The real story behind Archimedes’ Eureka! - Armand D'Angour

Translator: Pongsakorn Puavaranukroh Reviewer: Rawee Ma

When you think of Archimedes' "Eureka!" moment,

เมื่อคุณคิดถึงเหตุการณ์ "ยูเรก้า!" ของอาร์คิมิดีส

you probably think of this.

คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นแบบนี้

As it turns out, it may have been more like this.

แต่จริงๆแล้ว มันอาจจะเป็นแบบนี้มากกว่า

In the third century BC, Hieron, king of the Sicilian city of Syracuse,

ในช่วงศตรวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล ไฮรอน ราชาเมืองซีราคิวส์ ในซิซิลี

chose Archimedes to supervise

เลือกอาร์คิมิดีสให้มาควบคุมดูแล

an engineering project of unprecedented scale.

งานวิศวกรรมที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน

Hieron commissioned a sailing vessel

ไฮรอนได้ขอให้สร้างเรือขึ้นลำหนึ่ง

50 times bigger than a standard ancient warship,

ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเรือมาตรฐานในสมัยนั้น ถึง 50 เท่า

named the Syracusia after his city.

ตั้งชื่อตามชื่อเมืองเขาว่า ซีราคิวเซีย

Hieron wanted to construct the largest ship ever,

เขาต้องการที่จะสร้างเรือที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยมีการสร้างมา

which was destined to be given as a present

เพื่อเป็นของกำนัลแก่

for Egypt's ruler, Ptolemy.

ปทอเลมี กษัตริย์แห่งอียิปต์

But could a boat the size of a palace possibly float?

แต่เรือที่ขนาดใหญ่เท่าวัง จะลอยน้ำได้จริงๆหรือ?

In Archimedes's day, no one had attempted anything like this.

ในยุคนั้น ไม่เคยมีใครลองทำอะไรแบบนี้มาก่อน

It was like asking, "Can a mountain fly?"

เหมือนกับตำถาม "ภูเขาสามารถบินได้หรือไม่?"

King Hieron had a lot riding on that question.

กษัตริย์ไฮรอนได้เสี่ยงเดิมพันกับมัน

Hundreds of workmen were to labor for years on constructing the Syracusia

คนงานหลายร้อยคนทำงานอย่างหนักตลอดหลายปี ในการสร้างเรือซีราคิวเซีย

out of beams of pine and fir from Mount Etna,

ด้วยซุงไม้สนจากภูเขาเอทน่า

ropes from hemp grown in Spain,

เชือกจากป่านที่ปลูกในสเปน

and pitch from France.

และยางไม้จากฝรั่งเศส

The top deck, on which eight watchtowers were to stand,

บนดาดฟ้าเรือที่จะมีหอสังเกตการณ์ถึง 8 หอ

was to be supported not by columns,

เสาค้ำที่ใช้จะไม่ใช่เสาธรรมดา

but by vast wooden images of Atlas holding the world on his shoulders.

แต่จะใช้เป็นรูปสลักไม้ขนาดใหญ่ ของยักษ์แอทลาส ผู้แบกโลกบนบ่า

On the ship's bow,

ส่วนบริเวณหัวเรือ

a massive catapult would be able to fire 180 pound stone missiles.

จะติดตั้งเครื่องยิงหินขนาดยักษ์ ที่สามารถยิงหินหนัก 180 ปอนด์ได้

For the enjoyment of its passengers,

ด้านความบันเทิงสำหรับผู้โดยสาร

the ship was to feature a flower-lined promenade,

ก็จะมีทางเดินสำหรับชมดอกไม้

a sheltered swimming pool,

มีสระว่ายน้ำในร่ม

and bathhouse with heated water,

โรงอาบน้ำที่บริการพร้อมน้ำอุ่น

a library filled with books and statues,

ห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือและรูปปั้น

a temple to the goddess Aphrodite,

มีวิหารเทพีอโฟรไดท์

and a gymnasium.

และก็โรงยิม

And just to make things more difficult for Archimedes,

และเพื่อให้มันยุ่งยากขึ้นไปอีก สำหรับอาร์คิมิดีส

Hieron intended to pack the vessel full of cargo:

ไฮรอนยังตั้งใจที่จะบรรทุกสินค้าให้เต็มลำเรือ

400 tons of grain,

ธัญพืช 400 ตัน

10,000 jars of pickled fish,

ปลาดอง 10,000 ไห

74 tons of drinking water,

น้ำดื่ม 74 ตัน

and 600 tons of wool.

และ ขนสัตว์อีก 600 ตัน

It would have carried well over a thousand people on board,

มันยังจะต้องบรรทุกผู้โดยสาร อีกกว่า 1000 คน

including 600 soldiers.

รวมทั้งทหาร 600 นาย

And it housed 20 horses in separate stalls.

และมีคอกม้าสำหรับม้า 20 ตัว

To build something of this scale,

การสร้างอะไรที่ใหญ่โตขนาดนี้

only for that to sink on its maiden voyage?

เพียงเพื่อให้มันจมตั้งแต่ออกเรือเที่ยวแรก อย่างนั้นหรือ?

Well, let's just say that failure

เอาเป็นว่า คำว่าล้มเหลว

wouldn't have been a pleasant option for Archimedes.

ไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าพอใจสำหรับอาร์คิมิดีส

So he took on the problem: will it sink?

เขาจึงขบคิดถึงปัญหานี้ : มันจะจมหรือไม่?

Perhaps he was sitting in the bathhouse one day,

บางทีวันหนึ่งขณะที่เขากำลังนั่งอยู่ในโรงอาบน้ำ

wondering how a heavy bathtub can float,

กำลังแปลกใจอยู่ว่าอ่างอาบน้ำหนักๆนั้น ลอยน้ำได้อย่างไร

when inspiration came to him.

นั่นอาจเป็นตอนที่ไอเดียเกิดปิ๊งขึ้นมา

An object partially immersed in a fluid is buoyed up by a force

วัตถุที่จมอยู่ในของเหลวบางส่วน จะเกิดแรงลอยตัว

equal to the weight of the fluid displaced by the object.

เท่ากับน้ำหนักของของเหลว ที่ถูกแทนที่ด้วยวัตถุนั้น

In other words, if a 2,000 ton Syracusia displaced exactly 2,000 tons of water,

หรือก็คือ ถ้าเรือซีราคิวเซียที่หนัก 2,000 ตัน สามารถแทนที่น้ำจำนวน 2,000 ตันได้

it would just barely float.

มันก็จะลอยปริ่มๆน้ำ

If it displaced 4,000 tons of water, it would float with no problem.

แต่ถ้ามันสามารถแทนที่น้ำได้ถึง 4,000 ตัน มันก็จะลอยน้ำได้อย่างสบายๆ

Of course, if it only displaced 1,000 tons of water,

แน่นอนว่าถ้าเกิดมันแทนที่น้ำได้เพียง 1,000 ตัน

well, Hieron wouldn't be too happy.

กษัตริย์ไฮรอนคงจะหัวเราะไม่ออกแน่

This is the law of buoyancy,

นี่คือ กฏของแรงลอยตัว

and engineers still call it Archimedes' Principle.

วิศวกรยังคงเรียกมันว่า กฎของอาร์คิมิดีส (Archimedes’ Principle)

It explains why a steel supertanker can float as easily as a wooden rowboat

มันอธิบายว่า ทำไมเรือบรรทุกน้ำมันขนาดยักษ์ จึงลอยน้ำได้สบายๆไม่ต่างจากเรือพาย

or a bathtub.

หรืออ่างอาบน้ำ

If the weight of water displaced by the vessel below the keel

ถ้าน้ำหนักของน้ำที่ถูกแทนที่โดยเรือ

is equivalent to the vessel's weight,

หนักเท่ากับน้ำหนักของเรือนั้น

whatever is above the keel will remain afloat above the waterline.

อะไรก็ตามที่อยู่เหนือกระดูกงูขึ้นไป ก็จะคงลอยตัวเหนือระดับน้ำนั้นได้

This sounds a lot like another story involving Archimedes and a bathtub,

นี่ฟังดูคล้ายมากกับเรื่องของอาร์คิมิดีสกับอ่างอาบน้ำ

and it's possible that's because they're actually the same story,

มันอาจเป็นไปได้ เพราะจริงๆแล้วมันเป็นเรื่องเดียวกัน

twisted by the vagaries of history.

ที่ถูกบิดเบือนไปโดยประวัติศาสตร์ที่ไม่แน่นอน

The classical story of Archimedes' Eureka! and subsequent streak through the streets

เหตุการณ์ยูเรก้า! ของอาร์คิมิดีส ฉบับคลาสสิก ที่ตามมาด้วยการวิ่งแก้ผ้าไปตามถนนนั้น

centers around a crown, or corona in Latin.

ศูนย์กลางของเรื่องอยู่ที่มงกุฎ หรือ โคโรนาในภาษาลาติน

At the core of the Syracusia story is a keel, or korone in Greek.

แต่ในเวอร์ชั่น เรือซีราคิวเซียนี้ ศูนย์กลางของเรื่อง คือ เรือ หรือ โคโรเน ในภาษากรีก

Could one have been mixed up for the other?

เป็นไปได้ไหมที่เรื่องนึงเกิดจำ สับสนกลายเป็นอีกเรื่อง?

We may never know.

เราไม่อาจบอกได้

On the day the Syracusia arrived in Egypt on its first and only voyage,

ในวันที่เรือซีราคิวเซียแล่นมาถึงอียิปต์ ในการเดินทางเที่ยวแรกและเที่ยวเดียว

we can only imagine how residents of Alexandria thronged the harbor

เราคงนึกภาพออกว่าฝูงชนชาวอะเล็กซานเดรีย จะเนื่องแน่นท่าเรือขนาดไหน

to marvel at the arrival of this majestic, floating castle.

เพื่อที่จะตกตะลึงกับการมาถึงของ ปราสาทลอยน้ำอันหรูหรา

This extraordinary vessel was the Titanic of the ancient world,

เรือลำนี้เปรียบได้กับเรือไททานิกในยุคโบราณ

except without the sinking, thanks to our pal, Archimedes.

เว้นแต่ว่ามันไม่ได้จมลงสู่ก้นทะเล ต้องขอบคุณที่เรามี อาร์คิมิดีส