Aphasia: The disorder that makes you lose your words - Susan Wortman-Jutt

อะเฟเชีย: โรคทีทำให้คุณพูดไม่ออก - ซูซาน เวิร์ธแมน-จัสท์ (Susan Wortman-Jutt)

1,437,610 views

2016-09-15 ・ TED-Ed


New videos

Aphasia: The disorder that makes you lose your words - Susan Wortman-Jutt

อะเฟเชีย: โรคทีทำให้คุณพูดไม่ออก - ซูซาน เวิร์ธแมน-จัสท์ (Susan Wortman-Jutt)

1,437,610 views ・ 2016-09-15

TED-Ed


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Chanyanart Kiattiporn-opas Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut
00:07
Language is an essential part of our lives that we often take for granted.
0
7433
4577
ภาษาเป็นส่วนสำคัญของชีวิตเรา ที่เรามักมองข้ามความสำคัญของมันไป
00:12
With it, we can communicate our thoughts and feelings,
1
12010
3379
ด้วยการใช้ภาษา พวกเราสามารถที่จะสื่อสาร ความคิดและความรู้สึกของเรา
00:15
lose ourselves in novels,
2
15389
1981
หลงเข้าไปในนิยาย
00:17
send text messages,
3
17370
1568
ส่งข้อความ
00:18
and greet friends.
4
18938
2186
และทักทายเพื่อน ๆ
00:21
It's hard to imagine being unable to turn thoughts into words.
5
21124
4344
มันยากที่จะจินตนาการ ถึงการที่เรา ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดให้กลายเป็นคำได้
00:25
But if the delicate web of language networks in your brain
6
25468
3836
แต่ถ้าหากเครือข่ายภาษา อันละเอียดอ่อนในสมองของคุณ
00:29
became disrupted by stroke, illness, or trauma,
7
29304
4252
ถูกรบกวนด้วยโรคหลอดเลือดในสมอง, ความเจ็บป่วย หรือการบาดเจ็บที่สมอง
00:33
you could find yourself truly at a loss for words.
8
33556
3928
คุณจะพบว่าตนเองนั้นจะอยู่ใน ภาวะพูดไม่ออกอย่างแท้จริง
00:37
This disorder, called aphasia, can impair all aspects of communication.
9
37484
6021
โรคนี้ถูกเรียกว่า อะเฟเชีย ซึ่งสามารถทำให้เกิด การเสื่อมสภาพในทุกแง่มุมของการสื่อสาร
00:43
People who have aphasia remain as intelligent as ever.
10
43505
3530
คนที่เป็นโรคอะเฟเชียนั้น ยังคงมีเชาวน์ปัญญาเหมือนเดิม
00:47
They know what they want to say,
11
47035
1950
พวกเขารู้ว่า พวกเขาต้องการจะพูดอะไร
00:48
but can't always get their words to come out correctly.
12
48985
3261
แต่ก็ไม่สามารถเลือกหาคำเหล่านั้น และพูดออกมาได้อย่างถูกต้องเสมอไป
00:52
They may unintentionally use substitutions called paraphasias,
13
52246
4313
พวกเขาอาจจะใช้วิธีการแทนที่คำ อย่างไม่ตั้งใจ ซึ่งเรียกว่า การใช้คำไม่ถูก
00:56
switching related words, like saying "dog" for "cat,"
14
56559
3125
ซึ่งก็คือ การสับเปลี่ยนคำที่เกี่ยวข้องกัน อย่างเช่น พูดว่า "หมา" แทนที่จะพูดว่า "แมว"
00:59
or words that sound similar, such as "house" for "horse."
15
59684
6371
หรือคำที่เสียงใกล้เคียงกัน เช่น "เฮาส์" (บ้าน) แทนที่ "ฮอสส์" (ม้า)
01:06
Sometimes, their words may even be unrecognizable.
16
66055
3199
บางครั้ง คำพูดของพวกเขา อาจจะไม่สามารถเข้าใจได้
01:09
There are several types of aphasia grouped into two categories:
17
69254
4741
โรคอะเฟเชียมีอยู่หลายขนิด ที่ถูกจัดกลุ่มได้เป็นสองประเภท
01:13
fluent, or receptive, aphasia
18
73995
2330
อะเฟเชียแบบพูดได้อย่างคล่องแคล่ว หรือที่เกี่ยวกับการรับรู้ผิดปกติ
01:16
and non-fluent, or expressive, aphasia.
19
76325
3641
และ อะเฟเชียแบบพูดไม่คล่องแคล่ว หรือมีการแสดงออกผิดปกติ
01:19
People with fluent aphasia may have normal vocal inflection
20
79966
3810
คนที่เป็นอะเฟเชียแบบพูดอย่างคล่องแคล่ว อาจใช้น้ำเสียงปกติ
01:23
but use words that lack meaning.
21
83776
2681
หากแต่กลับใช้คำที่ไม่มีความหมาย
01:26
They have difficulty comprehending the speech of others
22
86457
3069
พวกเขามีปัญหา ในการทำความเข้าใจคำพูดของผู้อื่น
01:29
and are frequently unable to recognize their own speech errors.
23
89526
4009
และบ่อยครั้ง พวกเขาไม่สามารถ รู้ถึงข้อผิดพลาดในการพูดของตนเอง
01:33
People with non-fluent aphasia, on the other hand,
24
93535
2770
ในทางตรงกันข้าม คนที่เป็นอะเฟเชียแบบพูดไม่คล่องแคล่ว
01:36
may have good comprehension
25
96305
1901
จะมีการเข้าใจความหมายที่ดี
01:38
but will experience long hesitations between words and make grammatical errors.
26
98206
5161
แต่จะลังเลอยู่นานกว่าจะพูดแต่ละคำ และมักใช้ไวยากรณ์ผิด
01:43
We all have that tip-of-the-tongue feeling from time to time
27
103367
3240
พวกเราล้วนแล้วแต่มีอาการติดอยู่ที่ริมผีปาก บ้างเป็นบางครั้ง
01:46
when we can't think of a word,
28
106607
1881
เมื่อพวกเรานึกคำไม่ออก
01:48
but having aphasia can make it hard to name simple, everyday objects.
29
108488
4330
แต่โรคอะเฟเชียทำให้การเรียกชื่อ สิ่งของในชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องยาก
01:52
Even reading and writing can be difficult and frustrating.
30
112818
3700
แม้แต่การอ่าน และการเขียนก็เป็น เรื่องยาก และน่าหงุดหงิดใจ
01:56
So how does this language loss happen?
31
116518
2790
แล้วการสูญหายไปของภาษานี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร
01:59
The human brain has two hemispheres.
32
119308
2499
สมองของมนุษย์มีสองซีก
02:01
In most people, the left hemisphere governs language.
33
121807
3760
ในคนส่วนใหญ่ สมองซึกซ้าย ควบคุมด้านภาษา
02:05
We know this because in 1861,
34
125567
2411
พวกเรารู้เรื่องนี้เป็นเพราะ ในปี ค.ศ. 1861
02:07
the physician Paul Broca studied a patient
35
127978
2699
นายแพทย์ พอล โบรคาได้ทำการศึกษาคนไข้
02:10
who lost the ability to use all but a single word, "tan."
36
130677
4829
ที่สูญเสียความสามารถในการใช้ภาษาทั้งหมด เว้นแต่ คำ ๆ เดียวคือ "แทน" (tan)
02:15
During a postmortem study of that patient's brain,
37
135506
2492
ระหว่างการศึกษาโดยการชันสูตร สมองของผู้ป่วย
02:17
Broca discovered a large lesion in the left hemisphere
38
137998
3340
โบรคาได้ค้นพบบาดแผลขนาดใหญ่ ในซีกซ้ายของสมอง
02:21
now known as Broca's area.
39
141338
2389
ซึ่งตอนนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ บริเวณ โบรคา (Broca's area)
02:23
Scientists today believe that Broca's area is responsible in part for naming objects
40
143727
4431
นักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันเชื่อว่า บริเวณโบรคา เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ในการเรียกชื่อสิ่งของ
02:28
and coordinating the muscles involved in speech.
41
148158
2920
และประสานงานกับกล้ามเนื้อ ที่เกี่ยวข้องกับการพูด
02:31
Behind Broca's area is Wernicke's area near the auditory cortex.
42
151078
4800
หลังบริเวณโบรคา คือ บริเวณเวอร์นิกี (Wernicke's area) ซึ่งอยู่ใกล้กับสมองส่วนการได้ยิน
02:35
That's where the brain attaches meaning to speech sounds.
43
155878
3130
ซึ่งเป็นบริเวณที่สมอง เชื่อมโยงความหมายกับเสียงพูดเข้าด้วยกัน
02:39
Damage to Wernicke's area impairs the brain's ability to comprehend language.
44
159008
4330
บริเวณเวอร์นิกีที่ได้รับความเสียหาย จะบั่นทอน ความสามารถของสมองในการเข้าใจภาษา
02:43
Aphasia is caused by injury to one or both of these specialized language areas.
45
163338
5151
อะเฟเชียเกิดจากความเสียหายในหนึ่ง หรือทั้งสองบริเวณที่เกี่ยวกับภาษาโดยเฉพาะ
02:48
Fortunately, there are other areas of the brain
46
168489
2340
โชคดีที่มีบริเวณอื่น ๆ ในสมอง
02:50
which support these language centers
47
170829
1950
ที่สนับสนุนศูนย์กลางด้านภาษาเหล่านี้
02:52
and can assist with communication.
48
172779
2439
และสามารถช่วยเหลือในการสื่อสารได้
02:55
Even brain areas that control movement are connected to language.
49
175218
3860
แม้แต่บริเวณของสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ก็ถูกเชื่อมต่อกับภาษา
02:59
FMRI studies found that when we hear action words, like "run" or "dance,"
50
179078
5400
จากการศึกษาโดยใช้ FMRI พบว่าเมื่อเราได้ยิน คำที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว เช่น "วิ่ง" หรือ "เต้น"
03:04
parts of the brain responsible for movement light up
51
184478
3122
ส่วนของสมองที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับ การเคลื่อนไหวจะมีการตอบสนอง
03:07
as if the body was actually running or dancing.
52
187600
3369
ราวกับว่าร่างกายกำลังวิ่งหรือเต้นอยู่จริง ๆ
03:10
Our other hemisphere contributes to language, too,
53
190969
2960
สมองอีกซีกหนึ่งของเรา ก็มีส่วนในเรื่องของภาษาด้วยเช่นกัน
03:13
enhancing the rhythm and intonation of our speech.
54
193929
3440
โดยทำหน้าที่เพิ่มจังหวะ และการใช้เสียงสูงต่ำในการพูดของเรา
03:17
These non-language areas sometimes assist people with aphasia
55
197369
3730
ตำแหน่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษาเหล่านี้ บางครั้งก็ช่วยเหลือคนที่เป็นโรคอะเฟเชีย
03:21
when communication is difficult.
56
201099
2370
เมื่อมีปัญหาในการสื่อสาร
03:23
So how common is aphasia?
57
203469
2199
แล้วโรคอะเฟเชียพบได้มากแค่ไหน
03:25
Approximately 1 million people in the U.S. alone have it,
58
205668
3245
เพียงแค่ในสหรัฐอเมริกาแห่งเดียว มีคนประมาณ 1 ล้านคนที่เป็นโรคนี้
03:28
with an estimated 80,000 new cases per year.
59
208913
3617
และมีผู้ป่วยใหม่ประมาณ 80,000 คน ต่อปี
03:32
About one-third of stroke survivors suffer from aphasia
60
212530
3139
ประมาณหนึ่งในสามของผู้รอดชีวิตจาก โรคหลอดเลือดสมองมีอาการอะเฟเชีย
03:35
making it more prevalent than Parkinson's disease
61
215669
2591
ทำให้โรคนี้ถูกพบได้มากกว่า ผู้ป่วยโรคพาคินสัน
03:38
or multiple sclerosis,
62
218260
1920
หรือคิดเป็นสองเท่าของผู้ป่วยเส้นเลือดตีบ
03:40
yet less widely known.
63
220180
2289
แต่ทว่ามันยังเป็นที่รู้จักในวงแคบกว่า
03:42
There is one rare form of aphasia called primary progressive aphasia, or PPA,
64
222469
5411
มีรูปแบบหนึ่งที่หายากของอะเฟเชีย ที่เรียกว่า ภาวะเสียการสื่อความแบบปฐมภูมิ หรือ PPA
03:47
which is not caused by stroke or brain injury,
65
227880
2891
ซึ่งไม่ได้เกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง หรือการได้รับบาดเจ็บที่สมอง
03:50
but is actually a form of dementia
66
230771
2438
แต่เป็นรูปแบบหนึ่งของโรคสมองเสื่อม
03:53
in which language loss is the first symptom.
67
233209
2852
ซึ่งการสูญเสียภาษาเป็น อาการอันดับแรกของโรคนี้
03:56
The goal in treating PPA is to maintain language function for as long as possible
68
236061
5171
เป้าหมายในการรักษา PPA คือการประคับประคอง ด้านภาษาให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
04:01
before other symptoms of dementia eventually occur.
69
241232
3328
ก่อนที่อาการอื่น ๆ ของโรคสมองเสื่อม จะเกิดขึ้นในท้ายที่สุด
04:04
However, when aphasia is acquired from a stroke or brain trauma,
70
244560
3770
อย่างไรก็ดี เมื่อโรคอะเฟเชียพัฒนามาจาก โรคหลอดเลือดสมอง หรือการบาดเจ็บที่สมอง
04:08
language improvement may be achieved through speech therapy.
71
248330
3711
การปรับปรุงด้านภาษาอาจทำได้ โดยการบำบัดเกี่ยวกับการพูด
04:12
Our brain's ability to repair itself, known as brain plasticity,
72
252041
3870
สมองของเรามีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเอง ที่เรียกกันว่า ความยืดหยุ่นของสมอง
04:15
permits areas surrounding a brain lesion
73
255911
2569
ที่ทำให้ส่วนที่อยู่รอบ ๆ บริเวณที่บาดเจ็บของสมอง
04:18
to take over some functions during the recovery process.
74
258480
3514
เข้ามาควบคุมบางหน้าที่แทน ในระหว่างกระบวนการฟื้นฟู
04:21
Scientists have been conducting experiments using new forms of technology,
75
261994
4411
นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลอง โดยใช้เทคโนโลยีรูปแบบใหม่
04:26
which they believe may encourage brain plasticity in people with aphasia.
76
266405
4935
ที่พวกเขาเชื่อว่าอาจจะช่วยส่งเสริม ความยืดหยุ่นของสมองในคนที่เป็นอะเฟเชีย
04:31
Meanwhile, many people with aphasia remain isolated,
77
271340
3914
ในระหว่างนั้น คนที่เป็นโรคอะเฟเชีย จำนวนมากก็ยังคงรู้สึกแปลกแยก
04:35
afraid that others won't understand them or give them extra time to speak.
78
275254
4687
เกรงว่าคนอื่น ๆ จะไม่เข้าใจพวกเขา หรือจะไม่ยอมเสียเวลาให้พวกเขาได้พูด
04:39
By offering them the time and flexibility to communicate in whatever way they can,
79
279941
4370
ด้วยการให้เวลาและความยืดหยุ่นในการสื่อสาร ในรูปแบบใดก็ตามที่พวกเขาสามารถทำได้
04:44
you can help open the door to language again,
80
284311
2794
คุณสามารถช่วยเปิดประตูภาษา ของพวกเขาได้อีกครั้ง
04:47
moving beyond the limitations of aphasia.
81
287105
2929
ให้พวกเขาก้าวขึ้นไป เหนือกว่าขีดจำกัดของโรคอะเฟเชีย
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7