Why is Marie Antoinette so controversial? - Carolyn Harris

Translator: Nuchpraweepawn Saleeon Reviewer: Chatthip Chaichakan

Order! Order! Who’s the defendant today? Looks pretty fancy.

ทุกคนเงียบ! ใครคือจำเลยในวันนี้ล่ะ ดูแพรวพราวเลยทีเดียว

Indeed, Your Honor.

ถูกต้องครับท่าน นี่คือ มารี อังตัวแนตต์ ราชินีแห่งฝรั่งเศส

This is Marie Antoinette, the Queen of France

who was notorious for living in opulence while the peasants starved.

ที่ถูกลือกันว่าใช้ชีวิตหรูหรา ขณะที่ประชาชนอดอยาก

That is sensationalist slander.

นั่นถือเป็นการหมิ่นประมาทมาก

Marie Antoinette had little power over her circumstances

พระนางมารี อังตัวแนตต์แทบจะ ไม่มีอำนาจในชีวิตของพระองค์

and spent her brief life trying to survive in a turbulent, foreign country.

พระองค์เพียงใช้ชีวิตอันแสนสั้นในการ ดิ้นรนเอาชีวิตรอดในต่างแดนที่วุ่นวาย

You mean she wasn't French?

พระนางไม่ใช่ชาวฝรั่งเศสงั้นรึ

That’s right, Your Honor.

ไม่ใช่ครับท่าน

She was born in 1755 as the Hapsburg Archduchess Maria Antonia.

พระนางประสูติในปี 1755 ในพระนาม มาเรีย แอนโทเรีย แห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก

After two of her older sisters passed away,

หลังจากพระเชษฐภคนีทั้งสองสิ้นพระชนม์

she became the only choice for a political marriage to Louis-August,

พระนางจึงเป็นเพียงคนเดียวที่จะอภิเษกสมรส ด้วยเหตุผลทางการเมืองกับหลุยส์ ออร์กุสต์

heir to the French throne.

รัชทายาทแห่งบัลลังก์ฝรั่งเศส

Essentially, she was sacrificed to secure peace between Austria and France,

ที่สำคัญ พระนางต้องสละตนเพื่อประคอง สันติภาพระหว่างออสเตรียและฝรั่งเศส

all at the age of 14.

ในพระชนมายุเพียง 14 พรรษา

She seemed to have had adjusted to this “sacrifice” by 1774

ดูเหมือนพระนางจะคุ้นชินกับ “การเสียสละ” เช่นนี้ก่อนปี 1774

when her husband was crowned king.

เมื่อพระสวามีได้เสด็จขึ้นครองราชบัลลังก์

She lived a life of luxury, wearing elaborate headdresses,

พระนางใช้ชีวิตที่แสนหรูหรา ทรงเครื่องประดับพระเศียรอย่างประณีต

importing foreign fabrics—

รวมถึงผ้านำเข้าจากต่างแดน

she even had her own private chateau near Versailles!

อีกทั้งยังมีปราสาทส่วนตัวใกล้แวร์ซายส์

Meanwhile, France was in an economic tailspin.

ในขณะที่ฝรั่งเศสอยู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

Bad harvests resulted in mass food shortages,

พืชผลผลิตตกต่ำนำไปสู่ภาวะ ขาดแคลนอาหารครั้งใหญ่

wages were falling, and the cost of living had skyrocketed.

ค่าจ้างลดลง ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น

Marie Antoinette’s expensive tastes were completely insensitive

รสนิยมที่แสนอู้ฟู่ของมารี อังตัวเนตต์ แสดงให้เห็นว่า

พระนางไม่ได้แยแสต่อ สภาพอันเลวร้ายของประชาชนเลย

to the plight of her subjects.

She was the Queen!

พระนางเป็นถึงพระราชินี

If she hadn’t looked glamorous, she would have been criticized.

หากพระนางดูไม่สง่า อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์เอาได้

Besides, she sometimes used her image for good.

บางครั้งพระนางก็ใช้ภาพลักษณ์ไปในทางที่ดี

After convincing the King to be vaccinated against smallpox,

หลังจากโน้มน้าวพระราชาให้ ฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ

she commissioned a special headdress to make the treatment fashionable for all.

พระนางทรงสั่งเครื่องประดับพระเศียรเพื่อให้ การฉีดวัคซีนนี้เป็นที่นิยมสำหรับทุกคน

She also used her influence to appoint unqualified friends and admirers

แต่พระนางใช้อำนาจในการแต่งตั้งพระสหาย ที่ไม่มีคุณสมบัติ

to important posts.

ขึ้นเป็นตำแหน่งสำคัญ

Even more disastrous, she encouraged the King to get involved

สิ่งที่หายนะไปกว่านั้นคือยุยงให้กษัตริย์ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติอเมริกา

in the American Revolution,

a conflict that cost France 1.5 billion francs.

ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่ฝรั่งเศส ต้องสูญเสียถึง 1.5 พันล้านฟรังก์

Objection!

ขอคัดค้าน!

The Queen had very little influence over her husband’s political decisions

ในขณะนั้นพระราชินีมีอำนาจในการตัดสินพระทัย ทางการเมืองน้อยกว่าพระราชามากครับ

at that time.

Besides, France’s financial crisis was much more related to the country’s

นอกจากนั้น วิกฤติทางการเงิน ของฝรั่งเศสเกี่ยวข้องกับ

outdated tax system and lack of an effective central bank.

ระบบการจัดเก็บภาษีที่ล้าสมัยและ ธนาคารกลางที่ขาดประสิทธิภาพมากกว่า

How so?

แล้วอย่างไรต่อ

While France's nobility and clergy had numerous tax exemptions,

ขณะที่ขุนนางและเหล่านักบวชในฝรั่งเศส ได้รับการยกเว้นภาษีจำนวนมาก

peasants often paid more than half their income in taxes.

ชาวนามักจ่ายภาษีมากกว่า ครึ่งหนึ่งของรายได้พวกเขา

This system buried France in debt long before the Queen's arrival.

ระบบการจัดเก็บภาษีเช่นนี้ทำให้ ฝรั่งเศสเป็นหนี้มานานก่อนที่ราชินีจะเข้ามา

Her personal expenses were merely a scapegoat

ค่าใช้จ่ายส่วนพระองค์ก็เป็นเพียงแพะรับบาป

for decades of financial negligence.

จากความหละหลวมทางการคลังหลายทศวรรษ

That doesn’t change that Marie Antoinette spent tax money on luxuries

แต่ก็ไม่ปฏิเสธเลยว่าพระนาง มารี อังตัวแนตต์ใช้ภาษีไปกับของฟุ่มเฟือย

while the masses starved!

ในขณะที่คนส่วนใหญ่อดอยาก

She was so oblivious that when she heard people couldn’t afford bread,

พระนางละเลยจนถึงกับเมื่อได้ยินว่าประชาชน ไม่มีเงินพอที่จะซื้อขนมปัง

she recommended they eat cake instead.

พระนางตรัสว่า ให้พวกเขากินเค้กแทนสิ

This is almost certainly a fabrication attributed to the Queen by her enemies.

นั่นเป็นเรื่องที่กุขึ้นมาโดย เหล่าคนที่ไม่ชอบพระนาง

In fact, Marie Antoinette frequently engaged in charity work

ในความจริงแล้ว พระนางมารี อังตัวแนตต์ มักจะเข้าร่วมงานการกุศล

focused on addressing poverty.

ที่มุ่งเน้นแก้ปัญหาปากท้อง

Her reputation as a heartless queen was based on rumors and slander.

ข่าวลือและคำใส่ร้ายป้ายสีต่างๆ ทำให้กิตติศัพท์ของพระนางคือราชินีไร้หัวใจ

Even the most famous case against her was a complete fraud.

แม้แต่เรื่องที่พูดถึงกันมากที่สุด ก็ไม่เป็นความจริงทั้งนั้น

Pardon?

อะไรนะ

In 1784, a thief forged fake letters from the Queen

ในปี 1784 มีโจรแอบอ้างเป็นพระนางเพื่อ ปลอมแปลงจดหมายเท็จ

to purchase an outrageously expensive diamond necklace.

เพื่อซื้อสร้อยเพชรราคาแพง

The truth came out eventually,

ท้ายที่สุด ความจริงก็ปรากฏ

but the public already saw her as a wasteful spendthrift.

แต่ใคร ๆ ก็มองว่าพระนาง เป็นคนใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย

Meanwhile, it's really her husband who ruined France's finances.

แต่จริงๆ แล้วเป็นพระสวามีพระนางต่างหาก ที่ทำลายระบบการคลังของฝรั่งเศส

On that, we agree.

เราเห็นด้วยในเรื่องนั้น

Louis XVI was an incompetent king.

พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ไร้พระปรีชาสามารถ

Even after the revolution began and he lost much of his power

แม้การปฏิวัติเริ่มขึ้น และพระองค์ สูญเสียอำนาจไปมาก

to the newly formed National Assembly,

ไปให้กับรัฐสภาชุดใหม่

he refused to yield control.

พระองค์ก็ปฏิเสธที่จะอยู่ภายใต้การควบคุม

Louis vetoed numerous pieces of legislation—

พระเจ้าหลุยส์เองก็ได้คัดค้านกฏหมายหลายฉบับ

and he was supported by his conservative Queen.

ซึ่งพระองค์ก็ได้รับการสนับสนุนจาก ราชินีหัวอนุรักษ์นิยมของพระองค์

To a point.

ถึงตรงนี้แล้ว

Marie Antoinette believed in the divine right of kings,

พระนางมารี อังตัวเนตต์ก็เชื่อมั่น ในเทวสิทธิราชย์

but despite personal reservations, she tried to work with reformers.

แม้มีเงื่อนไขส่วนพระองค์ พระนางก็พยายามเข้าหาฝ่ายตรงข้าม

Though all she got in return were false reports that she was sleeping with them.

แม้ผลที่ได้คือรายงานเท็จถึงความสัมพันธ์ เชิงชู้สาวของเธอกับผู้ต่อต้าน

No amount of charity work could counter this avalanche of slander.

ไม่ว่าพระนางจะทำงานการกุศลมากเท่าไหร่ ก็ไม่อาจต่อต้านข้อกล่าวหาที่ถาโถมเข้ามา

The revolutionaries also prevented the King’s family from leaving Paris—

ฝ่ายปฏิวัติยังขัดขวาง ไม่ให้เชื้อพระวงศ์ลี้ภัยจากปารีส

how could she negotiate with people keeping her prisoner?

พระนางจะต่อรอง กับคนที่คุมขังเธอราวกับนักโทษได้อย่างไร

Well, they were right to do so!

พวกเขาทำถูกแล้ว!

In 1791, the royal couple tried fleeing to Austria

ในปี 1791 ทั้งสองพระองค์ หาหนทางลี้ภัยไปยังออสเตรีย

to gather support and regain power.

เพื่อขอแรงสนับสนุน และเพื่อให้ได้คืนสิทธิราชย์

Even after they were caught,

แม้หลังจากที่พวกเขาถูกจับได้

the King and Queen continued to pass military secrets

ทั้งสองพระองค์ยังคงมีการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง

to their Austrian contacts.

แก่เครือข่ายชาวออสเตรีย

Isn't that treason?

นั่นไม่ใช่การทรยศชาติรึ

Certainly, and Louis was executed for it, alongside 32 other charges.

ถูกต้องครับท่าน พระเจ้าหลุยส์ถูกสำเร็จโทษ ด้วยเหตุนั้นพร้อมกับอีก 32 ข้อหา

Even if you believe the King's execution was just,

แม้ท่านจะเห็นควรว่าการสำเร็จโทษ ของพระราชาสมควรแก่เหตุ

there's no excuse for how the new government treated Marie Antoinette.

แต่การปฎิบัติของรัฐบาลชุดใหม่ ต่อราชินีมิได้เป็นเช่นนั้นเลย

She was separated from her son and kept in a cell with no privacy.

องค์มกุฎราชกุมารก็ถูกลักพาตัวไปจากพระมารดา

ถูกนำตัวมาไว้ที่ห้องขัง ไร้ความเป็นส่วนตัว

The tribunal in charge of prosecuting the Queen had no proof of her treason,

ศาลผู้ไต่สวนคดีของราชินี ไม่มีหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาทรราชย์

so they denigrated her with baseless accusations of incest and orgies.

พวกเขาจึงกล่าวหาพระองค์ ด้วยเหตุการสมสู่ร่วมสายโลหิตและการประเวณี

Yet she maintained composure until the very end.

ถึงกระนั้น พระนางยังคงยืนกรานความบริสุทธิ์ จนถึงวันสุดท้าย

The Queen’s final words were an apology to her executioner

พระราชกระแสสุดท้ายของพระนาง คือคำขอโทษแก่เจ้าพนักงานเพชฌฆาต

for stepping on his foot.

ที่เผลอไปเหยียบเท้า

However refined she may have been,

ไม่ว่าพระนางจะเป็นผู้บริสุทธิ์แค่ไหนก็ตาม

Marie Antoinette was willing to betray her country to stay in power.

พระนางมารี อ็องตัวแน็ตเต็มใจ ที่จะทรยศชาติเพื่อคงไว้ซึ่งอำนาจ

In life and death, she remains a symbol of everything wrong

ตลอดชีวิตและหลังความตาย พระนางยังคง เป็นเครื่องหมายของความผิดพลาดทั้งหลาย

with the decadent monarchy.

จากระบอบกษัตริย์อันเสื่อมโทรม

A convenient symbol—

เครื่องหมายสิ้นคิด

and an example of the public’s appetite for smearing prominent women

และเป็นตัวอย่างของความกระหายของคน ที่จะบั่นทอนหญิงผู้มีชื่อเสียง

with their own fantasies and frustrations.

ด้วยมโนคติ และความไม่พอใจของพวกเขาเอง

So what you’re saying is she was guilty of being Queen?

คุณกำลังจะบอกว่า พระนางมีโทษ ฐานที่เป็นพระราชินีงั้นหรือ

Should monarchs be judged by their personal qualities

ราชวงศ์สมควรถูกตัดสิน จากคุณสมบัติส่วนบุคคล

or the historical role they occupied?

หรือจากบทบาทในประวัติศาสตร์ของพวกเขา

And can even the powerful be victims of circumstance?

และแม้แต่ผู้มีอิทธิพลเอง จะเป็นจำเลยของเหตุการณ์ได้หรือไม่

These are the questions that arise when we put history on trial.

นี่คือสิ่งที่เราต้องถาม เมื่อเรานำประวัติศาสตร์มาสะสางคดี