Cell vs. virus: A battle for health - Shannon Stiles

เซลล์ปะทะไวรัส: สงครามเพื่อสุขภาพ - แชนนอน สไตลส์ (Shannon Stiles)

10,505,267 views

2014-04-17 ・ TED-Ed


New videos

Cell vs. virus: A battle for health - Shannon Stiles

เซลล์ปะทะไวรัส: สงครามเพื่อสุขภาพ - แชนนอน สไตลส์ (Shannon Stiles)

10,505,267 views ・ 2014-04-17

TED-Ed


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Unnawut Leepaisalsuwanna
00:06
You're in line at the grocery store when, uh oh,
0
6708
2877
คุณกำลังเข้าคิวอยู่ในร้านขายของชำ ที่ซึ่ง โอ๊ะโอ
00:09
someone sneezes on you.
1
9585
1690
ใครบางคนจามใส่คุณ
00:11
The cold virus is sucked inside your lungs
2
11275
2461
ไวรัสโรคหวัดถูกสูดเข้าไปในปอดของคุณ
00:13
and lands on a cell on your airway lining.
3
13736
2751
และลงจอดบนเซลล์บนเยื่อบุทางเดินอากาศของคุณ
00:16
Every living thing on Earth is made of cells,
4
16487
2553
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกประกอบขึ้นด้วยเซลล์
00:19
from the smallest one-celled bacteria
5
19040
2033
จากสิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดอย่าง แบคทีเรีย
00:21
to the giant blue whale to you.
6
21073
2779
ไปจนถึงวาฬสีน้ำเงิน และตัวคุณ
00:23
Each cell in your body is surrounded by a cell membrane,
7
23852
3338
แต่ละเซลล์ในร่างกายถูกล้อมรอบไปด้วยเยื่อหุ้มเซลล์
00:27
a thick flexible layer made of fats and proteins,
8
27190
3088
ชั้นหนาที่ยืดหยุ่นได้ ซึ่งประกอบขึ้นจากไขมันและโปรตีน
00:30
that surrounds and protects the inner components.
9
30278
3197
ซึ่งล้อมรอบและป้องกันส่วนประกอบภายใน
00:33
It's semipermeable,
10
33475
1018
มันเป็นเยื่อเลือกผ่าน (semipermeable)
00:34
meaning that it lets some thing pass in and out
11
34493
2555
ซึ่งหมายความว่ามันให้บางอย่างผ่านเข้าออก
00:37
but blocks others.
12
37048
1354
แต่ขัดขวางสิ่งที่เหลือ
00:38
The cell membrane is covered with tiny projections.
13
38402
3093
เยื่อหุ้มเซลล์ปกคลุมไปด้วยส่วนเล็กๆ ที่ยื่นออกมา
00:41
They all have functions,
14
41495
1257
พวกมันมีหน้าที่
00:42
like helping cells adhere to their neighbors
15
42752
1976
เช่นช่วยเซลล์ยึดเกาะกับสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวมัน
00:44
or binding to nutrients the cell will need.
16
44728
3057
หรือยึดจับสารอาหารที่เซลล์ต้องการ
00:47
Animal and plant cells have cell membranes.
17
47785
2277
สัตว์และพืชมีเยื่อหุ้มเซลล์
00:50
Only plant cells have a cell wall,
18
50062
1990
เซลล์พืชเท่านั้นที่มีผนังเซลล์
00:52
which is made of rigid cellulose that gives the plant structure.
19
52052
3996
ซึ่งประกอบด้วยเซลลูโลส (cellulose) แข็งๆ ที่เป็นโครงสร้างให้กับพืช
00:56
The virus cell that was sneezed into your lungs is sneaky.
20
56048
3366
ไวรัสที่เข้าไปในปอดของคุณนั้นร้ายกาจ
00:59
Pretending to be a friend,
21
59414
1170
มันแสร้งทำว่าเป็นเพื่อน
01:00
it attaches to a projection on the cell membrane,
22
60584
2964
เข้ายึดเกาะกับส่วนที่ยื่นออกมาจากเยื่อหุ้มเซลล์
01:03
and the cell brings it through the cell membrane and inside.
23
63548
3406
และเซลล์ก็นำมันผ่านเข้าเยื่อหุ้มเซลล์สู่ภายใน
01:06
When the virus gets through,
24
66954
1376
เมื่อไวรัสผ่านเข้าไปแล้ว
01:08
the cell recognizes its mistake.
25
68330
1890
เซลล์ก็รู้ว่ามันทำพลาด
01:10
An enemy is inside!
26
70220
1952
ศัตรูบุกเข้ามาซะแล้ว
01:12
Special enzymes arrive at the scene
27
72172
1838
เอ็นไซม์ชนิดพิเศษมาถึงที่เกิดเหตุ
01:14
and chop the virus to pieces.
28
74010
2214
และสับไวรัสออกเป็นชิ้นๆ
01:16
They then send one of the pieces back
29
76224
1819
จากนั้นพวกมันก็ส่งชิ้นหนึ่งกลับไป
01:18
through the cell membrane,
30
78043
1336
ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์
01:19
where the cell displays it to warn neighboring cells
31
79379
2684
ซึ่งเป็นที่ที่เซลล์แสดงมันเพื่อเตือนเซลล์ใกล้เคียง
01:22
about the invader.
32
82063
1654
ถึงผู้บุกรุก
01:23
A nearby cell sees the warning
33
83717
1615
เซลล์ที่อยู่ใกล้ๆ เห็นถึงสัญญาณเตือน
01:25
and immediately goes into action.
34
85332
2478
และก็ตอบสนองในทันที
01:27
It needs to make antibodies,
35
87810
1609
มันต้องสร้างแอนติบอดี
01:29
proteins that will attack and kill
36
89419
1770
ซึ่งก็คือ โปรตีนที่จะโจมตีและฆ่า
01:31
the invading virus.
37
91189
1879
ไวรัสผู้บุกรุก
01:33
This process starts in the nucleus.
38
93068
2588
กระบวนการนี้เริ่มขึ้นในนิวเคลียส
01:35
The nucleus contains our DNA,
39
95656
2011
นิวเคลียสถูกบรรจุด้วยดีเอ็นเอ
01:37
the blueprint that tells our cells how to make everything
40
97667
2723
พิมพ์เขียวที่บอกเซลล์ของเราถึงวิธีการสร้างทุกอย่าง
01:40
our bodies need to function.
41
100390
2900
ที่ร่างกายของเราต้องการใช้งาน
01:43
A certain section of our DNA contains instructions
42
103290
2838
ณ ส่วนเฉพาะของดีเอ็นเอ มีคู่มือ
01:46
that tell our cells how to make antibodies.
43
106128
3151
ที่บอกเซลล์ของคุณว่าสร้างแอนติบอดีได้อย่างไร
01:49
Enzymes in the nucleus find the right section of DNA,
44
109279
3050
เอ็นไซม์ในนิวเคลียส พบส่วนเฉพาะดังกล่าว
01:52
then create a copy of these instructions,
45
112329
1809
จากนั้นก็สร้างสำเนาของคู่มือ
01:54
called messenger RNA.
46
114138
2289
ซึ่งเรียกว่า แมสเซ็นเจอร์ อาร์เอ็นเอ (messenger RNA)
01:56
The messenger RNA leaves the nucleus to carry out its orders.
47
116427
3996
แมสเซ็นเจอร์ อาร์เอ็นเอ ออกจากนิวเคลียส เพื่อปฏิบัติหน้าที่
02:00
The messenger RNA travels to a ribosome.
48
120423
3044
มันเดินทางไปยังไรโบโซม (ribosome)
02:03
There can be as many as 10 million ribosomes
49
123467
2440
ซึ่งเราสามารถมีไรโบโซมได้มากเป็น 10 ล้านอัน
02:05
in a human cell,
50
125907
1395
ในเซลล์มนุษย์
02:07
all studded along a ribbon-like structure
51
127302
1838
ทั้งหมดฝังอยู่กับโครงสร้างที่เหมือนกับริบบิ้น
02:09
called the endoplasmic reticulum.
52
129140
2533
เรียกว่า เอ็นโอพลาสมิก เรติคูลัม (endoplasmic reticulum)
02:11
This ribosome reads the instructions from the nucleus.
53
131673
3241
ไรโบโซมอ่านคู่มือจากนิวเคลียส
02:14
It takes amino acids and links them together one by one
54
134914
3177
มันนำกรดอะมิโนเข้ามาและเชื่อมพวกมันเข้าด้วยกัน
02:18
creating an antibody protein that will go fight the virus.
55
138091
3912
สร้างเป็นโปรตีนแอนติบอดีที่ใช้สู้กับไวรัส
02:22
But before it can do that,
56
142003
1234
แต่ก่อนที่มันจะทำอย่างนั้นได้
02:23
the antibody needs to leave the cell.
57
143237
2539
แอนติบอดีต้องถูกปล่อยจากเซลล์
02:25
The antibody heads to the golgi apparatus.
58
145776
2873
แอนติบอดีมุ่งหน้าไปยังกอจิ แอพพาราตัส (golgi apparatus)
02:28
Here, it's packed up for delivery outside the cell.
59
148649
3068
ที่นี่ มันถูกบรรจุสำหรับการขนส่งออกนอกเซลล์
02:31
Enclosed in a bubble made of the same material as the cell membrane,
60
151717
3401
เมื่อถูกบรรจุในหีบห่อปิดคล้ายฟองสบู่ ที่ทำมาจากวัสดุเดียวกับเยื่อหุ้มเซลล์
02:35
the golgi apparatus also gives the antibody directions,
61
155118
3680
กอจิ แอพพาราตัส ยังให้ทิศทางกับแอนติบอดี
02:38
telling it how to get to the edge of the cell.
62
158798
2557
บอกว่าจะไปถึงขอบเซลล์ได้อย่างไร
02:41
When it gets there,
63
161355
829
เมื่อมันไปถึงตรงนั้น
02:42
the bubble surrounding the antibody fuses to the cell membrane.
64
162184
3791
โครงสร้างฟองสบู่ที่หุ้มแอนติบอดีไว้ ก็หลอมรวมกับเยื่อหุ้มเซลล์
02:45
The cell ejects the antibody,
65
165975
1979
เซลล์ปล่อยแอนติบอดีออกมา
02:47
and it heads out to track down the virus.
66
167954
2630
และมันก็มุ่งหน้าออกไปเพื่อล่าไวรัส
02:50
The leftover bubble will be broken down
67
170584
1806
โครงสร้างฟองสบู่ที่เหลืออยู่จะถูกย่อยสลาย
02:52
by the cell's lysosomes
68
172390
1590
โดยไลโซโซมของเซลล์
02:53
and its pieces recycled over and over again.
69
173980
2936
และชิ้นส่วนของมันก็จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่เรื่อยๆ
02:56
Where did the cell get the energy to do all this?
70
176916
3163
เซลล์เอาพลังงานมาจากไหน เพื่อใช้ทำกิจกรรมทั้งหมดนี้
03:00
That's the roll of the mitochondria.
71
180079
2322
นั่นเป็นหน้าที่ของไมโทคอนเดรีย
03:02
To make energy, the mitochondria takes oxygen,
72
182401
2318
เพื่อที่จะสร้างพลังงาน ไมโทคอนเดรียใช้ออกซิเจน
03:04
this is the only reason we breathe it,
73
184719
2647
นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ว่าทำไมเราจึงหายใจ
03:07
and adds electrons from the food we eat
74
187366
2020
และเติมอิเล็กตรอนจากอาหารที่เรากิน
03:09
to make water molecules.
75
189386
2071
เพื่อสร้างโมเลกุลน้ำ
03:11
That process also creates a high energy molecule,
76
191457
2425
กระบวนการนั้นยังสร้างโมเลกุลพลังงานสูง
03:13
called ATP which the cell uses to power all of its parts.
77
193882
4362
ที่เรียกว่า เอทีพี (ATP) ซึ่งเซลล์ใช้ ในการให้พลังงานกับทุกๆ ส่วน
03:18
Plant cells make energy a different way.
78
198244
2720
เซลล์พืชสร้างพลังงานด้วยวิธีที่ต่างไป
03:20
They have chloroplasts
79
200964
1139
พวกมันใช้ คลอโรพลาส (chloroplast)
03:22
that combine carbon dioxide and water
80
202103
2102
ที่ประกอบคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ
03:24
with light energy from the sun
81
204205
1843
ด้วยพลังงานแสงจากดวงอาทิตย์
03:26
to create oxygen and sugar,
82
206048
1721
เพื่อสร้างออกซิเจนและน้ำตาล
03:27
a form of chemical energy.
83
207769
2576
ซึ่งเป็นพลังงานเคมีรูปแบบหนึ่ง
03:30
All the parts of a cell have to work together
84
210345
1949
ทุกส่วนของเซลล์ทำงานด้วยกัน
03:32
to keep things running smoothly,
85
212294
2238
เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่น
03:34
and all the cells of your body have to work together
86
214532
2114
และเซลล์ทั้งหมดของร่างกายคุณต้องทำงานด้วยกัน
03:36
to keep you running smoothly.
87
216646
2303
เพื่อทำให้ชีวิตคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
03:38
That's a whole lot of cells.
88
218949
1571
นั่นเป็นเซลล์จำนวนมากเลยทีเดียว
03:40
Scientists think there are about 37 trillion of them.
89
220520
3712
นักวิทยาศาสตร์คิดว่า เรามีเซลล์ประมาณ 3 หมื่น 7 พันล้านเซลล์
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7