History vs. Napoleon Bonaparte - Alex Gendler

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Rawee Ma

After the French Revolution erupted in 1789,

หลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศสเกิดขึ้น ในปี ค.ศ. 1789

Europe was thrown into chaos.

ยุโรปถูกถาโถมด้วยความโกลาหล

Neighboring countries' monarchs feared they would share the fate of Louis XVI,

ราชวงศ์ของประเทศเพื่อนบ้านเกรงว่า จะได้รับชะตากรรมไม่ต่างจากพระเจ้าหลุยที่ 16

and attacked the New Republic,

และได้โจมตีสาธารณรัฐใหม่ ในขณะที่ในประเทศ

while at home, extremism and mistrust between factions lead to bloodshed.

คตินิยมสุดขั้วและความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ นำไปสู่การนองเลือด

In the midst of all this conflict,

ท่ามกลางความขัดแย้งทั้งหมดนี้

a powerful figure emerged to take charge of France.

ผู้ทรงอิทธิพลนายหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้น เพื่อกุมบังเหียนฝรั่งเศส

But did he save the revolution or destroy it?

แต่เขาช่วยการปฏิบัติครั้งนั้นเอาไว้ หรือทำลายมันกันแน่

"Order, order, who's the defendant today? I don't see anyone."

"กรุณาอยู่ในความสงบ ใครเป็นจำเลยในวันนี้ ฉันมองไม่เห็นเลย"

"Your Honor, this is Napoléon Bonaparte,

"ข้าแต่ศาลที่เคารพ นี่คือ นโปเลียน โบนาปาร์ต

the tyrant who invaded nearly all of Europe

ทรราชผู้บุกยึดเกือบทั้งยุโรป

to compensate for his personal stature-based insecurities."

เพื่อจะแก้ไขปัญหาความไม่มั่นใจส่วนตัว เกี่ยวกับความสูงของเขา

"Actually, Napoléon was at least average height for his time.

"อันที่จริง นโปเลียนมีความสูงอยู่ในระดับเฉลี่ย สำหรับคนในยุคนั้น

The idea that he was short comes only from British wartime propaganda.

แนวคิดที่ว่าเขาตัวเตี้ยมาจาก โฆษณาชวนเชื่อของอังกฤษในยุคสงคราม

And he was no tyrant.

และเขาก็ไม่ใช่ทรราชด้วย

He was safeguarding the young Republic from being crushed

เขาปกป้องรักษาสาธารณรัฐใหม่จากการถูกทำลาย

by the European monarchies."

โดยราชวงศ์ชาวยุโรป"

"By overthrowing its government and seizing power himself?"

"โดยคว่ำรัฐบาลของเขา และกุมอำนาจเอาไว้เองน่ะหรือ"

"Your Honor, as a young and successful military officer,

"ข้าแต่ศาลที่เคารพ ในฐานะที่เขา เป็นทหารที่ยังหนุ่มและประสบความสำเร็จ

Napoléon fully supported the French Revolution,

นโปเลียนสนับสนุนการปฏิวัติฝรั่งเศส อย่างเต็มที่

and its ideals of liberty, equality, and fraternity.

และแนวหลักเรื่อง เสรีภาพ, สมภาค

But the revolutionaries were incapable of real leadership.

แต่ผู้ปฏิวัติทั้งหลาย ไม่สามารถเป็นผู้นำจริง ๆ ได้

Robespierre and the Jacobins who first came to power

โรเบสปิแยร์ และ ฌากอแบ็ง ผู้ขึ้นมามีอำนาจ

unleashed a reign of terror on the population,

ทำให้เกิดกลียุค

with their anti-Catholic extremism

ด้วยคตินิยมสุดขั้วที่ต่อต้านนิกายคาทอลิก

and nonstop executions of everyone who disagreed with them.

และการตัดสินโทษใครก็ตาม ที่ไม่เห็นด้วยกับพวกเขา

And The Directory that replaced them was an unstable and incompetent oligarchy.

และคณะดิเร็กตัวร์ที่มาแทนพวกเขาก็เป็นแค่ กลุ่มปกครองที่ไม่มีเสถียรภาพและความพร้อม

They needed a strong leader who could govern wisely and justly."

พวกเขาต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง ที่จะสามารถ ปกครองได้อย่างชาญฉลาดและเที่ยงธรรม"

"So, France went through that whole revolution

"ถ้าอย่างนั้น ฝรั่งเศสก็ผ่านการปฏิวัติทั้งหมด

just to end up with another all-powerful ruler?"

เพียงเพื่อมาเผชิญกับ ผู้นำที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จอีกคนงั้นหรือ"

"Not quite.

"ไม่ถึงกับอย่างนั้นหรอก

Napoléon's new powers were derived from the constitution

อำนาจใหม่ของนโปเลียน ถูกดัดแปลงมาจากรัฐธรรมนูญ

that was approved by a popular vote in the Consulate."

ที่ได้รับการยอมรับจากคะแนนเสียงข้างมาก จากคณะกงสุล

"Ha! The constitution was practically dictated at gunpoint in a military coup,

"ฮ่ะ รัฐธรรมนูญนั่น ถูกร่างขึ้นจากปลายกระบอกปืน

and the public only accepted the tyrant

และประชาชนก็ยอมรับทรราช

because they were tired of constant civil war."

ก็เพราะพวกเขาเบื่อหน่าย กับสงครามกลางเมืองเต็มทีแล้ว"

"Be that as it may,

"เมื่อเป็นเช่นนั้น

Napoléon introduced a new constitution and a legal code

นโปเลียนเสนอรัฐธรรมนูญและกฎหมายใหม่

that kept some of the most important achievements of the revolution in tact:

ที่ยังคงผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญบางส่วน จากการปฏิวัติเอาไว้เป็นอย่างดี

freedom of religion

ซึ่งก็คือ เสรีภาพของศาสนา

abolition of hereditary privilege,

การยกเลิกเอกสิทธิ์ทางมรดก

and equality before the law for all men."

และหลักความเสมอภาคเบื้องหน้ากฎหมาย สำหรับทุก ๆ คน"

"All men, indeed.

"สำหรับทุกคนตายล่ะ

He deprived women of the rights that the revolution had given them

เขาริดรอนสิทธิของผู้หญิง ที่เคยได้มาจากการปฏิวัติ

and even reinstated slavery in the French colonies.

และกระทั่งนำระบบทาสกลับมาใช้อีก กับเมืองขึ้นของฝรั่งเศส

Haiti is still recovering from the consequences centuries later.

เฮติยังคงต้องเยียวยาบาดแผล ที่ได้จากผลกระทบเมื่อหลายศตวรรษก่อนนี้

What kind of equality is that?"

แล้วมันเสมอภาคตรงไหนไม่ทราบ"

"The only kind that could be stably maintained at the time,

"ก็เป็นแบบเดียว ที่คงเสถียรภาพเอาไว้ได้ในเวลานั้น

and still far ahead of France's neighbors."

และยังก้าวไปไกล กว่าเพื่อนบ้านของฝรั่งเศสอีกด้วย"

"Speaking of neighbors, what was with all the invasions?"

"พูดถึงเพื่อนบ้าน แล้วเรื่อง การบุกรุกทั้งหลายล่ะว่าอย่างไร"

"Great question, Your Honor."

"เป็นคำถามที่ดีมากครับท่าน"

"Which invasions are we talking about?

"การบุกรุกไหนล่ะที่เรากำลังพูดถึง

It was the neighboring empires who had invaded France

อาณาจักรเพื่อนบ้านนั่นแหละ ที่รุกรานฝรั่งเศส

trying to restore the monarchy,

พยายามที่จะนำสถาบันราชาธิปไตยกลับมา

and prevent the spread of liberty across Europe,

และป้องกันการแผ่ขยายของเสรีภาพในยุโรป

twice by the time Napoléon took charge.

ถึงสองครั้งสองคราว เมื่อนโปเลียนกำลังขึ้นมาปกครอง

Having defended France as a soldier and a general in those wars,

จากการปกป้องฝรั่งเศสในฐานะที่เขาเป็นทหาร และนายพลปฏิบัติในภาวะสงครามมาก่อน

he knew that the best defense is a good offense."

เขารู้ดีกว่าการป้องกันที่ดีที่สุด ก็คือการโจมตีที่ดีที่สุด"

"An offense against the entire continent?

"การโจมตีทั่วทั้งทวีปล่ะไม่ว่า

Peace was secured by 1802,

เรามีความสงบสันติกันในปี ค.ศ. 1802

and other European powers recognized the new French Regime.

และประเทศอื่น ๆ ในยุโรปก็ยอมรับ ระบอบการปกครองของฝรั่งเศสใหม่

But Bonaparte couldn't rest unless he had control of the whole continent,

แต่โบนาปาร์ตก็ไม่ยอมเลิกรา จนกว่าเขาจะได้ครอบครองทั้งภูมิภาค

and all he knew was fighting.

และเขาก็รู้แต่เรื่องสู้ ๆ รบ ๆ

He tried to enforce a European-wide blockade of Britain,

เขาพยายามที่จะบังคับให้ทั้งยุโรป คว่ำบาตรอังกฤษ

invaded any country that didn't comply,

โดยรุกรานประเทศใดก็ตามที่ไม่เห็นด้วย

and launched more wars to hold onto his gains.

และก่อสงครามเพิ่ม เพื่อให้ได้มาซึ่งความได้เปรียบ

And what was the result?

แล้วผลลัพท์น่ะหรือ

Millions dead all over the continent,

คนทั้งทวีปต้องมาตายกันเป็นล้าน ๆ

and the whole international order shattered."

และกฎหมายสากลก็ถูกสั่นคลอน"

"You forgot the other result:

"คุณลืมผลลัพท์อื่น ๆ ไปหรือเปล่า

the spread of democratic and liberal ideals across Europe.

การแผ่กระจายของแนวคิด ประชาธิปไตยและเสรีนิยมไปทั่วยุโรปไงล่ะ

It was thanks to Napoléon that the continent was reshaped

เราต้องขอบคุณนโปเลียนเปลี่ยนโฉมหน้าทวีปนี้

from a chaotic patchwork of fragmented feudal and religious territories

จากส่วนดินแดนแห่งระบบศักดินาและศาสนา ที่ปะเชื่อมต่อกันอย่างยุ่งเหยิง

into efficient, modern, and secular nation states

เป็นสถาบันชาติที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา ที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ

where the people held more power and rights than ever before."

ที่ซึ่งประชาชนมีอำนาจมากกว่า และมีสิทธิมากกว่าที่เคยมี"

"Should we also thank him for the rise of nationalism

"แล้วเราควรขอบคุณเขาด้วยไหม ที่ทำให้เกิดลัทธิชาตินิยม

and the massive increase in army sizes?

และการเพิ่มขนาดของกองทัพอย่างมาก

You can see how well that turned out a century later."

คุณก็เห็นได้ว่ามันทำให้เกิดอะไรขึ้น ในอีกศตวรรษต่อมา"

"So what would European history have been like if it weren't for Napoléon?"

"แล้วประวัติศาสตร์ยุโรปจะเป็นอย่างไร ถ้าไม่มีนโปเลียน"

"Unimaginably better/worse."

"ดี/แย่ กว่านี้มากเลยครับ"

Napoléon seemingly unstoppable momentum would die in the Russian winter snows,

กำลังของนโปเลียนที่เหมือนว่าไม่อาจหยุดยั้งได้ อาจสูญสิ้นในหิมะฤดูหนาวของรัสเซีย

along with most of his army.

ไปพร้อมกับกองทัพส่วนใหญ่ของเขา

But even after being deposed and exiled,

แต่แม้ว่าหลังจากถูกปลดตำแหน่งและเนรเทศ

he refused to give up,

เขาก็ปฎิเสธที่จะยอมแพ้

escaping from his prison and launching a bold attempt at restoring his empire

เขาหนีจากคุกและเริ่มดำเนินการ แผนการอันทะเยอทะยานที่จะทวงคืนอาณาจักร

before being defeated for the second and final time.

ก่อนที่จะถูกปราบได้เป็นหนที่สอง และหนสุดท้าย

Bonaparte was a ruler full of contradictions,

โบนาปาร์ต เป็นผู้นำที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง

defending a popular revolution by imposing absolute dictatorship,

เขาปกป้องปฏิวัติอันเลื่องชื่อ โดยระบบเผด็จการเบ็ดเสร็จที่น่าเกรงขาม

and spreading liberal ideals through imperial wars,

และเผยแผ่ความแนวคิดเสรีนิยม ผ่านสงครามที่ยิ่งใหม่

and though he never achieved his dream of conquering Europe,

และแม้ว่าเขาจะไม่เคยก้าวไปถึงฝัน ที่จะพิชิตทวีปยุโรป

he undoubtedly left his mark on it, for better or for worse.

ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาได้ฝากรอยจารึกไว้ ไม่ว่าจะดีหรือร้ายอย่างไรก็ตาม