How we see color - Colm Kelleher

เรามองเห็นสีได้อย่างไร - คอล์ม เคลเลเฮอร์ (Colm Kelleher)

Translator: Andrea McDonough Reviewer: Bedirhan Cinar

Translator: Pongsakorn Puavaranukroh Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

You might have heard that light is a kind of wave

คุณอาจเคยได้ยินมาว่า แสงเป็นคลื่นชนิดหนึ่ง

and that the color of an object

และสีของวัตถุหนึ่งๆ

is related to the frequency of light waves it reflects.

มีความสัมพันธ์กับความถี่ของคลื่นแสง ที่มันสะท้อนออกมา

High-frequency light waves look violet,

คลื่นแสงความถี่สูงจะมีสีออกม่วง

low-frequency light waves look red,

คลื่นแสงความถี่ต่ำจะมีสีออกแดง

and in-between frequencies look yellow,

แสงความถี่ที่อยู่ตรงกลางจะมีสีออกเหลือง

green,

เขียว

orange,

ส้ม

and so on.

และสีอื่นๆ

You might call this idea physical color

คุณอาจเรียกแนวคิดนี้ว่าเป็นสีทางกายภาพ

because it says that color is a physical property of light itself.

เพราะว่าสีคือคุณสมบัติทางกายภาพของแสงนั่นเอง

It's not dependent on human perception.

โดยไม่ขึ้นกับการรับรู้ของมนุษย์

And, while this isn't wrong,

ถึงแม้ว่าคำกล่าวนี้จะไม่ผิด

it isn't quite the whole story either.

มันก็ยังไม่ครอบคลุมเรื่องราวทั้งหมดเสียทีเดียว

For instance, you might have seen this picture before.

เช่น คุณอาจเคยเห็นภาพนี้มาก่อน

As you can see, the region where the red and green lights overlap is yellow.

จะเห็นว่า บริเวณคาบเกี่ยว ระหว่างสีแดงและเขียวนั้นคือ สีเหลือง

When you think about it, this is pretty weird.

ลองคิดดูดีๆ นี่มันดูแปลกๆ อยู่นะ

Because light is a wave, two different frequencies

เพราะว่า แสงนั้นเป็นคลื่น คลื่นแสงสองความถี่ที่ต่างกัน

shouldn't interact with each other at all,

ไม่ควรจะมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเลย

they should just co-exist

ทั้งคู่ควรจะปรากฏอยู่ร่วมกันมากกว่า

like singers singing in harmony.

เหมือนนักร้องร้องเพลงประสานเสียง

So, in this yellow looking region,

ดังนั้นบริเวณดูเป็นสีเหลือง

two different kinds of light waves are present:

มีคลื่นแสงสองชนิดที่แตกต่างกันนั้นปรากฏ

one with a red frequency,

คลื่นนึงมีความถี่ของแสงสีแดง

and one with a green frequency.

อีกคลื่นหน่งมีความถี่ของแสงสีเขียว

There is no yellow light present at all.

มันไม่มีแสงสีเหลืองอยู่เลยซักนิด

So, how come this region,

แล้วทำไม

where the red and green lights mix,

ที่ที่ซึ่งแสงสีแดงและเขียวมาผสมกัน

looks yellow to us?

จึงปรากฎเป็นสีเหลืองให้เราเห็นล่ะ?

To understand this, you have to understand a little bit about biology,

การทำความเข้าใจเรื่องนี้ ต้องอาศัยความรู้ทางชีววิทยาสักเล็กน้อย

in particular, about how humans see color.

โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า มนุษย์มองเห็นสีได้อย่างไร

Light perception happens in a paper-thin layer of cells,

การรับแสงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้นเซลล์บางๆ

called the retina,

ที่เรียกว่า เรตินา (retina)

that covers the back of your eyeball.

ที่บุอยู่ด้านหลังของลูกตา

In the retina, there are two different types of light-detecting cells:

เรตินา ประกอบด้วยเซลล์รับแสง 2 ชนิด ที่แตกต่างกัน:

rods and cones.

เซลล์รูปแท่ง (rod) และเซลล์รูปกรวย (cone)

The rods are used for seeing in low-light conditions,

เซลล์รูปแท่งจะใช้ในการมองเห็นในที่ที่มีแสงน้อย

and there is only one kind of those.

และเซลล์ชนิดนี้มีอยู่แบบเดียวเท่านั้น

The cones, however, are a different story.

ส่วนเซลล์รูปกรวยจะต่างออกไป

There three kinds of cone cells that roughly correspond

มันมีด้วยกัน 3 แบบ ซึ่งทำหน้าที่ตอบสนองต่อแสง

to the colors red,

สีแดง

green,

and blue.

สีเขียว

และสีน้ำเงิน

When you see a color,

เมื่อคุณมองดูสีสีหนึ่ง

each cone sends its own distinct signal to your brain.

เซลล์รูปกรวยแต่ละแบบก็จะส่งสัญญาณ ที่แตกต่างกันไปยังสมอง

For example, suppose that yellow light,

เช่น สมมติว่าแสงสีเหลือง

that is real yellow light, with a yellow frequency,

แสงสีเหลืองจริงๆ ที่มีความถี่แสงสีเหลือง

is shining on your eye.

กระทบเข้าตาคุณ

You don't have a cone specifically for detecting yellow,

คุณไม่มีเซลล์รูปกรวยเฉพาะสำหรับจับแสงสีเหลือง

but yellow is kind of close to green

แต่สีเหลืองนั้นถือว่าใกล้เคียงกับสีเขียว

and also kind of close to red,

และก็ใกล้เคียงกับสีแดงด้วย

so both the red and green cones get activated,

ดังนั้นเซลล์รูปกรวยสำหรับสีแดงและเขียว จึงถูกกระตุ้น

and each sends a signal to your brain saying so.

ต่างส่งสัญญาณไปยังสมอง

Of course, there is another way to activate

แน่นอนว่า มันมีวิธีอื่นเช่นกันที่จะกระตุ้นการทำงาน

the red cones and the green cones simultaneously:

ของเซลล์รูปกรวยสำหรับแสงสีแดงและเขียว พร้อมๆ กัน

if both red light and green light are present at the same time.

ถ้ามีแสงสีแดงและแสงสีเขียว ปรากฏอยู่ในเวลาเดียวกัน

The point is, your brain receives the same signal,

ประเด็นคือ สมองคุณได้รับสัญญาณไม่ต่างกัน

regardless of whether you see light that has the yellow frequency

ไม่ว่าคุณจะมองแสงที่มีความถี่ของแสงสีเหลือง

or light that is a mixture of the green and red frequencies.

หรือ แสงผสมที่มีความถี่ของแสงสีแดงและสีเขียว

That's why, for light, red plus green equals yellow.

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม สีแดง บวก สีเขียว ได้ สีเหลือง

And, how come you can't detect colors when it's dark?

แล้วทำไมคุณถึงมองไม่เห็นสีในที่มืด?

Well, the rod cells in your retina take over

นั่นก็เพราะ เซลล์รูปแท่งจะทำงานแทน

in low-light conditions.

ในที่ที่มีแสงน้อย

You only have one kind of rod cell,

คุณมีเซลล์รูปแท่งอยู่แบบเดียว

and so there is one type of signal

ดังนั้นจึงมีสัญญาณแบบเดียว

that can get sent to your brain:

ที่ส่งไปยังสมอง

light or no light.

คือ มีแสง กับ ไม่มีแสง

Having only one kind of light detector

การที่มีเซลล์รับแสงเพียงแบบเดียว

doesn't leave any room for seeing color.

ทำให้หมดโอกาสในการมองเห็นสี

There are infinitely many different physical colors,

สีทางกายภายมีมากมายนับไม่ถ้วน

but, because we only have three kinds of cones,

แต่เพราะเรามีเซลล์รูปกรวยเพียง 3 แบบ

the brain can be tricked into thinking it's seeing any color

สมองจึงถูกลวงให้คิดไปว่า มันสามารถเห็นสีอะไรก็ได้

by carefully adding together the right combination

โดยการผสมผสานอย่างละเอียดลงตัว

of just three colors:

ของสีเพียงแค่สามสี

red, green, and blue.

แดง เขียว น้ำเงิน

This property of human vision is really useful in the real world.

คุณสมบัติการมองเห็นของมนุษย์นี้ เป็นประโยชน์ในชีวิตจริง

For example, TV manufacturing.

เช่น การผลิตทีวี

Instead of having to put infinitely many colors in your TV set

แทนที่จะใช้สีจำนวนนับไม่ถ้วนในการสร้างทีวี

to simulate the real world,

เพื่อให้ได้ภาพที่สมจริง

TV manufacturers only have to put three:

ผู้ผลิตทีวีกลับใช้สีเพียงแค่ 3 สี

red, green, and blue,

แดง เขียว น้ำเงิน

which is lucky for them, really.

ถือว่าพวกเขาโชคดีจริงๆ