Why didn’t this 2,000 year old body decompose? - Carolyn Marshall

Translator: Jiratha Jit Reviewer: Jimmy Tangjaitrong

In 1984, two field workers discovered a body in a bog outside Cheshire, England.

ในปี ค.ศ. 1984 สองนักสำรวจภาคสนามพบศพมนุษย์

ในหนองน้ำนอกมณฑลเชชเชอร์ ประเทศอังกฤษ

Officials named the body the Lindow Man

เจ้าหน้าที่เรียกเขาว่า ลินโดว์แมน

and determined that he’d suffered serious injuries,

และลงความเห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

including blunt trauma and strangulation.

มีบาดแผลจากการถูกกระแทกและรอยบีบที่คอ

But the most shocking thing about this gruesome story

แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุด ในเรื่องสยดสยองนี้ ก็คือ

was that they were able to determine these details from a body over 2,000 years old.

เจ้าหน้าที่สามารถระบุรายละเอียดเหล่านั้น จากศพมนุษย์ที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปีได้

Typically, decomposition would make such injuries hard to detect

โดยปกติแล้ว การย่อยสลาย จะทำให้พบบาดแผลได้ยาก

on a body buried just weeks earlier.

แม้ว่าจะเพิ่งฝังไปเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน

So why was this corpse so perfectly preserved?

แล้วทำไมศพมนุษย์นี้ถึงคงสภาพไว้อย่างดีล่ะ

And why don't all bodies stay in this condition?

และทำไมศพทุกศพไม่สามารถอยู่ในสภาพนี้ได้

The answers to these questions live six feet underground.

คำตอบของคำถามเหล่านั้นอยู่ลึกลงไปใต้ผิวดิน

It may not appear very lively down here,

ข้างใต้นี้อาจจะไม่น่ารื่นรมย์มากนัก

but a single teaspoon of soil contains more organisms

แต่ดินเพียงหนึ่งช้อนชากลับมีสิ่งมีชีวิต

than there are human beings on the planet.

มากกว่ามนุษย์บนดาวดวงนี้เสียอีก

From bacteria and algae to fungi and protozoa,

มีตั้งแต่แบคทีเรีย ตะไคร่

เห็ดรา ไปจนถึงโปรโตซัว

soils are home to one quarter of Earth’s biodiversity.

ดินมีความหลากหลายทางชีวภาพ มากถึงหนึ่งในสี่ของโลก

And perhaps the soil’s most important inhabitants are microbes,

บางที สิ่งมีชีวิตในดินที่สำคัญที่สุด

ก็อาจเป็น จุลินทรีย์

organisms no larger than several hundred nanometers

สิ่งมีชีวิตขนาดไม่เกิน 200-300 นาโนเมตร

that decompose all the planet’s dead and dying organic material.

ซึ่งช่วยย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิต และวัสดุอินทรีย์ที่ใกล้หมดอายุ

Imagine we drop an apple in the forest.

สมมติว่าเราทำแอปเปิ้ลตกในป่า

As soon as it contacts the soil,

ทันทีที่มันสัมผัสพื้นดิน

worms and other invertebrates begin breaking it down into smaller parts;

หนอนและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่น ๆ จะเริ่มกัดกินแอปเปิ้ลจนกลายเป็นชิ้นเล็ก

absorbing nutrients from what they consume and excreting the rest.

ดูดกลืนสารอาหารจากสิ่งที่พวกมันกิน และขับถ่ายออกมา

This first stage of decomposition sets the scene for microbes.

ขั้นแรกของการย่อยสลายได้ปูทาง ให้กับจุลินทรีย์แล้ว

The specific microbes present depend on the environment.

จุลินทรีย์บางชนิดก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม

For example, in grasslands and farm fields there tend to be more bacteria,

เช่น ในทุ่งหญ้าและไร่นา

จะมีแบคทีเรียมากกว่า

which excel at breaking down grass and leaves.

ซึ่งจะย่อยหญ้าและใบไม้ได้ดี

But in this temperate forest there are more fungi,

ขณะที่ป่าไม้ในเขตอบอุ่นจะมีเห็ดรามากกว่า

capable of breaking down complex woody materials.

ทำให้สามารถย่อยวัสดุที่เป็นไม้ และมีโครงสร้างซับซ้อนได้

Looking to harvest more food from the apple’s remains,

เมื่อจุลินทรีย์ต้องการ เก็บเกี่ยวอาหารอื่น ๆ จากซากแอปเปิ้ล

these microbes release enzymes

มันจะปล่อยเอนไซม์

that trigger a chemical reaction called oxidation.

ที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมี ซึ่งเรียกว่า ออกซิเดชัน

This breaks down the molecules of organic matter, releasing energy,

ปฏิกิริยานี้จะย่อยโมเลกุลของอินทรียวัตถุ

ซึ่งจะปล่อยพลังงาน คาร์บอน และสารอาหารอื่น ๆ ออกมา

carbon, and other nutrients in a process called mineralization.

จึงเป็นกระบวกการที่เรียกว่า การเปลี่ยนเป็นแร่ธาตุ

Then microbes consume the carbon and some nutrients,

แล้วจุลินทรีย์ก็จะกินคาร์บอน และสารอาหารบางอย่างเข้าไป

while excess molecules of nitrogen, sulfur, calcium, and more

ขณะเดียวกันโมเลกุลไนโตรเจน ซัลเฟอร์ แคลเซียม และอื่น ๆ ที่เกินออกมา

are left behind in the soil.

จะถูกทิ้งไว้ในดิน

As insects and worms eat more of the apple,

ยิ่งแมลงและหนอน กินแอปเปิ้ลเข้าไปมากเท่าไร

they expose more surface area for these microbial enzymes

มันก็จะยิ่งเปิดพื้นผิวให้เอนไซม์จุลินทรีย์

to oxidize and mineralize.

ทำปฏิกิริยาออกซิเดชัน และเปลี่ยนเป็นแร่ธาตุ

Even the excretions they leave behind are mined by microbes.

แม้ว่าจะเป็นของเสียที่หนอนขับออกมา ก็ยังถูกจุลินทรีย์ย่อย

This continues until the apple is reduced to nothing—

กระบวนการนี้จะดำเนินต่อไป จนแอปเปิ้ลไม่เหลือซาก

a process that would take one to two months in a temperate forest.

ซึ่งอาจจะใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือน ในป่าเขตอบอุ่น

Environments that are hot and wet support more microbes

สภาพแวดล้อมร้อนชื้นจะเอื้อต่อจุลินทรีย์

than places that are cold and dry,

มากกว่าพื้นที่ที่มีอากาศแห้งและเย็น

allowing them to decompose things more quickly.

และทำให้จุลินทรีย์ย่อยสสารได้เร็วขึ้นด้วย

And less complex organic materials break down faster.

อินทรียวัตถุที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อนนัก จะย่อยได้เร็วกว่า

But given enough time,

แต่ถ้ามีเวลามากพอ

all organic matter is reduced to microscopic mineral nutrients.

อินทรียวัตถุทุกอย่างจะถูกลดขนาด จนเป็นแร่ธาตุขนาดเล็กเสียจนมองไม่เห็น

The atomic bonds between these molecules are too strong to break down any further.

พันธะของอะตอมระหว่างโมเลกุลนั้นแข็งแรงมาก เสียจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้

So instead, these nutrients feed plant life,

ดังนั้นแล้ว สารอาหารเหล่านี้ จึงหล่อเลี้ยงชีวิตพืช

which grow more food that will eventually decompose.

ซึ่งจะให้ผลผลิตและสุดท้ายก็ย่อยสลายไป

This constant cycle of creating and decomposing supports all life on Earth.

วัฏจักรของการสร้างและย่อยสลาย ที่เกิดอย่างต่อเนื่องนี้

รองรับสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งบนโลก

But there are a few environments too hostile for these multi-talented microbes—

แต่ก็มีบางสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายเกินไป สำหรับจุลินทรีย์ที่มากความสามารถเหล่านี้

including the peat bogs outside Cheshire, England.

รวมไปถึงหนองน้ำที่ดินมีซากพืชซากสัตว์ นอกมณฑลเชชเชอร์ ประเทศอังกฤษ

Peat bogs are mostly made of highly acidic Sphagnum mosses.

หนองน้ำลักษณะนี้มักจะมี สแฟกนัมมอสที่มีความเป็นกรดสูง

These plants acidify the soil while also releasing a compound

พืชเหล่านี้จะทำให้ดินเป็นกรด ขณะเดียวกันก็ปล่อยสารประกอบ

that binds to nitrogen, depriving the area of nutrients.

ที่จะจับตัวกับไนโตรเจน ทำให้บริเวณนั้นสูญเสียสารอาหาร

Alongside cold northern European temperatures,

นอกจากนี้ยังมีสภาพอากาศเย็น จากทางตอนเหนือของยุโรป

these conditions make it impossible for most microbes to function.

จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จุลินทรีย์จะทำงาน

With nothing to break them down,

เมื่อไม่มีอะไรสามารถย่อยพวกมอสได้

the dead mosses pile up, preventing oxygen from entering the bog.

พวกมอสที่ตายแล้วก็จะกองทับกัน และขัดขวางไม่ให้ออกซิเจนเข้ามาในหนองน้ำ

The result is a naturally sealed system.

ผลที่ได้ก็คือกลไกการปิดผนึกโดยธรรมชาติ

Whatever organic matter enters a peat bog just sits there— like the Lindow Man.

วัตถุอินทรีย์ใด ๆ ที่เข้ามาในหนองน้ำนี้ ก็จะคงสภาพเหมือนเดิม เหมือนลินโดว์แมน

The acid of the bog was strong enough

กรดในหนองน้ำนั้นเข้มข้นมากพอ

to dissolve relatively simple material like bone,

ที่จะละลายวัสดุโครงสร้างง่าย ๆ อย่างกระดูกได้ค่อนข้างดี

and it turned more complex tissue like skin and organs pitch black.

และสามารถเปลี่ยนเนื้อเยื่อที่มีความซับซ้อน อย่างผิวหนังและอวัยวะให้เป็นสีดำสนิท

But his corpse is otherwise so well-preserved,

แต่ถึงอย่างนั้น

ศพนี้ก็คงสภาพไว้ได้อย่างดี

that we can determine he was healthy, mid-20s,

จนเราบอกได้ว่าเขามีสุขภาพดี

อายุ 20 กลาง ๆ

and potentially wealthy as his body shows few signs of hard labor.

และอาจมีฐานะดี เพราะร่องรอยจากการทำงานหนักบนตัวศพน้อย

We even know the Lindow Man’s last meal—

รู้แม้กระทั่งอาหารมื้อสุดท้ายของลินโดว์แมน

a still undigested piece of charred bread.

ขนมปังปิ้งเกรียม ๆ ที่ยังไม่ย่อยดี

Scholars are less certain about the circumstances of his death.

นักวิชาการไม่ค่อยมั่นใจ เรื่องสาเหตุการตายของเขานัก

While cold-blooded murder is a possibility,

แม้จะเป็นไปได้ ที่เขาจะถูกฆาตกรรมอย่างเลือดเย็น

the extremity of his injuries suggest a ritual sacrifice.

แต่บาดแผลฉกรรจ์บอกว่า เขาอาจจะถูกจับไปสังเวยชีวิตเพื่อบูชายัญ

Even 2,000 years ago,

แม้จะผ่านมา 2,000 ปีแล้ว

there’s evidence the bog was known for its almost supernatural qualities;

ก็ยังมีหลักฐานที่บ่งบอกว่า หนองน้ำนี้อาจมีพลังเหนือธรรมชาติ

a place where the soil beneath your feet wasn’t quite dead or alive.

ซึ่งบอกไม่ได้ว่าพื้นดินใต้เท้าเรา เป็นดินตาย หรือ ดินเป็น