How do scars form? - Sarthak Sinha

Translator: Pitipa Chongwatpol Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

Remember the time you fell off your bike or bumped your head on a sharp corner?

จำตอนที่คุณตกจากจักรยาน หรือเอาหัวไปชนของแหลม ๆ ได้หรือไม่

Childhood injuries are things we'd often like to forget,

การบาดเจ็บในวัยเด็ก เป็นสิ่งที่พวกเรามักอยากจะลืม

but our bodies often carry the memories in the form of scars.

แต่ร่างการของเรามักจะเก็บความทรงจำนั้นไว้ ในรูปแบบของแผลเป็น

So what are these unwanted souvenirs and why do we keep them for so long

อะไรคือของที่ระลึกที่เราไม่ต้องการเหล่านี้ และทำไมพวกเราถึงเก็บมันเอาไว้เป็นเวลานาน

after that unintended vacation to the emergency room?

หลังจากการไปห้องฉุกเฉินโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

The most common place we see scars are on our skin,

บริเวณที่เราเห็นแผลเป็นมากที่สุด คือบนผิวของเรา

a patch that looks slightly different from the normal skin around it.

รอยที่ดูแตกต่างจากผิวปกติรอบ ๆ เล็กน้อย

Often, this is considered an unfortunate disfigurement,

บ่อยครั้งที่เราถือว่ามันเป็น สิ่งโชคร้ายที่ทำให้เสียโฉม

while other times, deliberate scarification has been used

แต่ในบางเวลา การขูดขีดผิวหนังโดยเจตนา ก็ถูกนำมาใช้

in both traditional and modern cultures, to mark a rite of passage

ทั้งในวัฒนธรรมดั้งเดิมหรือสมัยใหม่ เป็นการทำเครื่องหมายตามพิธีกรรม

or simply for aesthetic decoration.

หรือแค่เพื่อความสวยงาม

But the difference isn't only cosmetic.

แต่ความแตกต่างไม่ใช่แค่ความสวยงาม

When we look at healthy skin tissue under a microscope,

เวลาที่เราดูผิวหนังที่มีสุขภาพดี ด้วยกล้องจุลทรรศน์

we see the cells that perform various functions

เราเห็นเซลล์ที่ทำหน้าที่ต่าง ๆ

connected by an extracellular matrix, or ECM.

ที่เชื่อมต่อกันด้วย เมทริกซ์ภายนอกเซลล์ หรือ ECM

This is composed of structural proteins, like collagen,

มันประกอบไปด้วยโปรตีน ที่ทำหน้าที่เป็นโครงสร้าง เช่น คอลลาเจน

secreted by specialized fibroblast cells.

ที่ถูกหลั่งออกมา โดยเซลล์ไฟโบรบลาสชนิดพิเศษ

Well-arranged ECM allows for transportation of nutrients,

การจัดการของ ECM ที่ดี จะช่วยในการส่งอาหาร

cell-to-cell communication, and cell adhesion.

การสื่อสารระหว่างเซลล์ การยึดเกาะกันของเซลล์

But when a deep wound occurs, this arrangement is disrupted.

แต่เมื่อเกิดแผลลึกขึ้น การจัดการนี้ถูกขัดขวาง

During the process of wound healing, collagen is redeposited at the wound site,

ระหว่างขั้นตอนการรักษาบาดแผล คอลลาเจนจะไปสะสมที่บริเวณแผล

but instead of the basket-weave formation found in healthy tissue,

แต่แทนที่จะสานต่อกันแบบตะกร้า ในแบบที่พบได้ในเนื้อเยื่อปกติ

the new ECM is aligned in a single direction,

ECM ใหม่นั้นเรียงตัวไปในทิศทางเดียว

impeding inter-cell processes, and reducing durability and elasticity.

ซึ่งขัดขวางกระบวนการระหว่างเซลล์ และลดความทนทานและความยืดหยุ่นลง

To make matters worse,

แย่ไปกว่านั้น

the healed tissue contains a higher proportion of ECM than before,

เนื้อเยื่อที่หายเป็นปกติ มีสัดส่วนของ ECM ที่สูงขึ้นกว่าเมื่อก่อน

reducing its overall function.

มีการทำงานโดยรวมลดลง

In the skin, the overabundance of collagen interferes with its original functions,

ในผิวหนัง ปริมาณคอลลาเจนที่มาเกินไป ส่งผลกระทบต่อหน้าที่เดิมของมัน

like producing sweat,

เหมือนการผลิตเหงื่อ

controlling body temperature

ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย

and even growing hair.

หรือแม้แต่สร้างขน

The scar tissue is fragile, sensitive to changes in temperature and sensation,

เนื้อเยื่อแผลเป็นนั้นบอบบาง และไวต่อ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความรู้สึก

and should be kept in moist environments to maximize healing.

และควรที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชื้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา

This presence of excessive fibrous connective tissue in an organ

การมีเนื้อเยื่อเส้นใยที่มากเกินไปในอวัยวะ

is known as fibrosis, and if that term sounds familiar,

เรียกว่า พังผืด และถ้าคำนี้ฟังดูคุ้นเคย

it's because our skin is not the only organ vulnerable to scarring.

มันเป็นเพราะว่าผิวหนังของเรา ไม่ใช่อวัยวะเดียวที่เสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น

Cystic fibrosis is a genetic disorder that causes scarring of the pancreas,

ซิสติก ไฟโบรซิส เป็นโรคทางพันธุกรรม ที่ก่อให้เกิดแผลเป็นที่ตับอ่อน

while pulmonary fibrosis is a scarring of the lungs,

ในขณะที่พัลโมนารี่ ไฟโบรซิส เป็นการเกิดแผลเป็นที่ปอด

resulting in shortness of breath.

ส่งผลให้หายใจไม่อิ่ม

Scarring of the heart and the buildup of ECM following a heart attack

แผลเป็นที่หัวใจ และการสะสมของ ECM ที่ทำให้หัวใจวาย

can inhibit its beating, leading to further heart problems.

สามารถยับยั้งการเต้นของหัวใจ ซึ่งนำไปสู่โรคหัวใจต่อไป

What's common to all these conditions

สิ่งที่เหมือนกันของสภาวะเหล่านี้

is that although it retains some of the original functions,

คือถึงแม้ว่าการทำงานบางส่วนยังคงเดิม

the scar tissue formed after a wound

แผลเป็นที่เกิดขึ้นหลังจากการเกิดบาดแผล

is inferior to the native tissue it replaces.

ก็ยังด้อยกว่าเนื้อเยื่อเดิมที่มันมาแทนที่

However, there is hope.

อย่างไรก็ตาม ความหวังยังมีอยู่

Medical researchers are now studying what causes fibroblast cells

ขณะนี้นักวิจัยทางการแพทย์กำลังศึกษาว่า อะไรที่ทำให้เซลล์ไฟโบรบลาส

to secrete excessive amounts of collagen

หลั่งคอลลาเจนออกมากมากเกินไป

and how we can recruit the body's other cells

และวิธีที่จะรวบรวมเซลล์อื่นของร่างกาย

in regenerating and repopulating the damaged tissue.

เพื่อการฟื้นฟูและการสร้าง เนื้อเยื่อที่ถูกทำลายขึ้นมาใหม่

By learning how to better control wound healing and the formation of scar tissue,

จากการศึกษาว่าจะควบคุมการฟื้นฟูของแผล และการเกิดขึ้นของแผลเป็นให้ดีขึ้นได้อย่างไร

we can utilize the multi-billion-dollar budgets

เราจะสามารถใช้งบประมาณ หลายร้อยล้านเหรียญ

currently used to address the aftermath of wounding

ที่ตอนนี้ ใช้กับการจัดการผลพวงจากการเกิดแผล

in a much more efficient manner,

ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

and help millions of people live better and healthier lives.

และช่วยให้ผู้คนนับล้าน มีชีวิตที่ดีขึ้นและมีสุขภาพดี

But until then, at least some of our scars

แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น อย่างน้อยแผลเป็นของเรา

can help us remember to avoid the sorts of things that cause them.

ก็สามารถช่วยให้เราจดจำที่จะหลีกเลี่ยง สิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้มันเกิดขึ้นได้