What causes antibiotic resistance? - Kevin Wu

อะไรที่ทำให้เกิดการดื้อต่อยาปฏิชีวนะ - เควิน วู (Kevin Wu)

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Rawee Ma

What if I told you there were trillions of tiny bacteria all around you?

จะคิดอย่างไรถ้าผมบอกว่า มีแบคทีเรียเล็กๆ หลายล้านล้าน อยู่รอบตัวคุณ

It's true.

มันจริงนะ

Microorganisms called bacteria were some of the first life forms

จุลชีพที่เรียกว่าแบคทีเรีย เป็นสิ่งมีชีวิตแรกๆ

to appear on Earth.

ที่ปรากฏตัวขึ้นบนโลก

Though they consist of only a single cell,

แม้ว่าพวกมันจะมีแค่เซลล์เดียว

their total biomass is greater than that of all plants and animals combined.

ชีวมวลรวมของพวกมันมากกว่า ของพืชและสัตว์รวมกัน

And they live virtually everywhere:

และพวกมันก็อาศัยอยู่ทุกหนทุกแห่ง

on the ground, in the water,

บนพื้นดิน ในน้ำ

on your kitchen table, on your skin,

บนโต๊ะในครัวของคุณ บนผิวหนังของคุณ

even inside you.

แม้แต่ในตัวคุณ

Don't reach for the panic button just yet.

อย่าเพิ่งกดปุ่มตกใจ

Although you have 10 times more bacterial cells inside you

แม้คุณจะมีแบคทีเรียในตัวมากเป็น 10 เท่า

than your body has human cells,

ของเซลล์ร่างกายของคุณ

many of these bacteria are harmless or even beneficial,

ส่วนมากแบคทีเรียพวกนี้ไม่มีพิษภัย และยังเป็นประโยชน์

helping digestion and immunity.

ช่วยย่อยอาหารและให้ภูมิคุ้มกัน

But there are a few bad apples that can cause harmful infections,

แต่ก็มีพวกแย่ๆ เหมือนกัน สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อที่เป็นอันตราย

from minor inconveniences to deadly epidemics.

ตั้งแต่อาการไม่สบายเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงโรคระบาดที่น่าสะพรึงกลัว

Fortunately, there are amazing medicines designed to fight bacterial infections.

โชคดี มียาที่น่าทึ่งซึ่งถูกออกแบบมา เพื่อสู้กับการติดเชื้อแบคทีเรีย

Synthesized from chemicals or occurring naturally in things like mold,

สกัดจากสารเคมีหรือเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่นในเชื้อรา

these antibiotics kill or neutralize bacteria

ยาปฏิชีวนะเหล่านี้ฆ่าหรือล้างพิษแบคทีเรีย

by interrupting cell wall synthesis

โดยยับยั้งการสร้างผนังเซลล์

or interfering with vital processes like protein synthesis,

หรือขัดขวางกระบวนการที่สำคัญ อย่างการสังเคราะห์โปรตีน

all while leaving human cells unharmed.

โดยไม่ทำอันตรายให้กับเซลล์มนุษย์

The deployment of antibiotics over the course of the 20th century

การพัฒนาของยาปฏิชีวนะ ตลอดศตวรรษที่ 20

has rendered many previously dangerous diseases easily treatable.

ได้ทำให้โรคร้ายแรงมากมายก่อนหน้านี้ ถูกรักษาได้อย่างง่ายดาย

But today, more and more of our antibiotics

แต่ปัจจุบัน ยาปฏิชีวนะของเรา มีมากมายหลายชนิด

are becoming less effective.

กำลังลดประสิทธิภาพลง

Did something go wrong to make them stop working?

มีอะไรผิดปกติที่ทำให้มันหยุดทำงานงั้นหรือ

The problem is not with the antibiotics but the bacteria they were made to fight,

ปัญหาไม่ได้เกี่ยวกับยาปฏิชีวนะ แต่เป็นแบคทีเรียที่พวกมันต่อสู้ด้วย

and the reason lies in Darwin's theory of natural selection.

และเหตุผลก็ตั้งอยู่บนทฤษฎี การคัดเลือกโดยธรรมชาติของดาร์วิน

Just like any other organisms,

เหมือนกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ

individual bacteria can undergo random mutations.

แบคทีเรียตัวหนึ่งสามารกลายพันธุ์ได้อย่างสุ่ม

Many of these mutations are harmful or useless,

การกลายพันธุ์หลายอย่าง เป็นอันตรายและไร้ประโยชน์

but every now and then, one comes along that gives its organism

แต่บางครั้งบางที ก็มีแบบที่ทำให้สิ่งมีชีวิตนั้น

an edge in survival.

มีโอกาสที่จะอยู่รอด

And for a bacterium,

และสำหรับแบคทีเรีย

a mutation making it resistant to a certain antibiotic

การกลายพันธุ์ที่ทำให้มันสามารถดื้อต่อ ยาปฏิชีวนะบางอย่าง

gives quite the edge.

ค่อนข้างจะให้โอกาสพวกมัน

As the non-resistant bacteria are killed off,

ในขณะที่แบคทีเรียที่ไม่ดื้อยาถูกฆ่าไป

which happens especially quickly in antibiotic-rich environments,

ซึ่งเกิดขึ้นค่อนข้างเร็วในสภาพแวดล้อม ที่มียาปฏิชีวนะอยู่มาก

like hospitals,

เช่นในโรงพยาบาล

there is more room and resources for the resistant ones to thrive,

ทำให้มีพื้นที่และแหล่งอาหารมากกว่า สำหรับแบคทีเรียดื้อยาที่จะเติบโต

passing along only the mutated genes that help them do so.

และส่งต่อแต่พันธุกรรมที่กลายพันธุ์นั้น ที่ช่วยพวกมัน

Reproduction isn't the only way to do this.

การสืบพันธุ์ไม่ใช่ทางเดียวที่จะทำสิ่งนี้

Some can release their DNA upon death to be picked up by other bacteria,

บางชนิดสามารถปล่อยดีเอ็นเอเมื่อพวกมันตาย ให้แบคทีเรียตัวอื่นเก็บไป

while others use a method called conjugation,

ในขณะที่ชนิดอื่นอาจใช้วิธีที่เรียกว่า คอนจูเกชั่น (conjugation)

connecting through pili to share their genes.

เชื่อมต่อผ่านพิไล (pili) เพื่อแลกยีนของพวกมัน

Over time, the resistant genes proliferate,

เมื่อเวลาผ่านไป ยีนดื้อยาก็เพิ่มจำนวนขึ้น

creating entire strains of resistant super bacteria.

สร้างสายพันธ์ุที่มีความดื้อยายิ่งยวด

So how much time do we have before these superbugs take over?

แล้ว เรามีเวลาแค่ไหนก่อนที่แบคทีเรีย เหล่านี้จะเข้าครอบครอง

Well, in some bacteria, it's already happened.

อืม มันเกิดขึ้นแล้วในแบคทีเรียบางชนิด

For instance, some strands of staphylococcus aureus,

ยกตัวอย่างเช่น สเตรฟิโลค๊อกคัส ออรูรัส บางสายพันธุ์

which causes everything from skin infections to pneumonia and sepsis,

ที่ทำให้เกิดทุกอย่างตั้งแต่ผิวหนังติดเชื้อ จนถึงปอดบวมและติดเชื้อในกระแสโลหิต

have developed into MRSA,

ได้พัฒนาไปเป็น MRSA

becoming resistant to beta-lactam antibiotics,

ที่สามารถดื้อยาปฏิชีวนะ บีต้า-แลคแทม

like penicillin, methicillin, and oxacillin.

เช่นเพนนิซิลิน เมทิซิลิน และออกซาซิลิน

Thanks to a gene that replaces the protein beta-lactams normally target and bind to,

ต้องขอบคุณยีนที่แทนที่โปรตีนบีต้า-แลคแทม ที่ปกติคือเป้าหมาย และที่เข้าจับ

MRSA can keep making its cell walls unimpeded.

MRSA ทำให้ผนังเซลล์ของมัน ไม่สามารถถูกขัดขวางได้

Other super bacteria, like salmonella,

แบคทีเรียดื้อยาอื่นๆ อย่าง ซาโมเนลา

even sometimes produce enzymes like beta-lactams

บางทีก็ผลิตเอนไซม์อย่าง บีต้า-แลคแทม

that break down antibiotic attackers before they can do any damage,

ที่สลายยาปฏิชีวนะที่บุกเข้ามา ก่อนที่จะทำอะไรมันได้

and E. coli, a diverse group of bacteria

และ อีโคไล ซึ่งเป็นแบคทีเรีย กลุ่มที่มีความหลากหลาย

that contains strains that cause diarrhea and kidney failure,

ที่มีสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคท้องเสียและไตวาย

can prevent the function of antibiotics,

สามารถยับยั้งการทำงานของยาปฏิชีวนะ

like quinolones, by actively booting any invaders

เช่น ควิโนโลนส์ โดยสะกัดกั้นผู้บุกรุกใดๆ

that manage to enter the cell.

ที่หมายจะเข้ามาในเซลล์

But there is good news.

แต่ยังมีข่าวดี

Scientists are working to stay one step ahead of the bacteria,

นักวิทยาศาสตร์กำลังหาทาง ที่จะก้าวล้ำแบคทีเรียพวกนี้ไปหนึ่งก้าว

and although development of new antibiotics

และแม้ว่าการพัฒนายาปฏิชีวนะตัวใหม่

has slowed in recent years,

ค่อนข้างล่าช้าในหลายปีที่ผ่านมา

the World Health Organization has made it a priority to develop novel treatments.

องค์กรอนามัยโลกได้ให้ความสำคัญ ในการพัฒนาการบำบัดรักษาแบบใหม่

Other scientists are investigating alternate solutions,

นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ กำลังทำการสำรวจทางเลือกอื่นๆ

such as phage therapy or using vaccines to prevent infections.

เช่นการบำบัดรักษาโดยฟาร์จ หรือการใช้วัคซีนป้องกันการติดเชื้อ

Most importantly, curbing the excessive and unnecessary use of antibiotics,

ที่สำคัญที่สุด การควบคุมการใช้ยาปฏิชีวนะ ที่มากเกินไปหรือไม่จำเป็น

such as for minor infections that can resolve on their own,

สำหรับการติดเชื้อเล็กน้อย ที่สามารถหายได้เอง

as well as changing medical practice to prevent hospital infections,

หรือการเปลี่ยนวิธีการทางการแพทย์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล

can have a major impact

อาจมีผลกระทบที่สำคัญ

by keeping more non-resistant bacteria alive

ในการทำให้แบคทีเรียที่ไม่ดื้อยามีชีวิตอยู่

as competition for resistant strains.

เป็นคู่แข่งของสายพันธุ์ที่ดื้อยา

In the war against super bacteria, deescalation may sometimes work better

ในสงครามต้านแบคทีเรียดื้อยา การลดจำนวนลงอาจได้ผลมากกว่า

than an evolutionary arms race.

พัฒนาการแข่งขันด้านอาวุธ