Smelfies, and other experiments in synthetic biology | Ani Liu

73,210 views ・ 2017-03-17

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Phiratath Nopratanawong Reviewer: Purich Worawarachai
00:12
What if our plants
0
12580
1975
จะเป็นยังไงล่ะถ้าพืชต่าง ๆ ของเรา
00:14
could sense the toxicity levels in the soil
1
14580
2696
สามารถรับรู้ระดับสารพิษในดิน
00:17
and express that toxicity through the color of its leaves?
2
17300
3040
แล้วแสดงระดับสารพิษผ่านทางสีใบของมันได้
00:21
What if those plants could also remove those toxins from the soil?
3
21500
3320
จะเป็นยังไงล่ะถ้าพืชเหล่านี้สามารถ ลดสารพิษพวกนั้นที่อยู่ในดินได้ด้วย
00:26
Instead, what if those plants
4
26380
2096
แล้วจะเป็นยังไงล่ะถ้าพืชเหล่านั้น
00:28
grew their own packaging,
5
28500
1856
สามารถงอกบรรจุภัณฑ์ของตัวเองได้
00:30
or were designed to only be harvested
6
30380
2576
หรือถูกออกแบบให้เก็บเกี่ยวได้
00:32
by their owners' own patented machines?
7
32980
2256
ด้วยเครื่องจักรที่เจ้าของเครื่อง จดสิทธิบัตรไว้เท่านั้นล่ะ
00:35
What happens when biological design
8
35260
1896
จะเป็นยังไงล่ะถ้าการออกแบบทางชีววิทยา
00:37
is driven by the motivations of mass-produced commodities?
9
37180
3536
ถูกขับเคลื่อนด้วยความต้องการ สินค้าที่ผลิตออกมาครั้งละมาก ๆ
00:40
What kind of world would that be?
10
40740
1600
โลกแบบนั้นจะเป็นยังไงนะ
00:43
My name is Ani, and I'm a designer and researcher at MIT Media Lab,
11
43060
4016
ฉันชื่อ แอนนี่ ฉันเป็นนักออกแบบ และนักวิจัยที่ MIT Media Lab
00:47
where I'm part of a relatively new and unique group called Design Fiction,
12
47100
4136
ที่ที่ฉันเองเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Design Fiction ที่ค่อนข้างใหม่และมีเอกลักษณ์
00:51
where we're wedged somewhere between science fiction and science fact.
13
51260
4096
ที่ที่พวกเราอยู่ ณ จุดกึ่งกลางระหว่างนิยาย วิทยาศาสตร์กับข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์
00:55
And at MIT, I am lucky enough to rub shoulders with scientists
14
55380
4136
และที่ MIT ฉันก็โชคดีที่ได้พบปะ และใช้เวลาร่วมกับนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ
00:59
studying all kinds of cutting edge fields
15
59540
1976
และได้ศึกษาศาสตร์ล้ำสมัยในทุก ๆ แขนง
01:01
like synthetic neurobiology,
16
61540
2376
อย่างเช่น ประสาทชีววิทยาสังเคราะห์
01:03
artificial intelligence, artificial life
17
63940
2016
ปัญญาประดิษฐ์ ชีวิตประดิษฐ์
01:05
and everything in between.
18
65980
1736
และทุก ๆ เรื่องในนั้นที่เกี่ยวข้อง
01:07
And across campus, there's truly brilliant scientists
19
67740
3816
และตลอดทั่วทั้งรั้วมหาวิทยาลัยนั้น ก็มีนักวิทยาศาสตร์ฉลาดล้ำมากมาย
01:11
asking questions like, "How can I make the world a better place?"
20
71580
3496
ที่คอยตั้งคำถามทำนองว่า "ฉันจะทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้อย่างไร"
01:15
And part of what my group likes to ask is, "What is better?"
21
75100
2896
และหนึ่งในคำถามที่กลุ่มของฉัน ชอบถามก็คือ "อะไรดีกว่ากัน"
01:18
What is better for you, for me,
22
78020
2096
อะไรดีกว่าสำหรับฉัน สำหรับคุณ
01:20
for a white woman, a gay man,
23
80140
2136
สำหรับผู้หญิงผิวขาว สำหรับผู้ชายที่เป็นเกย์
01:22
a veteran, a child with a prosthetic?
24
82300
2496
สำหรับทหารผ่านศึก สำหรับเด็กพิการที่ใช้อวัยวะเทียม
01:24
Technology is never neutral.
25
84820
2056
เทคโนโลยีนั้นไม่เคยเป็นกลาง
01:26
It frames a reality
26
86900
1656
มันร่างความเป็นจริงขึ้นมา
01:28
and reflects a context.
27
88580
1776
และสะท้อนบริบทนั้น ๆ
01:30
Can you imagine what it would say about the work-life balance at your office
28
90380
3736
คุณพอจะนึกภาพออกไหมว่ามันจะเป็นยังไง กับสมดุลชีวิตการทำงานที่ออฟฟิศของคุณ
01:34
if these were standard issue on the first day?
29
94140
2176
ถ้าสิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็น ปัญหาปกติในวันแรก
01:36
(Laughter)
30
96340
1416
(เสียงหัวเราะ)
01:37
I believe it's the role of artists and designers
31
97780
2256
ฉันเชื่อว่ามันเป็นหน้าที่ของ ศิลปินและนักออกแบบ
01:40
to raise critical questions.
32
100060
2136
ที่จะต้องคอยถามคำถามสำคัญ ๆ
01:42
Art is how you can see and feel the future,
33
102220
2416
ศิลปะคือการมองเห็นและการรู้สึกถึงอนาคต
01:44
and today is an exciting time to be a designer,
34
104660
2456
และตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลา อันน่าตื่นเต้นที่จะเป็นนักออกแบบ
01:47
for all the new tools becoming accessible.
35
107140
2136
เพราะอุปกรณ์ใหม่ ๆ มากมาย เริ่มเพียบพร้อมมากขึ้น
01:49
For instance, synthetic biology
36
109300
1576
ยกตัวอย่างเช่น ชีววิทยาสังเคราะห์
01:50
seeks to write biology as a design problem.
37
110900
2896
พยายามหาทางทำให้ชีววิทยา เป็นปัญหาทางการออกแบบอย่างหนึ่ง
01:53
And through these developments,
38
113820
1536
และในช่วงของการพัฒนาต่าง ๆ เหล่านี้
01:55
my lab asks, what are the roles and responsibilities
39
115380
2936
ที่ห้องทดลองก็มีคำถามว่า อะไรคือหน้าที่และความรับผิดชอบ
01:58
of an artist, designer, scientist or businessman?
40
118340
4336
ของศิลปิน นักออกแบบ นักวิทยาศาสตร์ หรือนักธุรกิจล่ะ
02:02
What are the implications
41
122700
1536
อะไรคือผลกระทบที่ตามมา
02:04
of synthetic biology, genetic engineering,
42
124260
2736
ของชีววิทยาสังเคราะห์ การดัดแปลงพันธุกรรม
02:07
and how are they shaping our notions of what it means to be a human?
43
127020
4616
และผลกระทบเหล่านั้นจะเปลี่ยนมุมมอง ของเราต่อความเป็นมนุษย์ได้อย่างไร
02:11
What are the implications of this on society, on evolution
44
131660
3296
อะไรคือผลกระทบของมัน ต่อสังคม ต่อวิวัฒนาการ
02:14
and what are the stakes in this game?
45
134980
2576
และอะไรคือสิ่งที่ต้องเดิมพันในเกม ๆ นี้
02:17
My own speculative design research at the current moment
46
137580
3216
งานวิจัยด้านการออกแบบเพื่ออนาคต ที่ฉันทำอยู่ในขณะนี้
02:20
plays with synthetic biology,
47
140820
1416
เล่นกับชีววิทยาสังเคราะห์
02:22
but for more emotionally driven output.
48
142260
3016
แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ผลักดัน ออกมาด้วยอารมณ์ที่มากขึ้น
02:25
I'm obsessed with olfaction as a design space,
49
145300
2776
ฉันจึงหมกมุ่นกับเรื่องการรับกลิ่น ในฐานะของพื้นที่ในการออกแบบ
02:28
and this project started with this idea
50
148100
2816
และงานวิจัยนี้ก็เกิดขึ้นมาจากแนวคิดที่ว่า
02:30
of what if you could take a smell selfie, a smelfie?
51
150940
3776
มันจะเป็นยังไงนะถ้าเราสามารถ ถ่ายเซลฟีกลิ่นได้ แบบสเมลฟี่น่ะ (smelfie)
02:34
(Laughter)
52
154740
1456
(เสียงหัวเราะ)
02:36
What if you could take your own natural body odor
53
156220
2736
มันจะเป็นยังไงนะถ้าเราสามารถ เก็บกลิ่นตัวตามธรรมชาติของเรา
02:38
and send it to a lover?
54
158980
2056
แล้วส่งไปให้คนที่เรารักได้
02:41
Funny enough, I found that this was a 19th century Austrian tradition,
55
161060
3776
แปลกแต่จริง ฉันไปเจอมาว่านี่เป็นธรรมเนียม อย่างหนึ่งของออสเตรียในช่วงศตวรรษที่ 19
02:44
where couples in courtship would keep a slice of apple
56
164860
2616
ซึ่งคู่รักที่ดูใจกันอยู่นั้นจะ หนีบแอปเปิ้ลชิ้นหนึ่ง
02:47
crammed under their armpit during dances,
57
167500
2576
ไว้ข้างใต้รักแร้ของพวกเขาในขณะเต้นรำ
02:50
and at the end of the evening,
58
170100
1536
และในตอนจบของงานนั้น
02:51
the girl would give the guy she most fancied her used fruit,
59
171660
3376
ฝ่ายหญิงจะให้แอปเปิ้ลที่หนีบไว้ กับผู้ชายคนที่เธอชอบมากที่สุด
02:55
and if the feeling was mutual,
60
175060
2176
และถ้าเขารู้สึกแบบเดียวกับเธอ
02:57
he would wolf down that stinky apple.
61
177260
1936
เขาก็จะยัดแอปเปิ้ลเหม็น ๆ นั้นเข้าปากไป
02:59
(Laughter)
62
179220
3120
(เสียงหัวเราะ)
03:03
Famously, Napoleon wrote many love letters to Josephine,
63
183500
3296
เป็นที่รู้กันว่า นโปเลียนนั้นเขียน จดหมายรักมากมายไปหาโฌเซฟีน
03:06
but perhaps amongst the most memorable is this brief and urgent note:
64
186820
4256
แต่ว่าบางทีหนึ่งในจดหมายที่เป็นที่จดจำมาก ที่สุดอาจเป็นข้อความสั้น ๆ สุดเร่งเร้านี้:
03:11
"Home in three days. Don't bathe."
65
191100
2216
"จะถึงบ้านในสามวัน ไม่ต้องอาบน้ำนะ"
03:13
(Laughter)
66
193340
2056
(เสียงหัวเราะ)
03:15
Both Napoleon and Josephine adored violets.
67
195420
2160
ทั้งนโปเลียนและโฌเซฟีน ต่างโปรดปรานดอกไวโอเล็ต
03:19
Josephine wore violet-scented perfume,
68
199140
2136
โฌเซฟีนฉีดน้ำหอมกลิ่นไวโอเล็ต
03:21
carried violets on their wedding day,
69
201300
1816
ถือดอกไวโอเล็ตในวันแต่งงานของเธอกับเขา
03:23
and Napoleon sent her a bouquet of violets
70
203140
2015
และนโปเลียนเองก็ส่ง ช่อดอกไวโอเล็ตไปให้เธอ
03:25
every year on their anniversary.
71
205179
1537
ทุก ๆ ปีในวันครบรอบวันแต่งงาน
03:26
When Josephine passed away,
72
206740
1576
เมื่อโฌเซฟีนเสียชีวิตลง
03:28
he planted violets at her grave,
73
208340
1576
เขาได้ปลูกต้นไวโอเล็ตไว้ที่หลุมศพเธอ
03:29
and just before his exile,
74
209940
1816
และก่อนที่เขาจะถูกเนรเทศ
03:31
he went back to that tomb site,
75
211780
2136
เขาได้กลับไปที่หลุมศพนั้น
03:33
picked some of those flowers, entombed them in a locket
76
213940
2656
เด็ดดอกไม้บางดอก แล้วเก็บมันไว้ ในสร้อยล็อคเก็ตอันหนึ่ง
03:36
and wore them until the day he died.
77
216620
1736
และใส่มันจนวาระสุดท้ายของเขา
03:38
And I found this so moving,
78
218380
1536
ฉันพบว่ามันสะเทือนอารมณ์มากทีเดียว
03:39
I thought, could I engineer that violet to smell just like Josephine?
79
219940
3896
ฉันสงสัยว่า ฉันจะดัดแปลงดอกไวโอเล็ต ให้มีกลิ่นเหมือนกับโฌเซฟีนได้หรือไม่
03:43
What if, for the rest of eternity,
80
223860
1656
มันจะเป็นยังไง ถ้าไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม
03:45
when you went to visit her site,
81
225540
1576
ที่คุณไปเยี่ยมหลุมศพเธอ
03:47
you could smell Josephine just as Napoleon loved her?
82
227140
3256
คุณจะได้กลิ่นของโฌเซฟีนในแบบเดียว กับตอนที่นโปเลียนหลงรักเธอ
03:50
Could we engineer new ways of mourning,
83
230420
2416
เราจะสามารถออกแบบวิธีไว้ทุกข์แบบใหม่
03:52
new rituals for remembering?
84
232860
2096
รวมถึงพิธีรำลึกแบบใหม่ได้รึเปล่า
03:54
After all, we've engineered transgenic crops
85
234980
2696
ยังไงซะ เราก็ตัดต่อพันธุกรรม ของพืชผลต่าง ๆ
03:57
to be maximized for profit,
86
237700
2136
เพื่อให้ทำกำไรได้สูงสุดอยู่แล้วนี่
03:59
crops that stand up to transport,
87
239860
2136
ไม่ว่าจะพืชผลที่ทนต่อการขนส่ง
04:02
crops that have a long shelf life,
88
242020
1936
พืชผลที่เก็บได้นาน ๆ
04:03
crops that taste sugary sweet but resist pests,
89
243980
2456
พืชผลที่มีรสหวานแต่ไล่แมลง
04:06
sometimes at the expense of nutritional value.
90
246460
3416
ที่ในบางครั้งก็ต้องแลกมาด้วย คุณค่าทางโภชนาการที่ลดลง
04:09
Can we harness these same technologies for an emotionally sensitive output?
91
249900
4576
เราจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเดียวกันนี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางอารมณ์ได้หรือเปล่า
04:14
So currently in my lab,
92
254500
1296
ฉะนั้น ที่ห้องแล็บของฉันในตอนนี้
04:15
I'm researching questions like, what makes a human smell like a human?
93
255820
3296
ฉันจึงทำวิจัยอยู่ว่าอะไรทำให้ มนุษย์มีกลิ่นเฉพาะในแบบของมนุษย์
04:19
And it turns out it's fairly complicated.
94
259140
2616
และปรากฏว่ามันค่อนข้างซับซ้อนเลยทีเดียว
04:21
Factors such as your diet, your medications, your lifestyle
95
261780
3216
ปัจจัยต่าง ๆ อย่างเช่น อาหารที่กิน ยาต่าง ๆ รูปแบบการใช้ชีวิต
04:25
all factor into the way you smell.
96
265020
2016
ล้วนส่งผลต่อกลิ่นตัวของคุณ
04:27
And I found that our sweat is mostly odorless,
97
267060
2536
และฉันก็พบว่าจริง ๆ แล้ว เหงื่อส่วนใหญ่นั้นไร้กลิ่น
04:29
but it's our bacteria and microbiome
98
269620
2135
แต่เป็นเพราะแบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่างหาก
04:31
that's responsible for your smells, your mood, your identity
99
271779
3737
ที่ส่งผลต่อกลิ่นตัวของคุณ อารมณ์ของคุณ อัตลักษณ์ของคุณ
04:35
and so much beyond.
100
275540
1616
และอื่น ๆ อีกมากมาย
04:37
And there's all kinds of molecules that you emit
101
277180
2296
และยังมีโมเลกุลอีกมากมาย ในทุกรูปแบบที่คุณปล่อยออกมา
04:39
but which we only perceive subconsciously.
102
279500
2280
แต่ทว่าเราสามารถรับรู้ได้ ผ่านทางจิตใต้สำนึกเท่านั้น
04:42
So I've been cataloging and collecting
103
282940
2336
ดังนั้นฉันจึงจำแนกและเก็บสะสม
04:45
bacteria from different sites of my body.
104
285300
2176
แบคทีเรียจากบริเวณต่าง ๆ บนร่างกายของฉัน
04:47
After talking to a scientist, we thought,
105
287500
1976
หลังจากได้พูดคุยกับ นักวิทย์คนหนึ่ง เราก็คิดว่า
04:49
maybe the perfect concoction of Ani
106
289500
1696
บางทีส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบของตัวฉัน
04:51
is like 10 percent collarbone, 30 percent underarm,
107
291220
3976
คือ กระดูกไหปลาร้า 10% ใต้วงแขน 30%
04:55
40 percent bikini line and so forth,
108
295220
2296
จุดซ่อนเร้นอีก 40% และอื่น ๆ
04:57
and occasionally I let researchers from other labs
109
297540
3056
และในบางครั้ง ฉันก็ให้นักวิจัย จากห้องแล็บอื่น ๆ
05:00
take a sniff of my samples.
110
300620
1656
ดมตัวอย่างกลิ่นของตัวฉัน
05:02
And it's been interesting to hear how smell of the body
111
302300
3176
และมันก็เป็นเรื่องน่าสนใจที่ ได้รู้ว่ากลิ่นของตัวเองเป็นอย่างไร
05:05
is perceived outside of the context of the body.
112
305500
2816
เมื่อสูดดมภายนอกร่างกายของฉัน
05:08
I've gotten feedback such as,
113
308340
1576
ฉันได้รับคำตอบมากมาย อย่างเช่น
05:09
smells like flowers, like chicken,
114
309940
2456
กลิ่นเหมือนดอกไม้ เหมือนไก่
05:12
like cornflakes,
115
312420
1216
เหมือนคอร์นเฟลก
05:13
like beef carnitas.
116
313660
1456
หรือเหมือนเนื้อย่างรมควัน
05:15
(Laughter)
117
315140
1896
(เสียงหัวเราะ)
05:17
At the same time, I cultivate a set of carnivorous plants
118
317060
3616
ในขณะเดียวกัน ฉันก็ได้ ปลูกพืชกินแมลงกลุ่มหนึ่ง
05:20
for their ability to emit fleshlike odors to attract prey,
119
320700
3656
เพื่อดูความสามารถในการปล่อยกลิ่น คล้ายเนื้อหนังเพื่อล่อเหยื่อ
05:24
in an attempt to kind of create this symbiotic relationship
120
324380
2816
เพื่อพยายาม แบบว่าสร้าง ความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกัน
05:27
between my bacteria and this organism.
121
327220
2920
ระหว่างแบคทีเรียบนตัวของฉัน กับพืชกินแมลงชนิดนี้
05:31
And as it so happens, I'm at MIT and I'm in a bar,
122
331340
2656
แล้วก็มีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้น ฉันอยู่ในบาร์แห่งหนึ่งใน MIT
05:34
and I was talking to a scientist
123
334020
2296
และฉันก็กำลังคุยกับนักวิทยาศาสตร์
05:36
who happens to be a chemist and a plant scientist,
124
336340
2376
ที่บังเอิญเป็นทั้งนักเคมี และนักพฤษศาสตร์
05:38
and I was telling him about my project,
125
338740
1896
และฉันก็เล่าเรื่องงานวิจัย ของฉันให้เขาฟัง
05:40
and he was like, "Well, this sounds like botany for lonely women."
126
340660
3136
แล้วเขาก็ตอบแบบว่า "อืม นี่มันดูเหมือน พฤกษศาสตร์สำหรับผู้หญิงขี้เหงาเลยนะ"
05:43
(Laughter)
127
343820
3016
(เสียงหัวเราะ)
05:46
Unperturbed, I said, "OK."
128
346860
2896
ฉันตอบอย่างไม่รีรอว่า "โอเค"
05:49
I challenged him.
129
349780
1216
ฉันท้าเขาว่า
05:51
"Can we engineer a plant that can love me back?"
130
351020
3296
"เราสามารถสร้างต้นพืชที่รักฉันตอบได้ไหม"
05:54
And for some reason, he was like, "Sure, why not?"
131
354340
3456
และเพราะอะไรสักอย่าง เขาก็ตอบว่า "ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ"
05:57
So we started with, can we get a plant to grow towards me
132
357820
2936
ดังนั้น เราจึงเริ่มด้วยคำถามที่ว่า เราสามารถสร้างพืชที่เบนเข้าหาตัวฉัน
06:00
like I was the sun?
133
360780
1456
ราวกับว่าฉันเป็นดวงอาทิตย์ได้ไหม
06:02
And so we're looking at mechanisms in plants such as phototropism,
134
362260
3936
ฉะนั้น เราจึงศึกษากลไกของพืช อย่างเช่น การเบนตามแสง (phototropism)
06:06
which causes the plant to grow towards the sun
135
366220
2176
ซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้พืช เบนเข้าหาดวงอาทิตย์
06:08
by producing hormones like auxin,
136
368420
1976
ด้วยการสร้างฮอร์โมนพวกออกซิน
06:10
which causes cell elongation on the shady side.
137
370420
2656
ที่ทำให้เซลล์ยืดตัวตามยาว ในด้านที่มีร่มเงา
06:13
And right now I'm creating a set of lipsticks
138
373100
2136
และในตอนนี้ฉันก็กำลัง สร้างลิปสติกชุดหนึ่ง
06:15
that are infused with these chemicals
139
375260
1816
ที่ถูกนำไปแช่ไว้ในสารเคมีจำพวกหนึ่ง
06:17
that allow me to interact with a plant on its own chemical signatures --
140
377100
3656
ที่ทำให้ฉันสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับต้นพืชได้ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะทางเคมีของมัน
06:20
lipsticks that cause plants to grow where I kiss it,
141
380780
3416
ลิปสติกที่ทำให้ต้นพืช โตขึ้นในที่ ๆ ฉันจูบ
06:24
plants that blossom where I kiss the bloom.
142
384220
2736
และทำให้ดอกไม้เบ่งบานขึ้น เมื่อฉันจูบไปที่ดอกตูม
06:26
And through these projects,
143
386980
2776
และในระหว่างที่ทำการวิจัยเหล่านี้อยู่
06:29
I'm asking questions like,
144
389780
1416
ฉันก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า
06:31
how do we define nature?
145
391220
1696
เราจะนิยามธรรมชาติอย่างไร
06:32
How do we define nature when we can reengineer its properties,
146
392940
3536
เราจะนิยามอย่างไรในเมื่อเราสามารถ ปรับเปลี่ยนคุณสมบัติของมันได้
06:36
and when should we do it?
147
396500
1416
และเราควรทำแบบนั้นเมื่อไร
06:37
Should we do it for profit, for utility?
148
397940
3696
เราควรใช้มันเพื่อทำกำไร หรือเพื่อประโยชน์ใช้สอย
06:41
Can we do it for emotional ends?
149
401660
1696
เราสามารถใช้มันเพื่อ ผลลัพธ์ทางอารมณ์ได้ไหม
06:43
Can biotechnology be used to create work as moving as music?
150
403380
3576
เราสามารถใช้เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อสร้างผลงาน ที่เร้าอารมณ์ได้แบบดนตรีหรือไม่
06:46
What are the thresholds between science
151
406980
1896
อะไรคือจุดต่อระหว่างวิทยาศาสตร์
06:48
and its ability to shape our emotional landscape?
152
408900
2840
และความสามารถของมัน ในการเล่นกับความรู้สึกของเรา
06:52
It's a famous design mantra that form follows function.
153
412460
3776
มันคือวาทกรรมทางการออกแบบอันโด่งดัง ที่กล่าวว่า "การใช้งานนั้นมาก่อนรูปแบบ"
06:56
Well, now, wedged somewhere between science, design and art
154
416260
4056
ที่ในตอนนี้อยู่ ณ จุดกึ่งกลางระหว่าง ศาสตร์ การออกแบบ และศิลป์
07:00
I get to ask,
155
420340
1216
ฉันจึงได้มีโอกาสถามว่า
07:01
what if fiction informs fact?
156
421580
1456
หรือว่าเรื่องเล่าบ่งบอกข้อเท็จจริงล่ะ
07:03
What kind of R&D lab would that look like
157
423060
2056
ห้องแล็บวิจัยและพัฒนาแบบนั้น จะมีหน้าตาแบบไหนกัน
07:05
and what kind of questions would we ask together?
158
425140
2616
แล้วเราจะถามคำถาม แบบไหนไปด้วยกัน
07:07
We often look to technology as the answer,
159
427780
2336
เรามักมองว่าเทคโนโลยีคือคำตอบ
07:10
but as an artist and designer,
160
430140
1536
แต่ในฐานะที่เป็นศิลปินและนักออกแบบ
07:11
I like to ask, but what is the question?
161
431700
2496
ฉันอยากจะถามว่า "แล้วคำถามนั้นคืออะไรล่ะ"
07:14
Thank you.
162
434220
1216
ขอบคุณค่ะ
07:15
(Applause)
163
435460
3360
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7