Is it bad to hold your pee? - Heba Shaheed

อั้นฉี่ไม่ดีอย่างไร - ฮีบา ชาฮีด (Heba Shaheed)

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Rawee Ma

It begins with a bit of discomfort

มันเริ่มจะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว

and soon becomes a pressing sensation that's impossible to ignore.

และไม่นานมันก็กลายเป็นความรู้สึกกระตุ้น ที่ไม่อาจที่จะเพิกเฉยได้

Finally, it's all you can think about,

ในที่สุด มันก็เป็นสิ่งเดียวที่คุณคิดออก

and out of sheer desperation,

และด้วยสภาพสิ้นคิดนั้นเอง

you go on a hunt for a bathroom until "ahh."

คุณวิ่งหาห้องน้ำจนกระทั่ง "อาห์"

Humans should urinate at least four to six times a day,

มนุษย์ควรที่จะปัสสาวะ อย่างน้อยวันละสี่ถึงหกครั้ง

but occasionally, the pressures of modern life forces us to clench and hold it in.

แต่เป็นประจำ ที่ความกดดันจากชีวิต สมัยใหม่ บังคับให้เราต้องอั้นมันเอาไว้

How bad is this habit, and how long can our bodies withstand it?

มันเป็นพฤติกรรมที่แย่แค่ไหนกันหรือ แล้วร่างกายของเราสามารถทดได้นานแค่ไหน

The answers lie in the workings of the bladder,

คำตอบอยู่ที่การทำงานของกระเพาะปัสสาวะ

an oval pouch that sits inside the pelvis.

ซึ่งเป็นถุงทรงรี ที่อยู่ในกระดูกเชิงกรานของคุณ

Surrounding this structure are several other organs

มันถูกล้อมรอบด้วยอวัยวะอีกสองสามอย่าง

that together make up the whole urinary system.

พวกมันร่วมกันทำงานเป็นระบบการขับปัสสาวะ

Two kidneys,

ไตสองข้าง

two ureters,

ท่อไตสองข้าง

two urethral sphincters,

หูรูดทางเดินปัสสาวะทั้งสอง

and a urethra.

และท่อปัสสาวะ

Constantly trickling down from the kidneys is the yellowish liquid known as urine.

ของเหลวสีเหลืองที่เรียกว่าปัสสาวะ ไหลลงมาจากไต

The kidneys make urine from a mix of water and the body's waste products,

ไตสร้างปัสสาวะจากของผสมระหว่าง น้ำและผลิตภัณฑ์ของเสียในร่างกาย

funneling the unwanted fluid into two muscular tubes called ureters.

กรองของเหลวที่ไม่ต้องการ ลงในท่อกล้ามเนื้อทั้งสองที่เรียกว่าท่อไต

These carry it downward into the hollow organ known as the bladder.

พวกมันพาปัสสาวะลงไปยังอวัยวะกลวง ๆ ที่เรียกว่ากระเพาะปัสสาวะ

This organ's muscular wall is made of tissue called detrusor muscle

กล้ามเนื้อที่ผนังของอวัยวะนี้ทำจากเนื้อเยื่อ ที่เรียกว่ากล้ามเนื้อดีทรูเซอร์ (detrusor muscle)

which relaxes as the bladder fills allowing it to inflate like a balloon.

ซึ่งคลายตัวเมื่อกระเพาะปัสสาวะถูกเติม ทำให้มันขยายออกได้เหมือนลูกโป่ง

As the bladder gets full, the detrusor contracts.

เมื่อกระเพาะปัสสาวะเต็ม กล้ามเนื้อเรียบนั้นก็หดตัว

The internal urethral sphincter automatically and involuntarily opens,

หูรูดท่อปัสสาวะภายในก็เปิดออก โดยอัตโนมัติและนอกอำนาจการควบคุม

and the urine is released.

และปัสสาวะก็ถูกปลดปล่อย

Whooshing downwards, the fluid enters the urethra

ของเหลวไหลลงมาเข้าสู่ท่อปัสสาวะ

and stops short at the external urethral sphincter.

และหยุดอยู่ที่หูรูดท่อปัสสาวะภายนอก

This works like a tap.

ซึ่งทำงานเหมือนกับก๊อกน้ำ

When you want to delay urinating, you keep the sphincter closed.

เมื่อคุณอยากจะอั้นปัสสาวะไว้ก่อน คุณก็ปิดมันเอาไว้

When you want to release it, you can voluntarily open the flood gates.

เมื่อคุณต้องการจะปลดปล่อยมัน คุณก็สั่งการให้มันเปิดออก

But how do you sense your bladder's fullness

แต่คุณรู้สึกว่ากระเพาะปัสสาวะเต็มได้อย่างไร

so you know when to pee?

เพื่อที่จะรู้ว่าเมื่อไรที่จะต้องไปฉี่

Inside the layers of detrusor muscles are millions of stretch receptors

ภายในชั้นของกล้ามเนื้อเรียบในกระเพาะปัสสาวะ มีตัวรับแรงยืดเป็นล้าน ๆ

that get triggered as the bladder fills.

ที่ถูกกระตุ้นเมื่อกระเพาะปัสสาวะถูกเติม

They send signals along your nerves to the sacral region in your spinal cord.

พวกมันส่งสัญญาณไปตามเส้นประสาท ถึงบริเวณกระเบนเหน็บในไขสันหลัง

A reflex signal travels back to your bladder,

สัญญาณรีเฟล็กซ์เดินทางกลับมายัง กระเพาะปัสสาวะ

making the detrusor muscle contract slightly

ทำให้กล้ามเนื้อเรียบหดตัวเล็กน้อย

and increasing the bladder's pressure so you're aware that it's filling up.

และการเพิ่มความดันในกระเพาะปัสสาวะ ก็ทำให้คุณรู้สึกว่ามันกำลังจะเต็ม

Simultaneously, the internal urethral sphincter opens.

ต่อจากนั้น หูรูดท่อปัสสาวะภายในเปิดออก

This is called the micturition reflex.

มันเรียกว่ารีเฟล็กซ์ถ่ายปัสสาวะ (micturition reflex)

The brain can counter it if it's not a good time to urinate

สมองสามารถจัดการได้ ถ้ามันไม่ใช่เวลาที่เราควรปัสสาวะ

by sending another signal to contract the external urethral sphincter.

โดยการส่งสัญญาณอีกอย่างหนึ่ง เพื่อทำให้หูรูดท่อปัสสาวะภายนอกหดตัว

With about 150 to 200 milliliters of urine inside of it,

ด้วยปริมาณปัสสาวะประมาณ 150 ถึง 200 มิลลิลิตรที่อยู่ภายใน

the bladder's muscular wall is stretched enough

กล้ามเนื้อที่ผนังกระเพาะปัสสาวะก็ยืดมากพอ

for you to sense that there's urine within.

ที่คุณจะรู้สึกว่ามีปัสสาวะอยู่ภายใน

At about 400 to 500 milliliters, the pressure becomes uncomfortable.

ที่ประมาณ 400 ถึง 500 มิลลิลิตร ความดันจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัว

The bladder can go on stretching, but only to a point.

กระเพาะปัสสาวะสามารถขยายออก ได้ถึงเพียงจุดหนึ่งเท่านั้น

Above 1,000 milliliters, it may burst.

ประมาณ 1,000 มิลลิลิตร มันก็อาจจะระเบิดเอาได้

Most people would lose bladder control before this happens,

คนส่วนใหญ่จะสูญเสียการควบคุมปัสสาวะ ก่อนที่มันจะระเบิด

but in very rare cases,

แต่ในกรณีที่พบได้ยาก

such as when as a person can't sense the need to urinate,

เช่นเมื่อในที่ไม่สามารถรู้สึกได้ ว่าต้องการปัสสาวะ

the pouch can rupture painfully requiring surgery to fix.

กระเพาะปัสสาวะอาจระเบิด ทำให้เจ็บปวด และต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

But under normal circumstances,

แต่ภายใต้สถานการณ์ปกตินั้น

your decision to urinate stops the brain's signal to the external urethral sphincter,

การตัดสินใจที่จะปัสสาวะ หยุดสัญญาณ จากสมองที่ส่งไปยังหูรูดท่อปัสสาวะภายนอก

causing it to relax and the bladder to empty.

ทำให้เกิดการคลายตัว และปัสสาวะ ก็ถูกนำออกจากกระเพาะปัสสาวะ

The external urethral sphincter is one of the muscles of the pelvic floor,

หูรูดท่อปัสสาวะภายนอก เป็นหนึ่งในกล้ามเนื้อของอุ้งเชิงกราน

and it provides support to the urethra and bladder neck.

และมันช่วยค้ำจุนท่อปัสสาวะ และส่วนคอของกระเพาะปัสสาวะ

It's lucky we have these pelvic floor muscles

โชคดีที่เรามีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเหล่านี้

because placing pressure on the system by coughing,

เพราะว่าการให้ความดันกับระบบ โดยการไอ

sneezing,

การจาม

laughing,

การหัวเราะ

or jumping could cause bladder leakage.

หรือการกระโดด อาจทำให้ปัสสาวะเล็ดได้

Instead, the pelvic floor muscles keep the region sealed

แทนที่จะเป็นเช่นนั้น กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำให้ปัสสาวะอยู่ในที่ที่ควรอยู่

until you're ready to go.

จนกระทั่งคุณพร้อมจะปล่อยมันไป

But holding it in for too long,

แต่การอั้นมันเป็นเวลานาน

forcing out your urine too fast,

การปล่อยปัสสาวะเร็วเกินไป

or urinating without proper physical support

หรือการปัสสาวะ โดยไม่มีการค้ำจุนทางกายภาพที่ดี

may over time weaken or overwork that muscular sling.

อาจทำให้แถบกล้ามเนื้ออ่อนล้า หรือทำงานมากเกินไปในระยะยาว

That can lead to an overactive pelvic floor,

นั่นนำไปสู่กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ที่ทำงานมากเกินไป

bladder pain,

การปวดกระเพาะปัสสาวะ

urgency,

การปวดปัสสาวะเฉียบพลัน

or urinary incontinence.

หรือการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่

So in the interest of long-term health,

ฉะนั้น เพื่อเป็นการใส่ใจสุขภาพในระยะยาว

it's not a great habit to hold your pee.

มันไม่ใช่พฤติกรรมที่ดีเลยที่จะอั้นฉี่

But in the short term, at least, your body and brain have got you covered,

แต่อย่างน้อยในช่วงสั้น ๆ ร่างกายและสมองของคุณสามารถช่วยคุณได้

so you can conveniently choose your moment of sweet release.

เพื่อที่คุณจะได้เลือกเวลาที่เหมาะสม ในการปลดทุกข์ในสุขา