆ

shown here by color variation in this 3D-printed model.

ในภาพจำลองที่พิมพ์สามมิตินี้

Imagine a future where clothing is stiff and soft where you need it,

ลองจินตนาการดูในอนาคตที่เสื้อผ้า

ที่จะแข็งและอ่อนในที่ที่คุณต้องการ

when you need it, for optimal support and flexibility,

เมื่อคุณต้องการมันเพื่อช่วยในบางสิ่ง และ มีความยืดหยุ่น

without ever causing discomfort.

โดยไม่ทำให้เกิดความไม่สะดวกสบาย

แขนขาใบโอนิคของผม ผสม ผสานกับร่างกายทางชีวภาพ

My bionic limbs are attached to my biological body

via synthetic skins with stiffness variations,

เหมือนเป็นผิวหนังเทียม

ที่มีความหลากหลายในความแข็ง

that mirror my underlying tissue biomechanics.

นั่นเป็นเหมือนภาพฉายในการผลิตเนื้อเยื่อไบโอแมคแคนิคของผม

เพื่อให้ไปถึงภาพฉายที่ต้องการ

To achieve that mirroring, we first developed a mathematical model

พวกเราเริ่มจากการพัฒนา แบบจำลองโดยใช้วิธิทางคณิตศาสตร์

of my biological limb.

ของขาจริง ๆของผม

To that end, we used imaging tools such as MRI,

เราจบด้วยการใช้เครื่องมือในจินตนาการ เช่น เอ็มอาร์ไอ

to look inside my body,

เพื่อดูเข้าไปในร่างกายของผม

กำหนดตำแหน่งที่แน่นอนในอวัยวะต้นกำเนิด

to figure out the geometries and locations of various tissues.

ในเนื้อเยื่อ ที่หลากหลาย

We also took robotic tools --

เรายังใช้เครื่องมือที่เป็นหุ่นยนต์

here's a 14-actuator circle that goes around the biological limb.

นี่คือ เครื่องมือรูปวงกลมที่มีตัวกระตุ้น สิบสี่อัน

ที่มาครอบขาจริง ๆ

The actuators come in, find the surface of the limb,

ตัวกระตุ้นทั้งหลาย มีเพื่อวัดหาผิวหน้าของขา

measure its unloaded shape,

และคำนวณรูปร่างของมัน

and then they push on the tissues

จากนั้นมันจะมาสวมแทนเนื้อเยื่อ

to measure tissue compliances at each anatomical point.

เพื่อวัดเนื้อเยื่อที่ตอบสนอง

ลักษณะทางกายภาพในแต่ละจุด

We combine these imaging and robotic data

เรานำข้อมูลทางเครื่องจักร และจินตนาการมารวมกัน

to build a mathematical description of my biological limb, shown on the left.

เพื่อสร้าง คำอธิบายทางคณิตศาสตร์

สำหรับ ขาจริงๆ ของผม ที่แสดงให้ดูทางด้านซ้าย

You see a bunch of points, or nodes?

คุณจะเห็น จุดต่างๆ มากมาย หรือ ปม หลายๆ อัน

At each node, there's a color that represents tissue compliance.

ในแต่ละปม จะมีสีต่างๆ ซึ่งแสดงถึงตัวแทนของ เนื้อเยื่อที่ต้องทำงาน

We then do a mathematical transformation to the design of the synthetic skin,

จากนั้นเราเปลี่ยนข้อมูลทางคณิตศาสตร์

เพื่อออกแแบบ ผิวหนังเทียม

shown on the right.

ที่แสดงให้ดูด้านขวา

และเราได้ค้นพบ ข้อดีของมันคือ

And we've discovered optimality is:

เมื่อร่างกายแข็ง หนังเทียมควรจะอ่อน

where the body is stiff, the synthetic skin should be soft,

where the body is soft, the synthetic skin is stiff,

เมื่อร่างกายอ่อน หนังเทียมจะแข็ง

and this mirroring occurs across all tissue compliances.

และภาพฉายนี้ก่อให้เกิด

การทำงานร่วมกันของเนื้อเยื่อทั้งหลาย

With this framework, we've produced bionic limbs

ด้วยกรอบงานนี้

เราได้สร้างขา ไบโอนิกขึ้น

that are the most comfortable limbs I've ever worn.

มันเป็นขาเทียมที่ผมสวมใส่สบายมากที่สุด

เป็นที่แน่ชัดว่าในอนาคต

Clearly, in the future, our clothing, our shoes, our braces, our prostheses,

เสื้อผ้าของเรา รองเท้าของเรา ฟันเทียมของเรา

แขนขาเทียมของเรา จะไม่ต้องออกแบบอีกต่อไป

will no longer be designed and manufactured using artisan strategies,

ผู้ผลิตจะใช้กรรมวิธิแห่งศิลปะมากขึ้น

but rather, data-driven quantitative frameworks.

แต่ มากกว่ากรอบงานที่ขับเคลื่อนโดยจำนวนทางสถิติ

ในอนาคต รองเท้าของเรา

In that future, our shoes will no longer give us blisters.

จะไม่ทำให้เราเป็นโรคน้ำกัดเท้าอีกต่อไป

เรายังสามารถ สร้าง ปุ่มรับความรู้สึก และ นำเครื่องมือที่ชาญฉลาดนี้

We're also embedding sensing and smart materials

into the synthetic skins.

เข้าไปในผิวหนังเทียม

This is a material developed by SRI International, California.

นี่คืออุปกรณ์

ที่ถูกพัฒนาโดย เอสอาร์ไอ อินเตอร์เนชั่นแนล ในแคลิฟอร์เนีย

ภายใต้ ผลกระทบของ electrostatic มัน เปลี่ยน ความแข็ง

Under electrostatic effect, it changes stiffness.

So under zero voltage, the material is compliant,

ดังนั้น ด้วยการไม่ใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์นี้เป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก

it's floppy like paper.

มันเป็นแผ่นเหมือนกระดาษ

Then the button's pushed, a voltage is applied,

จากนั้นเมือกดปุ่ม กระแสไฟ จะทำงาน

and it becomes stiff as a board.

แล้วมันก็จะกลายรูปร่างแข็ง เหมือนไม้กระดาน

(Tapping sounds)

We embed this material into the synthetic skin

เราใส่เครื่องมือนี้ลงไปในผิวหนังเทียมด้วย

that attaches my bionic limb to my biological body.

สิ่งนี้แนบไปกับเนื้อเยื่อของขาจริง และขาเทียมของผม

When I walk here, it's no voltage.

เมื่อผมเดินที่นี่

มันไม่มีกระแสไฟฟ้า

My interface is soft and compliant.

ผมรู้สึกนุ่มภายใน และ รู้สึกสบาย

The button's pushed, voltage is applied, and it stiffens,

กดปุ่มตรงนี้ กระแสไฟฟ้าจะทำงาน

มันจะแข็งตัว

offering me a greater maneuverability over the bionic limb.

ทำให้ผมมีความสามารถที่แข็งแกร่ง

ด้วย ขาเทียม ไบโอนิก

We're also building exoskeletons.

เราสร้าง โครงกระดูกภายนอกด้วย

โครงกระดูกนี้ แข็งและอ่อนได้

This exoskeleton becomes stiff and soft

in just the right areas of the running cycle,

อยุ่บริเวณที่ถุกต้องของ วงรอบการวิ่ง

เพื่อปกป้องข้อต่อตามธรรมชาติ

to protect the biological joints from high impacts and degradation.

จากการที่มันผลกระทบอย่างมาก และ ค่อนช้างด้อยคุณภาพ

In the future, we'll all be wearing exoskeletons

ในอนาคต เราจะสวม โครงกระดูกภายนอก

in common activities, such as running.

ในกิจกรรมปกติธรรมดาเช่นการวิ่ง

Next, dynamic interface.

ต่อไป ด้านพลวัตร

How do my bionic limbs move like flesh and bone?

ขาไบโอนิกของผม เคลื่นไหวเหมือนกระดูกและกล้ามเนื้อได้อย่างไร

At my MIT lab, we study how humans with normal physiologies

ที่ เอ็มไอที ของผม เราศึกษาว่ามนุษย์ทำอย่างไร

ในอริยาบททางกายภาพ เมื่อยืน เดิน และวิ่ง

stand, walk and run.

กล้ามเนื้อทำอะไรบ้าง

What are the muscles doing,

and how are they controlled by the spinal cord?

และพวกมันถูกควบคุมโดยระบบประสาทอย่างไร

This basic science motivates what we build.

วิทยาศาสตร์พื้นฐาน นี้ เป็นแรงจูงใจให้เราสร้าง

เรากำลังสร้างข้อเท้า หัวเข่า และ สะโพก ไบโอนิก

We're building bionic ankles, knees and hips.

We're building body parts from the ground up.

เราสร้างชิ้นส่วนต่างๆ ของร่างกายจากพื้นฐาน

The bionic limbs that I'm wearing are called BiOMs.

ขาไบโอนิกที่ผมสวมใส่ เรียกว่า ไบโอเอ็ม

They've been fitted to nearly 1,000 patients,

พวกมันถูกใช้โดยผู้ป่วย เกือบพันคนแล้ว

สี่ร้อยคน ที่เคยเป็น ทหารอเมริกันผู้บาดเจ็บ

400 of which have been wounded U.S. soldiers.

มันทำงานได้อย่างไร ในการรักษาแนวใหม่ภายใต้การควบคุมของคอมพิวเตอร์

How does it work?

At heel strike, under computer control,

ระบบการควบคุมความแข็ง

the system controls stiffness,

ไปจนถึงความหลากหลายที่น่าประหลาดใจ เมื่อขาสัมผัสพื้นดิน

to attenuate the shock of the limb hitting the ground.

Then at mid-stance, the bionic limb outputs high torques and powers

เรามาถึงครึ่งทางแล้วสำหรับผลผลิตของแขนขาเทียมไบโอนิค

มีแรงบิดสูง และมีพลังที่ทำให้คน

to lift the person into the walking stride,

ลุกขึ้นก้าวเดินต่อไป

comparable to how muscles work in the calf region.

เปรียบเทียบกับ การทำงานของกล้ามเนื้อขา

แรงขับเคลื่อนของไบโอนิคนี้ สำคัญมาก

This bionic propulsion is very important clinically to patients.

สำหรับการรักษาผู้ป่วย

So on the left, you see the bionic device worn by a lady,

ดังนั้น เรามาดูทางด้านซ้าย คุณจะเห็นอุปกรณ์ไบโอนิค

ที่สวมใส่โดยหญิงคนหนึ่ง

on the right, a passive device worn by the same lady,

ทางด้านขวาเป็นอุปกรณ์แบบเดิม ใส่โดยหญิงคนเดียวกัน

that fails to emulate normal muscle function,

นั่นมัน ไม่เป็นการทำงานแบบธรรมชาติของกล้ามเนื้อ

enabling her to do something everyone should be able to do:

ไม่สามารถทำให้เธอทำในสิ่งที่

ทุกๆ คน ควรจะสามารถทำได้

go up and down their steps at home.

ขึ้นและลงบันไดที่บ้าน

Bionics also allows for extraordinary athletic feats.

ไบโอนิคยังทำให้การเล่นกีฬาบางประเภทเป็นไปได้

นี่คือสุภาพบุรุษท่านหนึ่ง ที่สามารถวิ่งขึ้นทางที่เต็มไปด้วยหินได้

Here's a gentleman running up a rocky pathway.

This is Steve Martin -- not the comedian --

นี่คือ สตีฟ มาร์ติน ไม่ใช่คนที่เป็นนักแสดงตลกนะครับ

who lost his legs in a bomb blast in Afghanistan.

เขาเป็นคนที่ สูญเสียขาทั้งสอง เมื่อเกิดระเบิดที่ อัฟกานิสถาน

We're also building exoskeletal structures using these same principles,

เราได้สร้าง โครงกระดูก ภายนอกขึ้นด้วย

โดยใช้ หลักการเดียวกัน

สิ่งนั้นห่อหุ้มรอบ ๆ แขนขาจริง ๆ

that wrap around the biological limb.

สุภาพบุรุษท่านนี้ ไม่มีอาการผิดปกติ

This gentleman does not have any leg condition, any disability.

ในการทำงานของขา หรือ ความพิการอื่นใด

He has a normal physiology,

เขาเป็นคนที่มีร่างกายปกติธรรมดา

so these exoskeletons are applying muscle-like torques and powers,

โครงกระดูกภายนอกเหล่านี้ สร้างขึ้นเพื่อ

ให้ทำงานแทนกล้ามเนื้อ ที่ มีความสามารถในการบิด และ มีพลัง

so that his own muscles need not apply those torques and powers.

ดังนี้น กล้ามเนื้อตริง ๆของเขา จึงไม่ต้องออกแรง

การบิด และ พลังต่าง ๆ

นี่คือ โครงกระดูกภายนอกอันแรกในประวัติศาสตร์

This is the first exoskeleton in history that actually augments human walking.

ซึ่งสามารถทดแทนการวิ่งจริง ๆของมนุษย์

It significantly reduces metabolic cost.

มันสามารถลดการทำงานของเมตะบอลิซึ่มได้เป็นอย่างดี

It's so profound in its augmentation,

มันได้ขยายความสามารถขึ้นอย่างมาก

เมื่อมนุษย์ธรรมดาๆ ที่มีสุขภาพดี

that when a normal, healthy person wears the device for 40 minutes

สวมใส่อุปกรณ์นี้ เป็นเวลา สี่สิบนาที

and then takes it off,

เมื่อหยุดใช้อุปกรณ์

their own biological legs feel ridiculously heavy and awkward.

ใช้ขาจริงของพวกเขาแทน

ช่างน่าขันที่มันรู้สึกหนัก และ งุ่มง่าม

เรากำลังเริ่มยุคใหม่ ยุคซึ่ง

We're beginning the age in which machines attached to our bodies

เครื่องมือ เข้าไปอยู่ในร่างกายได้

will make us stronger and faster and more efficient.

เครื่องมือซึ่งจะทำให้คุณแข็แรงขึ้น รวดเร็วขึ้น

และ มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Moving on to electrical interface:

เราจะพูดถึง เรื่องของอุปกรณ์ อิเล็คทรอนิกส์กันต่อ

How do my bionic limbs communicate with my nervous system?

ขาเทียมไบโอนิคของผม สื่อสารได้อย่างไร

กับระบบประสาทของผม

Across my residual limb are electrodes

อย่างที่รู้ ขาจริงของผม เป็น อิเล็คโทรด

that measure the electrical pulse of my muscles.

ซึ่งวัดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อของผม

That's communicated to the bionic limb,

นั่นมันสามารถสื่อสารกับขาเทียมไบโอนิค

so when I think about moving my phantom limb,

ดังนั้นเมื่อผมคิดว่าต้องการเคลื่อนไหว ขาเทียมของผม

เครื่องมือหุ่นยนต์ จะส่งสัญญาณ ถึงความต้องการในการเคลื่อนไหวนั้น

the robot tracks those movement desires.

แผนภาพนี้ แสดงถึงพื้นฐาน

This diagram shows fundamentally how the bionic limb is controlled.

การที่แขนขาไบโอนิค ถูกควบคุมอย่างไร

So we model the missing biological limb,

ดังนั้นเราจึงจำลอง แขนขาไบโอนิกที่หายไป

และเราค้นพบว่า มันสะท้อนให้เห็นอะไร

and we've discovered what reflexes occurred,

how the reflexes of the spinal cord are controlling the muscles.

ระบบประสาทสะท้อนให้เห็นว่าการทำงานอย่างไร

จึงจะควบคุมกล้ามเนื้อได้

And that capability is embedded in the chips of the bionic limb.

และความสามารถใดที่ควรถูกเพิ่มเติม

ลงในแผ่นข้อมูล (chip) ของ แขนขาไบโอนิค

สิ่งที่พวกเราทำ ต่อจากนั้นคือ ปรับ

What we've done, then, is we modulate the sensitivity of the reflex,

ความละเอียดอ่อน ของการสะท้อน

the modeled spinal reflex, with the neural signal,

สร้างการตอบสนองของระบบประสาทจำลอง

ด้วยสัญญานระบบประสาท

so when I relax my muscles in my residual limb,

ดังนั้นเมื่อผมผ่อนคลาย กล้ามเนื้อในขาเทียม

I get very little torque and power,

ผมรู้สึกถึงพลังและความยืดหยุ่น

but the more I fire my muscles, the more torque I get,

แต่เมื่อผมใช้กล้ามเนื้อ

ความยืดหยุ่นยิ่งมาก

and I can even run.

ผมสามารถแม้กระทั่งวิ่ง

และนั่นเป็นการสาธิตเป็นครั้งแรก

And that was the first demonstration of a running gait under neural command.

ในการวิ่งภายใต้คำสังของระบบประสาท

Feels great.

รู้สึกวิเศษมาก

(Applause)

(ปรบมือ)

เราต้องการก้าวสู่ขั้นต่อไป

We want to go a step further.

We want to actually close the loop

เราต้องการปิดรูรั่วจริง ๆ

between the human and the bionic external limb.

ระหว่าง ร่างกายมนุษย์ และ แขนขาเทียมไบโอนิกภายนอก

We're doing experiments

เรากำลัง ทำการทดลอง กำลังทำการพัฒนา

where we're growing nerves, transected nerves,

ระบบประสาท ระบบประสาทเทียม

ผ่านช่องทางต่าง ๆ หรือเป็นช่องทางสำหรับรังสี เล็ก ๆ

through channels, or micro-channel arrays.

On the other side of the channel,

อีกด้านหนึ่งของช่องทาง

the nerve then attaches to cells,

เส้นประสาท ถูกแนบเข้าไปกับเซลส์

skin cells and muscle cells.

เซลส์ของผิวหนัง และ เซลส์ของกล้ามเนื้อ

In the motor channels, we can sense how the person wishes to move.

ในช่องทาง เครื่องจักร เราสามารถรับความรู้สึกต่าง ๆ ได้

มนุษย์ ต้องการเคลื่อนไหวอย่างไร

That can be sent out wirelessly to the bionic limb,

สามารถส่งสัญญาณไร้สายไปสู่แขนขาเทียมไบโอนิกได้

then [sensory information] on the bionic limb

จากนั้นตัวรับสัญญาณที่ไบโอนิก

จะแปลงสัญญาณ ไปสู่ตัวกระตุ้น

can be converted to stimulations in adjacent channels,

ในช่องทางที่ติดไว้ ช่องทางรับการสัมผัส

sensory channels.

So when this is fully developed and for human use,

ดังนั้นเมื่อสิ่งนี้ได้รับการพัฒนาถึงขั้นสูงสุด

สำหรับการใช้งานของมนุษย์

persons like myself will not only have

มนุษย์อย่างตัวผมเอง จะไม่ใช่เพียงแค่มี

synthetic limbs that move like flesh and bone,

แขนขาเทียมที่เคลื่อนไหวได้อย่าง กล้ามเนื้อและกระดูก

แต่จะมีความรู้สึกเหมือนกับกล้ามเนื้อและกระดูกจริง ๆ

but actually feel like flesh and bone.

ในวีดีโอนี้ แสดงให้เห็นว่า ลิซ่า แมเลทเต้

This video shows Lisa Mallette,

shortly after being fitted with two bionic limbs.

ไม่นานนักหลังจาก เริ่มใส่ขาเทียมทั้งสองข้าง

Indeed, bionics is making a profound difference in people's lives.

จริง ๆ แล้ว ไบโอนิคทำให้

เกิดความแตกต่างอย่างยิ่งในชีวิตผู้คน

(Video) Lisa Mallette: Oh my God.

(วีดีโอ) ลิซ่า : โอ พระเจ้า

LM: Oh my God, I can't believe it!

โอ พระเจ้า ฉ้นไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ

(Video) (Laughter)

LM: It's just like I've got a real leg!

มันเหมือนกับว่าฉันได้ขาจริง ๆ คืนมา

ตอนนี้ อย่าเพิ่งเริ่มวิ่ง

Woman: Now, don't start running.

Man: Now turn around, and do the same thing walking up,

ผู้ชาย : ตอนนี้หมุนตัวไปรอบ ๆ

แล้วทำเหมือนเดิม เดินขึ้นไป

but get on your heel to toe, like you would normally just walk on level ground.

เดินขึ้นไป กดส้นเท้าไปที่นิ้วเท้า

เหมือนกับที่คุณเดินปกติในทางราบ

พยายามเดินขึ้นไปบนเนิน

Try to walk right up the hill.

LM: Oh my God.

ลิซ่า : โอพระเจ้า

ผู้ชาย : มันผลักคุณขึ้นไปไหมครับ

Man: Is it pushing you up?

LM: Yes! I'm not even -- I can't even describe it.

ลิซ่า : ใช่ๆ ฉันแทบจะไม่ได้...... ฉันอธิบายแทบไม่ถูกเลยล่ะ

Man: It's pushing you right up.

ผู้ชาย : มันกำลัง ผลักคุณให้ขึ้นไป

Hugh Herr: Next week, I'm visiting the Center --

ฮิวจ์ เฮอร์ : อาทิตย์หน้า ผมจะไปเยี่ยมที่ศูนย์

Thank you. Thank you.

(เสียงปรบมือ) ขอบคุณครับ ขอบคุณ

(Applause)

Thank you.

ขอบคุณ อาทิตย์หน้าผมจะไปเยี่ยม

Next week I'm visiting the Center for Medicare and Medicaid Services,

ศูนย์บริการด้านการแพทย์

และผมจะพยายามโน้วน้าวใจ ซีเอ็มเอส

and I'm going to try to convince CMS

to grant appropriate code language and pricing,

เพื่อกำหนด ความเหมาะสมในการกำหนดรหัสภาษา และราคา

เพื่อที่เทคโนโลยีนี้จะสามารถใช้ได้กับ

so this technology can be made available to the patients that need it.

ผู้ป่วยที่ต้องการใช้มัน

(Applause)

ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)

Thank you.

(Applause)

It's not well appreciated, but over half of the world's population

มันยังไม่เป็นที่พอใจมากนัก แต่ก็ มากกว่าครึ่งแล้ว

ที่ประชากรของโลก

suffers from some form of cognitive, emotional, sensory or motor condition,

ต้องทนทุกข์ทรมานจากองค์ความรู้บางอย่าง

อารมณ์ ประสาทสัมผัส และ สภาพต่าง ๆ

and because of poor technology, too often, conditions result in disability

และเป็นเพราะ วิทยาการที่ยังล้าสมัย

บ่อยครั้งที่ สภาพบางอย่าง เป็นผลมาจากความพิการ

และคุณภาพชีวิตที่ต่ำ

and a poorer quality of life.

ระดับพื้นฐานของ องค์ประกอบทางสรีรวิทยา

Basic levels of physiological function should be a part of our human rights.

ควรจะเป็นส่วนหนึ่งของ สิทธิ ของมนุษย์ทั้งหลาย

มนุษย์ทุกคนควรมีสิทธิ

Every person should have the right to live life without disability

ที่จะมีชีวิตอยู่อย่างไร้ความพิกลพิการ

ถ้าพวกเขามีทางเลือก

if they so choose --

the right to live life without severe depression;

สิทธิที่จะมีชีวิตอยู่อย่างไร้ซึ่งความซึมเศร้าอย่างรุนแรง

the right to see a loved one, in the case of seeing-impaired;

สิทธิที่จะมองดู คนที่เรารัก

ในกรณีที่บุคคลนั้นมีความบกพร่องทางการมองเห็น

or the right to walk or to dance,

หรือสิทธิในการเดิน หรือเต้นรำ

in the case of limb paralysis or limb amputation.

ในกรณีที่ แขนขา เป็นอัมพาต

หรือแขนขาถูกตัด

As a society, we can achieve these human rights,

ในฐานะทางสังคม เราสามารถ ทำให้สิทธิมนุษย์เหล่านี้ สัมฤทธิผลได้

if we accept the proposition that humans are not disabled.

ถ้าเรายอมรับข้อเสนอ

ที่ว่า มนุษย์ ไม่พิการ

A person can never be broken.

มนุษย์ ไม่มีทางแตกหัก พัง

Our built environment, our technologies,

สิ่งแวดล้อมที่เราสร้างขี้น เทคโนโลยีท้ืงหลายที่เราสร้างขึ้น

are broken and disabled.

ต่างหากที่ แตกหัก พัง และ พิกลพิการ

We the people need not accept our limitations,

เรา มนุษย์ทั้งหลาย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่ ยอมรับในข้อจำกัดทั้งปวง

but can transcend disability through technological innovation.

แต่เราสามารถเปลี่ยนความพิกลพิการได้

ผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

Indeed, through fundamental advances in bionics in this century,

จริงๆ แล้ว ในความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่นี้

ของวิทยาการ ไบโอนิก ในศตวรรตนี้

เราจะ สร้างรูปแบบแห่งวิทยาการ

we will set the technological foundation for an enhanced human experience,

เพื่อให้มนุษย์มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์อันยิ่งใหญ่

and we will end disability.

และเราจะทำให้ความพิการหมดสิ้นไป

I'd like to finish up with one more story, a beautiful story.

ผมอยากจะจบเรื่องนี้ด้วย เรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง

เป็นเรื่องที่แสนสวยงาม

The story of Adrianne Haslet-Davis.

เรื่องราวของคุณ เอเดรียน ฮาสเล็ท ดาวิส

เอเดรียน สูญเสียขาข้างซ้าย

Adrianne lost her left leg in the Boston terrorist attack.

ในเหตุการณ์การโจมตีของผู้ก่อการร้ายในบอสตัน

I met Adrianne when this photo was taken, at Spaulding Rehabilitation Hospital.

ผมพบเอเดรียนเมื่อ ภาพนี้ถูกถ่ายไว้

ใน โรงพยาบาลฟื้นฟูสมรรถภาพ สเปาดิ้ง

Adrianne is a dancer, a ballroom dancer.

เอเดรียนเป็นนักเต้น นักเต้นลีลาศ

Adrianne breathes and lives dance.

เอเดรียนมีลมหายใจ และชีวิต อยู่เพื่อการเต้นรำ

มันเป็นการแสดงออกของเธอ เป็นรูปแบบทางศิลปะของตัวเธอ

It is her expression. It is her art form.

Naturally, when she lost her limb in the Boston terrorist attack,

เป็นธรรมดา เมื่อเธอสูญเสียขาของเธอ

ในการก่อการร้ายในเมืองบอสตัน

she wanted to return to the dance floor.

เธอต้องการกลับไปยังฟลอร์เต้นรำ

After meeting her and driving home in my car,

หลังจากที่พบเธอและ ได้ขับรถไปส่งเธอที่บ้าน

ผมฉุกคิดว่า ผมเป็นถึง ศาสตราจารย์ของ เอ็มไอที

I thought, I'm an MIT professor. I have resources.

ผมมีแหล่งทรัพยากรต่าง ๆ มาทำขาเทียมไบโอนิคให้เธอดีกว่า

Let's build her a bionic limb,

to enable her to go back to her life of dance.

เพื่อที่จะทำให้เธอหวลกลับไปใช้ชีวิตการเต้นรำได้

ผมนำนักวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษมาที่ เอ็มไอที

I brought in MIT scientists with expertise in prosthetics,

ทั้งด้าน ขาเทียม ด้านหุ่นยนต์ ด้านการเรียนรู้เครื่องจักรกล

robotics, machine learning and biomechanics,

และด้าน ไบโอแมคคานิกส์

and over a 200-day research period, we studied dance.

ด้วยจำนวนวันมากกว่าสองร้อยวัน ในการศึกษาค้นคว้า

เราศึกษาเรื่องการเต้นรำ

We brought in dancers with biological limbs,

เรานำนักเต้นรำ ที่มีแขนขาชีวภาพ

and we studied how they move,

และเราได้ศึกษา การเคลื่อนไหวร่างกายของพวกเขา

what forces they apply on the dance floor,

พวกเขาใช้แรงอะไรบ้างบนฟลอร์เต้นรำ

and we took those data,

แล้วเราก็นำข้อมูลเหล่านั้น

and we put forth fundamental principles of dance,

มาผสมผสานเข้ากับหลักการของกากรเต้นรำ

reflexive dance capability,

ผลสะท้อนจาก ความสามารถในการเต้นรำ

and we embedded that intelligence into the bionic limb.

แล้วเราก็ได้ฝังความสามารถด้านนี้ไว้

ในแขนขาไบโอนิก

Bionics is not only about making people stronger and faster.

ไบโอนิก ไม่ได้ทำให้มนุษย์ เพียงแค่

แข็งแรงขึ้น และรวดเร็วขึ้นเท่านั้น

Our expression, our humanity can be embedded into electromechanics.

การแสดงออกของเรา ความเป็นมนุษย์ของเรา

สามารถนำมาฝังตัวไว้ใน electromechanics

มันเป็นเพียง สามวินาทีครึ่ง

It was 3.5 seconds between the bomb blasts in the Boston terrorist attack.

ระหว่างที่เกิดการระเบิด

ในการก่อการร้ายในบอสตัน

In 3.5 seconds, the criminals and cowards took Adrianne off the dance floor.

สามวินาทีครึ่ง ของอาชญากรผู้ขี้ขลาดตาขาว

ได้ทำให้เอเดรียนต้องออกจากฟลอร์เต้นรำ

In 200 days, we put her back.

แต่ เราต้องใช้เวลา สองร้อยวันเพื่อนำโอกาสนั้นกลับมา

We will not be intimidated, brought down, diminished, conquered or stopped

เราจะไม่ขอร้อง ข่มขู่ ในทันทีทันใด

ว่าให้ลดลง หรือหยุดเสียที

by acts of violence.

ในการกระทำอันรุนแรง

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

ท่านสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี ผมขอแนะนำ

Ladies and gentlemen, please allow me to introduce Adrianne Haslet-Davis,

เอเดรียน ฮาสเลท เดวิส

her first performance since the attack.

การแสดงครั้งแรกของเธอ นับตั้งแต่ถูกทำร้าย

She's dancing with Christian Lightner.

เธอจะมาเต้นรำกับ คริสเตียน ไลท์เนอร์

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

(Music: "Ring My Bell" performed by Enrique Iglesias)

(ดนตรี : Ring My Bell ขับร้องโดย เอนริค อีคเลเซียส)

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Ladies and gentlemen, members of the research team:

ท่านสุภาพบุรุษ และสุภาพสรี ครับ

นี่คือสมาชิกของทีมนักวิจัย

Elliott Rouse

อีเลียส เราซ์ และ นาธาน วิลลากาเรย์ คาสกี้

and Nathan Villagaray-Carski.

Elliott and Nathan.

อีเลียส และนาธาน

(Applause)

(เสียงปรบมือ)