How did clouds get their names? - Richard Hamblyn

Translator: Benya Kittirattanapaibul Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

The Naming of Clouds

การตั้งชื่อเหล่าก้อนเมฆ

On a cold December evening in 1802,

เย็นวันหนึ่งในเดือนธันวาคมอันหนาวเหน็บ ปี ค.ศ. 1802

a nervous young man named Luke Howard

ชายหนุ่มจอมประหม่า ลุค ฮาร์เวิร์ด

stood before the assembled members of a London science club

ยืนอยู่หน้าที่ประชุม ของสมาชิกสมาคมวิทยาศาสตร์ลอนดอน

about to give a lecture that would change his life

กำลังจะให้การบรรยาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา

and go on to change humanity's understanding of the skies.

และเปลี่ยนแปลงความเข้าใจ ของมวลมนุษยชาติเกี่ยวกับท้องฟ้า

Luke Howard was a pharmacist by profession,

ลุค ฮาร์เวิร์ด มีอาชีพหลักเป็นเภสัชกร

but he was a meteorologist by inclination,

แต่มีอาชีพเสริมเป็นนักอุตุนิยมวิทยา

having been obsessed by clouds and weather since childhood.

เขาชอบสังเกตดูเหล่าก้อนเมฆ และสภาพอากาศมาตั้งแต่ยังเด็ก

As a school boy, he spent hours staring out of the classroom window,

สมัยวัยเรียน เขาใช้เวลาไป กับการมองออกไปนอกหน้าต่างห้องเรียน

gazing at the passing clouds.

กวาดตามองเหล่าก้อนเมฆที่ลอยผ่านไป

Like everyone else at the time, he had no idea how clouds formed,

เขาเป็นเหมือนคนอื่นทั่ว ๆ ไปในตอนนั้น เขาไม่รู้เลยว่าเมฆนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

or how they stayed aloft.

หรือพวกมันลอยอยู่บนท้องฟ้าได้อย่างไร

But he enjoyed observing their endless transformations.

แต่เขาก็มีความสุขกับการได้สังเกต การเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีที่สิ้นสุดของมัน

By his own admission, Luke paid little attention to his lessons,

ลุคยอมรับว่า เขาไม่ค่อยจะตั้งใจเรียนเสียเท่าไร

but fortunately for the future of meteorology,

และเป็นโชคของวงการอุตุนิยมวิทยา ในเวลาต่อมา

he managed to pick up a good knowledge of Latin.

ที่เขามีความรู้ด้านภาษาละตินค่อนข้างดี

Compared to the other natural sciences,

เมื่อเปรียบเทียบกับ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติสาขาอื่น ๆ

meteorology, the study of weather, was a late developer,

อุตุนิยมวิทยา ซึ่งเป็นการศึกษา ที่เกี่ยวกับอากาศ เป็นสิ่งที่ล้าหลังที่สุด

mainly because weather is elusive.

โดยหลัก ๆ ก็เพราะว่า สภาพอากาศเป็นสิ่งที่ยากต่อความเข้าใจ

You can't snap off a piece of rainbow

คุณไม่สามารถจะเก็บเอาชิ้นส่วนของรุ้งกินน้ำ

or a section of cloud for convenient study.

หรือบางส่วนของเมฆมาศึกษาได้โดยสะดวก

You can, of course, collect rain water in calibrated containers,

แต่แน่นอน คุณสามารถเก็บตัวอย่างน้ำฝน ใส่ภาชนะที่กำหนดมาตรวัดเอาไว้ได้

but all you really end up with are buckets of water.

แต่สุดท้าย สิ่งที่คุณได้ ก็เป็นเพียงน้ำในถัง

Understanding clouds required a different approach,

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับเมฆ ต้องใช้วิธีที่แตกต่างออกไป

which is where Luke Howard's idea came in.

ซึ่งนั่นเอง มีที่มา จากความคิดของ ลุค ฮาร์เวิร์ด

His simple insight based on years of observation

ความรู้ของเขาเกิดขึ้น จากการสังเกตเป็นเวลาหลายปี

was that clouds have many individual shapes

ว่าเมฆนั้นมีรูปร่างแตกต่างกันออกไป มากมายหลายแบบ

but they have few basic forms.

แต่พวกมันก็มีรูปร่างพื้นฐาน อยู่เพียงไม่กี่แบบ

In fact, all clouds belong to one of three principle types

อันที่จริงแล้ว เมฆนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทด้วยกัน

to which Howard gave the names:

ซึ่ง ฮาร์เวิร์ด ตั้งชื่อให้ว่า

cirrus, Latin for tendril or hair,

เซอรัส (Cirrus) ภาษาละตินที่แปลว่า ไม้เลื้อยหรือผม

cumulus, heap or pile,

คิวมูลัส (Cumulus) ซึ่งแปลว่า กลุ่มก้อนหรือกอง

and stratus, layer or sheet.

และ สตราตัส (Stratus) แปลว่า แผ่นหรือชั้น

But that wasn't the clever part.

แต่นั่นไม่ใช่ส่วนที่น่าทึ่ง

Clouds are constantly changing, merging, rising, falling, and spreading

เมฆมีการเปลี่ยนแปลง รวมตัว ลอยสูงขึ้น ลอยต่ำลง และกระจายตัวอยู่ตลอดเวลา

throughout the atmosphere,

ไปทั่วชั้นบรรยากาศ

rarely maintaining the same shapes for more than a few minutes.

และมักจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างทุก ๆ 2-3 นาที

Any successful naming system

ระบบการตั้งชื่อที่ดีใด ๆ ก็ตาม

had to accommodate this essential instability,

ต้องปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้

as Howard realized.

อย่างที่ ฮาร์เวิร์ด ได้ตระหนัก

So, in addition to the three main cloud types,

ฉะนั้น นอกจากเมฆสามกลุ่มใหญ่

he introduced a series of intermediate and compound types

ฮาร์เวิร์ดยังได้ตั้งชื่อกลุ่มเมฆ ที่กำลังเปลี่ยนรูปร่างและที่เป็นแบบผสม

as a way of including the regular transitions that occur among clouds.

เพื่อเป็นการรวบรวม การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นประจำของกลุ่มเมฆ

A high, whispy cirrus cloud that descended and spread into a sheet

เมฆเซอรัสที่ลอยอยู่สูง ที่เคลื่อนตัวลงสู่พื้น และกระจายตัวออกเป็นแผ่น

was named cirrostratus,

มีชื่อว่า เซอรัสสตราตัส (Cirrostratus)

while groups of fluffy cumulus clouds that joined up and spread

ในขณะที่กลุ่มเมฆคิวมูลัสปุกปุย ที่รวมตัวกันแล้วกระจายออก

were named stratocumulus.

เรียกว่า สตราตัสคิวมูลัส (Stratocumulus)

Howard identified seven cloud types,

ฮาร์เวิร์ด ได้จำแนกกลุ่มเมฆเจ็ดกลุ่ม

but these have since been expanded to ten,

แต่หลังจากนั้นมันก็เพิ่มเป็นสิบกลุ่ม

cloud nine being the towering cumulonimbus thunder cloud,

เมฆกลุ่มที่เก้า คือ คิวมูโลนิมบัส (cumulonimbus) เมฆฝนที่ก่อตัวเป็นชั้นเหมือนตึกสูง

which is probably why being on cloud nine means to be on top of the world.

ด้วยเหตุนี้เองจึงมีคำพูดที่ว่า อยู่บนเมฆกลุ่มที่เก้าซึ่งหมายถึง รู้สีกดีสุด ๆ

Howard's classification had an immediate international impact.

การจำแนกของ ฮาร์เวิร์ด ได้สร้างผลกระทบ ในระดับนานาชาติในทันที

The German poet and scientist J.W. von Goethe

นักประพันธ์และนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน โยฮัน โวฟกัง ฟอน เกอร์เธ่ (J.W. von Goethe)

wrote a series of poems in praise of Howard's clouds,

ได้เขียนบทกลอนมากมาย เพื่อชื่นชมเมฆที่ตั้งชื่อโดยฮาร์เวิร์ด

which ended with the memorable lines,

ซึ่งจบด้วยประโยคสุดท้ายที่น่าประทับใจมาก ใจความว่า

"As clouds ascend, are folded, scatter, fall,

"เมื่อหมู่เมฆลอยขึ้นสูง รวมตัว กระจายตัว ตกลงมา

Let the world think of thee who taught it all,"

ให้โลกใบนี้ได้รำลึกถึงท่านผู้สอนเรา"

while Percy Shelley also wrote a poem "The Cloud,"

ในขณะที่ เพอร์ซี แชลลี (Percy Shelley) ได้เขียนบทกลอนเรื่อง "The Cloud"

in which each of Howard's seven cloud types

ที่กล่าวถึง เมฆแบบต่าง ๆ ทั้งเจ็ดของฮาร์เวิร์ด

was characterized in turn.

โดยจัดจำแนกไว้อย่างต่อเนื่องกัน

But perhaps the most impressive response to the naming of clouds

แต่บางที สิ่งที่ตราตรึงที่สุด เกี่ยวกับการตั้งชื่อเมฆนั้น

was by the painter John Constable,

คือผลงานโดยจิตรกรนามว่า จอห์น คอนสเตเบิล (John Constable)

who spent two summers on Hampstead Heath painting clouds in the open air.

ผู้ใช้เวลาถึงสองฤดูร้อนที่เฮมสเตท เฮลท์ วาดภาพก้อนเมฆบนท้องฟ้าอันสดใส

Once they had been named and classified,

เมื่อเหล่าเมฆได้รับการตั้งชื่อและ จัดเป็นหมวดหมู่แล้ว

clouds became easier to understand

เมฆก็เป็นที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น

as the visible signs of otherwise invisible atmospheric processes.

ในฐานะสิ่งที่เฝ้าสังเกตได้ มากกว่า กระบวนการของชั้นบรรยากาศที่มองไม่เห็น

Clouds write a kind of journal on the sky

กลุ่มเมฆได้เขียนบันทึกการเดินทางไว้บนฟ้า

that allows us to understand the circulating patterns

ที่ทำให้เราเข้าใจรูปแบบของวัฎจักร

of weather and climate.

ของสภาพอากาศและภูมิอากาศ

Perhaps the most important breakthrough in understanding clouds

บางทีการค้นพบอันยิ่งใหญ่ที่สำคัญที่สุด ในการทำความเข้าใจก้อนเมฆ

was realizing that they are subject to the same physical laws

คือการตระหนักว่าพวกมันก็เป็นเหมือนสิ่งอื่น ตามกฎของฟิสิกส์

as everything else on Earth.

เช่นเดียวกันกับสิ่งต่าง ๆ บนโลก

Clouds, for example, do not float,

ยกตัวอย่างเช่น เมฆนั้น ไม่ได้ลอยอยู่

but fall slowly under the influence of gravity.

แต่มันลอยต่ำลงอย่างช้า ๆ ภายใต้อิทธิพลของแรงโน้มถ่วงของโลก

Some of them stay aloft

เมฆบางกลุ่มลอยตัวอยู่สูง

due to upward convection from the sun-heated ground,

เนื่องมาจากการพาความร้อนขึ้น จากพื้นดินที่ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์

but most are in a state of slow, balletic descent.

แต่ส่วนใหญ่จะลอยลงต่ำอย่างช้า ๆ เหมือนการเต้นบัลเล่ต์

"Clouds are the patron goddesses of idle fellows,"

"เมฆเป็นเทพีผู้อุปถัมภ์ของเหล่าผู้มีศรัทธา"

as the Greek dramatist Aristophanes wrote in 420 B.C.

ประโยคนี้ถูกเขียนโดยอริสโตฟานแนส นักแสดงชาวกรีกในปี 420 ก่อนคริสตกาล

and nephology, the study of clouds, remains a daydreamer's science,

อุตุนิยมวิทยา ซึ่งเป็นที่ศึกษาเกี่ยวกับเมฆ ก็ยังคงเป็นฝันกลางวันของวงการวิทยาศาสตร์

aptly founded by a thoughtful young man

ซึ่งถูกก่อตั้งโดยชายหนุ่มผู้มีความคิด

whose favorite activity was staring out of the window at the sky.

ซึ่งมีกิจกรรมโปรดคือ การนั่งมองไปยังท้องฟ้า ผ่านออกไปนอกหน้าต่างของเขา