History vs. Henry VIII - Mark Robinson and Alex Gendler

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut

He was a powerful king whose break with the church of Rome

would forever change the course of English history.

และเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ ของอังกฤษไปตลอดกาล

But was he a charismatic reformer or a bullying tyrant?

เขาคือนักปฎิรูปผู้ปรีชา หรือทรราชจอมข่มเหง ผู้ใช้สภาพเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน

Find out on History versus Henry VIII.

มาค้นหากันใน ประวัติศาสตร์ ปะทะ เฮนรี่ ที่แปด

Judge: Order, order. Now, who do we have here? Looks like quite the dashing fellow.

ผู้พิพากษา: อยู่ในความสงบด้วย ใครกันเนี่ย ดูจะเป็นหนุ่มที่ห้าวใช่ย่อย

Defense: Indeed, your honour. This is Henry VIII, the acclaimed king

ทนายฝ่ายจำเลย: ใช่แล้ว ท่านผู้พิพากษา นี่คือเฮนรี่ ที่แปด กษัตริย์เรืองนาม

who reformed England's religion and government

ผู้ปฏิวัติศาสนาและรัฐบาลของอังกฤษ

and set it on course to becoming a modern nation.

และกำหนดเส้นทาง ให้อังกฤษกลายเป็นประเทศที่ทันสมัย

Prosecutor: I beg to differ. This is a cruel, impulsive, and extravagant king

ทนายฝ่ายโจทก์: ผมเชื่อว่าไม่ใช่อย่างนั้น นี่คือกษัตริย์ที่โหดร้าย วู่วาม และฟุ่มเฟือย

who had as little regard for his people as he did for his six wives.

ผู้ที่ไม่ค่อยนึกถึงประชาชน เช่นเดียวกับที่เขาปฎิบัติกับราชินีทั้งหก

Judge: Six wives?

ผู้พิพากษา: หกงั้นหรือ

Defense: Your honor, Henry's first marriage was arranged for him

ทนายฝ่ายจำเลย: ท่านผู้พิพากษา การแต่งงานครั้งแรกเฮนรี่เป็นการคลุมถุงชน

when he was only a child.

ตอนที่เขายังเป็นเด็ก

He only married Catherine of Aragon to strengthen England’s alliance with Spain.

เขาแต่งงานกับแคทารีน แห่งอารากอน เพียงเพื่อ ความสัมพันธ์อันแน่แฟ้นของอังกฤษและสเปน

Prosecutor: An alliance he was willing to toss aside with no regard for the nation.

ทนายฝ่ายโจทก์: ความสัมพันธ์ที่เขาพร้อม จะโยนทิ้งเสียโดยไม่คำนึงถึงประเทศ

Defense: Henry had every regard for the nation.

ทนายฝ่ายจำเลย: เฮนรี่ คำนึงประเทศทุกลมหายใจ

It was imperative to secure the Tudor dynasty by producing a male heir –

มันเป็นหน้าที่ต้องหาทายาทชาย เพื่อความมั่นคงของราชวงศ์ทิวดอร์

something Catherine failed to do in over twenty years of marriage.

ซึ่งเป็นสิ่งที่แคทารีนไม่อาจทำได้ ตลอดการแต่งงานกว่ายี่สิบปี

Prosecutor: It takes two to make an heir, your honor.

ทนายฝ่ายโจทก์: ท่านผู้พิพากษา ปรบมือข้างเดียวมีหรือจะดัง

Defense: Ahem. Regardless, England needed a new queen to ensure stability,

ทนายฝ่ายจำเลย: ไม่ว่าจะอย่างไร อังกฤษก็ต้องการราชินีองค์ใหม่เพื่อความมั่นคง

but the Pope refused to annul the union and let the king remarry.

แต่สันตปาปาปฎิเสธที่จะประกาศการหย่า เพื่อให้กษัตริย์ได้แต่งงานใหม่

Judge: Sounds like quite a pickle. Can’t argue with the Pope.

ผู้พิพากษา: น่าลำบากใจจริง ๆ จะเถียงกับสันตปาปาอย่างไรได้

Prosecutor: And yet that’s exactly what the king decided to do.

ทนายฝ่ายโจทก์: และนั่นก็เป็นสิ่งที่ กษัตริย์องค์นี้ตัดสินใจทำ

He uprooted the country’s religious foundations

เขาถอนรากถอนโคนรากฐานศาสนาของประเทศ

and broke the Church of England away from Rome,

และตัดสัมพันธ์ระหว่างศาสนจักรอังกฤษ กับศาสนจักรโรมัน

leading to centuries of strife.

ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงหลายศตวรรษ

Defense: All Henry did was give the Church honest domestic leadership.

ทนายฝ่ายจำเลย: เฮนรี่ก็แค่ ให้อำนาจอันเที่ยงแท้กับศาสนจักรในบ้านเกิด

He freed his subjects from the corrupt Roman Catholic establishment.

เขาปลดแอกราษฎรจากการโกงกิน ของกลุ่มอำนาจโรมันคาทอลิก

And by rejecting the more radical changes of the Protestant reformation,

และด้วยการปฎิเสธการเปลี่ยนแปลง ที่สุดโต่งแบบนิกายโปรเตสแตนต์

he allowed his people to preserve most of their religious traditions.

เขายอมให้คนของเขาคงขนบประเพณี ดั้งเดิมส่วนใหญ่ของศาสนาเอาไว้

Prosecutor: Objection! The Church had been a beloved and popular institution

ทนายฝ่ายโจทก์: ขอค้านครับ ศาสนจักรเป็นสถาบันอันเป็นที่รักอยู่แล้ว

that brought comfort and charity to the masses.

มันได้นำมาซึ่งความสงบ และความเอื้ออาทรต่อประชาชน

Thanks to Henry, church property was seized;

เป็นเพราะเฮนรี่แท้ ๆ ที่ทำให้ที่ดินของศาสนจักรถูกยึด

hospitals closed, and precious monastic libraries lost forever,

โรงพยาบาลต้องปิดตัว และหอธรรมอันมีค่า ก็สูญหายไปตลอดกาล

all to enrich the Crown.

ทั้งหมดก็เพื่อสนองความมั่งคั่งของราชวงศ์

Defense: Some of the funds were used to build new cathedrals

ทนายฝ่ายจำเลย: เงินทุนบางส่วน ถูกใช้เพื่อสร้างวิหารใหม่

and open secular schools.

และโรงเรียนสำหรับคนทั่วไป

And it was necessary for England to bring its affairs

และมันก็สำคัญยิ่งสำหรับอังกฤษ ที่จะเข้ามาควบคุมประเด็นนี้

under its own control rather than Rome’s.

แทนที่จะให้โรมเป็นผู้ควบคุม

Prosecutor: You mean under Henry’s control.

ทนายฝ่ายโจทก์: ภายใต้การควบคุม ของเฮนรี่น่ะสิ

Defense: Not true. All of the king’s major reforms went through Parliament.

ทนายฝ่ายจำเลย: ไม่จริงนะ การปฏิรูป ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับกษัตริย์ก็ต้องผ่านสภา

No other country of the time allowed its people such a say in government.

ในยุคนั้นไม่มีประเทศอื่น ที่ให้ประชาชนได้ใช้เสียงในสภา

Prosecutor: He used Parliament as a rubber stamp for his own personal will.

ทนายฝ่ายโจทก์: เขาใช้สภาพเป็นตราประทับ รับรองความต้องการของตัวเอง

Meanwhile he ruled like a tyrant, executing those he suspected of disloyalty.

ในขณะที่เขาปกครองอย่างทรราช ลงอาญาคนที่เขาคิดว่าไม่จงรักภักดี

Among his victims were the great statesman and philosopher Thomas More

เหยื่อของเขารวมถึงรัฐบุรุษ และนักปรัชญา โทมัส มอร์

– once his close friend and advisor –

ซึ่งเคยเป็นเพื่อนสนิทและที่ปรึกษา

and Anne Boleyn, the new queen Henry had torn the country apart to marry.

และแอน โบลีน ราชินีองค์ใหม่ ผู้ทำให้เฮนรี่ทำประเทศอังกฤษแตกแยก

Judge: He executed his own wife?

ผู้พิพากษา: เขาตัดสินประหารภรรยาตัวเองหรือ

Defense: That…wasn’t King Henry’s initiative.

ทนายฝ่ายจำเลย: นั่น ไม่ใช่ สิ่งที่กษัตริย์เฮนรี่อยากทำแต่แรก

She was accused of treason in a power struggle

นางถูกกล่าวหาในข้อหาร่วมคิดการกบฎ

with the King’s minister, Thomas Cromwell.

กับโทมัส ครอมเวลล์ ที่ปรึกษาของตัวกษัตริย์เอง

Prosecutor: The trial was a sham

ทนายฝ่ายโจทก์: การพิจารณาคดีนั้นน่าอัปยศ

and she wouldn’t have been convicted without Henry’s approval.

และนางก็คงไม่ถูกตัดสินว่ามีความผิด ถ้าเฮนรี่ไม่ได้เห็นชอบด้วย

Besides, he wasn’t too upset by the outcome -

แถมเขาก็ไม่ได้เสียอกเสียใจอะไรมาก กับผลลัพธ์ที่ออกมา

he married Jane Seymour just 11 days later!

เขาแต่งงานกับ เจน ซีมอร์ ในอีก 11 วันต่อมา

Defense: A marriage that, I note, succeeded in producing a male heir

ทนายฝ่ายจำเลย: ซึ่งขอย้ำว่า การแต่งงานนั้นได้มาซึ่งทายาทชาย

and guaranteeing a stable succession…

และเครื่องยืนยันความมั่นของของบัลลังก์

though the new queen tragically died in childbirth.

แม้ว่าราชินีองค์ใหม่จะสวรรคตอย่างน่าเศร้า เมื่อให้ประสูติกาลกับทารก

Prosecutor: This tragedy didn’t deter him

ทนายฝ่ายโจทก์: ความโศกเศร้านั้น

from an ill conceived fourth marriage to Anne of Cleves,

ก็ไม่ได้หยุดการแต่งงานครั้งที่สี่ กับแอน ออฟ คลีฟส์

which Henry then annulled on a whim and used as an excuse to execute Cromwell.

ซึ่งต่อมาเฮนรี่ก็หย่าด้วยเหตุผลแปลก ๆ แล้วใช้มันในการกล่าวหาครอมเวลล์

As if that weren’t enough, he then married Catherine Howard

ยังไม่พอ จากนั้นเขาก็แต่งงาน กับแคทารีน โฮวาร์ด

– a cousin of Anne Boleyn – before having her executed too.

ญาติของแอน โบลีน ก่อนที่จะประหารเธอเช่นกัน

Defense: She was engaged in adultery to which she confessed!

ทนายฝ่ายจำเลย: นางมีชู้ซึ่งนางก็สารภาพ

Regardless, Henry’s final marriage to Catherine Parr

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การแต่งงานครั้งสุดท้าย ของเฮนรี่กับแคทารีน พาร์

was actually very successful.

ถือว่าประสบความสำเร็จ

Prosecutor: His sixth! It only goes to show he was an intemperate king

ทนายฝ่ายโจทก์: คนที่หก เป็นกษัตริย์ที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเลย

who allowed faction and intrigue to rule his court,

ยอมให้เรื่องส่วนตัวเรื่องชู้ เข้ามายุ่งกับราชการได้

concerned only with his own pleasure and grandiosity.

สนใจแต่เพียงความสุขส่วนตัว และคุยโวโอ้อวด

Defense: That grandiosity was part of the king’s role as a model for his people.

ทนายฝ่ายจำเลย: การแสดงอำนาจนั้น เคยเป็นบทบาทของกษัตริย์ในฐานะแบบอย่าง

He was a learned scholar and musician who generously patronized the arts,

เฮนรี่เป็นบัณฑิตและนักดนตรี ที่ให้การอุปถัมภ์ศิลปะต่าง ๆ

as well as being an imposing warrior and sportsman.

ทั้งยังเป็นนักรบและนักกีฬาผู้ช่ำชองอีกด้วย

And the lavish tournaments he hosted

การแข่งขันอันหรูหราที่เฮนรี่เป็นผู้จัด

enhanced England’s reputation on the world stage.

ก็ทำให้ชื่อเสียงของอังกฤษบนในเวทีโลก

Prosecutor: And yet both his foreign and domestic policies were a disaster.

ทนายฝ่ายโจทก์: ถึงอย่างนั้น นโยบาย ทั้งนอกและในประเทศของเขาก็ไม่ได้เรื่อง

His campaigns in France and his brutal invasion of Scotland drained the treasury,

การทำศึกกับฝรั่งเศสและ การบุกสกอตแลนด์อย่างหนักผลาญเงินในคลัง

and his attempt to pay for it by debasing the coinage led to constant inflation.

ความพยายามแก้ปัญหาโดยแทรกแซงการผลิต เงินเหรียญก็ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อต่อเนื่อง

The lords and landowners responded by removing access to common pastures

ขุนนางและเจ้าศักดินาทั้งหลาย ต่างต้องทิ้งที่นาทุ่งเลี้ยงสัตว์

and turning the peasant population into beggars.

ทำให้ราษฎรทั่วไปต้องการเป็นขอทาน

Defense: Beggars who would soon become yeomen farmers.

ทนายฝ่ายจำเลย: ขอทานที่ไม่นาน ก็กลายเป็นชาวนาเจ้าของที่ดิน

The enclosures made farming more efficient, and created a labor surplus

การกั้นรั้วล้อมทำให้การเกษตร มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีแรงงานเหลือ

that laid the foundation for the Industrial Revolution.

ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ ของการปฏิวัติอุตสาหกรรม

England would never have become the great power that it did without them

อังกฤษจะไม่ได้กลายมาเป็นมหาอำนาจ อย่างที่เป็นโดยปราศจากสิ่งดังกล่าว

…and without Henry.

โดยปราศจากเฮนรี่

Judge: Well, I think no matter what,

ผู้พิพากษา: เอาล่ะ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ดี

we can all agree he looks great in that portrait.

เราคงเห็นตรงกันว่าเฮนรี่ในรูปดูดีไม่เบา

A devout believer who broke with the Church.

ศรัทธาชนผู้ตัดสัมพันธ์กับศาสนจักร

A man of learning who executed scholars.

บุรุษทรงความรู้ผู้ประหารบัณฑิต

A king who brought stability to the throne,

กษัตริย์ผู้นำมาซึ่งเสถียรภาพแห่งบัลลังก์

but used it to promote his own glory,

แต่ก็ใช้มันเพื่อส่งเสริมความรุ่งโรจน์ของตน

Henry VIII embodied all the contradictions of monarchy

เฮนรี่ที่แปดเป็นบุคคล ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งแห่งระบบราชาธิปไตย

on the verge of the modern era.

ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุคสมัยใหม่

But separating the ruler from the myth is all part of putting history on trial.

แต่การแยกตัวผู้ปกครองออกจากตำนานเป็น การนำประวัติศาสตร์ทุกภาคส่วนขึ้นมาพิจารณา