Light seconds, light years, light centuries: How to measure extreme distances - Yuan-Sen Ting

เราจะวัดระยะทางในอวกาศได้อย่างไร - หยวน เซิน ถิง (Yuan-Sen Ting)

3,472,615 views

2014-10-09 ・ TED-Ed


New videos

Light seconds, light years, light centuries: How to measure extreme distances - Yuan-Sen Ting

เราจะวัดระยะทางในอวกาศได้อย่างไร - หยวน เซิน ถิง (Yuan-Sen Ting)

3,472,615 views ・ 2014-10-09

TED-Ed


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Phatthrawat Jansamechot Reviewer: Pattapon Kasemtanakul
00:07
Light is the fastest thing we know.
0
7166
2868
แสงเป็นสิ่งที่รวดเร็วที่สุดที่เรารู้จัก
00:10
It's so fast that we measure enormous distances
1
10034
3079
มันเคลื่อนที่เร็วมาก ซึ่งทำให้เราวัดระยะทางได้ไกลขึ้น
00:13
by how long it takes for light to travel them.
2
13113
3208
โดยวัดระยะเวลาที่แสงเคลื่อนที่ถึงพวกมัน
00:16
In one year, light travels about 6,000,000,000,000 miles,
3
16321
4076
ในระยะเวลา 1 ปี แสงสามารถเดินทางได้ระยะทาง ประมาณ 6,000,000,000,000 ไมล์
00:20
a distance we call one light year.
4
20397
2518
เราเรียกระยะทางนี้ว่า 1 ปีแสง
00:22
To give you an idea of just how far this is,
5
22915
2355
เพื่อให้เห็นภาพถึงความไกลนี้
00:25
the Moon, which took the Apollo astronauts four days to reach,
6
25270
3926
ดวงจันทร์ที่ยานอวกาศอพอลโล ใช้เวลาถึง 4 วันในการเดินทาง
00:29
is only one light-second from Earth.
7
29196
3080
แสงใช้เวลาเพียงแค่ 1 วินาที
00:32
Meanwhile, the nearest star beyond our own Sun is Proxima Centauri,
8
32276
4422
ขณะที่ ดาวที่ใกล้ดวงอาทิตย์ของเรามากที่สุด คือ พร็อกซิมาเซ็นเทารี (Proxima Centauri)
00:36
4.24 light years away.
9
36698
3033
ซึ่งห่างออกไป 4.24 ปีแสง
00:39
Our Milky Way is on the order of 100,000 light years across.
10
39731
4545
กาแล็กซีทางช้างเผือกของเรากว้าง ถึงหลัก 100,000 ปีแสง
00:44
The nearest galaxy to our own, Andromeda,
11
44276
2606
กาแล็กซีที่ใกล้เรามากที่สุด คือ แอนโดรมีดา (Andromeda)
00:46
is about 2.5 million light years away
12
46882
2975
ห่างออกไปประมาณ 2.5 ล้านปีแสง
00:49
Space is mind-blowingly vast.
13
49857
2759
อวกาศใหญ่กว้างเกินกว่าที่เราจิตนาการถึง
00:52
But wait, how do we know how far away stars and galaxies are?
14
52616
4343
แต่เดี๋ยวก่อน พวกเรารู้ระยะห่างของ ดวงดาวและกาแล็กซีได้อย่างไร
00:56
After all, when we look at the sky, we have a flat, two-dimensional view.
15
56959
4275
นอกจากนี้ เวลาที่เรามองดูท้องฟ้า เราเห็นมันเป็นแผ่นเรียบๆ 2 มิติ
01:01
If you point you finger to one star, you can't tell how far the star is,
16
61234
4087
ถ้าคุณชี้นิ้วไปที่ดาวซักดวง คุณไม่สามารถบอกได้เลยว่ามันไกลเท่าไร
01:05
so how do astrophysicists figure that out?
17
65321
3363
แล้วบรรดานักฟิสิกส์ดาราศาสตร์รู้ได้อย่างไร
01:08
For objects that are very close by,
18
68684
2231
สำหรับวัตถุที่ใกล้
01:10
we can use a concept called trigonometric parallax.
19
70915
3861
เราสามารถใช้แนวคิดที่เรียกว่า trigonometric parallax
01:14
The idea is pretty simple.
20
74776
1774
ไอเดียของมันธรรมดามาก
01:16
Let's do an experiment.
21
76550
1412
มาทดลองกันดู
01:17
Stick out your thumb and close your left eye.
22
77962
3327
ชูนิ้วโป้งออกไปแล้วหลับตาซ้าย
01:21
Now, open your left eye and close your right eye.
23
81289
3605
ตอนนี้ลองลืมตาซ้ายและหลับตาขวา
01:24
It will look like your thumb has moved,
24
84894
1988
ดูเหมือนกับว่านิ้วโป้งของคุณได้เคลื่อนที่
01:26
while more distant background objects have remained in place.
25
86882
4187
แต่พื้นหลังของวัตถุที่ไกลออกไปคงยังอยู่ที่เดิม
01:31
The same concept applies when we look at the stars,
26
91069
2821
แนวคิดเดียวกันนี้ถูกนำมาใช้เมื่อเรามองที่ดวงดาว
01:33
but distant stars are much, much farther away than the length of your arm,
27
93890
4185
แต่ระยะทางนั้นไกลว่าแขนของคุณมากๆ
01:38
and the Earth isn't very large,
28
98075
1851
และโลกก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก
01:39
so even if you had different telescopes across the equator,
29
99926
3153
ถึงแม้ว่าคุณจะมีกล้องโทรทัศน์ที่ตั้งไว้คนละด้านของโลก
01:43
you'd not see much of a shift in position.
30
103079
2823
คุณจะไม่เห็นตำแหน่งที่เปลี่ยนไปมากนัก
01:45
Instead, we look at the change in the star's apparent location over six months,
31
105902
5328
เราจึงดูการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่ง ของดาวเป็นเวลา 6 เดือน
01:51
the halfway point of the Earth's yearlong orbit around the Sun.
32
111230
4408
ระยะทางครึ่งหนึ่งของโลกที่โคจรรอบดวงอาทิตย์
01:55
When we measure the relative positions of the stars in summer,
33
115638
3171
เมื่อเราทราบความสัมพันธ์ของ ตำแหน่งของดวงดาวในฤดูร้อน
01:58
and then again in winter, it's like looking with your other eye.
34
118809
4030
และอีกครั้งในฤดูหนาว มันเหมือนกันตอนที่ที่ใช้ตาอีกข้างหนึ่ง
02:02
Nearby stars seem to have moved against the background
35
122839
2601
ดวงดาวที่อยู่ใกล้ดูเหมือนเคลื่อนที่เทียบกับพื้นหลัง
02:05
of the more distant stars and galaxies.
36
125440
2887
ที่เป็นดาวหรือกาแล็กซีซึ่งไกลกว่า
02:08
But this method only works for objects no more than a few thousand light years away.
37
128327
4763
แต่วิธีนี้ใช้ได้ดีสำหรับวัตถุที่ไกลไม่เกินกว่า พันสองพันปีแสง
02:13
Beyond our own galaxy, the distances are so great
38
133090
2692
สำหรับวัตถุนอกกาแลกซีของเรา ระยะทางนั้นจะไกลมากจน
02:15
that the parallax is too small to detect with even our most sensitive instruments.
39
135782
5029
ตำแหน่งภาพที่เปลี่ยนไปนั้นเล็กเกินไปที่จะตรวจพบ แม้ว่าจะใช้เครื่องมือวัดที่ละเอียดที่สุดก็ตาม
02:20
So at this point we have to rely on a different method
40
140811
2908
ณ จุดนี้เราต้องพึ่งวิธีอื่น
02:23
using indicators we call standard candles.
41
143719
3740
ใช้ตัวชี้วัดที่เราเรียกว่า ดวงไฟมาตรฐาน (standard candle)
02:27
Standard candles are objects whose intrinsic brightness, or luminosity,
42
147459
4620
ดวงไฟมาตรฐาน คือวัตถุที่เรารู้ถึง ความสว่างหรือความเรืองแสงจริงของมัน
02:32
we know really well.
43
152079
2298
เป็นอย่างดี
02:34
For example, if you know how bright your light bulb is,
44
154377
3057
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรู้ความสว่างของหลอดไฟของคุณ
02:37
and you ask your friend to hold the light bulb and walk away from you,
45
157434
3375
และคุณให้เพื่อนของคุณที่ถือหลอดไฟและเดินออกห่างจากคุณ
02:40
you know that the amount of light you receive from your friend
46
160809
2927
ความสว่างที่คุณได้รับทั้งหมดจากเพื่อนของคุณ
02:43
will decrease by the distance squared.
47
163736
3417
จะลดลงเป็นสัดส่วนกับระยะทางกำลังสอง
02:47
So by comparing the amount of light you receive
48
167153
2435
โดยการเปรียบเทียบความสว่างทั้งหมดที่คุณได้รับ
02:49
to the intrinsic brightness of the light bulb,
49
169588
2344
กับความสว่างจริงของหลอดไฟ
02:51
you can then tell how far away your friend is.
50
171932
3102
คุณก็จะบอกระยะห่างของเพื่อนได้
02:55
In astronomy, our light bulb turns out to be a special type of star
51
175034
3250
ในดาราศาสตร์ หลอดไฟของเรา เปลื่ยนเป็นดาวชนิดพิเศษ
02:58
called a cepheid variable.
52
178284
2507
เรียกว่าดาวแปรแสงชนิดเซฟีด (Cepheid variable)
03:00
These stars are internally unstable,
53
180791
2237
ดวงดาวเหล่านี้จะไม่ค่อยเสถียร
03:03
like a constantly inflating and deflating balloon.
54
183028
3969
เหมือนกับบอลลูนที่พองๆ แฟบๆ
03:06
And because the expansion and contraction causes their brightness to vary,
55
186997
3692
และเพราะการขยายตัวหรือการหดตัวมีผลกับความสว่างของมัน
03:10
we can calculate their luminosity by measuring the period of this cycle,
56
190689
4525
เราสามารถคำนวณความสว่างของมันได้จากระยะเวลาของวงจรนี้
03:15
with more luminous stars changing more slowly.
57
195214
3945
กับดาวที่สว่างกว่าและเปลี่ยนแปลงช้ากว่ามาก
03:19
By comparing the light we observe from these stars
58
199159
2375
โดยการเปรียบเทียบแสงที่เราเห็นได้จากดาวเหล่านั้น
03:21
to the intrinsic brightness we've calculated this way,
59
201534
2916
กับความสว่างจริงๆ ที่เราคำนวณได้ด้วยวิธีนี้
03:24
we can tell how far away they are.
60
204450
2486
เราสามารถตอบได้ว่ามันอยู่ไกลเท่าไร
03:26
Unfortunately, this is still not the end of the story.
61
206936
3309
แต่น่าเสียดายที่นี้ยังไม่ใช่ตอนจบของเรื่องนี้
03:30
We can only observe individual stars up to about 40,000,000 light years away,
62
210245
4551
เราสามารถวัดระยะห่างของดาวแต่ละดวง เพิ่มขึ้นถึงแค่ประมาณ 40,000,000 ปีแสง
03:34
after which they become too blurry to resolve.
63
214796
3097
ถ้าห่างกว่านี้มันจะมัวจนไม่สามารถสังเกตได้
03:37
But luckily we have another type of standard candle:
64
217893
3192
แต่โชคดีคือ เรามีหลอดไฟมาตรฐานอีกแบบหนึ่ง
03:41
the famous type 1a supernova.
65
221085
3380
ซูเปอร์โนวา แบบ 1a ที่โด่งดัง
03:44
Supernovae, giant stellar explosions are one of the ways that stars die.
66
224465
5282
ซูเปอร์โนวา คือ การระเบิดสว่างไสวครั้งใหญ่ เป็นวิธีหนึ่งที่ดวงดาวจะตายลง
03:49
These explosions are so bright,
67
229747
1833
การระเบิดนั้นสว่างมากๆ
03:51
that they outshine the galaxies where they occur.
68
231580
2932
สว่างกว่าความสว่างของทั้งกาแล็กซีที่มันเกิด
03:54
So even when we can't see individual stars in a galaxy,
69
234512
3189
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นดาวโดดๆ ในกาแล็กซี
03:57
we can still see supernovae when they happen.
70
237701
3142
เรายังคงเห็นซูเปอร์โนวาตอนที่มันเกิดขึ้น
04:00
And type 1a supernovae turn out to be usable as standard candles
71
240843
4168
และบังเอิญว่า ซุปเปอร์โนวาชนิด 1a นั้น สามารถใช้เป็นหลอดไฟมาตรฐานได้
04:05
because intrinsically bright ones fade slower than fainter ones.
72
245011
3627
เพราะซูเปอร์โนวาที่สว่างกว่าจะจางหายช้ากว่า
04:08
Through our understanding of this relationship
73
248638
2287
ด้วยความเข้าใจความสัมพันธ์ทั้งหมดนี้
04:10
between brightness and decline rate,
74
250925
2218
ระหว่างความสว่างและอัตราที่ความสว่างลดลง
04:13
we can use these supernovae to probe distances
75
253143
2419
เรายังสามารถใช้ซูเปอร์โนวาเหล่านี้หาระยะทางได้
04:15
up to several billions of light years away.
76
255562
3177
เพิ่มขึ้นถึงได้เป็นหลายพันล้านปีแสง
04:18
But why is it important to see such distant objects anyway?
77
258739
4809
แล้วทำไมการรู้ระยะห่างของพวกมันถึงสำคัญนัก
04:23
Well, remember how fast light travels.
78
263548
3114
จำได้ไหมว่าแสงเร็วแค่ไหน
04:26
For example, the light emitted by the Sun will take eight minutes to reach us,
79
266662
3959
ตัวอย่างเช่น แสงที่มาจากดวงอาทิตย์ ใช้เวลา 8 นาทีกว่าจะถึงเรา
04:30
which means that the light we see now is a picture of the Sun eight minutes ago.
80
270621
5947
นั่นหมายความว่าแสงที่เราเห็นตอนนี้ เป็นภาพของดวงอาทิตย์เมื่อ 8 นาทีที่แล้ว
04:36
When you look at the Big Dipper,
81
276568
1630
เมื่อคุณมองดูที่กลุ่มดาวกระบวยตักน้ำใหญ่ (Big dipper)
04:38
you're seeing what it looked like 80 years ago.
82
278198
3548
คุณจะเห็นมันเมื่อ 80 ปีที่แล้ว
04:41
And those smudgy galaxies?
83
281746
1688
และกาแล็กซีจางๆ เหล่านั้น
04:43
They're millions of light years away.
84
283434
2247
พวกนั้นห่างจากเราเป็นล้านปีแสง
04:45
It has taken millions of years for that light to reach us.
85
285681
3707
ใช้เวลาเป็นล้านปีกว่าที่แสงจะเดินทางมาถึงเรา
04:49
So the universe itself is in some sense an inbuilt time machine.
86
289388
5288
ในบางมุมมองจักรวาลเองก็เปรียบเสมือนกับ เครื่องย้อนเวลา
04:54
The further we can look back, the younger the universe we are probing.
87
294676
4572
ยิ่งเรามองไปได้ไกลเท่าไร ยิ่งทำให้เรามองดูจุดกำเนิดของจักรวาลมากขึ้นเท่านั้น
04:59
Astrophysicists try to read the history of the universe,
88
299248
3049
นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์พยายามที่จะ ศึกษาประวัติศาสตร์ของจักวาล
05:02
and understand how and where we come from.
89
302297
3758
และเพื่อเข้าใจว่าเรามาจากไหนและอย่างไร
05:06
The universe is constantly sending us information in the form of light.
90
306055
4815
จักรวาลส่งข้อมูลให้เราอย่างสม่ำเสมอในรูปของแสง
05:10
All that remains if for us to decode it.
91
310870
2875
ทุกอย่างยังคงอยู่และรอให้เราไขปริศนา
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7