How heavy is air? - Dan Quinn

อากาศนั้นหนักแค่ไหน? - แดน ควินน์ (Dan Quinn)

Transcriber: Jessica Ruby Reviewer: Caroline Cristal

Translator: Pongsakorn Puavaranukroh Reviewer: Pakawat Wongwaiyut

You may not realize it,

คุณอาจจะไม่ได้ตระหนักถึงมัน

but from the moment you got out of bed today

แต่นับจากวินาทีที่คุณลุกจากเตียง

to the point where you sat down to watch this video,

จนถึงตอนที่คุณกำลังนั่งดูวิดีโอนี้อยู่

you've essentially been swimming.

โดยหลักการแล้วคุณว่ายน้ำมาตลอด

Why? Because air is a fluid just like water.

ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าอากาศเป็นของเหลวเหมือนกับน้ำ

It has waves and eddies.

มันมีทั้งคลื่นและกระแสอากาศ

It flows.

มีการไหลเวียน

And when you push air out of the way,

เมื่อคุณเดินผ่านอากาศ

it rushes around you into a wake.

มันจะฟุ้งกระจายไปรอบตัวคุณ

So why don't we notice it most of the time?

ทำไมเราไม่ค่อยรู้สึกถึงมัน?

We commonly think of air as empty space.

เรามักคิดว่าอากาศเป็นเหมือนกับที่ว่างเปล่า

But while one cubic centimeter of interstellar space,

ขณะที่พื้นที่ระหว่างอวกาศ (interstellar space) ขนาด 1 ลูกบาศก์เซนติเมตร

the volume in the tip of your pinky finger,

ซึ่งปริมาตรพอๆกับปลายนิ้วก้อยคุณ

contains roughly one atom,

จะมีอะตอมราวๆ 1 ตัว

the same volume of air has about 10 quintillion molecules.

แต่อากาศที่ปริมาตรเท่ากันนี้ จะมีโมเลกุลกว่า 10 ล้านล้านล้านโมเลกุล

If that sounds hard to wrap your head around,

ถ้านี่ฟังดูยากเกินจะคิดตาม

it happens to be about the same

นั่นเป็นจำนวนพอๆกับ

as the number of insects alive on the planet,

แมลงทั้งหมดในโลก

all crawling, climbing, and flying over each other

พากันกรูเข้ามารวมกัน

in an enormous, tightly packed swarm.

เป็นฝูงแมลงมหาศาลที่อัดกันจนแน่น

When this swarm of molecules runs into things,

เมื่อฝูงโมเลกุลนี้ชนกับสิ่งต่างๆ

it exerts a force, pressing against the boundaries of the fluid,

ก็จะเกิดแรง แรงกดที่เกิดต่อขอบเขตของเหลว

like water pressing against the glass of a bottle.

เหมือนกับแรงกดน้ำที่กระทำต่อขวดแก้ว

This is known as air pressure.

เรียกกันว่า ความกดอากาศ (air pressure)

And while air is lighter than water,

แม้ว่าอากาศจะเบากว่าน้ำ

all those molecules still get pretty heavy,

แต่โมเลกุลทั้งหมดนั้น ก็ยังถือว่ามีน้ำหนักพอสมควร

with the total air filling a typical school gym,

อากาศทั้งหมดที่มีอยู่ ในโรงยิมขนาดมาตรฐาน 1 หลัง

weighing about as much as an adult elephant.

จะหนักเท่าๆกับช้างตัวเต็มวัย 1 ตัว

So when you walk into a gym,

แต่เมื่อคุณเดินเข้าไปในโรงยิม

how come you're not immediately crushed

ทำไมคุณถึงไม่ถูกบดขยี้ทันที

by the elephant of air in the room?

ด้วยอากาศที่หนักเท่าๆช้างนั่น?

Well, first of all,

ใช่ เหตุผลแรก

because most of it is pressing on the floor and the walls,

เพราะ ความกดอากาศส่วนใหญ่ จะกระทำต่อพื้นและผนัง

and the part that is pressing on you

และความกดอากาศส่วนที่กระทำต่อตัวคุณ

is pushed back by the pressure inside you!

ก็ถูกหักล้าง ด้วยแรงดันในร่างกายคุณเอง

You see, the air, as well as the water and everything else,

คุณจะเห็นว่าอากาศ ของเหลว หรืออะไรก็ตาม

that fills our bodies exerts an amount of pressure

ที่อยู่ในร่างกายมันทำให้เกิดแรงดัน

equal to that of the air outside.

ซึ่งจะเท่ากับแรงดันภายนอก

Of course, this is no accident.

แน่นอน นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

It's precisely what allows us to survive

มันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้

in the normal atmosphere,

ภายในชั้นบรรยากาศปกติ

and what makes it more difficult

และทำไมมันจึงยาก

at high altitudes or deep water.

ต่อที่สูง หรือใต้ทะเลลึก

And we normally don't feel the air pressing on us

ปกติแล้วเราจะไม่รู้สึกถึงความกดอากาศ

because it's generally uniform.

เพราะมันเป็นรูปแบบเดียวกัน

So even though different amounts of air molecules

แม้ว่าปริมาณโมเลกุลต่างกัน

are hitting you at different times,

ชนตัวคุณในเวลาต่างกัน

the swarm is so thick

กลุ่มอากาศที่หนาแน่นนี้

that all those little differences average out.

ทั้งหมดเฉลี่ยกระจายกันไป

What happens when air pressure isn't uniform?

แต่จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อความกดอากาศไม่ปกติ?

This means that the molecules are pushing harder

นี่หมายถึงโมเลกุลจะผลักกันรุนแรงกว่า

in one region of air than another,

เมื่อเทียบกับอากาศบริเวณอื่นๆ

driving the air flow from the higher pressure region

ทำให้อากาศไหลจากที่ความดันสูงกว่า

to the lower.

ไปยังที่ต่ำกว่า

We feel this flow directly as wind,

เรารู้สึกถึงมันได้ซึ่งก็คือ ลม

and the pressure systems

และระบบความกดอากาศ (pressure systems)

that meteorologists are always going on about

ที่นักอุตุนิยมวิทยามักจะนำไปใช้

are responsible for other weather changes,

ในการทำหน้าที่กับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

from the mundane to the catastrophic.

ตั้งแต่อากาศปกติไปจนถึงหายนะ

But differences in air pressure

แต่ความแตกต่างของความกดอากาศ

do more than just let us complain about the weather;

ยังมีความหมายมากกว่าแค่เรื่องพยากรณ์อากาศ

they're the very reason we're alive.

มันเป็นเหตุผลว่าทำไมเรายังมีชีวิตอยู่

We breathe by lowering the pressure in our lungs,

เราหายใจเข้าโดยลดความดันในปอดเราลง

allowing air to rush in.

เพี่อให้อากาศไหลเข้าสู่ปอดได้

So the next time you take a deep breath,

ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณจะหายใจเข้าลึกๆ

think of the unfathomable number of air molecules

อย่าลืมคิดถึงโมเลกุลอากาศนับไม่ถ้วน

you're commanding to move.

ที่คุณสูดมันเข้าไปด้วย

We look up at the night sky

เมื่อเรามองไปบนท้องฟ้ายามราตรี

to ponder the infinity of space,

ครุ่นคิดถึงความไม่มีที่สิ้นสุดของอวกาศ

but unless you're watching this video

เว้นแต่คุณจะดูวิดีโอนี้

from that deep space,

จากอวกาศอันไกลโพ้น

there are more air molecules

มันจะมีโมเลกุลอากาศ

in and around your body

ทั้งในและก็นอกตัวคุณ

than there are grains of sand in all the world's beaches and deserts,

มีจำนวนมากกว่าเม็ดทราย จากชายหาดและทะเลทรายทั่วโลก

stars in the visible universe,

จำนวนดวงดาวทั้งหมดในจักรวาล

or both of those numbers combined.

หรือต่อให้ทั้งหมดนั้นรวมกัน

The vastness of the universe

ความไพศาลของเอกภพ

is right in front of you

ได้อยู่ตรงหน้าคุณ

and inside you.

และภายในตัวคุณ