Mysteries of vernacular: Lady - Jessica Oreck and Rachael Teel

ความลึกลับแห่งภาษาพื้นบ้าน : "Lady" - เจสสิกา โอเร็ค และเรเชล ทีล (Jessica Oreck and Rachel Teel)

Translator: Vera Chicharito Reviewer: Rawee Ma

Mysteries of vernacular:

ความลึกลับแห่งภาษาพื้นบ้าน ขอเสนอคำว่า

Lady,

"Lady"

woman.

ซึ่งก็คือ ผู้หญิง

Lady is tied to a number of words

คำว่า Lady นั้นเกี่ยวพันถึง คำศัพท์หลายคำ

that seem at first glance

ที่ดูเหมือนในแวบแรกเห็น

etymologically unrelated.

จะไม่เกี่ยวอะไรกับศัพทมูลวิทยา

She traces her roots back

แต่เมื่อเราได้ย้อนรอยรากศัพท์ดู

to the Old English words hlaf,

ไปถึงคำภาษาอังกฤษยุคเก่า คำว่า "hlaf (ลาฟ)"

which referred to a loaf of bread

ซึ่งหมายถึง ขนมปังแถวหนึ่ง (a loaf of bread)

and is the direct ancestor of our modern word loaf,

และเป็นบรรพบุรุษโดยตรงกับคำศัพท์ ที่เราใช้กันในปัจจุบัน loaf แถว (ขนมปัง)

and daege,

และ "daege (แดจ)"

which meant maid

ซึ่งหมายถึงสาวใช้ (maid)

and is the root of our word dairy,

และเป็นรากศัพท์ของคำว่า dairy (โรงรีดนม)

the place where the dairymaid works.

สถานที่ทำงานของสาวรีดนมนั่นเอง

Together, hlaf and daege became hlafdige,

เมื่อรวมทั้ง hlaf และ daege ก็จะได้ "hlafdige (ลาฟดิจ)"

literally loaf maid,

มีความหมายตรงตัวว่า สาวทำขนมปัง

or, more figuratively, kneader of bread.

หรือ เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ก็คือคนนวดขนมปัง

As early as the ninth century,

เมื่อต้นศตวรรษที่เก้า

hlafdige was the name for a mistress of servants,

hlafdige ก็คือ ชื่อเรียกนายหญิง ของบรรดาเหล่าข้ารับใช้

or the female head of the household.

หรือหัวหน้าครัวเรือนฝ่ายหญิง

The Old English word for a male head of household

ส่วนคำภาษาอังกฤษยุคเก่า ของหัวหน้าครัวเรือนฝ่ายชาย

was hlafweard,

ก็คือ "hlafweard (ลาฟเวียร์ด)"

a compound of hlaf, loaf,

เป็นการผสมคำระหว่าง hlaf (loaf)

and weard,

และคำว่า "weard"

which meant keeper

ซึ่งหมายถึงผู้ดูแล (keeper)

and is the word of modern words

และกลายเป็นศัพท์ที่ใช้กันในปัจจุบัน

like ward and warden.

อย่าง ward และ warden

Both hlafweard, the breadwinner,

ทั้ง hlafweard คนดูแลขนมปัง

and hlafdige, the bread kneader,

และ hlafdige คนนวดขนมปัง

came to be titles of respect,

ได้กลายมาเป็นคำเรียกขาน ที่แสดงถึงความเคารพ

referring to citizens of higher social standing.

หมายถึงพลเมืองผู้สูงศักดิ์

Through a process known as syncopation,

ผ่านขั้นตอนที่มีชื่อว่า "การตัดอักษรหรือเสียงตรงกลาง"

both words lost their internal sounds

เมื่อเสียงภายในทั้งสองคำได้ถูกตัดออกไป

to become lord and lady, respectively.

จึงกลายเป็น Lord และ Lady ตามลำดับ

Though still an expression of courtesy,

แม้ว่าจะยังคงเป็นการแสดงออกถึง จรรยาอันงดงาม

lady has since moved

แต่คำว่า Lady ในปัจจุบัน

down the ladder of social standing

ได้ถูกลดบทบาทสถานะทางสังคมลง

and is now often used

และมักจะใช้เพียงเพื่อสื่อถึง

to mean simply a woman.

ผู้หญิงคนหนึ่ง เท่านั้นเอง