This is Sparta: Fierce warriors of the ancient world - Craig Zimmer

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Rawee Ma

In ancient Greece, violent internal conflict between bordering neighbors

ในยุคกรีกโบราณ ความรุนแรงขัดแย้งภายใน ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน

and war with foreign invaders was a way of life,

และสงครามกับผู้รุกรานต่างแดน เป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน

and Greeks were considered premier warriors.

และชาวกรีกก็ได้ชื่อว่าเป็นนักรบชั้นเอก

Most Greek city-states surrounded themselves with massive defensive walls

บ้านเมืองส่วนใหญ่ของกรีกถูกล้อมรอบ ด้วยกำแพงป้องกันอย่างหนา

for added protection.

เพื่อเป็นการเพิ่มการป้องกัน

Sparta in its prime was a different story,

สปาต้าในช่วงที่รุ่งโรจน์นั้นต่างไป

finding walls unnecessary

พวกเขาบอกว่า กำแพงนั้นไม่จำเป็น

when it had an army of the most feared warriors in the ancient world.

เมื่อพวกเขามีกองทัพที่น่าเกรงขามที่สุด ในยุคโบราณ

So what was Sparta doing differently than everyone else

ชาวสปาต้าทำอย่างไรต่างกับคนอื่น ๆ

to produce such fierce soldiers?

ในการฝึกทหารสุดเหี้ยมเหล่านี้

To answer that question, we turn to the written accounts of that time.

เพื่อที่จะตอบคำถามนี้ เราต้องหันไปพึ่งบันทึกจากยุคนั้น

There are no surviving written accounts from Spartans themselves,

มันไม่มีบันทึกใดจากชาวสปาต้าเอง ที่เหลือรอดมาเลย

as it was forbidden for Spartans to keep records,

เพราะว่ามันเป็นเรื่องต้องห้าม สำหรับชาวสปาต้าที่จะทำบันทึก

so we have to rely on those of non-Spartan ancient historians,

ฉะนั้น เราจึงต้องพึ่งบันทึกจาก นักประวัติศาสตร์ที่ไม่ใช่ชาวสปาต้า

like Herodotus, Thucydides, and Plutarch.

เช่น เฮโรโดทัส, ทูซิดิเดส และพลูทาร์ช

These stories may be embellished

เรื่องราวเหล่านี้อาจถูกตีไข่ใส่สี

and depict Sparta at the apex of its power,

และพรรณาถึงสปาต้า ตอนที่พวกเขารุ่งเรืองถึงขีดสุด

so take them with a grain of salt.

ฉะนั้นพินิจพิจารณาข้อมูลนี้ให้ดี

For Spartans, the purpose for their existence was simple:

สำหรับชาวสปาต้า จุดประสงค์ของพวกเขานั้นไม่มีอะไรมาก

to serve Sparta.

เพื่อที่จะรับใช้สปาต้า

On the day of their birth,

ในวันที่พวกเขาเกิด

elder Spartan leaders examined every newborn.

ผู้นำสปาต้าอาวุโสสำรวจเด็กแรกเกิดทุกคน

The strong healthy babies were considered capable of fulfilling this purpose,

ทารกที่แข็งแรงสุขภาพดีถูกพิจารณาว่า มีความเหมาะสมตามจุดประสงค์ดังกล่าว

and the others may have been left on Mount Taygetus to die.

และทารกที่ไม่แข็งแรงอาจปล่อยถูกทิ้ง ให้ตายที่ภูเขา เทย์เกทัส

Every Spartan, boy or girl, was expected to be physically strong,

ชาวสปาต้าทุกคน ทั้งชายหญิง ถูกกำหนดว่าจะต้องมีร่างกายแข็งแรง

mentally sharp,

มีปัญญาเฉียบคม

and emotionally resilient.

และมีจิตใจที่มั่นคง

And it was their absolute duty to defend and promote Sparta at all costs.

และมันเป็นหน้าที่ของพวกเขาทุกคนที่จะปกป้อง และส่งเสริมสปาต้าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม

So in the first years of their lives,

ฉะนั้น ในขวบปีแรกของชีวิต

children were raised to understand that their loyalty belonged first to Sparta,

เด็ก ๆ จะถูกฝึกให้เข้าใจว่า พวกเขาจะต้องจงรักภักดีต่อสปาต้าเป็นอันดับแรก

and then to family.

มากกว่าครอบครัวของตัวเอง

This mindset probably made it easier for the Spartan boys,

แนวคิดนี้อาจทำให้ง่ายขึ้น สำหรับเด็กชายชาวสปาต้า

who upon turning seven, were sent to the agoge,

ที่เมื่อมีอายุได้เจ็ดขวบจะถูกส่งไปฝึกฝน

a place with one main purpose:

ในที่ซึ่งมีจุดประสงค์เพียงหนึ่งเดียว

to turn a boy into a Spartan warrior

คือทำให้เด็กชายกลายเป็นนักรบสปาต้า

through thirteen years of relentless, harsh, and often brutal training.

ผ่านสิบสามปีของการฝึกฝน ที่เข้มงวด สาหัส และมักจะทารุณ

The Spartans prized physical perfection above all else,

ชาวสปาต้าให้คุณค่ากับความสมบูรณ์ทางกาย มากกว่าสิ่งใด ๆ

and so the students spent a great deal of their time learning how to fight.

ฉะนั้นนักเรียนทั้งหลายจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ ไปกับการฝึกการต่อสู้

To ensure resilience in battle,

เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะเข้มแข็งในสนามรบ

boys were encouraged to fight among themselves,

เด็กชายจะถูกสนับสนุนให้สู้กันเอง

and bullying, unlike today, was acceptable.

และข่มเหงรังแกกัน ซึ่งต่างกับในปัจจุบัน มันเป็นที่ยอมรับ

In order to better prepare the boys for the conditions of war,

เพื่อที่จะตระเตรียมเด็กชายให้พร้อม ต่อการศึกสงคราม

the boys were poorly fed,

เด็กชายเหล่านั้นไม่ได้รับอาหารอย่างเพียงพอ

sometimes even going days without eating.

บางครั้งก็ไม่ได้กินอะไรเลยเป็นเวลาหลายวัน

They also were given little in the way of clothing

พวกเขาได้รับเสื้อผ้าไม่มากนัก

so that they could learn to deal with different temperatures.

เพื่อที่พวกเขาจะสามารถเรียนรู้ ในการปรับตัวต่ออุณหภูมิต่าง ๆ

Spartan boys were encouraged to steal in order to survive,

เด็กชายชาวสปาต้าถูกส่งเสริมให้ขโมย เพื่อที่จะอยู่รอด

but if they were caught,

แต่ถ้าพวกเขาถูกจับได้

they would be disciplined,

พวกเขาจะถูกลงโทษ

not because they stole, but because they were caught in the act.

ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาขโมยของ แต่เพราะว่าพวกเขาถูกจับได้

During the annual contest of endurance

ระหว่างการประชันความอึดประจำปี

in a religious ritual known as the diamastigosis,

ในพิธีกรรมทางศาสนาที่เรีกยว่า ไดอมาสติโกซิส

teenage boys were whipped in front of an altar

เด้กชายวัยรุ่นถูกเฆี่ยนที่แทนบูชา

at the Sanctuary of Artemis Orthia.

ที่ แซงทูเอรี ออฟ อาร์ทิมิส ออร์เทีย

It was common for boys to die on the altar of the goddess.

มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีเด็กชาย ตายอยู่ตรงแท่นบูชาเทพ

Fortunately, not everything was as brutal as that.

โชคดี ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะโหดร้ายทารุณแบบนั้น

Young Spartans were also taught how to read,

เด็ก ๆ ชาวสปาต้าถูกสอนให้อ่าน

write,

เขียน

and dance,

และเต้นรำ

which taught them graceful control of their movements

ซึ่งเป็นการสอนให้พวกเขาควบคุมร่างกาย ได้อย่างสวยงาม

and helped them in combat.

และช่วยพวกเขาในการรบ

While the responsibilities for the girls of Sparta were different,

ในขณะที่ภาระรับผิดชอบของเด็กหญิงชาวสปาต้า แตกต่างออกไป

the high standards of excellence

มาตราฐานความเป็นเลิศ

and expectation to serve Sparta with their lives remained the same.

และความคาดหวังที่พวกเขาจะต้องรับใช้สปาต้าด้วยชีวิต ก็ไม่ได้แตกต่างกัน

Spartan girls lived at home with their mothers as they attended school.

เด็กหญิงชาวสปาต้าอาศัยอยู่ที่บ้านกับแม่ เมื่อพวกเขาไปโรงเรียน

Their curriculum included the arts,

บทเรียนของพวกเขารวมไปถึงศิลปะ

music,

ดนตรี

dance,

การเต้นรำ

reading,

การอ่าน

and writing.

และการเขียน

And to stay in peak physical condition, they learned a variety of sports,

และเพื่อที่จะมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงถึงขีดสุด พวกเขาเรียนกีฬาต่าง ๆ มากมาย

such as discus,

เช่น ขว้างจักร

javelin,

พุ่งแหลน

and horseback riding.

และขี่ม้า

In Sparta, it was believed that only strong and capable women

ในสปาต้า พวกเขาเชื่อว่า มีแต่หญิงที่แข็งแรงและเหมาะสมเท่านั้น

could bear children that would one day become strong and capable warriors.

ที่จะสามารถให้กำเนิดเด็ก ๆ ที่วันหนึ่งจะเติบโต อย่างแข็งแรงและเหมาะที่จะเป็นนักรบ

To all Spartans, men and women,

สำหรับชาวสปาต้าทุกคน ทั้งชายและหญิง

perhaps the most important lesson from Spartan school

บางทีบทเรียนที่สำคัญที่สุดจากโรงเรียนสปาต้า

was allegiance to Sparta.

คือ ความจงรักภักดีต่อสปาต้า

To die for their city-state was seen as the completion of one's duty to Sparta.

การสละชีพเพื่อบ้านเมืองถูกพิจารณาว่า เป็นภาระหน้าที่ที่สมบูรณ์ในฐานะชาวสปาต้า

Upon their death,

ตอนที่เสียชีวิต

only men who died in battle and women who died in childbirth

มีแต่ชายที่ตายในสนามรบ และหญิงที่ตายขณะให้กำเนิดบุตรเท่านั้น

were given tombstones.

ที่จะถูกบรรจุในหีบศพ

In the eyes of their countrymen, both died so that Sparta could live.

ในสายตาของเพื่อนร่วมชาติ บุคคลสองจำพวกนี้ ตายเพื่อที่จะให้สปาต้าคงอยู่