We Can Make COVID-19 the Last Pandemic | Bill Gates | TED

Translator: Jimmy Tangjaitrong Reviewer: Natthapat Mardech

In the year 6 CE,

ในปีคริสตศักราชที่ 6

a fire devastated Rome.

ไฟได้ไหม้ล้างผลาญกรุงโรม

In response,

ในการรับมือเรื่องดังกล่าว

Emperor Augustus did something that had never been done before

จักรพรรดิเอากุสตุส ได้ทำบางสิ่งบางอย่าง ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

in the history of the Empire.

ในประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิ

He created a permanent team of firefighters

พระองค์ได้สร้าง ทีมนักดับเพลิงแบบถาวรขึ้น

who used buckets just like this one.

ที่ใช้ถังน้ำหน้าตาแบบนี้

Augustus understood that individuals alone can't protect themselves from fires.

เอากุสตุส มีความเข้าใจว่าคนหนึ่งคน ไม่สามารถปกป้องตนเองจากไฟไหม้ได้

They need help from the community.

เขาต้องการความช่วยเหลือจากชุมชน

When one person's house is on fire,

เมื่อบ้านใครไฟไหม้

that creates a risk for everyone else's homes.

มันจะสร้างความเสี่ยง ให้กับบ้านของคนอื่น ๆ

And so what we've had these last few years is like a horrific global fire.

และสิ่งที่เราเจออยู่ใน 2-3 ปีมานี้ ก็เหมือนกับไฟไหม้โลกที่แสนน่ากลัว

The COVID pandemic has killed millions and upended economies,

การระบาดของโควิดนั้น ได้ฆ่าผู้คนนับล้าน และพังเศรษฐกิจลง

and we want to stop that from happening again.

และเราอยากที่จะหยุดสิ่งนี้ ไม่ให้เกิดขึ้นอีก

COVID, it's hard to overstate how awful it's been.

โควิด มันยากที่จะพูดให้เกินจริงนะ ว่ามันเลวร้ายแค่ไหน

It's increased the health inequities between the rich and the poor.

มันได้เพิ่มความไม่เท่าเทียมกันทางสุขภาพ ระหว่างคนรวยกับคนจน

Survival depended partly on your income, your race,

ส่วนหนึ่งของการอยู่รอด ขึ้นอยู่กับรายได้ เชื้อชาติ

the neighborhood you lived in.

ย่านที่คุณอยู่อาศัย

And so we should seize this opportunity

ดังนั้น เราควรฉกฉวยโอกาสนี้

to create a world where everyone has a chance

ในการสร้างโลก ที่ทุกคนจะมีโอกาส

to live a healthy and productive life.

ที่จะมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและเป็นประโยชน์

Also a life free from the fear of the next COVID-19.

และชีวิตที่ปราศจากความกลัว ต่อโควิด 19 ในครั้งต่อไป

When I was on this stage in 2015,

ตอนที่ผมมาขึ้นเวทีนี้ในปี 2015

I was one of many people who said

ผมเป็นหนึ่งในหลายคนที่พูดว่า

we weren't ready and we needed to get ready.

เราไม่พร้อม และเราจำเป็นต้องพร้อม

We didn't.

แต่เราก็ไม่

The speech actually was watched by a lot of people.

การพูดครั้งนั้นได้ถูกรับชมโดยคนจำนวนมาก

But 90 percent of the views were after it was too late.

แต่ 90 เปอร์เซ็นต์ของยอดรับชม เกิดขึ้นหลังจากที่มันสายไปเสียแล้ว

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

So now I hope the need is clear.

ดังนั้น ผมหวังว่าในเวลานี้ ความจำเป็นนั้นเป็นที่กระจ่าง

And of course, we've learned a lot.

และแน่นอนว่า เราได้เรียนรู้มากมาย

During this pandemic,

ในระหว่างการระบาดครั้งนี้

a lot of things worked well, a lot of things didn't work well.

หลายสิ่งใช้ได้ดี หลายอย่างใช้ไม่ได้ผลดีนัก

And so we have all that knowledge to build a prevention system.

เพราะฉะนั้น เราจึงมีความรู้ ที่จะสร้างระบบป้องกัน

COVID-19 can be the last pandemic if we take the right steps.

โควิด 19 สามารถเป็นโรคระบาดครั้งสุดท้าย ถ้าเราทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

So how, what are these steps?

แล้วขั้นตอนดังกล่าวคืออะไรบ้าง

Well, let's go back and look at what the Romans did.

เรากลับไปดูสิ่งที่ชาวโรมันได้ทำไว้

Think about how, over time, we've gotten good at preventing big fires.

ลองคิดดูนะว่า ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เราเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ในการป้องกันไฟไหม้ใหญ่

Fire prevention is kind of this pervasive thing.

การป้องกันอัคคีภัยเป็นสิ่งที่แพร่หลาย

It's well funded.

ได้รับงบประมาณอย่างดี

It's well understood.

ได้รับความเข้าใจอย่างดี

If an alarm went off right now,

ถ้าสัญญานเตือนภัยดังขึ้นตอนนี้

everyone here would know we're supposed to calmly gather,

ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะรู้ว่า เราต้องรวมตัวกันอย่างสงบ

go out and wait instructions.

ออกจากอาคาร และรอคำแนะนำ

We'd know that help would be on the way

เราจะรู้ว่าความช่วยเหลือกำลังเดินทางมา

because we have lots of trained firefighters who practice.

เพราะเรามีพนักงานดับเพลิงจำนวนมาก ที่ผ่านการอบรม

The United States alone has 370,000 full-time firefighters,

ประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว มีพนักงานดับเพลิงประจำถึง 370,000 คน

even more than I guessed that number would be.

มากกว่าตัวเลขที่ผมคาดเดาด้วยซ้ำ

We also have access to water.

แล้วเรายังเข้าถึงน้ำได้

The United States, for example, has almost nine million fire hydrants.

ประเทศสหรัฐอเมริกา มีหัวก๊อกน้ำดับเพลิง เกือบ 9 ล้านหัว

And so that type of investment, that type of practice,

ดังนั้น การลงทุนแบบนั้น การฝึกปฏิบัติแบบนั้น

that type of system is what we need to stop pandemics.

ระบบแบบนั้น คือสิ่งที่เราต้องการในการหยุดโรคระบาด

Now, often in movies, we'll have pandemics.

ในภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง เรามักจะมีโรคระบาด

And I'm always impressed with what takes place.

และผมประทับใจเสมอ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

Let's look at an example of this rapid response.

มาดูตัวอย่างของ การตอบสนองที่รวดเร็วนี้กันครับ

[Motaba River Valley, Zaire]

[หุบเขาแม่น้ำโมทาบา สาธารณรัฐซาอีร์]

(Helicopter rotors whirring)

(เสียงเฮลิคอปเตอร์)

Well, that's quite impressive.

นั่นค่อนข้างน่าประทับใจนะครับ

We don't need the music,

เราไม่ต้องการเพลงประกอบ

but otherwise we saw exactly what should happen.

แต่เราเห็นสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น

An outbreak’s detected.

มีการตรวจพบการระบาด

Very quickly, literally within days,

อย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่วัน

doctors are dispatched.

คุณหมอได้ถูกส่งออกมา

They have a helicopter to get into exactly ground zero.

มีเฮลิคอปเตอร์ ที่บินมายังจุดกำเนิดของการแพร่ระบาด

They go in there, and they’ve got the right tools.

คุณหมอเดินทางเข้าไป พร้อมกับเครื่องมือต่าง ๆ ที่ถูกต้อง

And this is what should happen when an outbreak is spotted.

และนี่คือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น เมื่อพบการระบาด

But we don't have that team, we don't have those resources.

แต่เราไม่มีทีมแบบนั้น เราไม่มีทรัพยากรเหล่านั้น

And if an outbreak took place in a low-income country,

และถ้าการระบาดเกิดขึ้น ในประเทศยากจน

it could be literally months

มันคงจะใช้เวลาหลายเดือน

before we started to orchestrate those resources.

ก่อนที่เราจะเริ่มรวบรวม ทรัพยากรที่จำเป็น

So despite what you see in movies,

ดังนั้น แม้ว่าคุณจะเห็นในภาพยนตร์

there is no group of experts standing by to prevent this disaster.

แต่เราไม่มีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ที่คอยป้องกันภัยพิบัตินี้

So we have to create a new team.

เพราะฉะนั้น เราต้องสร้างทีมใหม่

I believe we should create what I call the GERM team.

ผมเชื่อว่าเราควรสร้าง สิ่งที่ผมเรียกว่าทีมเจิม (GERM)

Germ stands for Global Epidemic Response and Mobilization.

เจิมย่อมาจาก (G) ทั่วโลก (E) การระบาด (R) การตอบสนอง และ (M) การระดมพล

This group is full-time.

ทีมนี้ทำงานประจำ

Their only priority is pandemic prevention.

หน้าที่สำคัญเพียงอย่างเดียวของพวกเขา คือการป้องกันโรคระบาด

It's made up of a diverse set of specialists

ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลากหลายกลุ่ม

with a lot of different realms of expertise:

ด้วยความเชี่ยวชาญ ที่แตกต่างกันมากมาย

epidemiologists, data scientists,

นักระบาดวิทยา นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล

logistics experts.

ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์

And it's not just scientific and medical knowledge.

และไม่ใช่แค่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และทางการแพทย์เท่านั้น

They also have to have communication and diplomacy skills.

พวกเขายังต้องมีทักษะ ในการสื่อสารและการทูต

The cost of this team is significant.

ค่าใช้จ่ายของทีมนี้ก็มีความสำคัญ

It's over a billion a year

มันสูงกว่าพันล้านต่อปี

to support the 3,000 people who would be on this team.

เพื่อที่จะสนับสนุนคน 3,000 คน ที่จะอยู่ในทีมนี้

And its mission is to stop outbreaks before they become pandemics.

และภารกิจของทีมก็คือการหยุดการแพร่ระบาด ก่อนที่มันจะกลายเป็นโรคระบาด

The work would be coordinated by the WHO.

งานนี้จะได้รับการประสานโดย องค์การอนามัยโลก (WHO)

They'd be present in many locations around the world,

สมาชิกทีมจะถูกส่งไปอยู่ ในหลายสถานที่ทั่วโลก

stationed in public health agencies.

ประจำอยู่ตามหน่วยงานด้านสาธารณสุข

They'd work closely with the national teams,

พวกเขาจะทำงานอย่างใกล้ชิด กับทีมของแต่ละประเทศ

depending on the income level.

ขึ้นอยู่กับระดับรายได้

They'd have more in the lower-income countries.

การประจำการจะมีจำนวนมากกว่า ในประเทศที่ยากจนกว่า

You know, for example, we could have GERM members

ยกตัวอย่างเช่น เราอาจจะมีสมาชิกทีมเจิม

say an epidemiologist, working out of the Africa CDC office in Abuja.

เช่น นักระบาดวิทยาที่ทำงานอยู่ใน ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแอฟริกา ในเมืองอาบูจา

And a very important thing is that like firefighters,

และสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งไม่ต่างจากนักดับเพลิง

a GERM team would do drills.

ก็คือทีมเจิมจะต้องทำการฝึกซ้อม

When you want to have quick response,

เมื่อคุณอยากได้การตอบสนองที่รวดเร็ว

when you want to make sure you have all the pieces there

เมื่อคุณอยากมั่นใจว่า คุณมีปัจจัยต่าง ๆ พร้อม

and you can move very quickly, practice is key.

และคุณสามารถปฏิบัติงานด้วยความรวดเร็ว การฝึกซ้อมคือหัวใจสำคัญ

That's how you make sure everyone knows what to do.

นั่นคือวิธีที่จะมั่นใจได้ว่า ทุกคนรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง

Now, this team, there could be periods where there's no risky outbreak

สำหรับทีมดังกล่าว อาจมีบางช่วงเวลาที่ ไม่มีความเสี่ยงต่อการระบาด

and they can keep their skills strong

ทีมจะสามารถรักษาทักษะต่าง ๆ ให้ดีอยู่ได้

by working on some of the other infectious diseases,

ด้วยการทำงานกับโรคติดเชื้ออื่น ๆ

but that would be a second priority.

แต่นั่นจะเป็นความสำคัญลำดับรอง

They would work with countries to strengthen their health systems.

ทีมจะทำงานกับประเทศต่าง ๆ เพื่อวางรากฐานระบบสุขภาพที่ดี

The health systems are the front line.

ระบบสุขภาพคือปราการด่านหน้า

You need to know if, say,

คุณต้องรู้ว่าถ้า

a lot of people show up with a new kind of cough,

คนจำนวนมากเริ่มมีอาการไอแบบแปลก ๆ

that’s when GERM needs to look into it and say, is this an outbreak?

เมื่อนั้นทีมเจิมจะต้องเข้าสำรวจ ตรวจสอบว่าเป็นการระบาดของโรคหรือไม่

Is there a new pathogen here?

มีเชื้อโรคใหม่ที่นี่หรือไม่

What is the sequence of that?

เกิดอะไรขึ้นก่อนหลัง

And so for all of this, the first 100 days are key.

และทั้งหมดนี้ 100 วันแรกคือหัวใจสำคัญ

Viruses spread exponentially.

ไวรัสจะแพร่กระจายอย่างทวีคูณ

And so if you get in there when the infection rate is fairly small,

ดังนั้น ถ้าคุณลุยเข้าไป ตอนที่อัตราการติดเชื้อยังค่อนข้างน้อย

you can actually stop the spread.

คุณจะสามารถหยุดการระบาดได้

You know, in this epidemic,

ในสถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้

if we'd been able to stop it within 100 days,

ถ้าเราหยุดมันไว้ได้ใน 100 วันแรก

we would have saved over 98 percent of the lives.

เราจะช่วย 98 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ที่เสียชีวิตไปได้

Now, we did have countries that did a good job.

มีบางประเทศที่รับสถานการณ์ได้ดี

Australia is an example.

เช่น ออสเตรเลีย

They orchestrated diagnostic capacity.

พวกเขาฝึกฝนทักษะ ในการวินิจฉัยโรคให้พร้อม

They came up with distancing policies and quarantine policies.

เขาเสนอนโยบายการเว้นระยะห่าง และนโยบายการกักตัว

And so their overall death rate per capita will be well less

ดังนั้นอัตราการเสียชีวิตโดยรวมต่อหัว

than a 10th of other countries.

ก็จะน้อยกว่า 1 ใน 10 ของประเทศอื่น ๆ

But we did not, as a world, contain it.

แต่เราก็ไม่ได้จำกัดวง โรคระบาดครั้งนี้

And that's what we have to do next time.

และนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำในครั้งต่อไป

When COVID struck, we were almost like Rome

ตอนที่โควิดเริ่มต้น เราเป็นคล้าย ๆ กรุงโรม

before they had fire buckets and firefighters.

ก่อนที่เขาจะเริ่มมีถังน้ำดับเพลิง และนักดับเพลิง

We didn't have the people, the systems or the tools we need.

เราไม่ได้มีบุคลากร ระบบ หรือเครื่องมือที่เราต้องการ

Now, with the right investments,

ในตอนนี้ ด้วยการลงทุนที่เหมาะสม

we can have a whole new generation of tools,

เราสามารถมีเครื่องมือยุคใหม่ทั้งหมด

better diagnostics, therapeutics and vaccines.

การวินิจฉัยที่ดีขึ้น การรักษา และวัคซีน

A good example in the diagnostic area is this little machine,

ตัวอย่างที่ดีในด้านการวินิจฉัย คือเครื่องเล็ก ๆ เครื่องนี้

this is called the Lumira.

ที่มีชื่อว่า ลูมิรา

We can have these all over the world that can test for any number of diseases.

เราสามารถมีเครื่องนี้อยู่ทั่วโลกได้ ซึ่งสามารถทดสอบโรคต่าง ๆ

It’s a 10th as expensive as PCR,

มันมีราคา 1 ใน 10 ของ PCR

it’s absolutely as accurate, and it’s simple.

มันมีความแม่นยำพอ ๆ กัน และมันก็ใช้งานง่าย

So it can be used anywhere.

ดังนั้น มันจึงถูกใช้ได้ในทุก ๆ ที่

We need other R&D investments.

เราต้องลงทุนใน การวิจัยและพัฒนาด้านอื่น ๆ

One that I'm very excited about is the idea of a drug

อย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ คือความคิดเรื่องยา

that you inhale that blocks you from getting infected.

ที่คุณสูดดมเข้าไปเพื่อป้องกัน ไม่ให้คุณติดเชื้อ

It can be pathogen-independent and trigger your immune system

มันสามารถเป็นอิสระจากเชื้อโรค และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของคุณ

so that you'll be protected.

เพื่อที่คุณจะได้รับการปกป้อง

A lot of the tools, the diagnostic tools

เครื่องมือมากมาย เครื่องมือวินิจฉัย

and those infection-blocking tools are important

และเครื่องมือป้องกันการติดเชื้อ มีความสำคัญ

because they can be staged in advance.

เพราะมันสามารถถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าได้

Now, we also need vaccines,

เอาล่ะ เราต้องการวัคซีนด้วย

but we want to stop the outbreak

แต่เราอยากที่จะหยุดการระบาด

before we have to do a global vaccination campaign.

ก่อนที่เราจะต้องทำการรณรงค์ ให้ฉีดวัคซีนทั่วโลก

And so vaccines can play a couple of different roles,

ดังนั้น วัคซีนสามารถมีบทบาทที่หลากหลาย

but not the primary role.

แต่จะไม่ใช่บทบาทหลัก

We have to invest in more than just that.

เราต้องลงทุนในสิ่งอื่น ๆ ด้วย

When we look at vaccines, they were the miracle of this epidemic.

เมื่อเรามองไปที่วัคซีน มันถือว่าเป็น ปาฏิหาริย์ของการระบาดในครั้งนี้

They saved millions of lives, but they can be far better.

วัคซีนช่วยชีวิตคนนับล้าน แต่วัคซีนสามารถทำได้ดีกว่านี้

We need to invent easier-to-deliver vaccines

เราต้องคิดค้นวัคซีน ที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น

that are just a patch you put on your arm

ที่เป็นเพียงแผ่นแปะที่แขน

or something that you inhale.

หรือบางสิ่งที่คุณใช้สูดดม

We need vaccines that actually block infections.

เราต้องการวัคซีนที่ ป้องกันการติดเชื้อได้จริง

In this case, there were lots of breakthrough infections.

ในการระบาดครั้งนี้ มีการติดเชื้อที่ลุกลามจำนวนมาก

We need vaccines that are broad spectrum,

เราต้องการวัคซีนที่ออกฤทธิ์กว้าง

so they work against most of the emerging variants,

เพื่อที่วัคซีนจะได้รับมือได้ กับสายพันธุ์ใหม่ต่าง ๆ

which we did not have this time.

ซึ่งรอบนี้เรายังไม่มีวัคซีนดังกล่าว

And we also need factories that are standing by

และเรายังต้องการโรงงานที่พร้อม

so we can build enough vaccines for the entire world

เพื่อที่เราจะสามารถสร้างวัคซีน ให้เพียงพอสำหรับทั้งโลก

within six months

ภายในหกเดือน

and achieve far better equity.

และกระจายอย่างเท่าเทียมยิ่งขึ้น

วัคซีนยังสามารถทำบางสิ่ง ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

The vaccines can also do something that would be super helpful,

which is to help us eradicate entire families of viruses.

ซึ่งก็คือการช่วยเรากำจัดไวรัสทั้งตระกูล

Innovative new vaccines used properly could get rid of the flu family,

นวัตกรรมวัคซีนใหม่ที่ใช้อย่างเหมาะสม สามารถกำจัดเชื้อตระกูลไข้หวัดใหญ่

the coronavirus family.

เชื้อตระกูลโคโรนาไวรัส

And there's a huge burden of those,

มีภาระหนักหนามาก

even in non-pandemic years,

แม้ในปีที่ไม่มีโรคระบาด

and if we get rid of it, it can never cause a pandemic.

และถ้าเรากำจัดมันไปซะ มันก็ไม่สามารถทำให้เกิดโรคระบาดได้

So I'm talking about investments in three broad areas:

ผมกำลังพูดถึงการลงทุน ใน 3 เรื่องกว้าง ๆ ได้แก่

Disease monitoring,

การตรวจติดตามโรค

that's GERM.

นั่นคือทีมเจิม (GERM)

The R and D tools that are far better.

เครื่องมือวิจัยและพัฒนาที่ดียิ่งขึ้น

And finally, and the most expensive, is improved health systems.

และสิ่งสุดท้าย ซึ่งแพงที่สุด คือระบบสุขภาพที่ดีขึ้น

This won't be cheap, but it'll save lives.

มันราคาไม่ถูก แต่มันจะช่วยชีวิต

And even it'll save money in the long run.

และมันอาจจะช่วย ประหยัดเงินได้ในระยะยาว

It's like an insurance policy.

มันก็เหมือนกรมธรรม์ประกันภัย

The cost to prevent the next pandemic will be tens of billions of dollars.

ค่าใช้จ่ายในการป้องกันโรคระบาดครั้งต่อไป จะมีมูลค่าหมื่นล้านดอลลาร์

But let's compare that to what we just went through.

แต่ลองเปรียบเทียบดู กับสิ่งที่เราเพิ่งผ่านมา

The IMF estimates that COVID has cost nearly 14 trillion dollars.

ไอเอ็มเอฟประเมินว่าโควิด สร้างความเสียหายเกือบ 14 ล้านล้านดอลลาร์

And so we need to spend billions in order to save trillions.

เราจึงจำเป็นต้องใช้เงินหลายพันล้าน เพื่อประหยัดเงินหลายล้านล้าน

And here's the best part of this.

และสิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องนี้คือ

Even when we're not having an outbreak, these investments like the Lumira,

แม้แต่ตอนที่เราไม่เจอกับการระบาด การลงทุนเหล่านี้ เช่น ลูมิรา

those new vaccines,

วัคซีนใหม่ ๆ เหล่านั้น

they will make people healthier.

จะทำให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีขึ้น

They'll shrink the gap, the health equity gap,

มันจะลดช่องว่าง ความเสมอภาคด้านสุขภาพ

which is gigantic, between rich and poor countries.

ซึ่งแตกต่างกันมาก ระหว่างประเทศที่ร่ำรวยและยากจน

For example, we can detect more HIV cases and do a better job of treatment.

ตัวอย่างเช่น เราสามารถตรวจหาผู้ติดเชื้อ เอชไอวีได้มากขึ้นและทำการรักษาได้ดีขึ้น

We can reduce deaths from malaria.

เราสามารถลดการเสียชีวิตจากโรคมาลาเรีย

We can get more people high-quality care.

เราสามารถดูแลผู้คนจำนวนมากขึ้น ด้วยคุณภาพที่สูงขึ้น

And so this is not just a downer

และนี่ไม่ใช่แค่ความตกต่ำ

about how to stop things from getting worse,

ของวิธีที่จะหยุดสิ่งต่าง ๆ ไม่ให้เลวร้ายลง

but also a chance to make things better.

แต่ยังเป็นโอกาสที่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ ดีขึ้น

If we take the right steps,

หากเราทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

we can make COVID-19 the last pandemic,

เราจะทำให้โควิด 19 เป็นการระบาดครั้งสุดท้ายได้

and we can build a healthier, more equitable world for everyone.

และเราสามารถสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น และเท่าเทียมกันมากขึ้นสำหรับทุกคน

Thank you.

ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

เฮเลน วอลเตอร์ส: ขอบคุณ ๆ ขอบคุณมากค่ะ

Helen Walters: Thank you so much.

I have a few follow-up questions

ฉันมีคำถาม 2-3 ข้อ

and one is really about the formal status of GERM.

คำถามหนึ่งเกี่ยวกับสถานะ อย่างเป็นทางการของทีมเจิม

So you mentioned this would cost a billion dollars,

คุณบอกว่าสิ่งนี้จะต้อง ใช้เงินเป็นพันล้านดอลลาร์

you mentioned it comes through the WHO,

คุณบอกว่างบประมาณ จะมาจากองค์การอนามัยโลก

but exactly who's running this, how does this work,

แต่ใครจะดำเนินการเรื่องนี้ มันทำงานยังไง

how do we make this happen?

เราจะทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ยังไง

BG: Well, GERM does not exist.

บิล: อืม ทีมเจิมยังไม่มีอยู่จริง

It's a proposal I'm putting forward that hopefully over the next year,

มันเป็นข้อเสนอที่ผมเสนอไว้ ซึ่งหวังว่าปีหน้า

while the pain of the pandemic is still clear in people's minds,

ในขณะที่ความเจ็บปวดจากโรคระบาด ยังคงชัดเจนอยู่ในใจของผู้คน

will get a global consensus.

ข้อเสนอจะได้รับฉันทามติทั่วโลก

The rich-world governments will have to step up

รัฐบาลของประเทศที่ร่ำรวย ต้องเข้ามาจัดการ

like they do with all the aid things and come up with that money.

เช่นเดียวกับที่ทำกับความช่วยเหลือต่าง ๆ และหางบประมาณมา

The way the personnel systems works, so that it's under WHO,

วิธีการทำงานของระบบบุคลากร เพื่อให้อยู่ภายใต้องค์การอนามัยโลก

but a really top-notch team,

แต่มีทีมงานระดับแนวหน้าจริง ๆ

there will be a lot of debate about how to do that well.

จะมีการถกเถียงกันอย่างมาก ว่าจะทำให้ดีได้อย่างไร

So, you know, I'm putting it forward

ผมจึงขอนำเสนอ

and hopefully within the next year we'll get that consensus.

และหวังว่าภายในปีหน้า เราจะมีฉันทามติร่วมกัน

HW: Who do you need to pick that up next?

เฮเลน: แล้วคุณต้องการ ให้ใครเป็นคนดำเนินการต่อ

BG: Well, it's really the rich-world governments.

บิล: รัฐบาลของประเทศที่ร่ำรวย

The WHO has this big yearly meeting, the World Health Assembly,

องค์การอนามัยโลกมีการประชุมใหญ่ประจำปี งานสมัชชาอนามัยโลก

and at some point somebody will put forward a resolution

และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็จะมีคนเสนอวิธีการแก้ปัญหา

and we'll see if the extra resources can be put in for that.

แล้วค่อยมาดูกันว่า จะสามารถเพิ่มเติมทรัพยากรได้หรือไม่

After World War II, we did a lot.

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เราทำหลายอย่าง

You know, we created the United Nations, we talked a lot about war.

เราก่อตั้งสหประชาชาติ เราคุยกันมากมายเกี่ยวกับสงคราม

So I'd be stunned, although, you know,

ดังนั้น ผมคงตะลึง แม้ว่าตอนนี้

so far the action has been less than I would have expected,

สิ่งต่าง ๆ ได้ถูกจัดการ น้อยกว่าที่ผมคาดไว้

I'd be stunned if we don't go forward with something pretty close

แต่ผมคงตะลึงไปเลย ถ้าเราไม่ทำอะไรบางอย่างที่ใกล้เคียงกับ

to what I'm laying out there.

สิ่งที่ผมเสนอไว้

HW: This has been pretty personal for you.

เฮเลน: นี่เป็นเรื่องที่ส่วนตัวสำหรับคุณ

You know, the anti-vaxxers are out there, they are loud,

เพราะพวกต่อต้านวัคซีนออกมาแล้ว และพวกเขาก็ส่งเสียงดัง

and this has become personal.

และมันกลายเป็นเรื่องส่วนตัว

I just wanted to ask, like, how are you managing that?

ฉันแค่อยากจะถามว่า คุณจัดการสิ่งนี้อย่างไร

BG: Well, it's kind of weird.

บิล: อืม มันก็ค่อนข้างแปลก

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Now, our foundation, the Gates Foundation, is very involved in vaccines,

ตอนนี้มูลนิธิเกตส์ มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากกับวัคซีน

the invention of new vaccines, funding vaccines.

การคิดค้นวัคซีนใหม่ ๆ การระดมทุนเพื่อวัคซีน

And we're very proud that through joint efforts like GAVI,

เราภูมิใจมากที่ ความพยายามร่วมกันอย่าง GAVI

that saved tens of millions of lives.

ได้ช่วยชีวิตผู้คนหลายสิบล้านคน

So it's somewhat ironic to have somebody turn around and say, no, you know,

จึงค่อนข้างน่าขันที่มีคนหันกลับมา และพูดว่า ไม่ คุณรู้ไหม

we're using vaccines to kill people or to make money or, you know,

เรากำลังใช้วัคซีนเพื่อฆ่าคน หรือเพื่อหาเงิน

we started the pandemic,

หรือเราเริ่มโรคระบาด

even some strange things like, that I somehow want to track, you know,

แม้กระทั่งเรื่องแปลก ๆ เช่น ผมอยากติดตาม

the location of individuals

ตำแหน่งของบุคคลต่าง ๆ

because I'm so deeply desirous to know where everybody is.

เพราะผมปรารถนาอย่างมาก ที่จะรู้ว่าทุกคนอยู่ที่ไหน

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

I'm not sure what I'm going to do with that information.

ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ว่าผมจะทำอะไรกับข้อมูลนั้น

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

You know, does this turn into something where, you know,

นี่จะกลายเป็นเรื่องที่มี

there's constantly crazy people showing up?

คนบ้า ๆ โผล่ออกมาเรื่อยๆ ไหม

Who knows?

ก็ว่ากันไป

But, you know, hopefully, as the pandemic calms down,

แต่หวังว่าเมื่อโรคระบาดสงบลง

people are more rational about, hey,

ผู้คนจะมีเหตุผลมากขึ้นว่า เฮ้

vaccines are a miracle and there's a lot more we can do.

วัคซีนเป็นสิ่งมหัศจรรย์ และมีอะไรอีกมากมายที่เราสามารถทำได้

HW: So the future is in our hands in the present.

เฮเลน: ดังนั้นอนาคตจึง อยู่ในมือของเรา ณ ตอนนี้

Bill Gates, thank you so much for being here.

บิล เกตส์ ขอบคุณมากค่ะ ที่มาร่วมรายการกับเรา

BG: Thank you.

บิล: ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)