Are indoor vertical farms the future of agriculture? | Stuart Oda

Translator: Joseph Geni Reviewer: Joanna Pietrulewicz

Translator: Natchaya Chokchaivitkul Reviewer: Patipon Tantisirivattana

So if you live on planet Earth

ถ้าตัวคุณอยู่บนโลกใบนี้

and you're one of seven billion people that eats food every day,

อีกทั้งเป็นหนึ่งในประชากรโลก 7 พันล้านคน ที่ต้องบริโภคอาหารในทุกๆวัน

I need you to pay attention,

ผมขอให้คุณตั้งใจฟังตรงส่วนนี้

because over the next three decades,

เพราะว่าอีก 30 ปีหลังจากนี้

we will need to address

เราอาจจะต้องกล่าวถึง

one of the most critical global challenges of our generation.

หนึ่งในวิกฤตการณ์ท้าทายที่สุดในรุ่นของเรา

And I'm not talking about climate change.

และผมก็ไม่ได้พูดเรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

I'm talking about food and agriculture.

ทว่าผมกำลังพูดถึงเรื่องอาหารและเกษตรกรรม

In 2050, our global population is projected to reach 9.8 billion,

ปี 2050 นั้น ประชากรโลกคาดว่าจะมีถึง 9.8 พันล้านคน

with 68 percent of us living in urban city centers.

ซึ่ง 68 เปอร์เซ็นต์ของพวกเรา อาศัยอยู่ในเมือง

In order to feed this massive population,

เพื่อจะหล่อเลี้ยงประชากรที่มากมายมหาศาล

we will need to increase our agricultural output

เราจำต้องเพิ่มปริมาณผลผลิตทางการเกษตร

by 70 percent over current levels.

ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของระดับปัจจุบัน

Just to put this number into perspective,

ลองใส่ตัวเลขแสดงภาพรวม

we will need to grow more food in the next 35 to 40 years

เราอาจจำเป็นต้องผลิตอาหาร ให้เพิ่มขึ้นอีกใน 35 ถึง 40 ปี

than the previous 10,000 years combined.

มากกว่า 10,000 ปีที่ผ่านมารวมกัน

Put simply, not only is our global population becoming bigger,

พูดง่ายๆคือ ไม่ใช่แค่ประชากรโลกที่เพิ่มสูงขึ้น

but it's also getting denser,

แต่ยังแออัดกันมากขึ้นอีกด้วย

and we will need to grow significantly more food

เราต้องผลิตอาหารให้มากขึ้นเป็นพิเศษ

using significantly less land and resources.

แต่ใช้พื้นที่และทรัพยากรให้น้อยลงด้วย

Complicating our current efforts to address these major demographic shifts

ความพยายามของเราในการแก้ปัญหา เรื่องการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร

are the challenges facing the agricultural industry today.

เป็นความท้าทายที่ต้องเผชิญ ต่ออุตสาหกรรมการเกษตร ณ วันนี้

Globally, one third of all the food that we produce is wasted,

ทั่วโลก หนึ่งในสามของอาหารที่เราผลิตถูกเททิ้ง

acquitting to 1.6 billion tons of food

ปล่อยให้อาหาร 1.6 พันล้านตัน

that spoiled on the way to the market

ถูกทิ้งให้เน่าบูดระหว่างส่งไปจำหน่ายในตลาด

or expired in our refrigerators

หมดอายุในตู้เย็น

or were simply thrown out by supermarkets and restaurants

หรือถูกโยนทิ้ง โดยห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร

at the end of the day.

เมื่อหมดวัน

Every single year, up to 600 million people

ทุกๆปี ประชากรมากถึง 600 ล้านคน

will get sick eating contaminated food,

ป่วยจากการบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อน

highlighting the challenge that we have of maintaining global food safety.

ที่สำคัญคือความท้าทาย ที่มีต่อการรักษาความปลอดภัยทางอาหาร

And, maybe unsurprisingly,

อีกทั้งอาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ

the agricultural industry

อุตสาหกรรมการเกษตร

is the single largest consumer of fresh water,

คือกลุ่มที่ใช้น้ำจืดรายใหญ่ที่สุด

accounting for 70 percent of global usage.

นับเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ ของการบริโภคน้ำทั่วโลก

Now, you'll be relieved to know

ตอนนี้เราจะทำให้คุณหายกังวลใจที่ได้รู้ว่า

that the agricultural industry

กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร

and that the global movement by universities, companies and NGOs

อีกทั้งการเคลื่อนไหวระดับโลก จากสถาบันการศึกษา บริษัทเอกชน และ NGOs

is putting together comprehensive research

ได้ร่วมมือกันในการศึกษาวิจัย

and developing novel technology

และคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ

to address all of these issues.

เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้

And many have been doing it for decades.

หลายสถาบันได้ทำมาแล้วเป็นเวลานานหลายสิบปี

But one of the more recent innovations in food production

หนึ่งในนวัตกรรมล่าสุดของระบบการผลิตอาหาร

being deployed in industrial parks in North America,

ได้ออกใช้งานที่นิคมอุตสาหกรรม ในอเมริกาตอนเหนือ

in the urban city centers of Asia,

ที่ศูนย์กลางเมืองใหญ่หลายเมืองของเอเชีย

and even in the arid deserts of the Middle East

แม้แต่ทะเลทรายที่แห้งแล้งในตะวันออกกลาง

is controlled environment agriculture.

คือการปลูกภายใต้การควบคุมสภาพแวดล้อม

Controlled environment agriculture is actually just a fancy way of saying

การปลูกภายใต้การควบคุมสภาพแวดล้อมนี้ อันที่จริงอาจกล่าวอีกอย่างว่า

weather- or climate-proof farming,

ระบบการเกษตรแบบสภาพแวดล้อมปิด

and many of these farms grow food three-dimensionally in vertical racks,

ฟาร์มทั้งหมดถูกปลูกแบบสามมิติ ในชั้นวางแนวตั้ง

as opposed to the two dimensions of conventional farms.

ตรงข้ามกับแบบสองมิติ ในฟาร์มแบบดั้งเดิม

And so this type of food production is also referred to

ระบบการผลิตอาหารประเภทนี้เรียกได้อีกแบบว่า

as indoor vertical farming.

ฟาร์มแนวตั้งในร่ม

I've been involved in the indoor vertical farming space

ผมเคยมีส่วนร่วม กับชุมชนฟาร์มเกษตรแนวตั้งในร่มนี้

for the past five and a half years,

มากว่า 5 ปีครึ่ง

developing technology to make this type of food production

การพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบการผลิตอาหารแบบนี้

more efficient and affordable.

ได้ประสิทธิภาพมากกว่าและราคาไม่สูงเกินไป

This picture was taken outside of a decommissioned shipping container

ภาพนี้ได้ถูกถ่ายไว้ จากด้านนอกของคอนเทนเนอร์เก่า

that we converted into an indoor farm

ที่เราปรับทำเป็นฟาร์มในร่ม

and then launched into the heart and the heat of Dubai.

จากนั้นนำไปวางที่ใจกลางเมือง ท่ามกลางความร้อนของดูไบ

Indoor vertical farming is a relatively recent phenomena,

ฟาร์มแนวตั้งในร่ม เป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่

commercially speaking,

ถ้าพูดในเชิงพาณิชย์

and the reason for this is that consumers care more about food safety

เหตุผลนั่นคือผู้บริโภค ใส่ใจในความปลอดภัยทางอาหาร

and where their food comes from,

และแหล่งที่มาของมัน

and also, the necessary technology to make this possible

อีกทั้งเทคโนโลยีที่จำเป็น เพื่อสร้างสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นจริง

is more readily available and lower cost,

สามารถพร้อมใช้งานและราคาไม่แพง

and the overall cost of food production globally is actually increasing,

และต้นทุนโดยรวมของการผลิตอาหารทั่วโลก กำลังพุ่งสูงขึ้น

making this type of food production more competitive.

ทำให้การผลิตอาหารแบบนี้มี การแข่งขันสูงขึ้น

So if you want to build an indoor vertical farm,

ถ้าคุณต้องการสร้างฟาร์มแนวตั้งในร่ม

you will need to replace some of the conventional elements of farming

คุณอาจต้องเปลี่ยน ปัจจัยการทำเกษตรแบบดั้งเดิม

with artificial substitutes,

แทนที่ด้วยสสารสังเคราะห์

starting with sunlight.

เริ่มจากแสงแดด

In indoor vertical farms,

ที่ฟาร์มแนวตั้งในร่ม

natural sunlight is replaced with artificial lighting like LEDs.

แสงแดดธรรมชาติถูกแทนที่ด้วยหลอดไฟ LEDs

While there are many different types of LEDs being used,

ขณะที่การใช้งาน LEDs มีหลากหลาย ให้เลือกใช้

the one that we decided to install here

สิ่งที่เราเลือกเอามาติดตั้ง

is called "full spectrum LEDs,"

เรียกว่า LEDs สเปกตรัมสูง

which was optimized for the type of vegetables that we were growing.

ซึ่งปรับให้เหมาะสมกับชนิดของพืช ที่เรากำลังปลูก

Also, in order to maximize production for a given space,

เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ การผลิตสูงสุดต่อพื้นที่ที่มี

indoor vertical farms also utilize and install racking systems

ฟาร์มแนวตั้งในร่ม จึงนำระบบชั้นวางมาติดตั้ง

to grow vegetables vertically,

เพื่อปลูกพืชในแนวตั้ง

and some of the biggest facilities

ส่วนหนึ่งของชุดแปลงปลูกที่ใหญ่ที่สุด

stack their production 14 to 16 floors high.

นำมาวางซ้อนกันได้ถึง 14 - 16 ชั้น

Now most of these farms are hydroponic or aeroponic systems,

ฟาร์มแบบนี้ส่วนใหญ่เป็น การปลูกพีชระบบรากน้ำและรากอากาศ

which means that instead of using soil,

หมายความว่าแทนที่เราจะใช้ดิน

they use a substitute material like polyurethane sponges,

เราใช้วัสดุทดแทน เช่น โฟมพอลิยูรีเทน

biodegradable peat moss

ดินขุ่ยต้นมอสที่ย่อยสลายง่าย

and even use inorganic materials like perlite and clay pellets.

กระทั่งวัสดุอนินทรีย์อย่าง หินภูเขาไฟ และเม็ดดินเผา

Another unique aspects about these farms

รูปแบบที่โด่ดเด่นอีกอย่างของฟาร์มแบบนี้

is that they use a precise nutrient formula

นั่นคือการใส่ สารอาหารที่มีคุณค่าให้กับพืช

that is circulated and recycled throughout the facility,

ซึ่งหมุนเวียนนำกลับมาใช้ได้อีก ทั้งระบบ

and this is pumped directly to the vegetables' root zone

สารอาหารนี้จะถูกปั๊มให้บริเวณรากพืชโดยตรง

to promote plant growth.

เพื่อกระตุ้นให้พีชเจริญเติบโต

And lastly, these farms use

สุดท้าย ฟาร์มเหล่านี้ยัง

a sophisticated monitoring and automation system

คอยเฝ้าสังเกตการณ์และควบคุมอัตโนมัติ ที่เป็นระบบ

to significantly increase productivity,

เพื่อเพิ่มผลผลิตให้ได้มากขึ้น

efficiency and consistency,

อย่างประสิทธิภาพและมีความแน่นอน

and these tools also provide the added benefit

อีกทั้งอุปกรณ์เหล่านี้ยังช่วยเพิ่มมูลค่า

of producing food that is more traceable and safe.

ให้กับการผลิตนั่นคือ สามารถตรวจสอบติดตามและมีความปลอดภัยสูง

Some of the obvious benefits of growing food in this way

ประโยชน์บางประการที่เห็นได้ชัด ของการเพาะปลูกแบบนี้

is that you have year-round vegetable production,

คือคุณจะมีผลผลิตตลอดทั้งปี

you have consistent quality and you have predictable output.

คุณได้คุณภาพที่แน่นอน และยังคาดการณ์ปริมาณผลผลิตได้

Some of the other major benefits

คุณสมบัติหลักๆบางประการ

include significant resource use efficiencies,

ยังรวมถึงการใช้ทรัพยากร ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

particularly water.

โดยเฉพาะน้ำ

For every kilogram of vegetables grown in this way,

ผักหนึ่งกิโลกรัมที่โตด้วยวิธีนี้

hundreds of liters of water is conserved compared to conventional farming methods.

ประหยัดน้ำไปได้กว่าหนึ่งร้อยลิตร เทียบกับวิถีเกษตรแบบเดิม

And with the water savings

ด้วยการประหยัดน้ำแบบนี้

come similar savings in the use of fertilizer.

มีผลต่อการลดปริมาณการใช้ปุ๋ยด้วย

One of the highest-yielding farms

หนึ่งในฟาร์มที่ได้กำไรสูงสุด

grows over 350 times more food per square meter than a conventional farm.

ปลูกได้มากกว่า 350 ครั้งต่อตารางเมตร มากกว่าฟาร์มแบบเดิม

And weatherproofing

ด้วยสภาพอากาศแบบปิด

means complete control of incoming contaminants and pests,

เราสามารถควบคุมปัจจัยปนเปื้อน และศัตรูพืชได้ทั้งหมด

completely eliminating the need for the use of chemical pesticides.

ไม่จำเป็นต้องใช้สารกำจัดศัตรูพืช

And not to be mistaken,

และถ้าผมคำนวณไม่ผิด

these farms can produce enormous amounts of food,

ฟาร์มแบบนี้สามารถผลิตอาหารได้จำนวนมหาศาล

with one of the biggest facilities

ด้วยชุดแปลงปลูกผักที่ใหญ่ที่สุด

producing 30,000 heads of vegetables a day.

สามารถผลิตผักได้ถึง 30,000 หัว ต่อวัน

However, as with any new technology or innovation,

ทว่าก็เหมือนกับ เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆทั่วไป

there are some drawbacks.

มันยังมีข้อบกพร่อง

As you would imagine,

อย่างที่คุณเห็น

growing food in this way can be incredibly energy-intensive.

การปลูกพืชแบบนี้ ต้องใช้พลังงานค่อนข้างเยอะ

Also, these farms can only produce a small variety of vegetables commercially

อีกทั้งฟาร์มเหล่านี้ยังปลูกพืชเชิงพาณิชย์ ได้เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น

and the overall cost of the production still is quite high.

ค่าใช้จ่ายโดยรวมก็ยังสูงเกินไป

And in order to address these issues,

เพื่อที่จะแก้ปัญหานี้ให้หมดไป

some of the biggest and most sophisticated farms

ฟาร์มแนวตั้งในร่มแห่งใหญ่หลายๆที่

are making significant investments, starting with energy efficiency.

กำลังเดินหน้าลงทุน เริ่มจากลงทุนกับพลังงานที่มีประสิทธิภาพ

In order to reduce the high energy usage,

เพื่อลดการใช้พลังงานที่มากเกินไป

there are efforts to develop higher-efficiency LEDs,

จึงพยายามพัฒนา ไฟ LEDs ที่มีประสิทธิภาพสูง

to develop lasers optimized for plant growth

พัฒนาระบบเลเซอร์ เพื่อปรับให้เข้ากับการเจริญเติบโตของพืช

and using even fiber-optic cables like these

แม้แต่การใช้ เคเบิลใยแก้วนำแสงแบบที่เห็นนี้

to channel sunlight directly into an indoor vertical farm

เพื่อส่งแสงแดดพุ่งตรงเข้าสู่ฟาร์ม

during the day to reduce the need for artificial lighting.

ในตอนกลางวันเพื่อลดความต้องการ ใช้แสงไฟสังเคราะห์

Also, to reduce the labor costs associated with hiring a more sophisticated,

อีกทั้งยังต้องลดค่าแรงงาน ด้วยการจ้างคนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

more urban and also more high-skilled labor force,

มีความรู้ และเป็นแรงงานที่มีทักษะฝีมือสูง

robotics in automation is used extensively in large-scale facilities.

หุ่นยนต์อัตโนมัติ จะถูกใช้ทำงานทั่วทั้งแปลงขนาดใหญ่

And you can never really be too resource-efficient.

คุณจะไม่มีวัน ใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า

Building indoor vertical farms in and around urban city centers

การสร้างฟาร์มเกษตรแนวตั้งในร่ม ไว้รอบๆใจกลางเมือง

can help to shorten the agricultural supply chain

ช่วยลดห่วงโซ่อุปทานการเกษตรได้

and also help to maintain the nutritional content in vegetables.

ช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนการในผัก

Also, there are food deserts in many countries

ยังมีพื้นที่ห่างไกลแหล่งอาหารในหลายประเทศ

that have little to no access to nutritious vegetables,

มีโอกาสน้อยหรือไม่มีเลย ที่จะเข้าถึงผักที่มีสารอาหาร

and as this industry matures,

เมื่ออุตสาหกรรมนี้ถึงจุดอิ่มตัว

it will become possible to provide more equitable access

อาจเป็นไปได้ที่เราจะมีโอกาสเข้าถึง แหล่งอาหารอย่างเท่าเทียม

to high-quality, highly nutritious vegetables

ได้กินผักคุณภาพสูง ที่มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน

in even the most underprivileged of communities.

แม้แต่ ผู้ยากไร้ที่แทบจะไม่มีสิทธิในสังคม

And finally, and this is really exciting for me personally,

สุดท้ายแล้ว ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ผมตื่นเต้นที่สุด

indoor vertical farming can actually be integrated seamlessly

ฟาร์มสามารถรวมเป็นหนึ่ง ได้อย่างไม่เห็นความแตกต่าง

into the cityscape

กับสถาปัตยกรรมของเมือง

to help repurpose idle, underutilized and unused urban infrastructure.

ช่วยเปลี่ยนทัศนะคติของคนว่างงาน และใช้ประโยชน์จากอาคารที่ไม่ได้ถูกใช้งาน

In fact, this is already happening today.

ที่จริง ทุกวันนี้มันได้เกิดขึ้นแล้ว

Ride-sharing services have taken hundreds of thousands of cars off the road

บริการแชร์รถโดยสาร ทำให้จำนวนรถบนถนน หลายร้อยหลายพันคันหายไป

and they have significantly reduced the need for parking.

อีกทั้งยังลดความต้องการที่จอดรถลง

This is a farm that we installed in central Beijing

นี่คือฟาร์มที่เราติดตั้งใจกลางเมืองปักกิ่ง

in an underutilized underground parking structure

ในลานจอดรถใต้ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์

to grow vegetables for the nearby hotels.

เพื่อปลูกผักให้กับโรงแรมใกล้เคียง

Underutilized infrastructure

อาคารที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์

is not simply limited to large-scale civil engineering projects,

ไม่ได้ถูกจำกัดว่าจะต้องเป็น โครงการก่อสร้างใหญ่โตอะไรเลย

and they can also include smaller spaces like idle restaurant corners.

พวกคุณสามารถใช้พื้นที่ส่วนเล็กๆได้ อย่างเช่น มุมว่างๆในร้านอาหาร

This is an example of a farm that we installed

นี่คือตัวอย่าง ของฟาร์มที่เราได้ติดตั้ง

directly into the partition of a hotel entrance

กับผนังกั้นของทางเข้าโรงแรม

in order to grow fresh herbs and microgreens on-site for the chefs.

เพื่อปลูกสมุนไพร และต้นอ่อนไว้สำหรับเชฟ

Honestly, if you look around,

พุดตามตรง ถ้าคุณมองไปรอบๆ

you will find underutilized space everywhere,

คุณจะเห็นพื้นที่ว่างเปล่าทุกหนทุกแห่ง

under, around and inside of urban developments.

ใต้ดิน รอบตัว หรือ ภายในโครงการของเมือง

This is a farm that we installed into an empty office corner

นี่คือฟาร์มที่เราติดตั้งอีกแห่ง ในมุมหนึ่งของสำนักงาน

to grow fresh vegetables for the employees in nearby cafes.

เพื่อปลูกผักสดๆ ให้พนักงานร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ๆ

I get to be a part of all these cool projects

ผมเป็นส่วนหนึ่ง ของโครงการสุดเจ๋งเหล่านี้

and working in the agricultural industry

ทั้งยังทำงานในอุตสาหกรรมการเกษตร

to improve access and affordability

เพื่อยกระดับการเข้าถึงและเอื้อมถึง

to fresh and nutritious produce,

ความสดใหม่และคุณค่าทางโภชนาการ

hopefully soon by anyone anywhere,

หวังว่าเร็วๆนี้ ไม่ว่าใคร หรือที่ไหนก็ตามแต่

has been the greatest joy and also the most humbling

จะได้รับความสุขที่ยิ่งใหญ่นี้ อีกทั้งมันคือความภาคภูมิใจ

and intellectually challenging thing I've ever done.

และท้าทายความสามารถมากที่สุด เท่าที่ผมเคยทำมา

And now that I've convinced you that agriculture can be quite sexy,

เวลานี้ผมอยากจะบอกคุณว่า การเกษตรเป็นอะไรที่เซ็กซี่มากเลย

you'll be surprised and shocked to know

คุณอาจจะตกใจที่ได้รู้

that I still have trouble

ว่าผมกำลังมีปัญหา

fully articulating how and why I decided to work, and continue to work,

พูดให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าทำไม ผมตัดสินใจทำงานแล้วยังคงทำต่อ

in the agricultural industry.

ในงานอุตสาหกรรมการเกษตร

But a couple of years ago, I found a rather unique answer

หลายปีก่อน ผมพบคำตอบที่ค่อนข้างพิเศษ

เหมือนเส้นผมบังภูเขา

hiding in plain sight.

เรื่องมีอยู่ว่า ผมไปอ่านบทความ

You see, I read an article

about how your name,

เรื่องความหมายของชื่อ

particularly your last name,

โดยเฉพาะนามสกุล

can have a strong influence

มีผลจริงจัง

on everything from your personality to your professional career.

ต่อทุกอย่างทั้งเรื่องส่วนตัว ไปจนถึงเรื่องอาชีพการงานของคุณ

This is my Japanese last name:

นี่คือนามสกุลของผม

Oda.

โอดะ

And the characters translate literally

ถ้าแปลตามตัวอักษร

into "small farm."

มีความหมายว่า ฟาร์มเล็กๆ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

ขอบคุณครับ

Thank you.

(Applause)

(เสียงปรบมือ)