Can loud music damage your hearing? - Heather Malyuk

Translator: Popo Suppanuch Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

After a three-hour concert by her favorite Norwegian metal band,

หลังจากดูคอนเสิร์ตวงดนตรีเมทัลจากนอร์เวย์ วงโปรดของเธอเป็นเวลา 3 ชั่วโมง

Anja finds it difficult to hear her friend rave about the show.

อันยารู้สึกไม่ค่อยได้ยินเสียงเพื่อนเธอ พูดพร่ำเพ้อเกี่ยวกับคอนเสิร์ตเมื่อกี้เลย

It sounds like he's speaking from across the room,

เหมือนกับเขากำลังพูดจาก อีกฝั่งหนึ่งของห้อง

and it’s tough to make out his muted voice over the ringing in her ears.

และมันยากที่จะได้ยินเสียงของเขา ขณะที่หูของเธอยังอื้ออยู่

By the next morning, the effect has mostly worn off,

จนเช้าวันต่อมา อาการเหล่านี้ก็หายไป

but Anja still has questions.

แต่อันยายังคงสงสัยอยู่

What caused the symptoms? Is her hearing going to fully recover?

อะไรเป็นสาเหตุให้เกิดอาการเหล่านี้ การได้ยินของเธอจะหายดีทั้งหมดมั้ย

And can she still go to concerts without damaging her ears?

และเธอยังสามารถไปคอนเสิร์ต โดยไม่ทำลายหูของเธอได้อยู่มั้ย

To answer these questions,

เพื่อจะตอบคำถามพวกนี้

we first need to understand what sound is and how we hear it.

เราต้องเข้าใจก่อนว่าเสียงคืออะไร และเราได้ยินได้อย่างไร

Like a pebble creating ripples in water,

เหมือนเวลาที่น้ำกระเพื่อมออก เมื่อก้อนกรวดตกกระทบ

sound is created when displaced molecules vibrate through space.

เสียงเกิดขึ้นเมื่อโมเลกุล เกิดการสั่นผ่านพื้นที่ว่าง

While sound vibrations can travel through solids and liquids,

การสั่นของเสียงสามารถเคลื่อนที่ผ่าน ได้ทั้งของแข็งและของเหลว

our ears have evolved to process vibrations in the air.

หูของเรามีวิวัฒนาการให้สามารถเปลี่ยนแปลง การสั่นในอากาศนี้ได้

These waves of air pressure enter our ear canals and bounce off the eardrum.

คลื่นแรงดันอากาศเหล่านี้ผ่านเข้ามาใน รูหูของเราและสะท้อนไปยังแก้วหู

A trio of bones called the ossicular chain

3 ชิ้นนี้คือกระดูกของหู

then carries those vibrations into the cochlea,

ซึ่งจะนำการสั่นนี้ไปยังท่อรูปหอยโข่ง

transforming waves of air pressure into waves of cochlear fluid.

แล้วเปลี่ยนคลื่นแรงดันอากาศไปเป็น คลื่นของของเหลวในท่อรูปหอยโข่ง

Here, our perception of sound begins to take form.

ตรงนี้แหละ ที่เราจะเริ่มเกิดการรับรู้เสียง

The waves of fluid move the basilar membrane,

คลื่นของเหลวเหล่านี้เคลื่อนที่ ไปยังเยื่อกั้นหูชั้นใน

a tissue lined with tens of thousands of hair cells.

ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่มีเซลล์ขน หลายหมื่นเส้นเรียงตัวอยู่

The specific vibration of these hair cells and the stereocilia on top of each one

การสั่นโดยเฉพาะของเซลล์ขน และส่วนที่ยื่นออกมาด้านบนของเซลล์ขนนั้น

determine the auditory signal our brain perceives.

จะกำหนดประเภทสัญญาณการได้ยิน ที่สมองจะได้รับ

Unfortunately, these essential cells are also quite vulnerable.

แต่น่าเสียดายที่เซลล์ที่จำเป็นพวกนี้ ค่อนข้างจะเปราะบาง

There are two properties of sound that can damage these cells.

มีองค์ประกอบของเสียง 2 อย่าง ที่จะทำลายเซลล์เหล่านี้ได้

The first is volume.

อย่างแรกคือระดับเสียง

The louder a sound is, the greater the pressure of its vibrations.

ยิ่งเสียงดัง แรงดันจากการสั่นก็ยิ่งมากขึ้น

While the ear’s upper limits vary from person to person,

ในขณะที่ขีดจำกัดสูงสุดของหู แต่ละคนแตกต่างกัน

close range exposure to sound exceeding 120 decibels

การได้ยินเสียงที่ดังเกิน 120 เดซิเบลในระยะใกล้

can instantly bend or blow out hair cells, resulting in permanent hearing damage.

จะสามารถทำให้เซลล์ขนงอหรือถูกทำลายในทันที ส่งผลให้การได้ยินถูกทำลายอย่างถาวร

The pressure of more powerful sounds can even dislocate the ossicular chain

แรงดันของเสียงที่รุนแรงมากกว่านี้ยังสามารถ ทำให้กระดูกหู 3 ชิ้นหลุดจากกันได้ด้วย

or burst an eardrum.

หรือแม้กระทั่งทำให้แก้วหูระเบิด

The other side of this equation is the sound’s duration.

องค์ประกอบอีกอย่างคือระยะเวลาของเสียง

While dangerously loud sounds can injure ears almost instantly,

ในขณะที่เสียงดังอันตรายนี้ทำลายหูในทันที

hair cells can also be damaged

เซลล์ขนก็สามารถถูกทำลายได้เหมือนกัน

by exposure to lower sound pressure for long periods.

จากการได้ยินเสียงที่มีแรงดันต่ำกว่า แต่เป็นเวลานาน ๆ

For example, hearing a hand dryer is safe for the 20 seconds you’re using it.

เช่น การได้ยินเสียงไดรเป่าผมในขณะใช้ จะปลอดภัยแค่ 20 วินาทีเท่านั้น

But if you listened for 8 consecutive hours,

แต่ถ้าคุณได้ยินติดต่อกันเป็นเวลา 8 ชั่วโมง

this relatively low-pressure sound would overwork the stereocilia

เสียงที่มีแรงดันค่อนข้างต่ำนี้จะทำให้ ส่วนที่ยื่นออกมาจากเซลล์ขนทำงานหนักเกินไป

and swell the hair cell’s supporting tissue.

และทำให้เนื้อเยื่อของเซลล์ขนบวมออก

Swollen hair cells are unable to vibrate with the appropriate speed and accuracy,

การบวมของเซลล์ขนทำให้มันไม่สามารถสั่น ในความเร็วและความแม่นยำที่เหมาะสม

making hearing muffled.

ทำให้ได้ยินเสียงอู้อี้

This kind of hearing loss is known as a temporary threshold shift,

การสูญเสียการได้ยินเช่นนี้เรียกว่า การสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราว

and many people will experience it at least once in their lifetime.

และคนมากมายมักเคยมีอาการนี้ อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต

In Anja’s case, the loud sounds of the concert

อย่างกรณีของอันยา เสียงที่ดังของคอนเสิร์ต

only took three hours to cause this condition.

ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเพื่อให้เกิดอาการนี้

Fortunately, it's a temporary ailment that usually resolves

แต่โชคดีที่มันเป็นอาการป่วยชั่วคราว ที่มักจะหายไป

as swelling decreases over time.

รวมถึงอาการหูอื้อก็จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

In most cases,

ในกรณีส่วนใหญ่

simply avoiding hazardous sounds gives hair cells all they need to recover.

แค่การหลีกเลี่ยงเสียงที่อันตรายก็ทำให้ เซลล์ขนฟื้นตัวได้ทั้งหมดแล้ว

One temporary threshold shift isn’t likely to cause permanent hearing loss.

การสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวจะ ไม่ส่งผลให้สูญเสียการได้ยินแบบถาวร

But frequent exposure to dangerous sound levels

แต่การได้ยินเสียงในระดับที่อันตรายบ่อย ๆ

can lead to a wide range of hearing disorders,

สามารถทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับการได้ยิน ได้หลากหลายโรค

such as the constant buzz of tinnitus

เช่น การได้ยินเสียงหึ่ง ๆ ดังอยู่ในหูตลอดเวลา

or difficulty understanding speech in loud environments.

หรือการเข้าใจคำพูดในสภาพแวดล้อม ที่เสียงดังได้ยาก

Overworked hair cells can also generate dangerous molecules

การทำงานที่มากเกินไปของเซลล์ขน ยังสามารถก่อให้เกิดโมเลกุลที่อันตราย

called reactive oxygen species.

เรียกว่าสารอนุมูลอิสระ

These molecules have unpaired electrons,

โมเลกุลเหล่านี้มีอิเล็กตรอน ที่ยังไม่ถูกจับคู่

driving them to steal electrons from nearby cells

ทำให้มันต้องไปขโมยอิเล็กตรอน จากเซลล์ใกล้เคียง

and cause permanent damage to the inner ear.

และทำให้เกิดความเสียหายถาวรต่อหูชั้นใน

There are numerous strategies you can adopt for preventing hearing loss.

มีวิธีการมากมายที่คุณสามารถนำมาใช้ เพื่อป้องกันการสูญเสียการได้ยิน

Current research around earbud headphone use suggests keeping your volume

งานวิจัยในปัจจุบันเกี่ยวกับการใช้ หูฟังเอียร์บัดแนะนำให้คงระดับเสียงของคุณ

at 80% or less if you’ll be listening for more than 90 minutes throughout the day.

ไว้ที่ 80% หรือน้อยกว่า หากคุณฟัง มากกว่า 90 นาทีในแต่ละวัน

Noise-isolating headphones can also help you listen at lower volumes.

หูฟังที่ตัดเสียงรบกวนยังสามารถ ช่วยให้คุณฟังเสียงที่เบาลงได้ด้วย

Getting a baseline understanding of your hearing

การมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการได้ยิน

is essential to protecting your auditory system.

นั้นสำคัญต่อการปกป้องรักษา ระบบการได้ยินของคุณ

Just like our eyes and teeth, our ears also need annual check-ups.

เหมือนกับตาหรือฟันของเรา หูของเราต้องได้รับการตรวจปีละครั้ง

Not all communities have access to audiologists,

ไม่ทุกชุมชนจะได้รับการเข้าถึง จากนักโสตสัมผัสวิทยา

but organizations around the world are developing portable hearing tests

แต่องค์กรทั่วโลกกำลังพัฒนา ชุดสอบตรวจการได้ยินที่พกพาได้

and easy-to-use apps to bring these vital resources to remote regions.

และแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย เพื่อนำสิ่ง จำเป็นเหล่านี้ไปยังภูมิภาคที่เข้าถึงยาก

Finally, wear earplugs when you’re knowingly exposing yourself

ท้ายที่่สุดนี้ ให้ใส่ที่อุดหูเมื่อคุณ รู้ตัวว่าต้องไปรับฟัง

to loud sounds for extended periods.

เสียงดังเป็นเวลายาวนาน

An earplug’s effectiveness depends on how well you’ve inserted it,

ผลลัพธ์ของที่อุดหูจะขึ้นอยู่กับว่า คุณได้ใส่มันดีแค่ไหน

so be careful to read the instructions.

ดังนั้น ให้อ่านวิธีใช้อย่างละเอียด

But when worn correctly,

แม้คุณจะใส่อย่างถูกต้อง

they can ensure you'll be able to hear your favorite band

พวกเขาก็สามารถรับรองได้ว่าคุณจะสามารถ ได้ยินเสียงวงดนตรีโปรดของคุณ

for many nights to come.

ได้อีกหลายคืนเลยทีเดียว