What causes bad breath? - Mel Rosenberg

อะไรทำให้ปากเหม็น - เมล โรเซนเบิร์ก (Mel Rosenberg)

Translator: Thitiporn Ratanapojnard Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

There is a curse that has plagued humanity since ancient times.

มันมีคำสาปที่เกาะกุมมนุษยชาติ มาตั้งแต่โบราณกาล

The Greeks fought it by chewing aromatic resins,

ชาวกรีกต่อสู้กับมันด้วยการเคี้ยว ยางไม้ที่มีกลิ่นหอม

while the Chinese resorted to egg shells.

ขณะที่ชาวจีนใช้หันไปพึ่งเปลือกไข่

In the ancient Jewish Talmud,

ในคัมภีร์ยิวโบราณทัลมุด (Talmud)

it's even considered legal grounds for divorce.

มันถึงกับเป็นเหตุผลทางกฏหมาย ที่ใช้ในการขอหย่าเลยทีเดียว

This horrible scourge is halitosis, otherwise known as bad breath.

หายนะอันน่าสยดสยองนี้คือ ฮาลิโทสิส หรือที่รู้จักกันในนาม ปากเหม็น

But what causes it, and why is it so universally terrifying?

แต่อะไรเป็นสาเหตุของมัน และทำไมมันเป็นที่หวาดกลัวกันไปทั่ว

Well, think of some of the worst odors you can imagine,

เอาละ ลองคิดถึงกลิ่นที่แย่สุดๆ ที่คุณสามารถจินตนาการได้

like garbage, feces or rotting meat.

อย่างเช่น ขยะ อึ หรือเนื้อเน่า

All of these smells come from the activity of microorganisms,

กลิ่นทั้งหมดนี้มาจากการกิจกรรมของจุลชีพ

particularly bacteria,

โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบคทีเรีย

and, as disgusting as it may sound,

มันฟังดูน่าขยะแขยงอย่างนั้นแหละ

similar bacteria live in the moisture-rich environment of your mouth.

แบคทีเรียที่คล้ายกันนี้ อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชุ่มชื้นในปากคุณ

Don't panic.

อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป

The presence of bacteria in your body is not only normal,

การที่ร่างกายของคุณมีแบคทีเรีย ไม่เพียงแต่จะเป็นเรื่องปกติ

it's actually vital for all sorts of things,

ที่จริงแล้ว มันจำเป็นสำหรับอะไรอย่าง

like digestion and disease prevention.

เช่น การย่อยอาหาร หรือการป้องกันโรค

But like all living things, bacteria need to eat.

แต่เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย แบคทีเรียก็ต้องกิน

The bacteria in your mouth feed off of mucus,

แบคทีเรียในปากคุณกินเยื่อเมือก

food remnants,

เศษอาหาร

and dead tissue cells.

และเซลล์เนื้อเยื่อที่ตายแล้ว

In order to absorb nutrients through their cell membranes,

เพื่อที่จะดูดซึมสารอาหารผ่านทาง เยื่อหุ้มเซลล์ของมัน

they must break down the organic matter into much smaller molecules.

มันต้องทำให้สารอินทรีย์สลายเป็น โมเลกุลเล็กๆ ก่อน

For example, they'll break proteins into their component amino acids

ตัวอย่างเช่น มันจะทำให้โปรตีน สลายเป็นกรดอะมิโน

and then break those down even further into various compounds.

และสลายพวกมัน ออกเป็นสารประกอบอื่นหลายชนิด

Some of the foul-smelling byproducts of these reactions,

ผลพลอยได้บางอย่างจากปฏิกิริยาพวกนี้ มีกลิ่นเหม็น

such as hydrogen sulfide and cadaverine,

เช่น แก๊ซไข่เน่า และคาดาเวอรีน

escape into the air

เล็ดลอดออกมาในอากาศ

and waft their way towards unsuspecting noses.

และล่องลอยไปเข้าจมูกที่ไม่ทันตั้งตัว

Our sensitivity to these odors and interpretation of them as bad smells

ความไวต่อกลิ่นพวกนี้ของเรา และการตีความมันว่ากลิ่นเหม็น

may be an evolutionary mechanism warning us of rotten food

อาจมาจากกลไกวิวัฒนาการ ที่เตือนเราถึงอาหารที่เน่าบูด

and the presence of disease.

หรือการปรากฏอยู่ของโรค

Smell is one of our most intimate and primal senses,

กลิ่นเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่ เก่าแก่และละเอียดอ่อนที่สุด

playing a huge role in our attraction to potential mates.

มันมีบทบาทมหาศาลในการดึงดูด คนที่อาจจะเป็นคู่เรา

In one poll, 59% of men and 70% of women

ในการสำรวจความคิดเห็นครั้งหนึ่ง ผู้ชาย 59% และ ผู้หญิง 70%

said they wouldn't go on a date with someone who has bad breath,

บอกว่าพวกเขาจะไม่ยอมมีนัดกับคนที่ปากเหม็น

which may be why Americans alone

นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมแค่อเมริกา เพียงประเทศเดียว

spend $1 billion a year on various breath products.

ก็ใช้เงินถึง 1 พันล้านเหรียญต่อปี กับผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นปาก

Fortunately, most bad breath is easily treated.

โชคดีที่กลิ่นปากส่วนใหญ่จัดการได้ง่าย

The worst smelling byproducts come from gram-negative bacteria

กลิ่นที่เหม็นที่สุดมากจากแบคทีเรียแกรมลบ

that live in the spaces between gums and teeth

ที่อาศัยอยู่ในช่องว่างระหว่างเหงือกและฟัน

and on the back of the tongue.

และด้านหลังของลิ้น

By brushing and flossing our teeth,

ด้วยการแปรงและขัดฟันด้วยไหมขัดฟัน

using antibacterial mouthwash at bedtime,

ใช้น้ำยาบ้วนปากฆ่าแบคทีเรียก่อนนอน

gently cleaning the back of the tongue with a plastic scraper

ทำความสะอาดด้านหลังของลิ้นอย่างนุ่มนวล ด้วยที่ขูดลิ้นพลาสติก

and even just eating a healthy breakfast,

และแม้กระทั่งการรับประทานอาหารเช้า ที่มีประโยชน์

we can remove many of these bacteria and their food sources.

เราก็สามารถกำจัดแบคทีเรียส่วนใหญ่ และแหล่งอาหารของพวกมันได้

In some cases, these measures may not be enough

ในบางกรณี วิธีแค่นี้อาจจะไม่พอ

due to dental problems, nasal conditions, or rarer ailments,

เนื่องจากปัญหาเรื่องฟัน สภาพของจมูก หรือโรคที่พบได้ยากกว่านั้น

such as liver disease and uncontrolled diabetes.

เช่น โรคตับ หรือเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้

Behaviors like smoking and excessive alcohol consumption

พฤติกรรมอย่างเช่น การสูบบุหรี่ หรือการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป

also have a very recognizable odor.

ยังทำให้มีกลิ่นเฉพาะด้วย

Regardless of cause,

ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด

the bad smell almost always originates in the mouth

กลิ่นปากมักจะมีที่มาจากในปากเกือบทั้งนั้น

and not the stomach or elsewhere in the body.

และไม่ได้เกิดมาจากกระเพาะอาหาร หรือที่อื่นในร่างกาย

But one of the biggest challenges lies

แต่สิ่งที่ท้าทายที่สุดก็คือ

in actually determining how our breath smells in the first place,

การตรวจว่าลมหายใจของเรา มีกลิ่นจริงๆ เป็นอย่างไร

and it's unclear why.

และมันก็ยังไม่ชัดเจนว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

It may be that we're too acclimatized

อาจเป็นไปได้ว่าเราอาจชินมาก

to the smell inside our own mouths to judge it.

กับการได้กลิ่นภายในปากเราเอง เกินกว่าจะตัดสินว่ากลิ่นเป็นอย่างไร

And methods like cupping your hands over your mouth,

และวิธีอย่างการเอามือป้องปาก

or licking and smelling your wrist don't work perfectly either.

หรือเลียและดมข้อมือของตัวเอง ก็ไม่ได้ผลดีสมบูรณ์แบบเหมือนกัน

One study showed that even when people do this,

การศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่า แม้แต่ตอนที่คนทำอย่างนั้น

they tend to rate the smell subjectively

พวกเขาก็มีแนวโน้ม ที่จะประเมินกลิ่นแตกต่างกันไป

according to how bad they thought it was going to be.

ขึ้นกับว่าเขาคิดว่ากลิ่นมันแย่แค่ไหน

But there's one simple, if socially difficult,

แต่มีวิธีง่ายๆ ที่อาจจะทำยากในหมู่เพื่อน

way of finding out how your breath smells:

ในการหาว่ากลิ่นปากของคุณเป็นอย่างไร

just take a deep breath and ask a friend.

ก็แค่หายใจเข้าลึกๆ แล้วถามเพื่อนสิ