Nancy Frates: Why my family started the ALS Ice Bucket Challenge. The rest is history

Translator: Sritala Dhanasarnsombut Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

Well, good afternoon.

สวัสดียามบ่ายค่ะ

How many of you

มีพวกคุณกี่คน

took the ALS Ice Bucket Challenge?

รับคำท้าถังน้ำแข็ง ALS บ้างคะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Woo hoo!

วู้ ฮู้

Well, I have to tell you, from the bottom of our hearts,

ฉันต้องพูดกับคุณ จากใจของพวกเรา

thank you so very, very much.

ว่าขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ

Do you know to date the ALS Association

คุณรู้ไหมคะว่า องค์กรสนับสนุน โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS)

has raised 125 million dollars?

ระดมเงินได้ถึง 125 ล้านดอลลาร์

Woo hoo! (Applause)

วู้ ฮู้ (เสียงปรบมือ)

It takes me back to the summer of 2011.

ย้อนกลับไปเมื่อฤดูร้อนปี 2011

My family, my kids had all grown up.

ครอบครัว และลูกๆ ของฉันต่างเติบโต และแยกย้ายกันไป

We were officially empty nesters,

พวกเราเป็นครอบครัว ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

and we decided, let's go on a family vacation.

และตัดสินใจที่จะไปพักร้อนด้วยกัน

Jenn, my daughter, and my son-in-law

เจนน์ ลูกสาวของฉัน และลูกเขย

came down from New York.

มาจากนิวยอร์ค

My youngest, Andrew,

ลูกคนเล็กสุดของฉัน แอนดรูว์

he came down from his home in Charlestown

มาจากบ้านเขาที่ชาร์ลทาวน์

where he was working in Boston,

ซึ่งเขาทำงานที่บอสตัน

and my son Pete,

และลูกชายของฉัน พีท

who had played at Boston College, baseball,

ที่เล่นให้กับทีมเบสบอล บอสตัน คอเลจ

had played baseball professionally in Europe,

ซึ่งเขาก็ได้เป็นผู้เล่นระดับโปรฯ ในยุโรป

and had now come home and was selling group insurance, he also joined us.

และได้กลับบ้านมา ขายประกันกลุ่ม มาร่วมทริปกับเราด้วย

And one night, I found myself

คืนหนึ่ง ฉันได้นั่ง

having a beer with Pete,

ดื่มเบียร์กับพีท

and Pete was looking at me and he just said,

พีทมองฉันแล้วพูดว่า

"You know, Mom, I don't know,

"แม่ครับ ผมไม่รู้เหมือนกัน

selling group insurance is just not my passion."

การขายประกันกลุ่ม มันไม่ใช่ สิ่งที่ผมชอบ"

He said, "I just don't feel I'm living up to my potential.

เขาพูดว่า "ผมรู้สึกว่า ผมไม่ได้ใช้ชีวิตที่

I don't feel this is my mission in life."

มีเป้าหมายเลยครับ"

And he said, "You know, oh by the way, Mom,

และเขาก็บอกว่า "แม่ครับ ผมจะต้อง

I have to leave early from vacation

กลับก่อนทริปจบนะครับ

because my inter-city league team that I play for made the playoffs,

เพราะทีมลีคของผม ได้เล่นในรอบ ชิงชนะเลิศ

and I have to get back to Boston because I can't let my team down.

และผมก็ต้องกลับบอสตัน เพราะ ผมไม่สามารถทำให้ทีมผิดหวังได้

I'm just not as passionate about my job

ผมไม่รู้สึกหลงใหลกับงานผม

as I am about baseball."

เหมือนกับการเล่นเบสบอล"

So off Pete went, and left the family vacation —

ดังนั้น พีทจึงละทิ้งการร่วมทริปครอบครัวนี้

break a mother's heart —

ทำคุณแม่หัวใจสลาย

and he went, and we followed four days later

เมื่อเขาไป พวกเราได้ตาม ไปสมทบ 4 วันให้หลัง

to see the next playoff game.

เพื่อที่จะดูการแข่งขันรอบชิง

We're at the playoff game, Pete's at the plate,

พวกเราอยู่ที่การแข่งรอบชิง พีท อยู่ประจำที่ของเขา

and a fastball's coming in,

ลูกพุ่งมาอย่างเร็ว

and it hits him on the wrist.

และกระแทกเข้าที่ข้อมือของเขา

Oh, Pete.

โอ้ พีท

His wrist went completely limp, like this.

ข้อมือของเขาปวกเปียก แบบนี้

So for the next six months,

หลังจากนั้น 6 เดือน

Pete went back to his home in Southie,

พีทกลับบ้านที่เซาท์ที

kept working that unpassionate job,

ทำงานที่เขาไม่ได้ชอบสักเท่าไหร่

and was going to doctors

และกลับไปหาหมอ

to see what was wrong with this wrist

เพื่อตรวจเช็คข้อมือของเขา

that never came back.

ที่ดูจะไม่ดีขึ้นเลย

Six months later, in March,

6 เดือนหลังจากนั้น ในเดือนมีนาคม

he called my husband and me, and he said,

พีทโทรหาฉันกับสามี แล้วบอกว่า

"Oh, Mom and Dad, we have a doctor

แม่ พ่อครับ คุณหมอบอกว่า

that found a diagnosis for that wrist.

เขาวินิจฉัยอาการของข้อมือแล้ว

Do you want to come with the doctor's appointment with me?"

แม่กับพ่ออยากมาฟังผลกับผมไหมครับ

I said, "Sure, we'll come in."

ฉันก็ว่า "แน่นอน ฉันจะไป"

That morning, Pete, John and I

เช้าวันนั้น พีท จอห์น และฉัน

all got up, got dressed, got in our cars —

ตื่น แต่งตัว ขึ้นรถ

three separate cars

คนละคัน

because we were going to go to work

เพราะพวกเราต่างต้องไปทำงาน

after the doctor's appointment to find out what happened to the wrist.

หลังจากพบหมอเพื่อฟังอาการข้อมือของลูกชาย

We walked into the neurologist's office, sat down,

พวกเราเดินไปแผนกประสาทวิทยา นั่งลง

four doctors walk in,

รอจนหมอเข้ามา

and the head neurologist sits down.

หัวหน้านักประสาทวิทยานั่งลง

And he says, "Well, Pete, we've been looking at all the tests,

และพูดว่า "คุณพีท พวกเราตรวจทดสอบหมดแล้ว

and I have to tell you, it's not a sprained wrist,

และบอกได้ว่า มันไม่ใช่ข้อมือเคล็ด

it's not a broken wrist,

ไม่ใช่ข้อมือหัก

it's not nerve damage in the wrist,

ไม่มีอาการเสื่อมของประสาทที่ข้อมือ

it's not an infection,

ไม่มีการติดเชื้อ

it's not Lyme disease."

ไม่ใช่โรคที่ติดต่อจากสัตว์

And there was this deliberate elimination going up,

และก็ชื่อโรคต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็เรียงมาเรื่อยๆ

and I was thinking to myself,

ฉันก็คิดกับตัวเองว่า

where is he going with this?

นี่เขาต้องการจะพาเราไปไหนเนี่ย

Then he put his hands on his knees,

แล้วหมอก็วางมือที่เข่า

he looked right at my 27-year-old kid, and said,

เขามองตรงไปในตาของลูกชาย วัย 27 ของฉันแล้วพูดว่า

"I don't know how to tell a 27-year-old this:

"ฉันไม่รู้ว่าจะพูดยังไง กับเด็กอายุ 27 ปี

Pete, you have ALS."

พีท เธอเป็น ALS (โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง)"

ALS?

ALS หรอ

I had had a friend whose 80-year-old father had ALS.

ฉันมีเพื่อนที่มีพ่อวัย 80 เป็น ALS

I looked at my husband, he looked at me,

ฉันมองหน้าสามี สามีจ้องหน้าฉัน

and then we looked at the doctor, and we said, "ALS?

พวกเราหันกลับไปมองหน้าหมอ แล้วพูดว่า "ALS งั้นหรอ"

Okay, what treatment? Let's go.

โอเค รักษายังไง ลุยเลย

What do we do? Let's go."

เราต้องทำยังไง เอาเลย

And he looked at us, and he said, "Mr. and Mrs. Frates,

คุณหมอมองมาที่เรา แล้วบอกว่า "คุณและคุณนาย เฟรทส์ ครับ

I'm sorry to tell you this,

ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

but there's no treatment and there's no cure."

แต่มันไม่มีทางรักษา ไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ครับ"

We were the worst culprits.

พวกเราอึ้งงงงัน

We didn't even understand

ไม่เข้าใจด้วยซ้ำ

that it had been 75 years since Lou Gehrig

ว่ากว่า 75 ปี ตั้งแต่ ลัว เกอร์ริค

and nothing had been done in the progress against ALS.

และนอกจากนั้นก็ไม่มีความ คืบหน้าเกี่ยวกับ ALS เลย

So we all went home, and Jenn and Dan

พวกเรากลับบ้าน เจนน์ และแดน

flew home from Wall Street,

บินตรงจากวอลล์ สตรีท

Andrew came home from Charlestown,

แอนดรูกลับจาก ชาร์ลทาวน์

and Pete went to B.C. to pick up

และพีท ไปที่ บี ซี เพื่อรับ

his then-girlfriend Julie and brought her home,

แฟนสาว จูลี่ และพาเธอมาที่บ้าน

and six hours later after diagnosis,

หลังจาก 6 ชั่วโมงของการวินิจฉัย

we're sitting around having a family dinner,

พวกเรานั่งล้อมวงกินมื้อเย็นกัน

and we're having small chat.

และได้พูดคุยกัน

I don't even remember cooking dinner that night.

ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามื้อนั้นมีอะไรบ้าง

But then our leader, Pete, set the vision,

และผู้นำของเรา พีท ก็ได้ตั้งแนวคิด

and talked to us just like we were his new team.

และบอกเราเหมือนการตั้งทีมใหม่

He said, "There will be no wallowing, people."

แล้วพูดว่า "ทุกคนครับ ไม่ต้องโศกเศร้า"

He goes, "We're not looking back,

"เราจะไม่มองกลับหลังไป

we're looking forward.

เราจะเดินหน้า

What an amazing opportunity we have to change the world.

ช่างเป็นโอกาสอันดี ที่พวกเราจะเปลี่ยนโลก

I'm going to change the face

ผมจะเป็นคนเปลี่ยนโฉมหน้า

of this unacceptable situation of ALS.

เจ้าสถานการณ์ ALS นี่ซะ

We're going to move the needle,

เราจะเลื่อนเข็ม

and I'm going to get it in front of philanthropists like Bill Gates."

และผมนำมันไปวางตรงหน้าเหล่าผู้ใจบุญ อย่างบิลล์ เกตส์

And that was it. We were given our directive.

และนั่นก็ทำให้พวกเรามีหนทาง

So in the days and months that followed,

ในอีกหลายวันและเดือนถัดๆ มา

within a week, we had our brothers and sisters

ภายในสัปดาห์ พี่น้อง

and our family come to us,

และครอบครัวเรามาหาเรา

that they were already creating Team Frate Train.

พวกเขาได้สร้างทีมขบวนเฟรท (Team Frate Train) ขึ้น

Uncle Dave, he was the webmaster;

ลุงเดฟ เป็นคนทำเวป

Uncle Artie, he was the accountant;

ลุงอาร์ตี้ เคยเป็นนักบัญชี

Auntie Dana, she was the graphic artist;

คุณป้าดาน่า เคยเป็นนักออกแบบกราฟฟิก

and my youngest son, Andrew,

และลูกชายคนเล็กของฉัน แอนดรู

quit his job, left his apartment in Charlestown

ลาออกจากงาน ออกจากอพาตเม้นท์ที่ชาร์ลทาวน์

and says, "I'm going to take care of Pete and be his caregiver."

แล้วบอกว่า "ผมจะดูแลพีท และเป็นผู้ดูแลเขาเอง"

Then all those people, classmates, teammates,

จากนั้นก็ผู้คนต่างๆ เพื่อนร่วมห้อง เพื่อนร่วมทีม

coworkers that Pete had inspired

เพื่อนร่วมงานของพีท

throughout his whole life,

ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตเขา

the circles of Pete all started intersecting with one another,

วงจรที่พีทก่อตั้ง เริ่มสานต่อกับคนอื่นๆ

and made Team Frate Train.

และสร้างทีมขบวนเฟรท

Six months after diagnosis,

6 เดือนหลังจากได้รับการวินิจฉัย

Pete was given an award at a research summit for advocacy.

พีทได้รับรางวัลที่งานประชุมวิจัย ในฐานะผู้สนับสนุนอุทิศตน

He got up and gave a very eloquent speech,

พีทยืนขึ้นพูดอย่างมีวาทศิลป์

and at the end of the speech, there was a panel,

ในตอนจบ มีเหล่ากรรมการ

and on the panel were these pharmaceutical executives

ที่เป็นนักเภสัชกรระดับต้นๆ

and biochemists and clinicians

เหล่านักชีวเคมี และผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษา

and I'm sitting there and I'm listening to them

ฉันนั่งฟังกลุ่มคนเหล่านั้น

and most of the content went straight over my head.

และเนื้อหาส่วนใหญ่ลอย ข้ามผ่านหัวฉันไป

I avoided every science class I ever could.

ฉันเลี่ยงทุกคาบวิทยาศาสตร์ ที่ฉันทำได้

But I was watching these people, and I was listening to them,

แต่ฉันก็นั่งมองหน้าคนเหล่านี้ และฟังพวกเขา

and they were saying, "I, I do this, I do that,"

พูดว่า "ฉันทำโน่น ทำนี่"

and there was a real unfamiliarity between them.

และเห็นได้ชัด ถึงความไม่มักคุ้นในกันและกัน

So at the end of their talk, the panel,

เมื่อจบการพูดของคณะกรรมการ

they had questions and answers,

จะมีช่วงให้ถามและตอบ

and boom, my hand went right up,

ฉันก็ยกมือเลยทันที

and I get the microphone,

คว้าไมค์มาพูด

and I look at them and I say, "Thank you.

มองหน้าพวกเขาแล้วพูดว่า "ขอบคุณ

Thank you so much for working in ALS.

ขอบคุณมากที่ทำวิจัยเรื่อง ALS

It means so very much to us."

มันมีความหมายมากสำหรับพวกเรา"

I said, "But I do have to tell you

ฉันกล่าวขึ้น "แต่ฉันต้องบอกคุณว่า

that I'm watching your body language

ฉันมองภาษากายของพวกคุณ

and I'm listening to what you're saying.

และฟังในสิ่งที่พวกคุณพูด

It just doesn't seem like there's a whole lot of collaboration going on here.

มันดูเหมือนไม่มีการร่วมมือกันเกิดขึ้นเลย

And not only that, where's the flip chart

ไม่ใช่แค่นั้น ตัวแผนภูมิตาราง

with the action items and the follow-up and the accountability?

ที่บอกถึงปฏิบัติการณ์ การติดตามผล แล้วก็การเงินอีก

What are you going to do after you leave this room?"

แล้วคุณจะทำไงต่อหลังจากออกจาก ห้องนี้ไปแล้ว

And then I turned around

ฉันมองไปรอบๆ

and there was about 200 pairs of eyes just staring at me.

มีตากว่า 200 คู่จ้องมองมาที่ฉัน

And it was that point that I realized

และ ณ จุดนั้นเอง ทำให้ฉันได้รู้ว่า

that I had talked about the elephant in the room.

ฉันได้พูดกับยักษ์ใหญ่ในห้องอยู่

Thus my mission had begun.

ดังนั้น ภารกิจของฉันได้เริ่มขึ้น

So over the next couple of years,

1-2 ปี หลังจากนั้น

Pete — we've had our highs and our lows.

พีท พวกเรามีทั้งช่วงสูงสุด และต่ำสุด

Pete was put on a compassionate use drug.

พีทก็เริ่มต้องรับการรักษาด้วยยา

It was hope in a bottle for the whole ALS community.

มันเป็นความหวังของเราทั้งกลุ่ม ALS

It was in a phase III trial.

ซึ่งเป็นระยะที่ 3 ของการทดลอง

Then six months later, the data comes back: no efficacy.

6 เดือนให้หลัง ผลออกมาว่า ไม่ได้ผล

We were supposed to have therapies overseas,

พวกเราต้องไปบำบัดต่างแดน

and the rug was pulled out from under us.

แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ ที่ทำให้แผนเราล้มไม่เป็นท่า

So for the next two years,

หลังจากนั้นเป็นเวลาสองปี

we just watched my son be taken away from me,

เราได้แต่นั่งมองลูกชาย ถูกพาตัวไปจากฉัน

little by little every day.

ทีละนิด ทีละนิด

Two and a half years ago,

เมื่อประมาณ 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา

Pete was hitting home runs at baseball fields.

พีทยังกลับบ้าน วิ่งในสนามเบสบอล

Today, Pete's completely paralyzed.

ทุกวันนี้ พีทเป็นอัมพาตโดยสมบูรณ์

He can't hold his head up any longer.

เขาไม่สามารถยกหัวเขาได้แล้ว

He's confined to a motorized wheelchair.

ถูกจำกัดขอบเขตด้วยรถวีลแชร์

He can no longer swallow or eat.

เขาไม่สามารถกินหรือกลืนได้

He has a feeding tube.

ต้องให้อาหารจากหลอด

He can't speak.

ไม่สามารถพูดได้

He talks with eye gaze technology

พีทพูดด้วยเทคโนโลยีกระพริบตา

and a speech generating device,

และระบบสั่งการพูด

and we're watching his lungs,

พวกเราจ้องมองปอดเขา

because his diaphragm eventually is going to give out

เพราะกระบังลมเขาจะหยุดทำงาน

and then the decision will be made to put him on a ventilator or not.

และต้องตัดสินใจว่าจะใช้เครื่องช่วย หายใจหรือไม่

ALS robs the human of all their physical parts, but the brain stays intact.

ALS ขโมยมนุษย์ไปทางด้านกายภาพ แต่สมองของพวกเขายังทำงานได้

So July 4th, 2014,

ในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2014

75th year of Lou Gehrig's inspirational speech comes,

วันครบรอบ 75 ปีของการพูดที่เป็นแรงบันดาลใจ ของ ลู เกอริค

and Pete is asked by MLB.com to write an article in the Bleacher Report.

และพีทถูกขอร้องจาก MLB.com ให้เขียนบทความในบลีเชอร์ รีพอร์ต (Bleacher Report)

And it was very significant, because he wrote it using his eye gaze technology.

มันพิเศษมาก เพราะเขาเขียนด้วย เทคโนโลยีกระพริบตา

Twenty days later, the ice started to fall.

20 วันหลังจากนั้น น้ำแข็งก็เริ่มเกาะตัวเขา

On July 27th, Pete's roommate in New York City,

27 กรกฎา เพื่อนร่วมห้องของพีท ที่นิวยอร์ค ซิตี้

wearing a Quinn For The Win shirt,

ใส่เสื้อเขียนว่า ชนะเพื่อควินน์ (Quinn)

signifying Pat Quinn, another ALS patient known in New York,

สื่อถึง แพท ควินน์ ผู้ป่วย ALS อีกคน ที่นิวยอร์ค

and B.C. shorts

และเสื้อ B.C

said, "I'm taking the ALS Ice Bucket Challenge,"

พูดว่า "ผมรับคำท้าถังน้ำแข็ง ALS"

picked up the ice, put it over his head.

ยกถังและเทน้ำแข็งเหนือหัวเขา

"And I'm nominating ..." And he sent it up to Boston.

"ผมขอเสนอชื่อ..." แล้วส่งคลิปนี้ไปที่บอสตัน

And that was on July 27th.

ในวันที่ 27 กรกฎาคม

Over the next couple of days, our news feed

ในอีก 2 วันถัดมา บนหน้าฟีด

was full of family and friends.

เต็มไปด้วยครอบครัวและเพื่อนๆ ของเรา

If you haven't gone back, the nice thing about Facebook

ถ้าคุณไม่เคยย้อนดู สิ่งดีของ เฟสบุ๊คคือ

is that you have the dates, you can go back.

สามารถย้อนดูวันเวลาได้

You've got to see Uncle Artie's human Bloody Mary.

คุณต้องดูลุงอาร์ตี้ มนุษย์ท่วมเลือด

I'm telling you, it's one of the best ones,

บอกได้เลยเป็นหนึ่งในคลิปทีดีที่สุด

and that was probably in day two.

นั่นแค่สองวันนะคะ

By about day four, Uncle Dave, the webmaster,

พอสี่วัน ลุงเดฟ คนทำเวป

he isn't on Facebook,

เขาไม่ได้อยู่บนเฟสบุ๊ค

and I get a text from him, and it says, "Nancy,

ฉันได้รับข้อความจากเขา บอกว่า "แนนซี่

what the hell is going on?"

มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย"

Uncle Dave gets a hit every time Pete's website

ลุงเดฟ ได้รับข้อความทุกครั้ง ที่เวปของพีท

is gone onto, and his phone was blowing up.

มีกิจกรรมเกิดขึ้น จนมือถือเขา แทบพัง

So we all sat down and we realized,

พวกเรานั่งคิด และได้รู้ว่า

money is coming in — how amazing.

เงินเข้ามาแล้ว มันเยี่ยมจริงๆ

So we knew awareness would lead to funding,

เราจึงได้รู้ว่า การกระตุ้นความสนใจ นำไปสู่การบริจาคได้

we just didn't know it would only take a couple of days.

พวกเราไม่รู้ว่ามันใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน

So we got together, put our best 501(c)(3)s on Pete's website,

พวกเรารวมตัวกัน ทำเวป ไม่แสวงหากำไรให้ดีที่สุด

and off we went.

แล้วมันก็ติดลมบน

So week one, Boston media.

ในสัปดาห์แรก สื่อของบอสตัน

Week two, national media.

สัปดาห์ที่สอง สื่อระดับชาติ

It was during week two that our neighbor next door

ในระหว่างสัปดาห์ที่สองนี่เอง เพื่อนบ้านของเรา

opened up our door and threw a pizza

เปิดประตูบ้านแล้วโยนพิซซ่า

across the kitchen floor, saying,

เข้ามาให้ครัวแล้วพูดว่า

"I think you people might need food in there."

"ฉันว่าคนที่นี่ต้องการอาหาร"

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Week three, celebrities — Entertainment Tonight,

สัปดาห์ที่สาม เหล่าคนดัง รายการ เอนเตอร์เทน ทูไนท์

Access Hollywood.

แอกเสส ฮอลลีวู๊ด

Week four, global — BBC, Irish Radio.

สัปดาห์ที่สี่ สื่อระดับโลก บีบีซี วิทยุไอริช

Did anyone see "Lost In Translation"?

มีใครเคยดู "ลอส อิน ทรานสเลชัน" บ้างไหม

My husband did Japanese television.

สามีฉันต้องไปรายการญี่ปุ่นด้วย

It was interesting.

น่าสนมากๆ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And those videos, the popular ones.

และวิดีโอเหล่านั้น ที่ดังมาก

Paul Bissonnette's glacier video, incredible.

คือวีดีโอน้ำแข็งของ พอล บิสโซเนตส์ เป็นที่เยี่ยมมาก

How about the redemption nuns of Dublin?

แล้วยังมีกลุ่มแม่ชีที่ดับลินอีก

Who's seen that one?

ใครได้ดูบ้างคะ

It's absolutely fantastic.

มันสุดยอดจริงๆ

J.T., Justin Timberlake.

เจที จัสติน ทิมเบอร์เลค

That's when we knew, that was a real A-list celebrity.

ทำให้เรารู้ว่า ดาราระดับเอก็ร่วม

I go back on my texts, and I can see

ฉันมองข้อความที่ได้รับ เจอว่า

"JT! JT!" My sister texting me.

"เจที! เจที!" จากพี่สาวฉัน

Angela Merkel, the chancellor of Germany.

แองเจลลา เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน

Incredible.

เยี่ยมมาก

And the ALS patients,

และเหล่าผู้ป่วย ALS

you know what their favorite ones are, and their families'?

คุณรู้ไหมว่าอันไหนเป็นอันโปรด ของครอบครัวเรา

All of them.

ทุกอันเลยค่ะ

Because this misunderstood and underfunded "rare" disease,

เพราะด้วยโรคพี่พบได้ยากที่ไม่มีคนเข้าใจ และไม่มีคนสนใจสนับสนุนเงินวิจัยนี้

they just sat and watched people saying it over and over: "ALS, ALS."

พวกเขานั่งดูคนพูดคำว่า ALS ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

It was unbelievable.

มันเหลือเชื่อค่ะ

And those naysayers,

และสำหรับคนที่ไม่พูด

let's just talk a couple of stats, shall we?

มาลองดูสถิติกันไหมคะ

Okay, so the ALS Association,

โอเค องค์กร ALS

they think by year end, it'll be 160 million dollars.

คาดการณ์ไว้ว่า เมื่อสิ้นปี จะได้รับเงินกว่า 160 ล้านดอลลาร์

ALS TDI in Cambridge,

ALS TDI ในเคมปริจ

they raised three million dollars.

ได้เงินบริจาคกว่า 3 ล้านดอลลาร์

Well, guess what?

ทายซิ

They had a clinical trial for a drug that they've been developing.

สำหรับยาทดสอบที่ใช้ พัฒนานั้น

It was on a three-year track for funding.

ต้องใช้เวลาระดมทุนกว่า 3 ปี

Two months.

แต่นี่ 2 เดือน

It's coming out starting in two months.

เราได้มาภายใน 2 เดือน

(Applause)

(เสียงปรมมือ)

And YouTube has reported

และยูทูบรายงานว่า

that over 150 countries have posted Ice Bucket Challenges for ALS.

กว่า 150 ประเทศ โพตส์การท้าถังน้ำแข็ง ALS

And Facebook, 2.5 million videos,

และ 2.5 ล้านวิดีโอ สำหรับเฟสบุ๊ค

and I had the awesome adventure

และฉันก็ได้มีโอกาสเยี่ยม

visiting the Facebook campus last week,

ที่ทำงานเฟสบุ๊คเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเอง

and I said to them, "I know what it was like in my house.

แล้วพูดกับพวกเขาว่า "ฉันรู้ว่าเป็นยังไงในบ้านฉัน

I can't imagine what it was like around here."

แต่ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่า มันเป็นไงที่ตรงนี้"

All she said was, "Jaw-dropping."

สิ่งที่เธอพูดคือ "มันน่าทึ่งแบบ อ้างปากค้างเลย"

And my family's favorite video?

และวิดีโอโปรดของครอบครัวเราคือ

Bill Gates.

บิลล์ เกตส์

Because the night Pete was diagnosed,

เพราะคืนที่พีทได้รับการวินิจฉัย

he told us that he was going to get ALS in front of philanthropists like Bill Gates,

เขาบอกเราว่าจะต้องทำให้ ALS เป็นที่สนใจ จากเหล่าผู้ใจบุญอย่าง บิลล์ เกตส์ให้ได้

and he did it.

แล้วมันก็เป็นจริง

Goal number one, check.

เป้าหมายแรกสำเร็จแล้ว

Now on to the treatment and cure.

ต่อมา การรักษา และยา

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

So okay, after all of this ice,

เอาหละ หลังจากเหตุณการณ์น้ำแข็ง

we know that it was much more

เรารู้ว่าเราเป็นมากกว่า

than just pouring buckets of ice water over your head,

การราดน้ำแข็งรดหัว

and I really would like to leave you

และฉันอยากทิ้งท้ายกับคุณ

with a couple of things that I'd like you to remember.

ในสองสามสิ่ง เพื่อให้คุณจดจำ

The first thing is,

อย่างแรกคือ

every morning when you wake up,

ทุกเช้าเมื่อคุณตื่น

you can choose to live your day in positivity.

คุณสามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตด้านบวกได้

Would any of you blame me

พวกคุณจะโทษฉันไหม

if I just was in the fetal position

ถ้าฉันมุดหัว

and pulled the covers over my head every day?

ปกปิดตัวเองในทุกวัน

No, I don't think anybody would blame me,

ฉันไม่คิดว่าใครจะมาโทษฉันหรอก

but Pete has inspired us to wake up

แต่พีทเป็นแรงบันดาลใจให้ตื่นขึ้นทุกเช้า

every morning and be positive and proactive.

และเป็นคนคิดบวก และลงมือทำ

I actually had to ditch support groups

ที่จริงฉันต้องตัดขาดกลุ่มสนับสนุนบางกลุ่ม

because everybody was in there saying that

เพราะทุกคนในนั้นพูดว่า

spraying their lawns with chemicals,

การใช้สเปรย์ในสนามหญ้า

that's why they got ALS,

เป็นสาเหตุของ ALS

and I was like, "I don't think so,"

ฉันก็แบบ "ฉันไม่คิดแบบนั้นนะ"

but I had to get away from the negativity.

ฉันต้องเอาตัวเองออกจากด้านลบเหล่านั้น

The second thing I want to leave you with

อย่างที่สองคือ

is the person at the middle of the challenge

คนที่อยู่ตรงกลางของความท้าทายนี้

has to be willing to have the mental toughness

ต้องใจแข็งๆ เพื่อ

to put themselves out there.

เอาตัวเองไป ณ จุดนั้น

Pete still goes to baseball games

พีทยังคงไปดูเกมเบสบอล

and he still sits with his teammates in the dugout,

เขายังคงนั่งข้างเพื่อนร่วมทีม

and he hangs his gravity feed bag

ห้อยถุงอาหารไว้

right on the cages.

ข้างๆ ตัว

You'll see the kids, they're up there hanging it up.

คุณจะได้เห็นเด็กๆ เดินไปถามว่า

"Pete, is that okay?" "Yup."

"พีท เธอโอเคไหม" "แน่ล่ะ"

And then they put it right into his stomach.

และพวกเขาก็ยื่นใส่ท้องพีท

Because he wants them to see what the reality of this is,

เพราะพีทต้องการให้พวกเขาเห็น ความจริง

and how he's never, ever going to give up.

และได้เห็นว่าเขาจะไม่มีทางยอมแพ้

And the third thing I want to leave you with:

อย่างที่สามที่ฉันอยากทิ้งท้าย

If you ever come across a situation

ถ้าคุณเคยเจอเหตุการณ์

that you see as so unacceptable,

ที่คุณไม่คาดคิด

I want you to dig down as deep as you can

ฉันอยากให้คุณเจาะลงลึกไปให้มากที่สุด

and find your best mother bear

เพื่อจะได้พบกับต้นตอ

and go after it.

และไล่ตามันไป

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Thank you.

ขอบคุณค่ะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

I know that I'm running over,

ฉันรู้ว่าใกล้หมดเวลาแล้ว

but I've got to leave you with this:

แต่ฉันอยากทิ้งท้ายด้วยสิ่งนี้

the gifts that my son has given me.

ของขวัญที่ลูกชายให้ฉันมา

I have had 29 years

ฉันมี 29 ปี

of having the honor of being the mother

ที่ได้รับเกียรติให้เป็นแม่

of Pete Frates.

ของพีท เฟรทส์

Pete Frates has been inspiring and leading his whole life.

พีท เฟรทส์ สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นผู้นำทั้งชีวิต

He's thrown out kindness,

เขาแจกจ่ายความใจดี

and all that kindness has come back to him.

และความใจดีนั้นก็กลับหาเขา

He walks the face of the Earth right now and knows why he's here.

เขาเดินหน้า และรู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้นเพราะอะไร

What a gift.

เขาเป็นของขวัญล้ำค่าจริงๆ

The second thing that my son has given me

สิ่งที่สองที่ลูกชายให้ฉันคือ

is he's given me my mission in life.

เขาให้จุดหมายกับชีวิตของฉัน

Now I know why I'm here.

ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมฉันอยู่ตรงนี้

I'm going to save my son,

ฉันจะช่วยลูกฉัน

and if it doesn't happen in time for him,

และถ้ามันไม่ทันเวลา

I'm going to work so that no other mother

ฉันก็จะทำ เพื่อไม่ให้มีคุณแม่คนไหน

has to go through what I'm going through.

ต้องเผชิญกับสิ่งนี้อีก

And the third thing, and last but not least

และอย่างที่สาม อย่างสุดท้าย

gift that my son has given me,

ที่ลูกชายให้ฉัน

as an exclamation point

เหมือนเป็นเครื่องย้ำเตือน

to the miraculous month

ถึงเดือนอัศจรรย์

of August 2014:

คือ สิงหาคม ค.ศ. 2014

That girlfriend that he went to get on the night of diagnosis is now his wife,

หญิงที่เป็นแฟนของเขาในวันที่เขาฟังผลวินิจ ได้กลายเป็นภรรยาของเขา

and Pete and Julie have given me my granddaughter, Lucy Fitzgerald Frates.

พีทและจูลี่ ได้ให้กำเนิดหลานสาว ลูซี่ ฟริทเจอรัล เฟรทส์

Lucy Fitzgerald Frates came two weeks early

ลูซี่ ฟริทเจอรัล เฟรทส์ เกิดก่อนกำหนด สองสัปดาห์

as the exclamation point

เหมือนเป็นเครื่องเตือนใจ

on August 31st, 2014.

ในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2014

And so —

และ

(Applause) —

(เสียงปรบมือ)

And so let me leave you with Pete's words of inspiration

ให้ฉันทิ้งท้ายด้วยคำดลใจ ขอบพีทนะคะ

that he would use to classmates, coworkers and teammates.

ที่เขาให้กับเพื่อนร่วมห้อง เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนในทีม

Be passionate.

จงมีแรงใจ

Be genuine.

จงซื่อตรง

Be hardworking.

จงทำงานหนัก

And don't forget to be great.

และอย่างลืมว่าต้องเยี่ยมด้วย

Thank you. (Applause)

ขอบคุณค่ะ (เสียงปรบมือ)