The woman who stared at the sun - Alex Gendler

Translator: Sudarat Insawas Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

In the spring of 1944, Tokyo residents experienced numerous aerial attacks

ฤดูใบไม้ผลิ ปี ค.ศ. 1944 ชาวโตเกียวโดนโจมตีทางอากาศอย่างหนัก

from Allied bombers.

จากระเบิดของพันธมิตร

Air raid sirens warned citizens to get indoors

สัญญานเตือนทางอากาศ แจ้งให้พลเมืองอยู่ในบ้าน

and preceded strategic blackouts across the city.

และใช้กลยุทธดับไฟ ให้มืดไปทั่วทั้งเมือง

But 28-year old Hisako Koyama saw these blackouts as opportunities.

ฮิซาโกะ โคยามา อายุ 28 ปี เธอเห็นโอกาสที่ดีของความมืดนี้

Dragging a futon over her head for protection,

เธอลากที่นอนมาคลุมหัวไว้ เพื่อเป็นการป้องกัน

Koyama would gaze at the night sky,

โคยามา จะเพ่งมองท้องฟ้าในยามค่ำคืน

tracking all sorts of astronomical phenomena.

เฝ้าดูปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ต่าง ๆ

However, her latest endeavor required the light of day.

แต่จะทำให้สำเร็จดั่งที่เธอหวัง มันจำต้องใช้แสง

By angling her telescope towards the sun,

โดยจัดองศากล้องจุลทรรศน์ ไปตามดวงอาทิตย์

Koyama could project the star's light onto a sheet of paper,

โคยามา ได้คัดลอกแสงสะท้อนนั้นลงบนกระดาษ

allowing her to sketch the sun’s shifting surface.

โดยวาดไปตามการเปลี่ยนแปลงของผิวดวงอาทิตย์

She spent weeks recreating this set up, tracking every change she saw.

หลายสัปดาห์ ที่เธอคอยปรับองศา เพื่อที่จะแกะรอยทุกการเปลี่ยนแปลงที่เห็น

But while Koyama didn't know it,

แต่โคยามาก็ไม่ได้รู้ตัวหรอกว่า

these drawings were the start of one of the most important records

ภาพวาดเหล่านี้ กลายเป็นจุดเริ่มต้น บันทึกที่สำคัญที่สุด

of solar activity in human history.

ของปรากฏการณ์ที่เกิดบนดวงอาทิตย์ ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์

To understand exactly what Koyama saw on the sun’s surface,

การจะเข้าใจถ่องแท้ ถึงสิ่งที่โคยามา ได้เห็นบนผิวดวงอาทิตย์นั้น

we first need to understand what’s happening inside the star.

อย่างแรก เราต้องเข้าใจว่า กำลังเกิดอะไรขึ้น ในดาวอาทิตย์นั้น

Every second, trillions of hydrogen atoms

ทุกวินาที อะตอมไฮโดรเจนหลายล้านล้าน

fuse into helium atoms in a process called nuclear fusion.

รวมตัวกับอะตอมฮีเลียม ในปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น

This ongoing explosion maintains the sun’s internal temperature

การระเบิดอย่างต่อเนื่องนี้ ช่วยคงความร้อนภายในดวงอาทิตย์

of roughly 15 million degrees Celsius,

อย่างคร่าว ๆ 15 ล้านองศาเซลเซียส

which is more than enough energy to transform gas

ซึ่งเป็นพลังงานมากพอ ที่จะเปลี่ยนก๊าซ

into churning pools of plasma.

ให้เป็นบ่อปั่นพลาสมา

Plasma consists of charged particles that produce powerful magnetic fields.

พลาสมาประกอบด้วยอนุภาคที่มีประจุ ในการสร้างสนามแม่เหล็กอันทรงพลัง

But unlike the stable charged particles that maintain magnetic activity on Earth,

แตกต่างจากประจุไฟฟ้าเสถียร ที่คงการเคลื่อนตัวของแม่เหล็กบนโลก

this plasma is constantly in flux,

พลาสมานี้เคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่อง

alternately disrupting and amplifying the sun's magnetic field.

สลับกับการรบกวนและการขยาย สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์

This ongoing movement can produce

การเคลื่อนตัวต่อเนื่องนี้สามารถสร้าง

temporary concentrations of magnetic activity

กิจกรรมทางแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความเข้มขึ้น ขึ้นได้ชั่วคราว

which inhibit the movement of molecules and in turn reduce heat in that area.

ซึ่งขวางการเคลื่อนตัวของโมเลกุล และลดระดับความร้อนบริเวณนั้นลง

And since regions with less heat generate less light,

เมื่อความร้อนบริเวณนั้นลดลง จึงทำให้มีแสงน้อยลงเช่นกัน

places with the strongest magnetic fields appear as dark spots

จุดที่มีสนามแม่เหล็กทรงพลังที่สุด เกิดให้เห็นเป็นจุดดำ ๆ

scattered across the sun’s surface.

กระจายไปทั่วผิวดวงอาทิตย์

These so-called sunspots are always moving,

ที่เราเรียกกันว่า จุดดับบนดวงอาทิตย์ ซึ่งเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา

both as a result of plasma swirling within the sphere,

เป็นผลมาจากพลาสมา ที่หมุนวนไปมาในทรงกลม

and the sun’s rotation.

และการหมุนของดวงอาทิตย์

And because they’re often clustered together,

เนื่องด้วยการจับตัวเข้าด้วยกัน บ่อยครั้ง

accurately counting sunspots and tracking their movement can be a challenge,

การนับจุดดับ และ ติดตามการเคลื่อนตัว ให้ได้แม่นยำนั้น เป็นสิ่งที่ยากมาก

depending greatly on the perception and judgment of the viewer.

ขึ้นอยู่กับ ความเข้าใจ และวิจารณญาณของผู้สังเกตการณ์

This is precisely where Koyama’s contributions would be so valuable.

นี่คือผลงานอันหลักแหลมของโคยามา ที่ทรงคุณค่าอย่างมาก

Despite having no formal training in astronomy,

ถึงแม้ว่าจะไม่มีการฝึกอย่างเป็นทางการ ในทางดาราศาตร์

her observations and sketches were remarkably accurate.

การสังเกต และ ภาพวาดของเธอ ก็แม่นยำอย่างน่าทึ่งทีเดียว

After sending her work to the Oriental Astronomical Association,

หลังจากส่งผลงานเธอไปยัง สมาคมดาราศาสตร์แห่งบูรพา

she received a letter of commendation for her dedicated and detailed observations.

เธอก็ได้รับยกย่องในความทุ่มเท และใส่ใจรายละเอียดการเฝ้าสังเกต

With their support, she began to visit the Tokyo Museum of Science,

ด้วยการสนับสนุนจากสมาคม เธอจีงเริ่ม เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งโตเกียว

where she could use a far superior telescope to continue her work.

ที่ที่เธอสามารถจะสานต่อ ผลงานด้วยกล้องโทรทรรศน์

Koyama soon joined the museum's staff as a professional observer,

จากนั้น โคยามา ก็ได้ร่วมงานกับพิพิธภัณฑ์ ในฐานะนักสังเกตการณ์มืออาชีพ

and over the next 40 years, she worked on a daily basis,

และตลอด 40 ปีถัดมา เธอทำงานประจำ

producing over 10,000 drawings of the sun’s surface.

ด้วยการวาดภาพผิวดวงอาทิตย์ มากกว่า 10,000 ภาพ

Researchers already knew magnetic currents in the sun followed an 11 year cycle

นักวิจัยพบว่า การเคลื่อนของกะแสแม่เหล็ก บนดวงอาทิตย์มีวัฐจักร 11 ปี

that moved sunspots in a butterfly shaped path over the star’s surface.

ได้เคลื่อนจุดดับดวงอาทิตย์ เป็นรูปผีเสื้อ ไปตามพื้นผิวของมัน

But using Koyama’s record,

แต่การใช้บันทึกของ โคยามา

they could precisely follow specific sunspots and clusters

พวกเขาสามารถติดตามจุดดับและกลุ่มก้อน ได้อย่างแม่นยำ

through that journey.

ตามวิถีการเดินทางนั้น

This kind of detail offered a real-time indication of the sun’s magnetic activity,

รายละเอียดนี้ทำให้เห็นการเคลื่อนไหว ของแม่เหล็กบนดวงอาทิตย์อย่างสด ๆ

allowing scientists to track all kinds of solar phenomena,

นักวิทยาศาสตร์จึงสามารถติดตาม ปรากฏการณ์ทางสุริยะทุกชนิด

including volatile solar flares.

รวมไปถึงเปลวสุริยะ ที่มีความผันผวน

These flares typically emanate from the vicinity of sunspots,

เปลวสุรินะเหล่านี้ มักจะหลุด ออกมาจากบริเวณใกล้จุดดับ

and can travel all the way to Earth’s atmosphere.

และสามารถเดินทางมายัง ชั้นบรรยากาศของโลก

Here, they can create geomagnetic storms

ซึ่งอาจสร้างพายุสนามแม่เหล็กโลก

capable of disrupting long range communication and causing blackouts.

ซึ่งอาจรบกวนการสื่อสารทางไกล ทำให้การสื่อสารขัดข้อง

Solar flares also pose a major risk to satellites and manned space stations,

เปลวสุริยะทำให้ดาวเทียมและสถานีอวกาศ ที่มีคนประจำการมีความเสี่ยง

making them essential to predict and plan for.

จึงต้องคาดการณ์ และวางแผนรับมือ

During an interview in 1964,

ระหว่างการสัมภาษณ์ ในปี 1964

Koyama lamented that her 17 years of observation had barely been enough

โคยามาเศร้าใจที่การสังเกต 17 ปี ของเธอแทบจะไม่เพียงพอ

to produce a single butterfly record of the solar cycle.

ในการสร้างบันทึกผีเสื้อหนึ่งตัว ในวัฐจักรสุริยะ

But by the end of her career, she’d drawn three and a half cycles—

แต่เมื่อวันสุดท้ายของอาชีพเธอ เธอก็วาดไปได้ทั้งหมดถึง 3.5 รอบวัฐจักร

one of the longest records ever made.

เป็นหนึ่งในบันทึกที่ยาวที่สุดที่เคยมีมา

Better still, the quality of her drawings was so consistent,

คุณภาพงานวาดของเธอ ดีเยี่ยม และคงเส้นคงวา

researchers used them as a baseline to reconstruct the past 400 years

นักวิจัยได้ใช้งานของเธอเป็นพื้นฐาน ในการสร้างข้อมูล 400 ปีล่าสุด

of sunspot activity from various historical sources.

ของความเคลื่อนไหวของจุดดับดวงอาทิตย์ จากหลายแหล่งประวัติศาสตร์

This project extends Koyama’s legacy far beyond her own lifetime,

โครงการนี้ได้ต่อยอดมรดกของโคยามา ออกไปไกลเกินกว่าช่วงชีวิตของเธอเสียอีก

and proves that science is not built solely on astounding discoveries,

ซึ่งได้พิสูจน์ว่าวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เกิดจากการค้นพบอันยิ่งใหญ่เท่านั้น

but also on careful observation of the world around us.

แต่ยังเกิดจาก การสังเกตโลกรอบ ๆ ตัวเรา