The Silk Road: Connecting the ancient world through trade - Shannon Harris Castelo

เส้นทางสายไหม: ประวัติศาสตร์เครือข่าย "world wide web" - แชนนอน แฮริส คาสเตลโล

Translator: Yada Sattarujawong Reviewer: Sritala Dhanasarnsombut

A banker in London sends the latest stock info

พนักงานธนาคารส่งข้อมูลหุ้นล่าสุด จากลอนดอน

to his colleagues in Hong Kong in less than a second.

ไปให้เพื่อนร่วมงานที่อยู่ฮ่องกง ได้ในชั่วพริบตา

With a single click, a customer in New York

ด้วยการกดเพียงคลิกเดียว ลูกค้าที่นิวยอร์ก

orders electronics made in Beijing,

ก็สั่งซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำในปักกิ่ง

transported across the ocean within days

ให้ส่งข้ามมหาสมุทรมาได้ภายในเวลาไม่กี่วัน

by cargo plane or container ship.

ทางเครื่องบินหรือเรือขนส่งสินค้า

The speed and volume at which goods and information

ความเร็วและปริมาณของสิ่งของและข้อมูล

move across the world today is unprecedented in history.

ที่เดินทางไปมารอบโลกในปัจจุบันนี้ เป็นเรื่องใหม่ในประวัติศาสตร์

But global exchange itself is older than we think,

แต่การแลกเปลี่ยนสิ่งของรอบโลก อาจเก่าแก่กว่าที่เราคิด

reaching back over 2,000 years along a 5,000 mile stretch

ย้อนกลับไปเมื่อ 2,000 ปีก่อน บนระยะทางกว่า 5,000 ไมล๋

known as the Silk Road.

ที่เราเรียกกันว่า เส้นทางสายไหม

The Silk Road wasn't actually a single road,

ที่จริง เส้นทางสายไหม ไม่ใช่ถนนเพียงเส้นเดียว

but a network of multiple routes

แต่เป็นเครือข่ายของเส้นทางหลายเส้น

that gradually emerged over centuries,

ที่ค่อยๆ ถูกพัฒนาขึ้นผ่านเวลาหลายศตวรรษ

connecting to various settlements and to each other

เพื่อเชื่อมต่อชุมชนต่างๆเข้าด้วยกัน

thread by thread.

ทีละเส้น ที่ละกลุ่ม

The first agricultural civilizations were isolated places

การตั้งถิ่นฐานเชิงเกษตร อยู่โดดเดี่ยวห่างจากกัน

in fertile river valleys,

ตามลุ่มแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์

their travel impeded by surrounding geography

การเดินทางระหว่างชุมชนเหล่านี้ ยากลำบากเพราะภูมิประเทศโดยรอบ

and fear of the unknown.

และความหวาดกลัวต่อเส้นทางไม่รู้จัก

But as they grew,

แต่พอชุมชนเหล่านี้ขยายตัว

they found that the arid deserts and steps on their borders

พวกเขาพบทะเลทรายเวิ้งว้าง นอกเขต ชุมชนของพวกเขา

were inhabited, not by the demons of folklore,

ไม่ได้มีปีศาจอยู่ อย่างที่ตำนานพื้นบ้านบอกไว้

but nomadic tribes on horseback.

แต่มีกลุ่มคนพเนจรที่ใช้ชีวิตบนหลังม้า

The Scythians, who ranged from Hungary to Mongolia,

ชาวซิเทียน ซึ่งเดินทางร่อนเร่บริเวณ ฮังการีจนถึงมองโกเลีย

had come in contact with the civilizations of

เคยเดินทางผ่านแหล่งอารยธรรมต่างๆ เช่น

Greece, Egypt, India and China.

กรีก อียิปต์ อินเดีย และจีน

These encounters were often less than peaceful.

การพบปะกันเหล่านี้ไม่ได้เป็นไปโดยสันติ

But even through raids and warfare,

เพราะมักเป็นรูปแบบของการบุกรุก และสงคราม

as well as trade and protection of traveling merchants

หรืออาจเป็นการค้าขาย และการป้องกันให้ พ่อค้าที่เดินทางมาค้าขาย

in exchange for tariffs,

โดยจ่ายค่าคุ้มครอง

the nomads began to spread goods, ideas and technologies

กลุ่มคนพเนจรนี้ เริ่มเผยแพร่สินค้า แนวคิด และเทคโนโลยีใหม่ๆ

between cultures with no direct contact.

ระหว่างวัฒนธรรมต่างๆ โดยทางอ้อม

One of the most important strands of this growing web

ส่วนที่สำคัญที่สุดของเส้นทางนี้

was the Persian Royal Road,

คือถนนของชาวเปอร์เซีย

completed by Darius the First in the 5th century BCE.

ซึ่งสร้างเสร็จในสมัยพระเจ้าดาริอุสที่ 1 ในศตวรรษที่ 5 ก่อนสากลศักราช

Stretching nearly 2,000 miles from the Tigris River to the Aegean Sea,

ถนนเส้นนี้ยาว 2,000 ไมล์ จากลุ่มแม่น้ำ ไทกริส ถึงทะเลอีเจียน

its regular relay points allowed goods and messages

ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่สินค้า และข่าวสารต่างๆ มาพักอยู่

to travel at nearly 1/10 the time it would take a single traveler.

ย่นเวลาจากการเดินทางโดยคนๆ เดียวลงไป ถึง 1/10

With Alexander the Great's conquest of Persia,

เมื่อพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช มีชัยเหนือเปอร์เซีย

and expansion into Central Asia through capturing cities like Samarkand,

และแผ่ขยายอำนาจเข้าไปในเอเชียกลาง ด้วยการยึดเมือง ซามัคคาน

and establishing new ones like Alexandria Eschate,

และสร้างเมืองใหม่ อย่างเมืองอเล็กซานเดียร และเมือนเอสชาติ

the network of Greek, Egyptian, Persian and Indian culture and trade

ทำให้เครือข่ายวัฒนธรรมและการค้าระหว่าง กรีก อียิปต์ เปอร์เซีย และอินเดีย

extended farther east than ever before,

แผ่ขยายออกไปทางทิศตะวันออก มากกว่าที่เคยเป็นมา

laying the foundations for a bridge between China and the West.

ซึ่งเป็นการวางรากฐานเพื่อเชื่อมต่อ อารยธรรมจีนกับฝั่งตะวันตก

This was realized in the 2nd century BCE,

ซึ่งเกิดขึ้น ในช่วงศตวรรษที่สอง ก่อนสากลศักราช

when an ambassador named Zhang Qian,

เมื่อทูตจีน จางเอี้ยวน

sent to negotiate with nomads in the West,

ถูกส่งไปเจรจา กับชนเรร่อนทางตะวันตก

returned to the Han Emperor with tales of

และกลับมารายงานต่อจักรพรรดิฮั่น

sophisticated civilizations, prosperous trade

ถึงดินแดนที่เจริญ มีการค้าที่มั่งคั่ง

and exotic goods beyond the western borders.

และมีสินค้าที่แปลกน่าสนใจกว่าสินค้า ตามชายแดนฝั่งตะวันตก

Ambassadors and merchants were sent towards

ทูต และพ่อค้าอีกหลายคนจึงถูกส่ง

Persia and India to trade silk and jade for horses and cotton,

ไปยังเปอร์เซียและอินเดีย เพื่อนำผ้าไหม และหยก ไปแลกม้าและฝ้าย

along with armies to secure their passage.

โดยมีกองทัพคุ้มกันไปตลอดการเดินทาง

Eastern and western routes gradually linked together

เส้นทางตะวันออกและตะวันตก จึงค่อยๆ เชื่อมเข้าหากัน

into an integrated system spanning Eurasia,

จนกลายเป็นเครือข่ายเส้นทาง ระหว่างยุโรปและเอเชีย

enabling cultural and commercial exhange

เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการค้าขาย

farther than ever before.

มากกว่าที่เคยมีมา

Chinese goods made their way to Rome,

สิ่งของจากจีน เดินทางไปถึงกรุงโรม

causing an outflow of gold that led to a ban on silk,

ทำให้เกิดภาวะทองเฟ้อ และมีการห้ามการใช้ผ้าไหม

while Roman glassware was highly prized in China.

ในขณะที่แก้วจากโรมัน ก็มีมูลค่าสูงมากในเมืองจีน

Military expeditions in Central Asia

การเดินทางของกองทหารในเอเชียกลาง

also saw encounters between Chinese and Roman soldiers.

ทำให้เกิดการพบปะกันระหว่างทหารชาวจีน และทหารโรมัน

Possibly even transmitting crossbow technology

ซึ่งอาจเป็นต้นทางการถ่ายทอด การประดิษฐ์หน้าไม้

to the Western world.

ให้กับชาวตะวันตก

Demand for exotic and foreign goods

ความต้องการสินค้าที่แปลกๆ จากต่างแดน

and the profits they brought,

และกำไรที่พวกพ่อค้าได้ประโยชน์

kept the strands of the Silk Road in tact,

ทำให้เส้นทางสายไหมคงอยู่

even as the Roman Empire disintegrated

ถึงแม้ว่าอาณาจักรโรมันจะล่มสลาย

and Chinese dynasties rose and fell.

และราชวงศ์ต่างๆในจีนจะผลัดเปลี่ยนไป

Even Mongolian hoards, known for pillage and plunder,

แม้แต่ชาวมองโกล ที่เป็นที่รู้จักในเรื่องการปล้นสดมภ์

actively protected the trade routes, rather than disrupting them.

ก็ยังร่วมกันปกป้องเส้นทางการค้านี้

But along with commodities, these routes also enabled

เพราะนอกจากทำให้เกิดการค้าขายแล้ว เส้นทางเหล่านี้

the movement of traditions, innovations, ideologies and languages.

ยังทำให้มีการถ่ายทอด วัฒนธรรม ประดิษฐกรรม แนวคิด และ ภาษา

Originating in India, Buddhism migrated to China and Japan

ศาสนาพุทธ ที่มีต้นกำเนิดในอินเดีย เดินทางมายังจีนและ ญี่ปุ่น

to become the dominant religion there.

และกลายมาเป็นศาสนาหลักในดินแดนนั้น

Islam spread from the Arabian Penninsula into South Asia,

ศาสนาอิสลาม มาจากคาบสมุทรอาราเบียน ถึงเอเชียใต้

blending with native beliefs

ผสมผสานเข้ากับความเชื่อพื้นเมือง

and leading to new faiths, like Sikhism.

ทำให้เกิดศาสนาใหม่ เช่น ศาสนาซิกข์

And gunpowder made its way from China to the Middle East

ดินปืน เดินทางไปถึง จีน และตะวันออกกลาง

forging the futures of the Ottoman, Safavid and Mughul Empires.

กลายเป็นรากฐานของจักรวรรดิออตโตมัน อาซาฟาวิด และ โมกุล

In a way, the Silk Road's success led to its own demise

แต่ในที่สุด ความรุ่งเรืองของเส้นทางสายไหม ก็มาถึงจุดจบ

as new maritime technologies, like the magnetic compass,

เทคโนโลยีการเดินเรือสมัยใหม่ และการใช้เข็มทิศแม่เหล็ก

found their way to Europe, making long land routes obsolete.

ทำให้ผู้คนเจอทางไปยังยุโรปได้ทางเรือ และทำให้เส้นทางบกไม่จำเป็นอีกต่อไป

Meanwhile, the collapse of Mongol rule

ในขณะเดียวกัน การล่มสลายของมองโกล

was followed by China's withdrawal from international trade.

และการยกเลิกการค้ากับต่างชาติของจีน ทำให้เส้นทางนี้ซบเซาลง

But even though the old routes and networks did not last,

แต่ถึงแม้ว่าเส้นทางเหล่านี้จะไม่คงอยู่แล้ว

they had changed the world forever

แต่เส้นทางสายไหมก็เปลี่ยนโลก

and there was no going back.

ให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Europeans seeking new maritime routes

ชาวยุโรปพบเส้นทางเดินเรือใหม่ๆ

to the riches they knew awaited in East Asia

เพื่อแสวงหาความร่ำรวยที่ทางเอเชียตะวันออก

led to the Age of Exploration

การเดินเรือนำไปสู่ยุคแห่งการสำรวจ

and expansion into Africa and the Americas.

และการขยายตัวไปแอฟริกา และอเมริกา

Today, global interconnectedness shapes our lives like never before.

เชื่อมโยงที่ต่างๆ บนโลกทุกวันนี้ แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก

Canadian shoppers buy t-shirts made in Bangladesh,

คนแคนาดาอาจซื้อเสื้อยืดที่ทำในบังกลาเทศ

Japanese audiences watch British television shows,

ผู้ชมชาวญี่ปุ่น อาจรับชมรายการ โทรทัศน์ของอังกฤษ

and Tunisians use American software to launch a revolution.

ชาวตูนีเซีย ใช้ซอฟท์แวร์ของอเมริกา ในการตั้งต้นการปฏิวัติ

The impact of globalization on culture and economy is indisputable.

ผลกระทบของสังคมโลกาภิวัฒน์ ต่อวัฒนธรรม และเศรษฐกิจ นั้นเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้

But whatever its benefits and drawbacks,

แต่ไม่ว่าผลดีหรือผลเสียจะเป็นอย่างไร

it is far from a new phenomenon.

ปรากฏการณ์นี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่พึ่งจะเกิดขึ้น

And though the mountains, deserts and oceans

แม้ว่าครั้งหนึ่งเทือกเขา ทะเลทราย หรือมหาสมุทร

that once separated us

ที่เคยขวางกั้น

are now circumvented through super sonic vehicles,

จะถูกย่นย่อลง ด้วยยานพาหนะความเร็วเหนือเสียง

cross-continental communication cables,

เคเบิ้ลใยแก้วสำหรับติดต่อข้ามทวีป

and signals beamed through space

และการส่งสัญญานผ่านห้วงอากาศ

rather than caravans traveling for months,

แทนที่การเดินทางในกองคาราวานแรมเดือน

none of it would have been possible

แต่ทั้งหมดนี้คงจะเกิดขึ้นไม่ได้

without the pioneering cultures

ถ้าไม่มีวัฒนธรรมตั้งต้น

whose efforts created the Silk Road:

ที่ได้ใช้ความพยายาม ในการสร้างเส้นทางสายไหม

history's first world wide web.

เครือข่ายเส้นทางแรกในประวัติศาสตร์